ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

ผลิตภัณฑ์ >> ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด

EF100mm กับ RF100mm f/2.8L Macro IS USM: เลือกใช้เลนส์รุ่นไหนดี

2024-02-14
0
119

เลนส์มาโคร 100mm f/2.8 เป็นเลนส์คุณภาพสูงเสมอมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพมาโครและภาพผลิตภัณฑ์ EF100mm f/2.8L Macro IS USM ซึ่งวางจำหน่ายในปี 2552 ถือเป็นเลนส์รุ่นสำคัญที่ไว้ใจได้ซึ่งช่างภาพมากมายต้องมีติดกระเป๋า จึงเกิดคำถามว่า เมื่อเทียบกันแล้ว RF100mm f/2.8L Macro IS USM มีประสิทธิภาพอย่างไร และทำไมผู้ใช้กล้องมิเรอร์เลส EOS R จึงควรใช้เลนส์รุ่นนี้ มาหาคำตอบได้ในบทความนี้

ในบทความนี้:

ข้อมูลเบื้องต้น: ทำไมใครๆ จึงชื่นชอบเลนส์มาโคร 100mm f/2.8L จาก Canon

ข้อมูลเบื้องต้น: คุณสมบัติที่น่าสนใจของเลนส์มาโคร 100mm f/2.8L

แม้ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถในการถ่ายภาพมาโคร แต่เลนส์มาโคร 100mm f/2.8 มีความอเนกประสงค์น่าประทับใจและเหมาะกับการถ่ายภาพตัวแบบที่มีขนาดใหญ่ๆ หรืออยู่ห่างออกไป ซึ่งรวมถึงภาพพอร์ตเทรตหรือแม้แต่ภาพทิวทัศน์และสถาปัตยกรรม คุณสมบัติสำคัญๆ มีดังนี้

- กำลังขยายขนาดเท่าจริง (1:1) (หรือมากกว่า):  ถ่ายภาพโคลสอัพของวัตถุเล็กจิ๋วที่ตาเปล่ามองเห็นยาก

- ระยะห่างกำลังดี: มีพื้นที่เพียงพอระหว่างเลนส์กับตัวแบบเพื่อให้แสงเข้ามามากขึ้น แมลงที่ประสาทสัมผัสไวมักจะไม่ค่อยบินหนีไป

- ถ่ายทอดภาพอย่างสมจริง: ทางยาวโฟกัส 100 มม. จับภาพรูปร่างและรูปทรงให้ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งเหมาะสำหรับการถ่ายภาพผลิตภัณฑ์ ภาพพอร์ตเทรต และภาพความงาม

- รูรับแสงกว้างสุดที่มีความไวแสงสูง: เมื่อถ่ายด้วยค่า f/2.8 คุณจะได้แบ็คกราวด์เบลอ (โบเก้) สวยๆ และสามารถควบคุมระดับแสงได้อย่างยืดหยุ่นในสภาวะแสงน้อย

- เลนส์ระดับมืออาชีพ: ในฐานะเลนส์ซีรีย์ L รุ่นหนึ่ง เลนส์มาโคร 100mm f/2.8L จาก Canon จึงผลิตขึ้นด้วยความน่าเชื่อถือระดับสูง ความทนทาน และคุณภาพด้านออพติคอลดีเยี่ยม ซึ่งตอบสนองความต้องการหลากหลายของช่างภาพที่ใช้เลนส์รุ่นนี้หาเลี้ยงชีพ


EOS R5 + RF100mm f/2.8L Macro IS USM ที่ f/6.3, 1/100 วินาที, ISO 320

เลนส์มาโคร 100mm เป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับการสร้างสรรค์ภาพโคลสอัพให้ดูน่าประทับใจ


เลนส์ RF ใช้ได้ทุกสถานการณ์หรือไม่

สำหรับผู้ใช้กล้องมิเรอร์เลสในซีรีย์ EOS R จะมีตัวเลือก 2 แบบคือ

- EF100mm f/2.8L Macro IS USM (วางจำหน่ายในปี 2552) กับเมาท์อะแดปเตอร์
- RF100mm f/2.8L Macro IS USM (วางจำหน่ายในปี 2564): เป็นเลนส์มาตรฐานที่ออกแบบมาสำหรับระบบกล้องมิเรอร์เลส EOS R

และต่อไปนี้คือความแตกต่างระหว่างเลนส์ทั้งสอง

ข้อแตกต่างที่ 1: ระยะโฟกัสใกล้สุดและกำลังขยายสูงสุด

ข้อแตกต่างที่ 1: ระยะโฟกัสใกล้สุดและกำลังขยายสูงสุด

เลนส์ RF โฟกัสได้ใกล้กว่า โดยให้กำลังขยายสูงสุด 1.4 เท่า

RF100mm f/2.8L Macro IS USM

กำลังขยาย 1.4 เท่า
EOS R5 + RF100mm f/2.8L Macro IS USM
f/11, 1/160 วินาที, ISO 250
ที่ระยะโฟกัสใกล้สุด

EF100mm f/2.8L Macro IS USM

กำลังขยาย 1.0 เท่า
EOS R5 + EF100mm f/2.8L Macro IS USM
f/11, 1/125 วินาที, ISO 250
ที่ระยะโฟกัสใกล้สุด

เลนส์ RF100mm f/f2.8L Macro IS USM เป็นมากกว่าแค่เวอร์ชันเลียนแบบ EF100mm f/2.8L Macro IS USM ทีมนักพัฒนาเลนส์ของ Canon ได้ใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นในการออกแบบเมาท์ RF เพื่อสร้างเลนส์ขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ต้น ซึ่งเป็นจุดกำเนิดคุณสมบัติใหม่ที่สำคัญ 2 ประการ ได้แก่

- ระยะโฟกัสใกล้สุดสั้นขึ้นที่ 0.26 ม. (เทียบกับ 0.3 ม. ของเลนส์ EF100mm f/2.8L Macro IS USM)
- อัตรากำลังขยายสูงสุดขนาดใหญ่กว่าของจริงที่ 1.4 เท่า

ระยะโฟกัสใกล้สุด: 26 ซม.
(RF100mm f/2.8L Macro IS USM)

ระยะโฟกัสใกล้สุด: 30 ซม.
(EF100mm f/2.8L Macro IS USM)

 

มีพื้นที่ให้โฟกัสมากขึ้นเมื่อถ่ายภาพโคลสอัพในระยะใกล้มากๆ

ระยะโฟกัสใกล้สุดที่สั้นขึ้นของเลนส์ RF100mm f/2.8L Macro IS USM ทำให้มีพื้นที่เหลือ 4 ซม. กล้องจึงยังคงโฟกัสได้ แม้ว่าลม ตัวแบบ หรือการเคลื่อนไหวของกล้องจะดึงให้ตัวแบบเข้ามาใกล้เลนส์มากกว่าที่ตั้งใจไว้ตอนแรก

EOS R6 Mark II + RF100mm f/2.8L IS USM ที่ f/11, 1/125 วินาที, ISO 1000

ภาพนี้ถ่ายใกล้กับระยะโฟกัสใกล้สุดของเลนส์ พื้นที่ที่เหลือนี้ช่วยให้ง่ายขึ้นที่จะคงโฟกัสไว้ที่มดแดงตัวนี้ขณะที่มันเคลื่อนที่รอบต้นหิ่งเม่นน้อยที่กำลังไหวลม

 

เกร็ดความรู้ทางเทคนิค: การออกแบบ RF100mm f/2.8L Macro IS USM แบบยกเครื่อง

ระบบออพติคส์ของ EF100mm f/2.8L Macro IS USM ได้รับการปรับปรุงเรื่อยมา ดังนั้น การออกแบบบางส่วน เช่น กลไกโฟกัส ประเภทระบบ IS และตำแหน่งรูรับแสง จึงสืบทอดมาจากเลนส์รุ่นก่อนๆ วิศวกรเลนส์ของ RF100mm f/2.8L Macro IS USM ได้ฉีกกรอบเดิมๆ และออกแบบเลนส์ใหม่ตั้งแต่ต้น จึงมีส่วนช่วยให้เกิดความสามารถใหม่ๆ และประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น

ข้อแตกต่างที่ 2: การโฟกัสและปัญหาความยาวโฟกัสเปลี่ยนตามระยะถ่ายภาพ

ข้อแตกต่างที่ 2: การโฟกัสและปัญหาความยาวโฟกัสเปลี่ยนตามระยะถ่ายภาพ

เลนส์ RF มีโฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็วกว่า ลื่นไหลกว่า และมีปัญหาความยาวโฟกัสเปลี่ยนตามระยะถ่ายภาพน้อยกว่า

สำหรับเลนส์มาโคร เช่น EF100mm f/2.8L Macro USM และ RF100mm f/2.8L Macro USM ชิ้นเลนส์ที่ทำหน้าที่โฟกัสจะต้องเคลื่อนที่ในระยะไกลขึ้นเพื่อให้สามารถโฟกัสได้ตั้งแต่ระยะโคลสอัพไปจนถึงระยะอนันต์ การโฟกัสอัตโนมัติอย่างฉับไวและลื่นไหลถือเป็นความท้าทายทางเทคนิคอย่างหนึ่ง!

ในขณะที่เลนส์ EF100mm f/2.8L Macro USM ใช้ Ring USM ในการขับเคลื่อนโฟกัสอัตโนมัติ เลนส์ RF100mm f/2.8L Macro USM ใช้ระบบควบคุมโฟกัสอิเล็กทรอนิกส์แบบชิ้นเลนส์ลอยตัว โดยที่ Nano USM แบบคู่จะขับเคลื่อนกลุ่มชิ้นเลนส์แบบลอยตัวและกลุ่มชิ้นเลนส์โฟกัสแยกกัน จึงทำให้ควบคุมโฟกัสอัตโนมัติได้รวดเร็วขึ้นและแม่นยำยิ่งขึ้น แม้จะมีช่วงโฟกัสระยะใกล้เพิ่มขึ้น

กลไกการขับเคลื่อนโฟกัสที่ขับเคลื่อนโดย Nano USM ใหม่ในเลนส์ RF100mm f/2.8L Macro IS USM

ลองสังเกตเอฟเฟ็กต์ส่วนหนึ่งของระบบโฟกัสแบบใหม่ในวิดีโอด้านล่าง ซึ่งจะแสดงการเคลื่อนไหวของตำแหน่งโฟกัสขณะใช้ฟังก์ชั่น Focus Bracketing สำหรับวิดีโอทั้งสองนี้ เลนส์ทั้งสองรุ่นใช้ร่วมกับกล้อง EOS R6 Mark II และกล้องถูกตั้งค่าให้ถ่ายภาพ 30 ภาพเป็นช่วงๆ ที่ระดับ 6


Focus Bracketing ของเลนส์ EF100mm f/2.8L Macro IS USM


Focus Bracketing ของเลนส์ RF100mm f/2.8L Macro IS USM

การเปลี่ยนตำแหน่งโฟกัสในเลนส์ RF100mm f/2.8L Macro IS USM ดูลื่นไหลกว่าและขัดตาน้อยกว่า รวมถึงมีปัญหาความยาวโฟกัสเปลี่ยนตามระยะถ่ายภาพน้อยกว่าด้วย เมื่อเปรียบเทียบกัน การเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนตำแหน่งโฟกัสในมุมรับภาพเมื่อใช้เลนส์ EF100mm f/2.8L Macro IS USM จะเห็นได้ชัดกว่า เลนส์ RF สามารถลดปัญหาความยาวโฟกัสเปลี่ยนตามระยะถ่ายภาพได้ประมาณ 50% ที่ 1.0 เท่า เมื่อเทียบกับเลนส์ EF

การโฟกัสในระหว่างถ่ายวิดีโอ
Nano USM เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการเปลี่ยนจุดโฟกัสที่ลื่นไหลและเงียบเชียบในระหว่างถ่ายวิดีโอ คุณสมบัติข้อนี้ร่วมกับการลดปัญหาความยาวโฟกัสเปลี่ยนตามระยะถ่ายภาพ ทำให้ RF100mm f/2.8L Macro IS USM เป็นเลนส์ที่เหมาะกว่าในการถ่ายวิดีโอ

ข้อแตกต่างที่ 3: วงแหวนควบคุม SA

ข้อแตกต่างที่ 3: วงแหวนควบคุม SA

โบเก้หลากสไตล์ มีโอกาสในการสร้างสรรค์มากขึ้น

รูรับแสงกว้างสุดขนาดใหญ่และทางยาวโฟกัสยาวเป็นสองคุณสมบัติดั้งเดิมสำหรับการถ่ายโบเก้ให้สวยงาม แต่วงแหวนควบคุม SA (ความคลาดทรงกลม) ของเลนส์ RF100mm f/2.8L Macro IS USM จะยกระดับความสามารถนี้ขึ้นไปอีก เพราะคุณจะสามารถควบคุมลักษณะของแสงโบเก้ได้

เมื่อใช้เลนส์เดียวกันนี้ คุณจะสามารถสร้างได้ทั้งโบเก้ขอบฟุ้งชวนฝันที่กลมกลืนกับแบ็คกราวด์ และ “โบเก้แบบฟองสบู่” ที่มีขอบเข้มชัดไม่เหมือนใครนอกเหนือจากโบเก้แบบ “ปกติ” อีกทั้งยังสร้างเอฟเฟ็กต์ซอฟต์โฟกัสได้อีกด้วย


EOS R6 Mark II + RF100mm f/2.8L IS USM ที่ f/2.8, 1/1600 วินาที, ISO 3200
การถ่ายภาพซ้อน: ภาพทั้ง 4 นี้ถ่ายด้วยค่า SA -2, 0 และ +2

วงแหวนควบคุม SA จะฉีกกรอบการสร้างสรรค์แบบเดิมๆ

ข้อแตกต่างที่ 4: ระบบป้องกันภาพสั่นไหว

ข้อแตกต่างที่ 4: ระบบป้องกันภาพสั่นไหว

เลนส์ RF จะรักษาความคมชัดของภาพไว้เมื่อใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำๆ


เหมือนกันอย่างไร

ทั้งเลนส์ EF และ RF มี IS แบบออพติคอลในเลนส์ (ระบบป้องกันภาพสั่นไหว) และเทคโนโลยี IS แบบไฮบริดของ Canon โดยที่ IS แบบไฮบริดจะแก้ไขภาพเบลอที่เกิดจากกล้องสั่นไหวในลักษณะการเคลื่อนขึ้น-ลง ซึ่งมักจะเห็นชัดขึ้นขณะถ่ายภาพมาโคร และไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบดั้งเดิม


แตกต่างกันอย่างไร – ประสิทธิภาพของ IS

สำหรับกล้องที่ไม่มี IS ในตัว เลนส์ EF100mm f/2.8L Macro IS USM สามารถป้องกันภาพสั่นไหวได้สูงสุด 3.5 สต็อป เมื่อเทียบกับเลนส์ RF100mm f/2.8L Macro IS USM ที่ทำได้สูงสุดถึง 5 สต็อป สำหรับกล้องที่มี IS ในตัว IS แบบประสานการควบคุมสามารถป้องกันภาพสั่นไหวได้สูงสุดเทียบเท่า 8 สต็อป เมื่อใช้ร่วมกับเลนส์ RF

จากการทดสอบการใช้งานจริง เราพบว่าเลนส์ RF100mm f/2.8L Macro IS USM สามารถถ่ายภาพโดยไม่ใช้ขาตั้งกล้องให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 4 วินาที ในขณะที่เลนส์ EF ถ่ายภาพที่ใช้งานได้ด้วยความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 1 วินาที

EOS R6 Mark II + RF100mm f/2.8L Macro IS USM ที่ f/9, 4 วินาที, ISO 100

ถ่ายภาพโดยไม่ใช้ขาตั้งที่ 4 วินาทีด้วยเลนส์ RF100mm f/2.8L Macro IS USM ขาตั้งจะเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยเลนส์ EF ออกมาใช้ได้


ผลการทดสอบของ SNAPSHOT

เราใช้เลนส์ทั้งสองรุ่นถ่ายภาพหลายชุดโดยไม่ใช้ขาตั้ง ด้วยความเร็วชัตเตอร์ตั้งแต่ 1/125 วินาทีลงไป ซึ่งได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้

✓:  ภาพถ่ายอย่างน้อย 50% ไม่มีปัญหากล้องสั่นที่เห็นได้ชัด แม้ที่ 100%
△:  ภาพถ่ายอย่างน้อย 60% มีปัญหากล้องสั่นเล็กน้อย มองเห็นไม่ชัดนักเมื่อใช้ความละเอียดต่ำลง (2048 พิกเซลหรือต่ำกว่า)
×: เห็นปัญหากล้องสั่นชัดเจนแม้ใช้ความละเอียดต่ำลง

ความเร็วชัตเตอร์ EF RF
1/125
1/60
1/30
1/15
1/8
1/4
0.5
1
2 ×
4 ×
5 ×

ข้อแตกต่างที่ 5: ปุ่มควบคุมและคุณสมบัติการใช้งาน

ข้อแตกต่างที่ 5: ปุ่มควบคุมและคุณสมบัติการใช้งาน

ใช้งานเลนส์ RF ได้ง่ายกว่า

ทั้งเลนส์ RF และ EF ต่างมีคุณสมบัติต่อไปนี้

- สวิตช์ AF/MF
- สวิตช์เปิด/ปิด IS
- สวิตช์จำกัดโฟกัสที่มีระยะโฟกัส 3 แบบให้เลือก (ระยะเต็ม ระยะกลางถึงระยะอนันต์ ระยะโฟกัสใกล้สุดถึงระยะกลาง)

เลนส์ RF100mm f/2.8L IS USM มีวงแหวนควบคุมแบบตั้งโปรแกรมได้เช่นเดียวกับเลนส์ RF ทุกรุ่น ซึ่งทำหน้าที่เป็นส่วนควบคุมแบบจับต้องได้อีกส่วนหนึ่งสำหรับการตั้งค่าระดับแสง


เลนส์ RF: ตัววัดระยะบนหน้าจอ

ตัววัดระยะเป็นตัวช่วยที่มีประโยชน์สำหรับการโฟกัสในระหว่างการถ่ายภาพมาโครและการโฟกัสแบบแมนนวล แม้ว่าเลนส์ RF ไม่มีตัววัดระยะแบบจับต้องได้ แต่คุณสามารถแสดงตัววัดระยะในช่องมองภาพหรือหน้าจอด้านหลัง ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่ทำได้เพราะระบบการสื่อสารเมาท์ RF ล้ำสมัยขึ้น

ข้อควรพิจารณาอื่นๆ

ข้อควรพิจารณาอื่นๆ

i) ขนาด: มีขนาดใกล้เคียงกันหลังจากติดตั้งเมาท์อะแดปเตอร์

ดังที่เห็นจากข้อแตกต่างที่ 5 เลนส์ EF100mm f/2.8L Macro IS USM เพียงอย่างเดียวจะสั้นกว่า RF100mm f/2.8L Macro IS USM เล็กน้อย แต่ความแตกต่างของขนาดนี้แทบจะไม่มีผลหลังจากที่ติดตั้งเมาท์อะแดปเตอร์ ซึ่งจำเป็นต่อการใช้เลนส์ EF กับกล้องซีรีย์ EOS R

  ขนาด
RF100mm ประมาณ 81.5 x 148 มม. 730 กรัม
EF100mm ประมาณ 77.7 x 123 มม. 625 กรัม
เมาท์อะแดปเตอร์ EF-EOS R ประมาณ 71.2 x 24 มม. 110 กรัม


ii) คุณภาพของภาพ: เลนส์ RF มีความคลาดสีน้อยกว่า

เลนส์ EF กับ RF แก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยวิธีที่แตกต่างกัน สำหรับเลนส์ EF จะใช้ชิ้นเลนส์ UD หนึ่งชิ้น ในขณะที่เลนส์ RF จะใช้กระจกและการกำหนดค่าที่ได้รับการปรับให้เหมาะสม เลนส์ทั้งสองมีประสิทธิภาพเทียบเคียงกันในแง่ของความคมชัดและความละเอียด แต่จากภาพด้านล่างซึ่งครอปมาจากมุมของภาพจะเห็นได้ว่า ความคลาดสีได้รับการแก้ไขได้ดีกว่าเมื่อใช้เลนส์ RF

ข้อควรรู้: เลนส์ EF กับ RF แก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยวิธีที่แตกต่างกัน สำหรับเลนส์ EF จะใช้ชิ้นเลนส์ UD หนึ่งชิ้น ในขณะที่เลนส์ RF จะใช้กระจกและการกำหนดค่าที่ได้รับการปรับให้เหมาะสม

 

RF100mm f/2.8L Macro IS USM: ภาพตัวอย่าง


EOS R6 Mark II + RF100mm f/2.8L Macro IS USM ที่ f/8, 1/125 วินาที, ISO 6400


EOS R6 Mark II + RF100mm f/2.8L Macro IS USM ที่ f/8, 1/125 วินาที, ISO 1600


EOS R5 + RF100mm f/2.8L Macro IS USM ที่ f/32, 1/160 วินาที, ISO 6400


EOS R5 + RF100mm f/2.8L Macro IS USM ที่ f/6.3, 1/100 วินาที, ISO 100


EOS R6 Mark II + RF100mm f/2.8L Macro IS USM ที่ f/2.8, 1/100 วินาที, ISO 1250/ วงแหวนควบคุม SA: +2

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา