EOS M5 มีดีไซน์ภายนอกที่หรูหราโดดเด่น พร้อมฟังก์ชั่นการทำงานที่พลิกโฉมครั้งสำคัญ และไม่เพียงใช้งานง่าย แต่ยังมี Dual Pixel CMOS AF รวมถึงอัดแน่นด้วยคุณสมบัติหลักที่ได้รับการปรับปรุงใหม่มากมาย อาทิ ระบบ DIGIC 7 ในบทความนี้ เราจะอธิบายเกี่ยวกับ 4 คุณสมบัติที่โดดเด่นภายในกล้อง เช่น ระบบ AF ต่อจากบทความก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการออกแบบภายนอกของกล้อง กัน (เรื่องโดย: Kazuo Nakahara)

 

1. เซนเซอร์ภาพ

กล้อง EOS M5 คือกล้องซีรีย์ EOS M ตัวแรกที่ใช้ Dual Pixel CMOS AF ที่น่าจับตามอง ในเซนเซอร์ภาพขนาดเท่ากับ APS-C ด้วยความละเอียดประมาณ 24.2 ล้านพิกเซล คุณสมบัติหลักของ EOS M5 คือ Phase Detection AF ความเร็วสูง ที่สามารถใช้พื้นที่ 80% ของเซนเซอร์ทั้งสี่ทิศทาง

EOS M5 ใช้ DIGIC 7 ใหม่ล่าสุดเป็นระบบการประมวลผลภาพ สำหรับกล้องมิเรอร์เลส ประสิทธิภาพการทำงานของกล้องขึ้นอยู่กับระบบประมวลผลภาพเป็นอย่างมาก เนื่องจาก AF และการสร้างภาพถ่ายจะใช้ข้อมูลจากแสงที่ได้รับจากเซนเซอร์ภาพ DIGIC 7 ซึ่งมีขีดความสามารถในการประมวลผลภาพเหนือกว่า DIGIC 6 จึงไม่เพียงช่วยปรับปรุงคุณภาพของภาพให้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังให้การตอบสนองที่ดีขึ้น และใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขึ้น อันเนื่องมาจากประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่พัฒนาขึ้นนั่นเอง

 

ขนาดของภาพถ่ายมีให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่ L: ประมาณ 24.0 ล้านพิกเซล (6,000 x 4,000), M: ประมาณ 10.6 ล้านพิกเซล (3,984 x 2,656), S1: ประมาณ 5.9 ล้านพิกเซล (2,976 x 1,984) และ S2: ประมาณ 3.8 ล้านพิกเซล (2,400 x 1,600) และสามารถถ่ายภาพในรูปแบบ RAW ได้พร้อมกันอีกด้วย สำหรับการถ่ายภาพในรูปแบบ RAW จะมีขนาดภาพให้เลือกเพียงขนาดเดียวคือ 24 ล้านพิกเซล

 

หน้าจอเมนูสำหรับตั้งค่าความไวแสง ISO

 

หน้าจอเมนูสำหรับกำหนดการตั้งค่า ISO อัตโนมัติ

 

ระบบ DIGIC 7 สามารถจัดการกับข้อมูลระหว่างที่ลดจุดรบกวนได้มากกว่า DIGIC 6 ถึง 14 เท่า ดังนั้น EOS M5 สามารถให้ความไวแสง ISO สูงสุดที่ ISO 25600 ความไวแสง ISO นี้ยังสามารถตั้งเป็นขีดจำกัดสูงสุดของความไวแสง ISO สำหรับ ISO อัตโนมัติได้ด้วยเช่นกัน

 

2. ระบบ AF

EOS M5 คือกล้องมิเรอร์เลสที่สามารถใช้ AF ความเร็วสูงได้ เนื่องจากมีการใช้ Dual Pixel CMOS AF โดยความละเอียดทั้งหมด 24.2 ล้านพิกเซลนั้นจะนำมาใช้ในการสร้างภาพถ่ายและใน Phase detection AF ด้วยจุด AF ที่มีให้ใช้งานถึง 49 จุด พื้นที่ของ Phase detection AF จึงค่อนข้างมาก แม้แต่เมื่อเปรียบเทียบกับกล้อง DSLR

โซน AF แบบราบรื่น เป็นคุณสมบัติใหม่ที่มีการเพิ่มเข้าไปในกล้อง EOS M5 โดยใช้พื้นที่ตรวจจับ AF ที่มีขนาดเทียบเท่ากับกรอบ AF จุดเดียวจำนวนเก้ากรอบ และมีฟังก์ชั่นคล้ายคลึงกับโซน AF และการขยายจุด AF ในกล้อง EOS DSLR โซน AF แบบราบรื่นมีประโยชน์มากเมื่อใช้ถ่ายภาพตัวแบบที่ไม่สามารถคาดเดาการเคลื่อนไหวได้ ซึ่ง AF จุดเดียวติดตามได้ยาก

 

การพัฒนาฟังก์ชั่น AF ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ การเพิ่ม AF แบบแตะและลาก กล้องรุ่นใหม่มีพื้นที่ AF ที่กว้าง และมีจุด AF หลายสิบจุด อย่างไรก็ดี จำนวนจุดที่มากนี้ทำให้กล้องต้องใช้ความพยายามในการสลับจุด AF อย่างรวดเร็ว

AF แบบแตะและลากจึงเข้ามาแก้ไขปัญหานี้ โดยช่วยให้คุณสลับจุด AF ได้อย่างสะดวกง่ายดาย เพียงใช้นิ้วหัวแม่มือลากบนจอภาพ LCD ขณะใช้งาน EVF ในตัว คุณสมบัตินี้คล้ายคลึงกับการใช้ Multi-Controller ที่มีลักษณะเหมือนกับจอยสติ๊ก ซึ่งมีให้ใช้งานในกล้อง DSLR รุ่นไฮเอนด์

หน้าจอเมนูสำหรับกำหนดค่า AF แบบแตะและลาก

 

หน้าจอเมนูสำหรับตั้งค่าวิธีการวางตำแหน่ง AF แบบแตะและลาก

 

หน้าจอเมนูสำหรับตั้งค่าบริเวณที่สัมผัสได้

 

ค่าเริ่มต้นของคุณสมบัติ AF แบบแตะและลากจะถูกตั้งไว้เป็นไม่ใช้งาน แต่เราแนะนำให้เปิดใช้งานคุณสมบัตินี้ไว้ นอกจากนี้คุณสามารถเลือกรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับบริเวณที่สัมผัสได้บนหน้าจอ LCD อีกด้วย หากคุณต้องการใช้งาน AF แบบแตะและลากเสมือนใช้งาน Multi-Controller ให้เลือก [สัมพัทธ์] สำหรับ [วิธีการวางตำแหน่ง] และ [ขวา] สำหรับ [บริเวณที่สัมผัสได้]

 

3. การถ่ายภาพต่อเนื่อง

ประสิทธิภาพการถ่ายภาพต่อเนื่องยังได้รับการพัฒนาขึ้นมากเช่นกัน ความเร็วในการถ่ายภาพสูงสุด 9 fps สำหรับ AF ครั้งเดียว และ 7 fps สำหรับ Servo AF มากพอที่จะสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องทั้งสำหรับฉากทั่วไปและตัวแบบที่กำลังเคลื่อนไหว

EOS M5 มีการพัฒนาความสามารถอย่างเหนือชั้น ทำให้สามารถถ่ายภาพ RAW ในการถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงถึง 17 ภาพ

 

4. คุณสมบัติไร้สาย

นอกเหนือจากฟังก์ชั่น Wi-Fi แล้ว EOS M5 ยังรองรับบลูทูธ (เทคโนโลยีบลูทูธพลังงานต่ำ) อีกด้วย บลูทูธซึ่งกินพลังไฟน้อยกว่า Wi-Fi อย่างมากนี้ ช่วยให้กล้องและสมาร์ทโฟนของคุณเชื่อมต่อกันได้อย่างคงที่

ในการเชื่อมต่อ EOS M5 กับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธ ให้เปิดใช้แอพ ‘Camera Connect’ เพื่อช่วยให้คุณใช้สมาร์ทโฟนเป็นรีโมทคอนโทรลไร้สายได้ ซึ่งคุณสมบัตินี้มีประโยชน์หากคุณต้องถ่ายภาพระยะไกลโดยไม่ได้คาดหมาย

 

หน้าจอเริ่มต้นของ Camera Connect

 

ระหว่างถ่ายภาพระยะไกล

 

หน้าจอ Remote Playback

 

นอกจากนี้ ‘Camera Connect’ ยังให้คุณถ่ายภาพ Live View ระยะไกลและถ่ายโอนภาพได้ แต่คุณต้องเปลี่ยนการใช้งานจากบลูทูธเป็น Wi-Fi เพื่อใช้งานฟังก์ชั่นเหล่านี้

 

สรุป

EOS M5 ได้รับการออกแบบให้มีฟังก์ชั่นที่เป็นประโยชน์มากมายเหมือนกับในกล้อง DSLR รุ่นไฮเอนด์ และมีการปรับปรุงคุณสมบัติต่างๆ โดยรวมเมื่อเปรียบเทียบกับกล้องซีรีย์ EOS-M รุ่นก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ EOS M5 ยังมีประสิทธิภาพในการถ่ายภาพตัวแบบที่กำลังเคลื่อนไหวที่ดีขึ้น อันเนื่องมาจากการพัฒนา AF และระบบประมวลผลภาพครั้งสำคัญ

EOS M5 คือกล้องที่มีศักยภาพอันยอดเยี่ยมเหมาะแก่การใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือชั้น และไม่เพียงสามารถใช้เป็นกล้องหลักได้เท่านั้น แต่ยังใช้เป็นกล้องเสริมสำหรับ DSLR ได้อีกด้วย

คลิกที่นี่เพื่ออ่าน รายละเอียดเกี่ยวกับ 7 คุณสมบัติสำคัญของการออกแบบภายนอกของ EOS M5
หรือที่ จุดโฟกัส: EOS M5 เพื่ออ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับกล้องรุ่นนี้

 

รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ ได้โดย ลงทะเบียนกับเรา!