บทสัมภาษณ์นักพัฒนากล้อง EOS 5D Mark IV (ตอนที่ 4): ระบบ AF ใน Live View และช่องมองภาพ
ระบบ AF ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างมากในกล้อง EOS 5D Mark IV และประโยชน์สำหรับการถ่ายแบบ Live View คือหัวข้อหลักในตอนสุดท้ายของบทสัมภาษณ์นักพัฒนากล้อง EOS 5D Mark IV (ผู้สัมภาษณ์: Ryosuke Takahashi ภาพหมู่โดย: Takehiro Kato)
(แถวหลัง จากซ้าย)
Kazuki Haraguchi, Megumi Inazumi, Keisuke Kudo, Yasuyuki Watazawa, Takashi Kon, Kiyoshi Tachibana, Yutaka Kojima, Hiroaki Nashizawa
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของระบบ AF ในช่องมองภาพและ Live View
- เซนเซอร์ AF ที่ใช้ในกล้อง EOS 5D Mark IV เป็นแบบเดียวกับที่ใช้ใน EOS-1D X Mark II หรือไม่
Kojima: ใช่ครับ เราใช้เซนเซอร์ AF แบบเดียวกันในกล้องทั้งสองรุ่น นอกเหนือจากชิ้นส่วนสำหรับยึดติดกับตัวกล้องแล้ว ชิ้นส่วนอื่นๆ ที่ใช้ก็เป็นแบบเดียวกับที่ใช้ในกล้อง EOS-1D X Mark II
- ระบบ AF นั้นมีความแตกต่างจาก EOS 5D Mark III อย่างมาก คุณช่วยบอกได้ไหมว่าระบบการถ่ายภาพนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง
Kudo: อันดับแรกเลยก็คือ เราได้ทำการเปลี่ยนแปลงระบบช่องมองภาพ โดยการเพิ่มจำนวนจุด AF สูงสุดเป็น 61 จุด ซึ่งทุกจุดรองรับการเปิดรับแสงสูงสุดที่ f/8 กล้องรุ่นนี้จึงไม่เพียงแต่สามารถถ่ายภาพวัตถุต่างๆ ได้ดีกว่าเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการถ่ายภาพให้มากขึ้นด้วยเมื่อใช้ตัวขยายช่องมองภาพ นอกจากนี้ ยังได้ลดขีดจำกัดสำหรับสภาพแสงน้อยให้ต่ำลงอีก เพื่อให้สามารถถ่ายภาพในสถานที่ที่มีแสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น
ขณะนี้กล้อง EOS 5D Mark IV รองรับการทำงานของระบบ EOS iTR AF ซึ่งตรวจจับรูปร่างและสีของวัตถุแรกที่กล้องจับโฟกัสไว้เมื่อใช้ฟังก์ชั่นติดตาม AF ในการถ่ายผ่านช่องมองภาพ กล้องรุ่นนี้จึงสามารถทำการติดตามได้ในขณะที่มีการเปลี่ยนจุด AF ไม่เพียงเท่านั้น ยังได้มีการพัฒนาประสิทธิภาพในการติดตามด้วย เช่น มีการอัพเดทอัลกอริธึมที่ใช้ในการติดตาม
และหากพูดถึงประสบการณ์ในการถ่ายแบบ Live View การนำเอา Dual Pixel CMOS AF มาใช้ก็ทำให้สไตล์ของการถ่ายแบบ Live View นั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก พูดให้เจาะจงก็คือ ในตอนนี้กล้องรุ่นนี้สามารถทำงานได้ในฉากที่หลากหลายยิ่งกว่าด้วยความเร็ว AF ที่เพิ่มขึ้น
- Dual Pixel CMOS AF คือเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในกล้องรุ่น EOS 70D แต่ไม่มีใช้ใน EOS 5DS ทั้งสองรุ่น เพราะเหตุใดจึงนำมาใช้ในกล้องรุ่น EOS 5D Mark IV
Tachibana: ความจริงแล้ว เราก็เคยอยากนำมาใช้ในซีรีส์ EOS 5DS ด้วยเหมือนกัน แต่ก็ค่อนข้างจะเป็นปัญหามากในด้านเทคนิคเพราะความละเอียดขนาด 50.6 ล้านพิกเซล ท้ายที่สุดเราจึงไม่ได้นำมาใช้ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เรานำมาใช้ในกล้องรุ่น EOS 5D Mark IV ก็คือเพราะเราสามารถแก้ปัญหาความยุ่งยากในทางเทคนิคเหล่านั้นได้ [หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ: มีการอธิบายอย่างละเอียดเพิ่มเติมไว้ใน ตอนที่ 2 ของบทสัมภาษณ์นักพัฒนา EOS 5D Mark IV]
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความแตกต่างของ Dual Pixel CMOS AF กับ AF แบบเดิม อ่าน:
บทสัมภาษณ์นักพัฒนากล้อง EOS 70D ตอนที่ 2: เปิดตัว Dual Pixel CMOS AF
- ผมเข้าใจว่าระบบ AF ของกล้อง EOS 5D Mark IV อยู่ในรุ่นเดียวกันกับที่ใช้ในกล้อง EOS-1D X Mark II กล้อง EOS 5D Mark IV มีประสิทธิภาพในด้านใดบ้างที่เหนือกว่า EOS-1D X Mark II
Kudo: ความแตกต่างที่ชัดเจนของกล้องทั้งสองรุ่นอยู่ที่ฟังก์ชัน AF ใน Live View มากกว่าในช่องมองภาพ ทั้งสองรุ่นมี Dual Pixel CMOS AF เหมือนกัน แต่ EOS 5D Mark IV มี AF สามแบบให้เลือกใช้: การตรวจจับใบหน้า + การติดตาม AF, FlexiZone – AF หลายจุด (AF สูงสุด 63 จุด) และ FlexiZone – AF จุดเดียว ขณะที่ EOS-1D X Mark II มีเพียง การตรวจจับใบหน้า + ติดตาม AF และ FlexiZone – AF จุดเดียว
และยังสามารถใช้ Servo AF ในการถ่ายภาพนิ่งได้อีกด้วย ซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มความสามารถในการติดตามวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหว นอกจากนี้ Servo AF ตัวเดียวกันนี้ยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่หลากหลายมากมาย รวมทั้งโหมด Focus priority และ Shooting speed priority
ประสิทธิภาพของ AF ในที่ที่มีแสงน้อยระหว่างการถ่ายแบบ Live View สามารถทำงานได้ในที่ที่มีความสว่างต่ำถึง EV-4 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในซีรีส์ EOS และมีพลังมากกว่าขีดจำกัดต่ำสุดที่ EV-3 ในกล้อง EOS-1D X Mark II เมื่อถ่ายภาพในฉากที่มีแสงน้อย
- ขีดจำกัดแสงต่ำสุดที่ EV-4 นั้นดียิ่งกว่าประสิทธิภาพ AF ในที่ที่มีแสงน้อยของช่องมองภาพ ผมพูดอย่างนี้ถูกหรือเปล่า
Tachibana: ใช่ครับ คุณพูดถูกแล้ว ภาพในช่องมองภาพจะดูมืดเช่นกันในฉากที่มีแสงน้อย และบางครั้งเราอาจไม่สามารถบอกได้ว่าภาพอยู่ในโฟกัสหรือไม่ ด้วยประสิทธิภาพในการถ่ายภาพในที่ที่มีแสงน้อยที่ดียิ่งขึ้นของ Dual Pixel CMOS AF ในกล้อง EOS 5D Mark IV ระหว่างการถ่ายแบบ Live View ตอนนี้จึงสามารถจับโฟกัสได้ง่ายขึ้น และภาพจาก Live View จะแสดงในจอ LCD ที่สามารถปรับการแสดงภาพให้ดูสว่างกว่าที่คุณเห็นจริงได้ จึงทำให้ระบุวัตถุได้ง่ายกว่าและมีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อคุณกำลังถ่ายภาพในที่ที่มืดมาก
ข้อดีของ AF ใน Live View
- AF ใน Live View มีข้อดีมากกว่า AF ในช่องมองภาพของกล้อง EOS 5D Mark IV อย่างไรบ้าง
Kudo: หนึ่งในข้อดีของ AF ใน Live View ก็คือสามารถครอบคลุมพื้นที่หน้าจอได้ถึง 80% x 80% ระหว่างการถ่ายแบบ AF ถึงแม้ว่าช่องมองภาพจะมีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมเช่นกันด้วย AF 61 จุด แต่พื้นที่ที่ AF ครอบคลุมนั้นมีจำกัด ในขณะเดียวกัน สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับ AF ใน Live View คือการที่ให้พื้นที่ AF กว้าง และคุณสามารถจับโฟกัสได้อย่างอิสระที่จุดใดก็ได้ภายในพื้นที่นี้โดยไม่ถูกจำกัดด้วยตำแหน่งของจุด AF ข้อดีอีกข้อหนึ่งของ EOS 5D Mark IV ก็คือการใช้หน้าจอแบบสัมผัสในคุณสมบัติต่างๆ เช่น การโฟกัสและชัตเตอร์แบบแตะ ซึ่งทำให้ใช้งานได้ดังใจขณะถ่ายภาพ
- ผู้ใช้งานหลายคนยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ AF ใน Live View เนื่องจากกรอบ AF ที่มีขนาดใหญ่ กล้อง EOS 5D Mark IV ใช้วิธีการใดในการรับมือกับความกังวลในเรื่องนี้
Kudo: เราทราบดีว่ามีผู้ใช้งานที่ต้องการกรอบ AF ที่เล็กกว่า แต่เราก็รักษาขนาดเดิมไว้หลังจากพิจารณาถึงความสมดุลกับประสิทธิภาพของ AF ในตอนนี้ กล้อง EOS 5D Mark IV สามารถถ่ายแบบ AF ในขณะที่ภาพถูกขยายให้ใหญ่ขึ้นได้ และการเคลื่อนกรอบ AF ด้วยการทำงานของหน้าจอแบบสัมผัสก็ทำได้ง่ายกว่า และหน้าจอ LCD ก็ยังแสดงภาพได้ชัดเจนและมีความละเอียดสูง ดังนั้นผมจึงเชื่อว่าผู้ที่ไม่เคยใช้งานฟังก์ชั่น Live View มาก่อนจะเห็นว่ามันมีประโยชน์
วิธีการจับโฟกัสระหว่างการถ่ายแบบ Live View
(1) แตะลงบนตำแหน่งที่คุณต้องการจับโฟกัสเพื่อทำการเลือก
เลือกจุดที่คุณต้องการจับโฟกัสได้บนหน้าจอโดยตรง
(2) กดปุ่มดัชนี/ขยาย/ลดขนาดภาพ
การขยายภาพให้ใหญ่ทำให้จับโฟกัสได้แม่นยำยิ่งขึ้น
(3) หมุนวงแหวนเพื่อปรับโฟกัสให้ได้ตามต้องการ
นอกจากการโฟกัสโดยใช้ AF แล้ว คุณยังสามารถเลือกที่จะโฟกัสแบบแมนนวลได้โดยใช้ฟังก์ชั่น MF
- ในด้านโครงสร้าง รวมทั้งออปติกส์ของช่องมองภาพ ได้มีการพัฒนาอะไรบ้างเมื่อเทียบกับ EOS 5D Mark III
Kojima: สเป็คหลักๆ เช่น ความครอบคลุมและจุดมองภาพยังคงเหมือนกับ EOS 5D Mark III แต่เราได้ทำการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมากในรายละเอียด
- มีการพัฒนาออปติกส์ในจุดมองภาพด้วยหรือไม่
Kojima: ใช่ครับ เราได้นำมาตรการมาใช้ในการลดความคลาดต่างๆ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในออปติกส์ของช่องมองภาพ เช่น ความคลาดสีของกำลังขยาย นอกจากการนำวัสดุใหม่ๆ มาใช้ในระบบออพติคอลแล้ว เรายังได้เพิ่มความละเอียดคมชัดของช่องมองภาพโดยการปรับปรุงความถูกต้องแม่นยำของส่วนประกอบแต่ละชิ้น ถึงแม้ว่าช่องมองภาพของกล้อง EOS 5D Mark III นั้นก็แทบจะสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว คุณจะพบว่าช่องมองภาพของ EOS 5D Mark IV นั้นเป็นเวอร์ชั่นที่ดียิ่งกว่า ผมเชื่อว่าผู้ใช้งานจะรับรู้ได้ว่าช่องมองภาพมีความคมชัดมากขึ้นเมื่อเทียบกับกล้อง EOS 5D Mark III แม้ว่าผู้ใช้งานแต่ละคนอาจรู้สึกได้ในระดับที่แตกต่างกัน
เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการพัฒนาประสิทธิภาพของบอดี้กล้อง EOS 5D Mark IV อ่าน:
บทสัมภาษณ์นักพัฒนากล้อง EOS 5D Mark IV (ตอนที่ 1): แนวคิดการพัฒนาและการปรับปรุงบอดี้กล้องให้ดียิ่งขึ้น
- แบตเตอรี่กริปก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยเช่นกัน ได้มีการปรับปรุงในด้านไหนบ้างครับ
Kojima: สำหรับแบตเตอรี่กริปรุ่นใหม่ BG-E20 เราพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดตำแหน่งปุ่มต่างๆ บริเวณชัตเตอร์ เพื่อให้รู้สึกไม่ต่างกันไม่ว่าผู้ใช้จะถ่ายภาพขณะที่ถือกล้องในแนวตั้งหรือแนวนอน และเพื่อช่วยในการถ่ายภาพเคลื่อนไหว เราได้เพิ่มช่องสำหรับสลักในการถ่ายวิดีโอ ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้กล้องเคลื่อนออกจากที่ระหว่างแพนกล้องเมื่อยึดไว้กับแท่นของขาตั้งกล้อง นอกจากเหนือไปจากช่องต่อขาตั้งกล้องซึ่งอยู่ด้านล่าง นี่เป็นการตอบสนองต่อความต้องการในด้านความเข้ากันได้กับสลักสำหรับถ่ายวิดีโอ เนื่องจากในตอนนี้มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากที่ถ่ายภาพเคลื่อนไหวโดยใช้กล้อง DSLR
- ได้มีการเพิ่มปุ่มเลือกพื้นที่ AF เข้ามาใหม่ที่ด้านหลังของตัวแบตเตอรี่กริป จุดประสงค์ของการเพิ่มปุ่มนี้เข้ามาคืออะไรครับ
Kojima: ขณะนี้ AF ในช่องมองภาพของกล้อง EOS 5D Mark IV รองรับ AF 61 จุด ซึ่งครอบคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ปุ่มเลือกพื้นที่ AF เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากที่สุดในบอดี้ของ EOS 5D Mark IV และเราตัดสินใจที่จะเพิ่มคุณสมบัตินี้ลงไปในแบตเตอรี่กริปด้วยเพื่อให้ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น เราเลือกใช้แบบปุ่มแทนที่จะเป็นแบบก้าน เพราะเราต้องการให้ดีไซน์มีความเข้ากันกับปุ่มควบคุมอื่นๆ
ปุ่มควบคุมต่างๆ ที่พบใน EOS 5D Mark IV จะอยู่ที่ด้านหลังของแบตเตอรี่กริป BG-E20 ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการใช้งานให้แก่ผู้ใช้ขณะถ่ายภาพทั้งในแนวตั้งและแนวนอน
รับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับข่าวสาร เคล็ดลับและลูกเล่นในการถ่ายภาพได้โดย ลงทะเบียนเป็นสมาชิกกับเรา!
EOS 5D Mark IV
เกิดที่จังหวัดไอชิเมื่อปี 1960 Takahashi เริ่มทำงานอิสระในปี 1987 หลังจากทำงานในสตูดิโอถ่ายภาพโฆษณาและสำนักพิมพ์ และเนื่องจากรับถ่ายภาพให้กับนิตยสารชื่อดัง เขาจึงได้เดินทางจากที่อยู่ประจำ คือ ญี่ปุ่นและจีน ไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก และเขาก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งของ Japan Professional Photographers Society (JPS) ด้วย
นิตยสารรายเดือนที่เชื่อว่าความสุขของการถ่ายภาพจะยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ถ่ายภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องมากยิ่งขึ้น นิตยสารเล่มนี้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับกล้องรุ่นใหม่ๆ รวมถึงคุณสมบัติของกล้องและนำเสนอเทคนิคการถ่ายภาพอย่างหลากหลาย
จัดพิมพ์โดย Impress Corporation