Roberto Valenzuela: การจะเป็นช่างภาพงานแต่งงานมือหนึ่งนั้นต้องทำอย่างไรบ้าง
ทำอย่างไรจึงจะมีผลงานโดดเด่นในวงการนี้ คุณจะเล่าเรื่องราวจากงานแต่งงานให้ตราตรึงใจได้อย่างไร เราได้พบกับ Roberto Valenzuela ช่างภาพงานแต่งงานผู้ได้รับรางวัลระดับนานาชาติและเป็น Canon Explorer of Light ระหว่างการมาเยือนเอเชียของเขาเมื่อไม่นานนี้ และเรามีโอกาสได้ทราบถึงสิ่งที่อยู่เบื้องหลังแรงบันดาลใจและวิธีการถ่ายภาพงานแต่งงานของเขา
ศิลปะแห่งการถ่ายภาพงานแต่งงานให้เข้าถึงอารมณ์
“หลังจากแต่งงานไปได้ยี่สิบปี ผมอยากให้คุณมอง [ภาพนี้] และผมอยากให้เกิดความรู้สึกอันท่วมท้นขึ้นในใจของคุณเมื่อมองภาพที่ผมถ่ายให้ นั่นเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าสำหรับผม”
ช่างภาพงานแต่งงานทุกคนต่างก็มีสไตล์การถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเอง แต่สำหรับ Roberto Valenzuela สไตล์ของเขาคือการถ่ายภาพที่เรียบง่ายแต่ซาบซึ้งและเปี่ยมไปด้วยความหมาย
ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาหวังว่าจะตระหนักได้ก่อนหน้านี้
“ผมเริ่มต้นด้วยการถ่ายภาพที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจ เช่นภาพบ่าวสาวยืนอยู่หน้าหอไอเฟลหรือที่กำแพงเมืองจีนประมาณนั้น” เขาเล่าให้เราฟัง “แต่พอผมมองภาพพวกนั้น ผมก็ตระหนักว่าถึงแม้จะเป็นภาพที่สวย แต่มันกลับบอกเล่าเรื่องราวของสถานที่มากกว่าคู่รัก”
เขาจึงคิดได้ว่า ภาพถ่ายที่ “มีความหมายต่อเขา” แท้จริงแล้ว คือภาพที่เรียบง่ายแต่ส่งผลถึงอารมณ์ได้มากกว่า
“ผมจะถ่ายภาพคุณยายมองลูกสาวที่กำลังใส่ต่างหูที่เธอมอบให้ในงานแต่งงาน และบนใบหน้าของเธอก็จะมีความรู้สึกนั้นอยู่ และผมก็จะตกหลุมรักภาพนั้น”
EOS R/ RF28-70mm f/2L USM/ FL: 28 มม./ Manual exposure (f/2.8, 1/800 วินาที, EV±0)/ ISO 500/ WB: อัตโนมัติ
พ่อของเจ้าสาวต้อนรับเจ้าบ่าวเข้าสู่ครอบครัวด้วยอ้อมกอดอันอบอุ่นและเต็มไปด้วยความรัก การถ่ายภาพคนสำคัญในช่วงเวลาพิเศษทำให้ภาพมีพลังต่อความรู้สึก
Roberto พูดถึงภาพในแบบที่เขาชอบถ่ายอย่างกระตือรือร้น “เวลาถ่ายภาพงานแต่งงาน” เขาบอกเรา “ผมใช้ใจของผมถ่าย”
ความรู้สึกที่เกิดจากคนสำคัญ
ด้วยแนวคิดนั้น Roberto จึงค้นพบ “วิธีการเล่าเรื่อง” ของเขาในการถ่ายภาพงานแต่งงาน ซึ่งก็คือการรวมเอา “ผู้มีคุณค่าต่อจิตใจ” ซึ่งเป็นคนสำคัญของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเข้ามาในองค์ประกอบภาพด้วย
ส่วนหนึ่งของวิธีนี้มาจากประสบการณ์ส่วนตัวของเขาเอง พ่อของ Roberto นั้นเสียชีวิตลงไม่นานก่อนงานแต่งงานของเขา เขาเล่าให้เราฟังว่าเขายังคงรู้สึก "อ่อนไหวมาก" เมื่อเห็นพ่อของคนอื่นๆ ในงานแต่งงาน และมักจะถ่ายรูปพวกเขาเสมอ
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ลืมที่จะย้ำว่าคนสำคัญของแต่ละคนนั้นก็แตกต่างกันออกไป ก่อนพิธีแต่งงาน เขาจะถามเจ้าบ่าวและเจ้าสาวก่อนเสมอว่าใครบ้างที่เป็นคนสำคัญสำหรับพวกเขา เพื่อจะได้ทราบว่าต้องถ่ายใครบ้างในภาพ เขารู้สึกว่าเรื่องราวในงานแต่งงานจะไม่สมบูรณ์หากขาดคนที่มีความสำคัญเหล่านี้ไป
EOS R/ RF28-70mm f/2L USM/ FL: 32 มม./ Manual exposure (f/2.5, 1/200 วินาที, EV±0)/ ISO 200/ WB: อัตโนมัติ
เพื่อนเจ้าสาวส่งเสียงให้กำลังใจเมื่อเห็นเจ้าสาวที่เพิ่งเปลี่ยนมาสวมชุดเจ้าสาว โปรดสังเกตว่ามีคนสำคัญอยู่ที่ด้านหลังของห้อง ซึ่งก็คือแม่ของเจ้าบ่าวในชุดส่าหรีซึ่งในสายตาของเธอนั้นมีแต่ความปีติยินดี
การถ่ายภาพเพื่อเล่าเรื่องราวจากการมีปฏิสัมพันธ์คือการทำให้ช่วงเวลาที่เป็นธรรมชาตินั้นดูงดงาม
เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละฉากที่มีความแตกต่างกัน Roberto จึงใช้วิธีถ่ายภาพที่แตกต่างกันด้วยตลอดทั้งงาน เขารู้สึกว่า “การถ่ายภาพแบบมีปฏิสัมพันธ์” คือวิธีที่เขาใช้บ่อยที่สุดในการบันทึกช่วงเวลาเพื่อบอกเล่าเรื่องราวอันมีค่า
ซึ่งวิธีนี้แตกต่างไปจากการถ่ายทอดเรื่องราวด้วยภาพธรรมดาเนื่องจากช่างภาพจะมีอิทธิพลต่อฉากด้วยในทางใดทางหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น เขาอาจจะให้คนสองคนเข้ามาอยู่ในบริเวณเดียวกันเพื่อให้เกิดการพบปะพูดคุย หรืออาจมีการปรับเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ในฉากเพื่อให้ได้ภาพที่น่ามองที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
มันเหมือนกับการวางแม่เหล็กไว้ใกล้ๆ กันเพื่อให้ทั้งสองดึงดูดเข้าหากัน เขากล่าว “ถ้าพ่อของเจ้าสาวอยู่ตรงไหนสักแห่งภายในห้อง แต่ไม่อยู่ในเฟรมภาพ คุณจะพลาดโอกาสในเล่าเรื่องราวของพ่อผู้ซึ่งกำลังมองลูกสาวที่กำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ ”
เขาจะเปลี่ยนตำแหน่งของผู้เป็นพ่อหรือเจ้าสาวเพื่อให้ได้แสงและองค์ประกอบภาพที่มีเสน่ห์ชวนมอง แต่ “พอทั้งคู่เข้ามาอยู่ในฉากแล้ว ผมจะปล่อยพวกเขา” สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นจะเป็นไปตามธรรมชาติอย่างแท้จริง
EOS R/ RF28-70mm f/2L USM/ FL: 38 มม./ Manual exposure (f/2.8, 1/200 วินาที, EV±0)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ
สำหรับภาพนี้ Roberto เพียงแต่หาสถานที่ที่ทำให้ได้แสงและเฟรมภาพที่สวยงาม จากนั้นก็ขอให้เจ้าสาวและแม่ของเธอเข้ามาอยู่ตรงนั้น ผลที่ได้คือ ภาพที่เป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องพยายามของแม่เจ้าสาวที่กำลังช่วยจัดผ้าคลุมหน้า และเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของการถ่ายภาพแบบมีปฏิสัมพันธ์
EOS R: กล้องที่สมบูรณ์แบบสำหรับการบันทึกช่วงเวลาแห่งความซาบซึ้ง
การแสดงอารมณ์ต่อกันนั้นเป็นเรื่องที่มีความเป็นส่วนตัว หากพวกเขารู้ตัวว่ากำลังถูกถ่ายภาพอยู่ ช่วงเวลานั้นจะถูกทำลายไป Roberto พบว่ากล้อง EOS R นั้นเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการถ่ายภาพงานแต่งงาน ส่วนหนึ่งเนื่องจากกล้องรุ่นนี้เหมาะสำหรับการถ่ายภาพโดยไม่เป็นที่สังเกต คุณสมบัติต่างๆ เช่น การถ่ายภาพแบบเงียบ, AF ความเร็วสูง (ฉบับภาษาอังกฤษ) และวงแหวนควบคุม บนเลนส์ RF ช่วยให้เขาถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็ว เงียบเชียบ และไม่ทำลายช่วงเวลาที่มีความเป็นธรรมชาติ
Roberto เล่าประสบการณ์การถ่ายภาพงานแต่งงานด้วยกล้อง EOS R ที่เวิร์คช็อป EOS R Creators’ Workshop ในสิงคโปร์
ความสำคัญของการฝึกฝนอย่างตั้งใจ
ภายในระยะเวลา 13 ปีนับตั้งแต่ผันตัวมาเป็นช่างภาพงานแต่งงานมืออาชีพแบบเต็มเวลา Roberto ได้รับรางวัลในระดับนานาชาติมานับไม่ถ้วนและเป็นหนึ่งในช่างภาพมือหนึ่งในวงการถ่ายภาพงานแต่งงาน นับเป็นความสำเร็จที่ช่างภาพมืออาชีพหลายคนใฝ่ฝันถึง
อย่างไรก็ตาม เขาเน้นย้ำตลอดเวลาว่าไม่ใช่พรสวรรค์ที่ทำให้เขามายืนอยู่ในจุดนี้ของวงการถ่ายภาพ แต่แท้จริงแล้วคือความมุ่งมั่นและอุตสาหะ รวมถึงระยะเวลาเป็นพันๆ ชั่วโมงในการทำสิ่งที่เขาเรียกว่า “การฝึกฝนอย่างตั้งใจ”
“การถ่ายภาพที่ได้รับค่าจ้างนั้นถือเป็นการแสดง ในขณะที่คุณฝึกฝนอยู่นั้น คุณกำลังฝึกเพื่อออกไปทำการแสดง”
“การฝึกฝนอย่างตั้งใจ” คือวิธีที่ Roberto ใช้ฝึกเป็นระยะเวลาสิบปีในสมัยที่เขายังแสดงกีตาร์คลาสสิกเป็นอาชีพ เขาจะใช้เวลา 30 ถึง 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการฝึกฝนสำหรับการแสดงความยาว 40 นาที เขากล่าวว่า การถ่ายภาพที่ได้รับค่าจ้างก็เหมือนกับการแสดง คุณจำเป็นต้องฝึกซ้อมหากต้องการแสดงให้ได้ดี
การที่จะฝึกฝนอย่างตั้งใจนั้น คุณจะต้อง
1) กำหนดให้ชัดเจนว่าต้องการปรับปรุงในเรื่องใด
2) ตั้งเป้าหมายเล็กๆ ที่คุณต้องการทำให้สำเร็จ
3) กำหนดว่าอะไรเป็นตัววัดว่าคุณไปถึงเป้าหมายหรือยัง จากนั้น
4) ฝึกฝนจนกว่าคุณจะทำตามเป้าหมายได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องพยายาม
ในระยะแรกของการทำงาน การฝึกฝนอย่างตั้งใจนี้ช่วยลดความผิดพลาดทางด้านเทคนิคของเขาได้ ทำให้สามารถใช้สมาธิไปกับการถ่ายทอดเรื่องราวในงานแต่งงานได้อย่างสร้างสรรค์ แม้ในตอนนี้ เขาก็ยังต้องหาเวลาในการฝึกฝนอย่างน้อยเป็นเวลา 15 นาทีต่อเดือน
Manual exposure (f/3.5, 1/45 วินาที, EV±0)/ ISO 800/ WB: อัตโนมัติ
ภาพนี้ถ่ายระหว่างเกิดพายุฝนที่มีความรุนแรงระดับเฮอร์ริเคน และเป็นหนึ่งในภาพที่โด่งดังที่สุดของ Roberto ทักษะต่างๆ ที่สั่งสมมาจากความอุตสาหะและการฝึกฝนอย่างตั้งใจเป็นเวลานานหลายชั่วโมงคือสิ่งที่ช่วยให้ Roberto สามารถใช้สภาพอากาศให้เป็นประโยชน์และสร้างสภาพแสง องค์ประกอบภาพ และท่าที่สมบูรณ์แบบได้ภายในระยะเวลาที่จำกัด จึงเกิดเป็น “ภาพที่มหัศจรรย์ที่สุดในชีวิตการถ่ายภาพของเขา”
ฝึกถ่ายภาพด้วยกล้อง EOS R
แล้วช่วงนี้ Roberto กำลังฝึกอะไรอยู่ “การเคลื่อนไหวมือของผมเมื่อใช้กล้อง EOS R” เขากล่าว
ณ เวลาที่ให้สัมภาษณ์กับเรา เขาได้ใช้เวลา 30 นาทีต่อสัปดาห์ในการสร้างความคุ้นเคยกับการยศาสตร์ของกล้อง EOS R และฝึกการขยับนิ้วไปมาระหว่างการควบคุมกับเมนูต่างๆ “มือของผมต้องจำสิ่งเหล่านี้ให้ขึ้นใจ” สิ่งนี้จะช่วยให้เขาแน่ใจว่าจะสามารถปรับการตั้งค่าต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วตามสัญชาตญาณเมื่อต้องการ
เขาจึงสามารถบันทึกเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างมีเอกลักษณ์ มีคุณค่า และซาบซึ้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เขามีชื่อเสียง
คุณอาจสนใจบทความต่อไปนี้
พูดคุยกันในโลกแห่ง EOS กับ Roberto Valenzuela (ฉบับภาษาอังกฤษ)
สำหรับผู้สัมภาษณ์กับช่างภาพงานแต่งงานท่านอื่นๆ โปรดอ่านบทความต่อไปนี้
การถ่ายภาพงานแต่งงาน: เคล็ดลับจากผู้รอบรู้
ภาพงานแต่งงานผ่านเลนส์ของ Nguyen Long
การถ่ายภาพงานแต่งงาน:สัมภาษณ์ Raymond Phang
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในชุมชน SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!เกี่ยวกับผู้เขียน
นอกจากจะได้รับการสนับสนุนจาก Canon USA และเป็นสมาชิกในโปรแกรม Canon Explorer of Light แล้ว Roberto ยังได้รับรางวัลในระดับนานาชาติมากว่า 100 รางวัลจากการถ่ายภาพงานแต่งงานและภาพพอร์ตเทรต เขาเป็นที่ยอมรับในวงการว่าเป็นหนึ่งในสิบช่างภาพและนักสอนที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก นอกจากนี้ เขายังเป็นนักเขียนที่มียอดขายอันดับหนึ่ง และหนังสือเกี่ยวกับการถ่ายภาพและการถ่ายภาพงานแต่งงานของเขา เช่น Picture Perfect Practice และ Wedding Storyteller Volume 1 นั้นมีจำหน่ายทั่วโลกและได้รับการแปลเป็นหลายภาษา