คุณอาจเคยเห็นข้อมูลนี้ในสเปคของเลนส์ ไม่ว่าจะเป็น “อัตราส่วนในการถ่ายภาพสูงสุด” หรือ “อัตราส่วนกำลังขยายสูงสุด” คำถามก็คือ สิ่งเหล่านี้มีความหมายว่าอย่างไร และเพราะเหตุใดจึงมีความสำคัญ พบคำตอบได้ในบทความนี้!
“กำลังขยาย” ในการถ่ายภาพคืออะไร
“กำลังขยาย” ในการถ่ายภาพคืออะไร
ในการถ่ายภาพ “กำลังขยาย” มักใช้เพื่อพูดถึงอัตราส่วนกำลังขยายหรืออัตราส่วนในการถ่ายภาพของเลนส์ โดยสามารถเขียนเป็นเลขทศนิยม (เช่น “0.5 เท่า”) หรือเป็นอัตราส่วน (เช่น “1:2”) ก็ได้ แต่ตัวเลขดังกล่าวจะหมายถึงสิ่งเดียวกัน นั่นคืออัตราส่วนของขนาดวัตถุที่ฉายลงบนระนาบของภาพ (กล่าวคือ เซนเซอร์ภาพของกล้อง) เมื่อเทียบกับขนาดวัตถุในโลกจริง
เมื่อเลนส์ใดๆ มีอัตราส่วนกำลังขยายสูงสุดที่ 1:1 หรือ 1.0 เท่า เลนส์จะฉายภาพวัตถุที่มีขนาดเท่ากับวัตถุในชีวิตจริงลงบนเซนเซอร์ภาพ กล่าวได้ว่าเลนส์นั้นสามารถขยายขนาดภาพให้เท่ากับของจริง
ดังที่เห็นจากภาพเคลื่อนไหวด้านล่างนี้ จริงๆ แล้วกำลังขยายที่ต่ำกว่า 1.0 เท่าถือเป็นรูปแบบหนึ่งของ “การย่อขนาด” ซึ่งหมายความว่าภาพที่ฉายลงบนเซนเซอร์ภาพจะมีขนาดเล็กกว่าวัตถุจริง
(ในชีวิตจริง แมลงเต่าทองจะตัวเล็กกว่านี้มาก แต่เพื่อความสะดวก ขอให้นึกว่าแมลงเต่าทองมีขนาด 1 ซม.)
กำลังขยายสูงสุดคือสเปคที่สำคัญสำหรับการถ่ายภาพมาโคร เนื่องจากจะเป็นตัวกำหนดว่าคุณสามารถถ่ายตัวแบบขนาดจิ๋วให้เต็มเฟรมได้มากน้อยแค่ไหน
กำลังขยายสูงสุดและเลนส์มาโคร
โดยปกติเลนส์ใดๆ จะถือว่าเป็นเลนส์มาโครหากมีอัตรากำลังขยายสูงสุดอย่างน้อย 0.5 เท่า (หรือ 1:2) แต่จะต้องสามารถขยายขนาดภาพได้เท่าของจริงได้เป็นอย่างน้อย จึงจะถือว่าเป็นเลนส์มาโครอย่างแท้จริง
ถ่ายที่กำลังขยาย 1.4 เท่า
EOS R5 + RF100mm f/2.8 มม. ที่ f/5.6, 1/100 วินาที, ISO 160
กำลังขยาย 1.4 เท่าในเลนส์ RF100mm f/2.8 มม. ช่วยแสดงรายละเอียดโครงสร้างเส้นใบของใบไม้ใบนี้ได้อย่างน่าทึ่ง
กำลังขยายสูงสุด ระยะโฟกัสใกล้สุด และทางยาวโฟกัส: มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร
ความสัมพันธ์ระหว่างกำลังขยายสูงสุด ระยะโฟกัสใกล้สุด และทางยาวโฟกัส
ขนาดของตัวแบบที่ถูกขยายบนเซนเซอร์ภาพจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ทางยาวโฟกัสและระยะการถ่ายภาพ คุณคงทราบอยู่แล้วว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ตามตัวแบบจะดูใหญ่ขึ้นในเฟรมเมื่อคุณขยับเข้าหาตัวแบบหรือซูมเข้า!
แต่เพราะเหตุใดเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้จึงมีกำลังขยายสูงสุดต่ำกว่าเลนส์ที่สั้นกว่า ยกตัวอย่างเช่น กำลังขยายสูงสุดของเลนส์ยอดนิยมอย่าง RF100mm f/2.8L Macro IS USM คือ 1.4 เท่า แต่เลนส์ RF600mm f/4L IS USM มีกำลังขยายสูงสุดเพียง 0.15 เท่า
นั่นเป็นเพราะเลนส์ต่างๆ มีระยะโฟกัสใกล้สุดหรือที่เรียกว่าระยะการถ่ายภาพต่ำสุดแตกต่างกันไป
ทบทวนความจำ: ระยะโฟกัสใกล้สุดและระยะการทำงาน
ระยะโฟกัสใกล้สุด: ระยะห่างที่สั้นที่สุดซึ่งต้องจัดวางไว้ระหว่างเซนเซอร์ภาพกับระนาบของโฟกัสบนตัวแบบเพื่อให้เลนส์สามารถโฟกัสได้ โดยปกติทางยาวโฟกัสยาวๆ จะมีระยะโฟกัสใกล้สุดยาวขึ้นด้วย
ระยะการทำงาน: ระยะห่างระหว่างปลายเลนส์กับตัวแบบ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่: “ระยะโฟกัสใกล้สุด” หมายถึงอะไร
ความสัมพันธ์กับระยะโฟกัสใกล้สุด
กำลังขยายสูงสุดและระยะโฟกัสใกล้สุด
EOS R5 + RF600mm f/4L IS USM
ถ่ายด้วย RF600mm f/4L IS USM ที่ระยะโฟกัสใกล้สุดประมาณ 4.2 ม. ซึ่งให้กำลังขยายสูงสุด 0.15 เท่าด้วย ด้วยกำลังขยายสูงสุด 1.4 เท่า เลนส์ RF100mm f/2.8L Macro IS USM สามารถจับภาพเท้าของนักกีฬาให้ดูใหญ่ยิ่งขึ้นในเฟรม แต่นั่นเป็นเพราะคุณสามารถขยับเข้าไปถ่ายได้ใกล้ขึ้นเช่นกัน โดยที่ระยะโฟกัสใกล้สุดอยู่ที่ 0.26 ม. ซึ่งสั้นกว่ามาก
EOS R5 + RF100-500mm f/4.5-7.1L IS STM
แม้เลนส์เทเลโฟโต้จะไม่ใช่เลนส์มาโคร แต่เอฟเฟ็กต์กำลังขยายของทางยาวโฟกัสก็สามารถจับภาพโคลสอัพที่น่าสนใจของสิ่งของขนาดเล็กจิ๋วในที่ที่อาจเข้าถึงได้ยาก ช่างภาพบางคนเรียกภาพเช่นนี้ว่า “มาโครเทเลโฟโต้” ภาพโคลสอัพของดอกซากุระบนกิ่งไม้นี้ถ่ายที่ระยะ 500 มม. จากระยะโฟกัสใกล้สุดของเลนส์ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1.2 ม. และนับว่ายาวพอจนคุณไม่จำเป็นต้องปีนขึ้นไปบนต้นไม้เพื่อเข้าใกล้! อัตราส่วนกำลังขยายสูงสุดของเลนส์นี้อยู่ที่ประมาณ 0.33 เท่า
ข้อควรรู้: เข้าใกล้ (ตัว) มากกว่าไม่ได้ดีเสมอไป
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เลนส์มาโครเทเลโฟโต้อย่าง RF100mm f/2.8L Macro IS USM ได้รับความนิยมมากคือ การที่เลนส์ไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้ตัวแบบเกินไปเพื่อให้ได้กำลังขยายสูงสุด ในภาพนี้ เมื่อถ่ายที่ระยะโฟกัสใกล้สุด 23 ซม. ของเลนส์ จะมีระยะห่างประมาณ 9 ซม. ระหว่างปลายสุดของเลนส์กับตัวแบบ ซึ่งนับว่ามากพอที่จะถ่ายภาพได้โดยที่เลนส์ไม่ทำให้เกิดเงาบนตัวแบบ
EOS R5 + RF100mm f/2.8 IS STM
หากคุณต้องการซื้อเลนส์มาโครเพื่อถ่ายภาพสิ่งมีชีวิต เช่น แมลง อีกหนึ่งเหตุผลที่คุณควรใส่ใจเกี่ยวกับระยะโฟกัสใกล้สุดคือ การจัดวางเลนส์ของคุณไว้ใกล้เกินไปอาจรบกวนตัวแบบและทำให้มันบินหรือวิ่งหนีไปได้!
ทางยาวโฟกัสและกำลังขยายสูงสุด
สิ่งหนึ่งที่จะเปลี่ยนไปตามทางยาวโฟกัสคือ ปริมาณของบริบทที่จะปรากฏในเฟรม ภาพสองภาพต่อไปนี้ถ่ายใกล้ระยะโฟกัสใกล้สุดของเลนส์แต่ละตัว
RF50mm f/1.8 STM
กำลังขยายสูงสุด: ประมาณ 0.25 เท่า
ระยะโฟกัสใกล้สุด: 30 ซม.
RF16mm f/2.8 STM
กำลังขยายสูงสุด: ประมาณ 0.26 เท่า
ระยะโฟกัสใกล้สุด: 13 ซม.
เนื่องจากเลนส์สองรุ่นนี้มีความยาวใกล้เคียงกัน เราจึงถ่ายภาพไกลจากตัวแบบมากขึ้นโดยใช้ RF50mm f/1.8 STM แต่จะสังเกตได้ว่าแม้ตัวแบบดูใหญ่ขึ้นเล็กน้อยในเฟรม (“ดูใกล้ยิ่งขึ้น”) บนเลนส์ 16 มม. เมื่อเทียบกับเลนส์ 50 มม. เลนส์ก็ยังเก็บภาพแบ็คกราวด์โดยรอบได้มากขึ้นอีกด้วย นี่คือเอฟเฟ็กต์อันเป็นเอกลักษณ์ที่อาจเรียกได้ว่า “มาโครมุมกว้าง”
นี่คือดอกไม้ดอกเดียวกันที่ถ่ายด้วยกำลังขยายประมาณ 1.4 เท่า ถือได้ว่าเป็นความแตกต่างของขนาดที่ดูน่าทึ่ง!
EOS R6 + RF16mm f/2.8 STM
เอฟเฟ็กต์มาโครมุมกว้างเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพโคลสอัพของตัวแบบขนาดเล็ก พร้อมทั้งแสดงบริบทโดยรอบมากขึ้น
ข้อควรรู้: เลนส์ที่มีกำลังขยายสูงสุดที่ระยะสุดฝั่งมุมกว้าง
สำหรับเลนส์ซูมต่างๆ ระยะโฟกัสใกล้สุดและกำลังขยายสูงสุดมักจะเกิดขึ้นที่ระยะสุดฝั่งยาว (เทเล) (แต่ก็ไม่เสมอไป!) อย่างไรก็ตาม เลนส์บางรุ่น เช่น RF24-105mm f/4-7.1 IS STM และ RF15-30mm f/4.5-6.3 IS STM สามารถมีกำลังขยายสูงสุดได้ถึงประมาณ 0.5 เท่าในระหว่างการโฟกัสแบบแมนนวลที่ระยะสุดฝั่งมุมกว้าง ผลลัพธ์ที่ได้คือเอฟเฟ็กต์อันเป็นเอกลักษณ์ที่เรียกว่า Centre Focus Macro
จะวัดอัตราส่วนกำลังขยายได้อย่างไร
เราจะวัดอัตราส่วนกำลังขยายได้อย่างไร
หากคุณอยากทราบอัตราส่วนกำลังขยายของภาพนั้นๆ ต่อไปนี้คือวิธีวัดได้ด้วยตัวคุณเอง
ขั้นตอนที่ 1: ดูว่าเซนเซอร์ภาพของคุณมีขนาดเท่าใด
ขนาดของเซนเซอร์ภาพอยู่ที่ประมาณ 36 มม. x 24 มม. สำหรับกล้องฟูลเฟรมของ Canon และประมาณ 22.3 มม. x 14.9 มม. สำหรับกล้อง APS-C ของ Canon
ขั้นตอนที่ 2: วัดความยาวของภาพ
ภาพด้านล่างถ่ายด้วยกล้อง EOS R และเลนส์ RF24mm f/1.8 Macro IS STM ใกล้ระยะโฟกัสใกล้สุด ไม้บรรทัดแสดงว่าภาพนี้มีความกว้างประมาณ 76 มม. หรือกล่าวได้ว่า วัตถุที่มีความกว้างประมาณ 76 มม. ในชีวิตจริงจะถูกฉายให้มีความกว้าง 36 มม. บนเซนเซอร์ภาพ
ขั้นตอนที่ 3: คำนวณอัตราส่วนกำลังขยาย
อัตราส่วนกำลังขยายในภาพนี้คือความยาวของเซนเซอร์ (36 มม.) หารด้วยขนาดจริงของตัวแบบ (76 มม.) นั่นคือ ประมาณ 0.47 เท่า ดังนั้น เหรียญจึงถูกขยาย 0.47 เท่า ใกล้เคียงกับกำลังขยายสูงสุด 0.5 เท่าของเลนส์
สรุปและรายชื่อเลนส์ที่มีอัตราส่วนกำลังขยายสูงสุดขนาดใหญ่
สรุป
อัตราส่วนกำลังขยายสูงสุดเป็นสเปคที่สำคัญสำหรับช่างภาพมาโครและช่างภาพที่ต้องการเลนส์ที่ช่วยให้ถ่ายภาพวัตถุขนาดเล็กได้ และยังช่วยให้แนวทางว่าเราจะสามารถถ่ายตัวแบบให้เต็มเฟรมได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งสำหรับเลนส์ส่วนใหญ่ จะเกิดขึ้นที่ระยะโฟกัสใกล้สุดและทางยาวโฟกัสยาวสุด แม้ว่าจะขึ้นอยู่กับการออกแบบเลนส์ด้วยก็ตาม
ต่อไปนี้คืออัตราส่วนกำลังขยายสูงสุดของเลนส์ RF บางรุ่นที่สามารถถ่ายภาพแบบมาโครหรือใกล้เคียงมาโคร
เลนส์ | อัตราส่วนกำลังขยายสูงสุด | ระยะโฟกัสใกล้สุด |
RF14-35mm f/4L IS USM | 0.38 เท่า (ที่ 35 มม.) | 0.2 ม. |
RF15-30mm f/4.5-6.3 IS STM | 0.52 เท่า (ที่ 15 มม. ในระหว่างการโฟกัส MF) | 0.128 ม. (ที่ 15 มม. ระหว่างการใช้ MF) |
RF24mm f/1.8 Macro IS STM | 0.5 เท่า | 0.14 ม. |
RF24-105mm f/4-7.1 IS STM | 0.5 เท่า (ที่ 24 มม. ขณะใช้ MF) | 0.13 ม. (ที่ 24 มม. ขณะใช้ MF) |
RF35mm f/1.8 Macro IS STM | 0.5 เท่า | 0.17 ม. |
RF85mm f/2 Macro IS STM | 0.5 เท่า | 0.35 ม. |
RF100mm f/2.8L Macro IS USM | 1.4 เท่า | 0.26 ม. |
RF100-400mm f/5.6-8 IS USM | 0.41 เท่า (ที่ 400 มม.) | 1.05 ม. (ที่ 400 มม.) |
คุณจะนำความรู้ใหม่นี้ไปใช้ในการจัดองค์ประกอบภาพอย่างไรในวันนี้