EOS M6 กล้องมิเรอร์เลสใหม่ล่าสุดของ Canon ไม่เพียงมีประสิทธิภาพการทำงานพื้นฐานที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมคุณสมบัติการถ่ายภาพต่างๆ ที่ช่วยให้ช่างภาพบรรลุเป้าหมายตามต้องการ เราลองมาดูกันว่า 3 คุณสมบัติที่ทรงพลังซึ่งเป็นหัวใจหลักของกล้องมีอะไรบ้าง (เรื่องโดย: Sayaka Suzuki)
1. เซนเซอร์ภาพ
หากจะพูดง่ายๆ ก็คือ EOS M6 เป็นกล้องที่มีขนาดเล็กแต่ประสิทธิภาพสูง กล้องรุ่นนี้มาพร้อมเซนเซอร์ขนาด APS-C และ Dual Pixel CMOS AF ที่มีจำนวนพิกเซลที่ใช้งานจริง 24.2 ล้านพิกเซล
ด้วยระบบประมวลผลภาพ DIGIC 7 กล้อง EOS M6 จึงให้ภาพถ่ายคุณภาพสูง เพื่อให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการพิมพ์ภาพขนาดใหญ่และดูภาพถ่ายบนหน้าจอกว้าง แม้รูปร่างภายนอกของกล้องจะดูคุ้นตา แต่ประสิทธิภาพการถ่ายภาพที่ดีขึ้นจะให้ความรู้สึกถึงความยอดเยี่ยมที่คุณสามารถสัมผัสได้ด้วยตัวเองเท่านั้น
EOS M6/ EF-M15-45mm f/3.5-6.3 IS STM/ FL: 24 มม./ Aperture-priority AE (f/8, 0.8 วินาที, EV+0.7)/ ISO 3200/ WB: Manual
แน่นอนว่าจุดสนใจที่ได้รับการพัฒนาอย่างมากคือ ระบบประมวลผลภาพ DIGIC 7 ซึ่งช่วยให้ถ่ายภาพได้อย่างสวยงามด้วยความไวแสง ISO สูงและมีจุดรบกวนน้อยที่สุด
ความไวแสง ISO ปกติจะอยู่ระหว่าง ISO 100 ถึง 25600 ช่วงที่กว้างเช่นนี้หมายความว่าคุณจะสามารถถ่ายภาพโดยใช้ค่าที่ถือว่าเป็น "ความไวแสง ISO สูง" ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ยกเว้นในกล้องระดับไฮเอนด์ นี่จึงเป็นการเพิ่มความมั่นใจได้มากว่า กล้องมีประสิทธิภาพความไวแสง ISO ที่ก้าวล้ำเกินกว่าที่เคยใช้งานในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
คลิกที่นี่เพื่ออ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับความไวแสง ISO และผลกระทบต่อภาพถ่ายของคุณ:
พื้นฐานเกี่ยวกับกล้อง 5: ความไวแสง ISO
EOS M6/EF-M15-45mm f/3.5-6.3 IS STM/ FL: 15 มม./ Aperture-priority AE (f/8, 1/100 วินาที, EV±0)/ ISO 12800/ WB: อัตโนมัติ
2. ระบบ AF
คุณสมบัติที่น่าสนใจมากที่สุดของ EOS M6 คือระบบ Dual Pixel CMOS AF ที่สามารถใช้การโฟกัสความเร็วสูงที่คงที่ภายใต้ทุกสภาวะการถ่าย คุณสมบัตินี้มีในรุ่นเรือธงของซีรีย์ EOS คือ EOS-1D X Mark II ด้วยเช่นกัน
Dual Pixel CMOS AF ประกอบด้วยเซนเซอร์ที่มีความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล แต่ละพิกเซลประกอบไปด้วยโฟโตไดโอดสองตัวแยกกัน พิกเซลบนเซนเซอร์ไม่เพียงใช้สำหรับถ่ายภาพเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นเซนเซอร์ AF ตรวจจับแบบ Phase-difference อีกด้วย กลไกที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Canon นี้ให้การโฟกัสความเร็วสูงที่สามารถจับภาพตัวแบบที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว รวมถึงตัวแบบที่มีโทนสีที่ตรวจจับได้ยาก
นอกจากนี้ Dual Pixel CMOS AF ยังทำให้คุณใช้งาน AF บนพื้นที่ครอบคลุมประมาณ 80% x 80% (แนวนอน x แนวตั้ง) ของเฟรมภาพได้ และคุณสมบัติระดับสูงนี้อัดแน่นอยู่ในตัวกล้องขนาดเล็กของ EOS M6
สำหรับวิธีโฟกัสอัตโนมัติ (AF) นอกเหนือจาก "ใบหน้า + การติดตาม" และ "AF 1 จุด" ที่มีให้ใช้งานในรุ่นก่อนหน้านี้แล้ว ยังมี "Smooth Zone AF" (เหมาะสำหรับใช้กับตัวแบบที่เคลื่อนไหวรวดเร็วและไม่สามารถคาดเดาได้) ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เพิ่มเข้ามาใน EOS M5 เป็นครั้งแรกอีกด้วย
3. ฟังก์ชั่นการทำงานแบบไร้สาย
การสนับสนุนสำหรับโซเชียลมีเดียเป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน ดังนั้น นอกจากกล้องสามารถใช้งานร่วมกับ NFC ได้แล้ว ยังสามารถจับคู่กับสมาร์ทโฟนโดยใช้ Wi-Fi และบลูทูธได้อีกด้วย คุณสมบัตินี้ช่วยให้การถ่ายโอนภาพที่ถ่ายด้วย EOS M6 ไปยังสมาร์ทโฟนเพื่ออัพโหลดไปยังโซเชียลมีเดียทำได้ง่ายขึ้น (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติ Wi-Fi ได้ที่นี่) สำหรับการถ่ายโอนข้อมูล คุณต้องติดตั้งแอพ Camera Connect บนสมาร์ทโฟน ซึ่งทำให้คุณสามารถถ่ายภาพระยะไกลได้อีกด้วย
ต่อไปนี้เป็นไอเดียและเคล็ดลับในการใช้คุณสมบัติ Wi-Fi:
วิธีสนุกๆ ในการใช้ Wi-Fi ในกล้อง (ตอนที่ 2): ตัวอย่างการใช้งานจริง
6 เคล็ดลับที่เป็นประโยชน์สำหรับการถ่ายภาพระยะไกลผ่าน Wi-Fi ด้วยแอพ Camera Connect
เมื่อมองดูคุณสมบัติที่มีให้เลือกใช้งานในกล้อง EOS M6 ดูเหมือนว่ายุคของช่างภาพมืออาชีพที่ใช้กล้องมิเรอร์เลสได้มาถึงแล้ว เทคโนโลยีทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับกล้องถ่ายภาพได้ถูกนำมารวมไว้ในกล้องและเลนส์ขนาดเล็กนี้ EOS M6 จึงเป็นกล้องที่ใครๆ ก็ต้องการพกติดตัวไปด้วยขณะท่องโลกกว้าง
อยากรู้เกี่ยวกับกล้องรุ่นนี้ให้มากขึ้นหรือไม่ โปรดดูบทความต่อไปนี้
5 คุณสมบัติสำคัญของ EOS M6
จุดโฟกัส: EOS M6
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!เกี่ยวกับผู้เขียน
ส่งข่าวสารรายวันเกี่ยวกับเรื่องราวของกล้องดิจิตอลและอุปกรณ์เสริมต่างๆ รวมถึงซอฟต์แวร์ตกแต่งภาพ นอกจากนี้ยังเผยแพร่บทความต่างๆ เช่น รีวิวการใช้กล้องดิจิตอลจริงพร้อมตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องรุ่นใหม่ๆ
หลังจบการศึกษาจากคณะการออกแบบจากมหาวิทยาลัยศิลปะและการออกแบบโตเกียว Suzuki เริ่มต้นทำงานที่บริษัทผลิตวิดีโอแห่งหนึ่งก่อนจะผันตัวมาเป็นช่างภาพอิสระในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2012 เธอเป็นช่างภาพมากความสามารถผู้ถ่ายภาพได้หลากหลายแนวตั้งแต่การถ่ายภาพชีวิตประจำวันไปจนถึงงานโฆษณา และเธอมีความหลงใหลใน “วิถีชีวิต” เธอค้นหาความงามของสิ่งต่างๆ ภายในรัศมี 5 เมตรรอบตัวเธอในโครงการถ่ายภาพส่วนตัว นอกจากนี้ Suzuki ยังเป็นเจ้าของร้าน AtelierPiccolo ด้วย ซึ่งเป็นร้านที่เธอนำเอาสองสิ่งที่เธอรักที่สุดมาไว้ด้วยกัน นั่นคือ วิถีชีวิตและการถ่ายภาพ
เว็บไซต์: http://suzukisayaka.pupu.jp/about.html
Instagram: @sayakasuzuki_photo