วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2561  – แคนนอนประกาศเปิดตัว EOS R กล้องดิจิตอลมิเรอร์เลสฟูลเฟรมที่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ ที่มาพร้อมกับเมาท์ RF ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบ EOS R

คุณภาพภาพขั้นสูงสุด และการแสดงออกที่หลากหลายผ่าน RF

ผ่านการรวมกันของเลนส์ RF ที่มีประสิทธิภาพสูง เซนเซอร์ CMOS ฟูลเฟรม 35 มม. โดยประมาณ 30.3 ล้านพิกเซล¹ และหน่วยประมวลผลภาพรุ่นล่าสุด DIGIC 8 กล้อง EOS R ให้การถ่ายทอดที่ดี คุณภาพของภาพที่ถ่ายสูง EOS R ได้รับการติดตั้งตัวปรับคุณภาพเลนส์ดิจิตอล ซึ่งจะแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น การกระจายเลนส์ และความคลาดเคลื่อนของเลนส์ เลนส์ RF จะส่งข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการแก้ไขไปยังตัวกล้องโดยอัตโนมัติ เพื่อให้สามารถแก้ไขได้ โดยไม่ต้องลงทะเบียนข้อมูลเลนส์ในกล้องผ่านทางพีซี EOS R ทำการแก้ไขได้ โดยไม่ส่งผลต่อความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่อง² ด้วยตัวประมวลผลภาพ DIGIC 8

ความสำเร็จในช่วงความไวแสงมาตรฐาน ISO 100–40000 ทำให้ EOS R สามารถถ่ายภาพคุณภาพสูง แม้ในฉากที่มีแสงน้อย เช่น ในบ้าน และในเวลากลางคืน เมื่อใช้ AF/AE (ออโต้โฟกัสและค่าแสงอัตโนมัติ) ร่วมกัน กล้องสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วโดยประมาณ 5 เฟรมต่อวินาที และประมาณ 8 ภาพต่อวินาทีเมื่อล็อค AF/AE³ EOS R ยังมีความยืดหยุ่นในการใช้เลนส์ EF และ EF-S⁴ ที่มีอยู่ เมื่อใช้เมาท์อะแดปเตอร์ 1 ใน 4 ที่รองรับ นอกเหนือจากเลนส์ RF ที่พัฒนาขึ้นใหม่แล้ว

EOS R ยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่เทียบเท่ากับความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 5 สต็อป⁵สำหรับการถ่ายภาพนิ่งด้วย IS เซนเซอร์คู่ (Dual Sensing IS) ⁶ ที่ตรวจจับการสั่นของกล้องได้อย่างแม่นยำ การรับข้อมูลภาพจากเซนเซอร์ภาพและเซนเซอร์ไจโรของเลนส์⁷ กล้องสามารถตรวจจับการสั่นสะเทือนความถี่ต่ำซึ่งไม่สามารถตรวจจับได้ด้วยเซนเซอร์ไจโรเพียงอย่างเดียวได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้การแก้ไขที่ดีที่สุดทำได้ผ่านการปรับปรุงชุดคำสั่งต่างๆ ในการตรวจจับการสั่น

พิกเซลคู่ CMOS AF สำหรับระยะการถ่ายภาพที่หลากหลาย

ด้วยพิกเซลคู่ CMOS AF ซึ่งแต่ละประสิทธิภาพพิกเซลบนเซนเซอร์ CMOS จะทำหน้าที่ทั้งในการปรับความแตกต่างของโฟกัสอัตโนมัติ และฟังก์ชั่นภาพ และตัวควบคุมการขับเคลื่อนของเลนส์ RF ที่ดีที่สุด EOS R บรรลุความเร็วในการโฟกัสที่สั้นมากประมาณ 0.05 วินาที⁸ เมื่อจับคู่เลนส์ที่ทำงานร่วมกันได้ กล้องสามารถขยายพื้นที่โฟกัส⁹ โดยประมาณได้ถึง 100% (แนวตั้ง) x 88% (แนวนอน) ยิ่งไปกว่านั้นแล้ว เมื่อเลือกจุดโฟกัสอัตโนมัติ โดยใช้ปุ่มกดปรับทิศทาง ผู้ใช้สามารถเลือกจุดโฟกัสได้ถึง 5,655 จุด¹⁰ ทำให้มีอิสระในการจัดองค์ประกอบมากขึ้นเมื่อถ่ายภาพ

EOS R บรรลุขีดจำกัดการโฟกัสในที่แสงน้อยของ EV-6¹¹ ที่จุดกึ่งกลางโฟกัส โดยให้ความแม่นยำสูง แม้ในสถานการณ์ที่มีแสงน้อยซึ่งยากในการจำแนกความต่างด้วยสายตามนุษย์ นอกเหนือจากการตรวจสอบการถ่ายภาพวัตถุ กล้องยังสามารถเก็บข้อมูลระยะห่างของบริเวณโดยรอบตามเวลาจริง และใช้ผลข้อมูลความลึกในการปรับปรุงประสิทธิภาพระบบติดตาม นอกจากนี้ คุณสมบัติ AF ตรวจจับดวงตา¹² ของ EOS R สามารถตรวจจับ และโฟกัสไปที่ลูกตาดำของวัตถุได้ ฟังก์ชั่นนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพบุคคล ซึ่งต้องการความแม่นยำในการโฟกัสอย่างมาก

ความสะดวกสบายและการใช้งานผ่านช่องมองภาพ

EOS R มีช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ความละเอียดสูง (EVF) ด้วยความละเอียดเกือบ 100% ที่ใช้แผง OLED ประมาณ 3.69 ล้านจุด กล้องมีแถบมัลติฟังก์ชั่นที่ด้านหลังของชุด EOS ซีรีย์ ใช้งานได้ทั้งแบบแตะและสไลด์ ทำให้สามารถปรับแต่งการถ่ายภาพได้อย่างเงียบเชียบ EVF ช่วยให้ผู้ใช้สามารถยืนยันผลของการตั้งค่าการถ่ายภาพที่เลือกไว้ และเมื่อรวมกับแถบหลายหน้าที่ ซึ่งเป็นปุ่มหมุนอิเล็กทรอนิกส์ย่อยด้านบนและวงแหวนควบคุมบนเลนส์ RF ผู้ใช้สามารถปรับการตั้งค่าได้อย่างมีประสิทธิภาพขณะถ่ายภาพโดยไม่ต้องเลื่อนดวงตาออกจากวัตถุ 

กล้อง EOS R เป็นกล้องแคนนอนตัวแรกที่มีโหมดเปิดรับแสง FV (ความยืดหยุ่น AE) ซึ่งสามารถตั้งค่าการเปิดรับแสงเหมือนความเร็วชัตเตอร์ รูรับแสง และความไว ISOได้ โดยการปรับระหว่าง AUTO และการปรับโดยตรงในโหมดเดียว ด้วยโหมด FV ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนการตั้งค่าการรับแสงได้อย่างอิสระในขณะที่มองผ่านช่องมองภาพโดยไม่ต้องเปลี่ยนโหมดการรับแสงในลักษณะดั้งเดิมผ่านทางปุ่มปรับโหมดหรือหน้าจอ LCD ของกล้อง

ฟังก์ชั่นวิดีโอสำหรับคุณภาพในการถ่ายระดับมืออาชีพ

EOS R มาพร้อมการถ่ายภาพวิดีโอขนาด 4K (3840 x 2160 พิกเซล) และฟังก์ชั่นจับภาพเฟรม 4K ซึ่งเป็นการจับภาพเฟรมดังเช่นการถ่ายภาพนิ่งในการบันทึกวิดีโอ 4K กล้องนี้สนับสนุนลอกแกมมาที่เป็นกรรมสิทธิ์ของแคนนอน ซึ่งได้รับการพิสูจน์ผลด้วยระบบ Cinema EOS ของอุปกรณ์การผลิตวิดีโอ วิดีโอที่ถ่ายด้วย ลอกแคนนอนนั้นมอบระดับความเป็นอิสระที่ดีเยี่ยมในระหว่างการประมวลผลภาพและการจัดระดับสี การแสดงภาพถ่ายวิดีโอคุณภาพสูงสามารถบรรลุได้ด้วยรายละเอียดไฮไลต์และเงา

EOS R สามารถแสดงวิดีโอ 4K บนอุปกรณ์ภายนอกผ่านช่องเสียบ HDMI เมื่อใช้ลอกแคนนอน กล้องสามารถแสดงวิดีโอที่มีการไล่โทนสีคุณภาพสูง (10 บิต) และโทนสีกว้าง (มาตรฐาน ITU-R BT.2020 ซึ่งเป็นการถ่ายทอดในรุ่นต่อไป)

เมื่อจับคู่กับเลนส์ที่เข้ากันได้¹³ EOS R ใช้ IS แบบรวม ซึ่งรวมเอาระบบป้องกันการสั่นอิเล็กทรอนิกส์ 5 แกนในตัวกล้องเข้ากับระบบป้องกันภาพสั่นของออพติคอลจากเลนส์ เพื่อให้ได้ภาพวิดีโอที่มีการสั่นสะเทือนของมือน้อยที่สุด แม้ถ่ายภาพในตำแหน่งที่ไม่เสถียรหรือในขณะเดิน

แอพพลิเคชั่นที่เป็นกรรมสิทธิ์ของแคนนอน สำหรับการถ่ายทอดความรู้สึกผ่านภาพถ่ายที่มากขึ้น

ซอฟต์แวร์ภาพดิจิตอล RAW ของ Digital Photo Professional¹⁴ ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของ แคนนอน สามารถแสดงภาพนิ่งโดยใช้ PQ (Perceptual Quantization)¹⁵ ซึ่งเป็นรูปแบบ HDR ที่กำหนดกลุ่มเป้าหมายไปที่การผลิตภาพยนตร์และการจัดจำหน่าย ซอฟต์แวร์ช่วยในการแก้ไขและแสดง¹⁶ ภาพคุณภาพสูงด้วยช่วงไดนามิคกว้าง — ความคมชัดระหว่างค่าความสว่างและมืดของภาพ

การสื่อสารระหว่างการป้อนข้อมูลและการส่งออกที่เป็นกรรมสิทธิ์ของแคนนอนได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น การใช้ Professional Print Layout¹⁷ ภาพคุณภาพสูงที่สร้างขึ้นโดยใช้ Digital Photo Professional สามารถพิมพ์ได้ ในขณะที่ยังรักษาคุณภาพเฉกเช่นการไล่ระดับสี การใช้ฟังก์ชั่นการพิมพ์แบบ HDR พื้นที่ที่เป็นไฮไลท์ของภาพสามารถสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งไปกว่านั้น การใช้ฟังก์ชัน Exhibition Lighting Optimization จะช่วยให้สามารถพิมพ์ภาพที่รวมเอาแสงสว่างเพื่อขยายช่วงไดนามิกให้กว้างขึ้น

ด้วย DPRAW Print การใช้ข้อมูลความลึกของวัตถุที่มีอยู่ในไฟล์ RAW แบบพิกเซลคู่จะสามารถพิมพ์ภาพที่มีคุณภาพสูงขึ้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่รับรู้ได้ถึงความลึก

¹จำนวนพิกเซลจริง: ประมาณ 31.7 ล้านพิกเซล

²การลดความเร็วการถ่ายภาพต่อเนื่องจะเกิดขึ้น เมื่อใช้การตั้งค่าถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง

³ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าและสภาวะการถ่ายภาพ การลดความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องอาจเกิดขึ้นได้

⁴ไม่รวมเลนส์ EF-M และเลนส์ CN-E EF Cinema

⁵ตามมาตรฐานของ CIPA

⁶สำหรับถ่ายภาพนิ่ง ใช้ได้เฉพาะกับ RF24-105mm F4 L IS USM และ RF35mm F1.8 MACRO IS STM

⁷เซนเซอร์ความเร็วเชิงมุม ตรวจจับองศาของการเปลี่ยนแปลงมุมของวัตถุในเวลาที่กำหนดผ่านเซนเซอร์วัดความเฉื่อยชนิดหนึ่งที่วัดความเร็วเชิงมุมของการหมุน

⁸คำนวณจากผลของระยะโฟกัสอัตโนมัติที่วัดได้ตามหลักเกณฑ์ CIPA (แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพการถ่ายภาพและเลนส์ที่ใช้) วัดโดยใช้วิธีการภายใน เงื่อนไขการวัด ความสว่างของโฟกัส: EV12 (อุณหภูมิเฉลี่ย/ISO 100), โหมดถ่ายภาพ: M, ใช้ RF24-105mm F4 L IS USM (ที่ความยาวโฟกัส 24 มม.) โดยมีการตั้งค่าดังนี้: ลั่นชัตเตอร์โดยใช้ปุ่มชัตเตอร์, หนึ่งจุด AF (กลาง), AF หนึ่งภาพ

⁹เลนส์ที่เข้ากันได้: เลนส์ RF, เลนส์ EF ที่มีอยู่ (ไม่รวม EF200mm f/2.8L II USM, EF75-300mm f/4-5.6 III, EF8-15mm f/4L Fish Eye USM, MP-E65mm f/2.8 1-5x Macro Photo, เลนส์ EF-M, เลนส์ EF-S) ณ วันที่ 5 กันยายน 2018 เมื่อใช้เลนส์ที่เข้ากันไม่ได้ พื้นที่โฟกัสจะอยู่ที่ประมาณ 80% (แนวตั้ง) x 80% (แนวนอน)

¹⁰เมื่อเลือกจุดโดยใช้ปุ่มกดทิศทาง เมื่อพื้นที่ AF ถูกเลือกโดยอัตโนมัติ พื้นที่โฟกัสจะถูกแบ่งออกเป็น 143 ส่วน

¹¹การใช้ RF50mm F1.2 L USM สำหรับถ่ายภาพนิ่งที่อุณหภูมิเฉลี่ยโดยมีการตั้งค่าต่อไปนี้: f/1.2, ISO 100, AF หนึ่งจุด, จุดโฟกัสอัตโนมัติ (จุดศูนย์กลาง)

¹²ใช้กับ AF ครั้งเดียว และระบบโฟกัสแบบ Face Tracking Priority AF

¹³เลนส์ที่เข้ากันได้ คือ RF24-105mm F4 L IS USM และ RF35mm F1.8 MACRO IS STM

¹⁴สามารถดาวน์โหลดได้ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม

¹⁵ PQ (Perceptual Quantization) เป็นเส้นโค้งรังสีแกมมาใหม่ที่ยึดตามลักษณะของการมองเห็นของมนุษย์ ตามมาตรฐาน HDR ระหว่างประเทศ ITU-R BT.2100 และ SMPTE ST 2084

¹⁶การแสดงภาพ HDR ต้องใช้จอภาพที่ได้รับการรับรอง Ultra-HD และระบบปฏิบัติการที่รองรับ (Windows 10 64 บิต) ภาพจะถูกแปลงการแสดงเป็น SDR บนจอภาพ SDR หรือระบบปฏิบัติการที่เข้ากันไม่ได้

¹⁷สามารถดาวน์โหลดได้ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม

อุปกรณ์เสริม

จับแบตเตอรี่ BG-E22 เป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับใช้กับ EOS R ที่เมื่อนำมาติดตั้งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจับเมื่อถ่ายภาพในแนวตั้ง ตัวจับยึดแบตเตอรี่¹ ได้ 2 ก้อน (LP-E6N หรือ LP-E6) เพื่อความสามารถในการถ่ายภาพที่ยาวนานขึ้น ซึ่งเป็นครั้งแรกสำหรับกล้อง EOS ที่สามารถชาร์จไฟโดยตรงผ่านอะแดปเตอร์ USB

PD-E12 ซึ่งมาพร้อมกับที่ยึดแบตเตอรี่--ชาร์จแบตเตอรี่ LP-E6N ได้มากถึงสองก้อน³

¹แยกจำหน่าย

²อะแดปเตอร์ USB รุ่น PD-E1 จะมีวางจำหน่ายแยกต่างหากตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ปี 2019

³ไม่รองรับการชาร์จไฟสำหรับแบตเตอรี่ LP-E6

 

---

---