เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2567 Canon ได้เปิดตัว Speedlite EL-10 ซึ่งเป็น Speedlite รุ่นสองที่รองรับฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่น แฟลชเสริมรุ่นใหม่ที่ทั้งมีขนาดเล็ก พกพาสะดวก และมีคุณสมบัติครบครันนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ระดับเริ่มต้นเริ่มเส้นทางการถ่ายภาพโดยใช้แฟลชได้อย่างง่ายดาย
แฟลชใช้งานง่ายพร้อมลูกเล่นสารพัดที่เหมาะกับผู้ใช้ในทุกระดับ
กล้องซีรีย์ EOS R มาพร้อมความไวแสง ISO สูงที่มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม เพื่อให้ภาพคุณภาพสูงแม้แต่ในฉากที่มีแสงน้อย แต่จะเป็นอย่างไรถ้าหากคุณยังสามารถได้ภาพที่ดียิ่งขึ้นไปอีก
แสงมีความสำคัญมากสำหรับการถ่ายทอดอารมณ์ผ่านภาพถ่าย การมีแสงเพียงพอสามารถเปลี่ยนผลลัพธ์ของภาพได้ ด้วยเหตุนี้ Speedlite อย่าง Speedlite EL-10 จึงได้เข้ามามีบทบาท แฟลชรุ่นนี้มีประสิทธิภาพสูงและใช้งานได้หลากหลายกว่าแฟลชติดกล้องเพราะอัดแน่นด้วยคุณสมบัติต่างๆ ที่จะขยายขอบเขตความเป็นไปได้ในการสร้างสรรค์ให้มากขึ้น ด้วยการสื่อสารกับตัวกล้องที่รวดเร็วและเสถียรผ่านฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่นในกล้อง Canon รุ่นล่าสุดอย่าง EOS R6 Mark II, EOS R8 และ EOS R50 ผู้ใช้ยังสามารถควบคุมแฟลชอย่างมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ตลอดการถ่ายภาพ
Speedlite EL-10: ภาพรวมคุณสมบัติสำคัญ
- ค่าไกด์นัมเบอร์สูงสุด*1: 40
- ระยะครอบคลุมของแสงแฟลช: 24-105 มม. (14 มม. เมื่อใช้แผ่นกระจายแสง)
- รองรับฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่น
- การควบคุมแบบไร้สาย: สัญญาณวิทยุ (ตัวส่ง/ตัวรับ)
- คุณสมบัติต่างๆ ที่รองรับ รวมถึงแฟลชสะท้อน ซิงค์ความเร็วสูง การควบคุมผ่านแอพสมาร์ทโฟน
- กำลังแฟลช: 1/1024 ถึง 1/1
- ระยะเวลาที่แฟลชกลับมาพร้อมใช้งาน*2: ประมาณ 0.1 ถึง 2.2 วินาที (ยิงแฟลชแบบเร็ว) และประมาณ 0.1 ถึง 2.5 วินาที (ยิงแฟลชปกติ)
- แฟลชต่อเนื่องที่กำลังแสงสูงสุด: ประมาณ 55 ครั้งหรือมากกว่า*2
- จำนวนการยิงแฟลชสูงสุด: ประมาณ 210-1400 ครั้ง*3
- แบตเตอรี่: แบตเตอรี่ AA/ LR6 4 ก้อน
*1ที่ ISO 100 และระยะครอบคลุมของแสงแฟลช 105 มม.
*2 ที่ระยะครอบคลุมของแสงแฟลช 50 ถึง 105 มม. จำนวนการยิงแฟลชต่อเนื่องโดยใช้กำลังแสงสูงสุดไม่เกินความเข้มของแสงแฟลชระดับ 1 เมื่อใช้แบตเตอรี่อัลคาไลน์ AA/LR6 ใหม่ อ้างอิงตามมาตรฐานการทดสอบของ Canon ด้วยการใช้แฟลชแบบแมนนวล
*3 ใช้แบตเตอรี่อัลคาไลน์ AA/LR6 ใหม่ (ตามมาตรฐานการทดสอบของ Canon)
พลังส่องสว่างสูง ยิงแฟลชต่อเนื่องได้ดีเยี่ยม
ส่องสว่างยิ่งกว่าแฟลชติดกล้อง
Speedlite EL-10 มีกำลังแฟลชสูงสุดถึงค่าไกด์นัมเบอร์ 40 จึงให้แสงที่เพียงพอบนตัวแบบ ทำให้ได้ภาพที่สว่างและสวยงามแม้แต่ในการถ่ายภาพพอร์ตเทรตแบบเต็มตัวและภาพหมู่จากระยะไกล นอกจากนี้ คุณยังสามารถปรับระยะครอบคลุมของแสงแฟลชได้ตั้งแต่ 24 ถึง 105 มม. โดยอัตโนมัติหรือแบบแมนนวลให้เหมาะกับทางยาวโฟกัสของเลนส์ หากใช้แผ่นกระจายแสง ระยะครอบคลุมของแสงแฟลชจะขยายขอบเขตภาพให้กว้างขึ้นถึง 14 มม.*1
แฟลชติดกล้อง
(ค่าไกด์นัมเบอร์: ประมาณ 6*2)
EOS R10 / FL:100mm /
แฟลชติดกล้อง (แฟลชแบบแมนนวล)
Speedlite EL-10
(ค่าไกด์นัมเบอร์: ประมาณ 40)
EOS R10 / FL:100mm /
Speedlite EL-10 (แฟลชแบบแมนนวล)
*1 ไม่สามารถใช้งานกับมุมรับภาพของเลนส์ EF15mm f/2.8 Fisheye และ EF8-15mm f/4L Fisheye USM
*2 เมื่อถ่ายด้วย EOS R10
จับภาพการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วได้ทันเสมอ
แม้ว่า Speedlite EL-10 จะใช้แบตเตอรี่ AA อเนกประสงค์ที่หาซื้อได้ง่าย แต่ก็สามารถยิงแฟลชต่อเนื่องเต็มกำลังได้หลายครั้งมากกว่า Speedlite 430EX III-RT เนื่องจากการปรับปรุงระบบระบายความร้อนและการเพิ่มประสิทธิภาพช่วงเวลาในการยิงแฟลชต่อเนื่อง
ที่ระยะครอบคลุมของแสงแฟลช 50 มม. ตำแหน่งการซูมเริ่มต้นสำหรับการถ่ายแบบแสงสะท้อน จะสามารถยิงแฟลชเต็มกำลังได้ประมาณ 55 ครั้ง ซึ่งมากกว่าจำนวนที่ Speedlite 430EX LLL-RT ทำได้ถึง 2 เท่า จำนวนนี้จะเพิ่มขึ้นอีกเมื่อยิงแฟลชด้วยกำลังกึ่งหนึ่ง จึงถ่ายภาพที่มีความเคลื่อนไหวรวดเร็วได้ทันทุกจังหวะ
ยิ่งแฟลชต่อเนื่องเต็มกำลังภายในไม่ถึง 2.5 วินาที
รองรับแสงสะท้อนแฟลช: แสงละมุนและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
หัวแฟลชที่ปรับหมุนได้ของ Speedlite EL-10 สามารถยิงแฟลชจากมุมให้แสงต่างๆ ซึ่งรวมถึงเพดาน กำแพง หรือพื้นผิวอื่นๆ ที่เหมาะกับการถ่ายภาพด้วยแฟลชสะท้อน แสงแฟลชสะท้อนจะนวลตากว่าและกระจายตัวมากกว่าแฟลชโดยตรง ทำให้แสงดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น เพียงใช้แฟลชอัตโนมัติ E-TTL II และ E-TTL ช่างภาพมือใหม่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการคำนวณที่ซับซ้อน เนื่องจาก Speedlite EL-10 เป็นแฟลชสำหรับระบบกล้องของ Canon จึงสามารถทำงานร่วมกับกล้องและเลนส์ได้อย่างลงตัวเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดโดยอัตโนมัติ
แฟลชติดกล้อง
แม้ว่าภาพที่ได้จะสว่างและมีสีสันไม่ผิดเพี้ยน แต่คุณภาพแสงก็สว่างจ้า พร้อมมีเงาที่เด่นชัด
Speedlite EL-10 (แฟลชสะท้อน)
ภาพที่ได้ดูสว่างและมีสีสันสดใส แสงจากแฟลชกระจายตัวมากขึ้น ทำให้แสงละมุนขึ้นและมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น
3 ทิศทางในการสะท้อนแฟลชที่เป็นไปได้
หัวแฟลชของ Speedlite EL-10 สามารถหมุนขึ้นได้ 90° หมุนไปด้านซ้าย 150° และด้านขวา 180° เพื่อยิงแฟลชได้อย่างยืดหยุ่นขึ้นในมุมสะท้อนและทิศทางที่คุณต้องการ
ถ่ายทอดจินตนาการของคุณ: โหมดแฟลชที่หลากหลาย
Speedlite EL-10 มีโหมดแสงแฟลชหลากหลายโหมดเพื่อรองรับฉากมากมายและการถ่ายทอดอารมณ์ตามต้องการ
ซิงค์ความเร็วสูง: สร้างโบเก้เมื่อแสงย้อนจากด้านหลัง
เมื่อถ่ายภาพโดยใช้แฟลช ตามปกติคุณจะไม่สามารถตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ให้เร็วกว่าความเร็วซิงค์แฟลชได้ (ปกติจะใช้ความเร็วประมาณ 1/200 ถึง 1/250 วินาที ขึ้นอยู่กับกล้องที่ใช้) เพื่อให้แน่ใจว่าแสงเข้ามาถึงเซนเซอร์ภาพทั้งหมด
ซิงค์ความเร็วสูงเป็นโหมดที่ช่วยให้คุณใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่เร็วกว่าความเร็วซิงค์แฟลช (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ [เทคนิคการใช้ไฟ 2 ดวง] ถ่ายภาพกลางแจ้งในแสงแดดจ้าอย่างไรให้แหวกแนว) ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อคุณต้องการเปิดรูรับแสงให้กว้างและสร้างแบ็คกราวด์เบลอเวลาถ่ายฉากย้อนแสงท่ามกลางแสงแดดจ้า โดยแฟลชเสริมจะเป็นสิ่งจำเป็นในการทำให้ใบหน้าของตัวแบบดูสว่างขึ้น ในขณะที่ความเร็วชัตเตอร์สูงจะสร้างสมดุลให้กับรูรับแสงกว้างและป้องกันไม่ให้ภาพสว่างเกินไป
เมื่อตั้งค่าระดับแสงสำหรับใบหน้าแล้ว การปรับแต่งความเปรียบต่างและสีจะทำได้ยากหากไม่ตัดส่วนที่สว่างในแบ็คกราวด์ออกไป
เนื่องจากความเร็วชัตเตอร์ถูกจำกัดด้วยความเร็วซิงค์แฟลช จึงไม่สามารถใช้รูรับแสงกว้างพอที่จะทำให้แบ็คกราวด์เบลอได้
โหมดซิงค์ความเร็วสูงจะทำให้ได้ทั้งความสว่างในใบหน้าและแบ็คกราวด์เบลอ คุณจึงสามารถใช้ประโยชน์จากเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างได้เต็มที่!
ซิงค์ม่านชัตเตอร์ที่ 2
ตามการตั้งค่าเริ่มต้น แฟลชจะยิงทันทีหลังจากที่ชัตเตอร์เปิด (ซิงค์ม่านชัตเตอร์แรก) แต่เราสามารถทำให้แฟลชยิงทันทีก่อนที่ชัตเตอร์จะปิดโดยใช้โหมดซิงค์ม่านชัตเตอร์ที่ 2 ซึ่งจะเปลี่ยนทิศทางของภาพเบลอจากการเคลื่อนไหวในการถ่ายภาพด้วยความเร็วชัตเตอร์ต่ำ
แฟลชแบบไมโครที่ 1/1024
Speedlite EL-10 สามารถยิงแฟลชได้ต่ำถึง 1/1024 ของกำลังสูงสุด จึงควบคุมแสงแฟลชในฉากที่ต้องการสภาพแสงเนียนตาที่สุดได้อย่างละเอียด ตัวอย่างเช่น เมื่อใช้แฟลชเป็นไฟเสริมในฉากที่มีแสงน้อยและมีค่า ISO สูง
สำหรับ Speedlite EL-10 นั้น ค่า 1/1024 ของกำลังสูงสุดแปลว่ามีระยะเวลาการยิงแฟลชโดยประมาณ 1/21190 วินาที ซึ่งเทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์สูงที่ประมาณ 1/21190 วินาทีในสถานการณ์ที่ไม่มีแสงเลยและมีแฟลชเป็นเพียงแหล่งกำเนิดแสงแหล่งเดียว
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาการยิงแฟลชและวิธีใช้แฟลชเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวได้ใน
เร็วยิ่งกว่าความเร็วชัตเตอร์: การใช้ระยะเวลาการยิงแฟลชเพื่อหยุดการเคลื่อนไหว
โหมดแฟลชแบบกำหนดเอง
มีโหมดแฟลชแบบกำหนดเอง 3 โหมด (C1, C2 และ C3) โหมดเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถบันทึกการตั้งค่าแฟลชที่ใช้บ่อย เช่น การตั้งค่าการส่งสัญญาณวิทยุไร้สาย โหมดแฟลช ฟังก์ชั่นแฟลช และฟังก์ชั่นแบบกำหนดเองอื่นๆ เพื่อให้เข้าถึงได้ง่าย นอกจากนี้ โหมดดังกล่าวยังสามารถเชื่อมโยงเข้ากับโหมดถ่ายภาพแบบกำหนดเอง (C1, C2 และ C3) บนกล้องได้อีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเชื่อมโยงโหมดแฟลชแบบกำหนดเอง C3 เข้ากับโหมดกล้องแบบกำหนดเอง C1 การเลือก C1 บนกล้องจะเปลี่ยนการตั้งค่าแฟลชของคุณเป็นค่าที่บันทึกไว้สำหรับโหมดแฟลชแบบกำหนดเอง C3 โดยอัตโนมัติ
เพิ่มโอกาสในการใช้แฟลชนอกตัวกล้องผ่านการส่งสัญญาณวิทยุไร้สาย
Speedlite EL-10 รองรับการยิงแฟลชนอกตัวกล้องแบบไร้สายผ่านการส่งสัญญาณวิทยุ และสามารถทำหน้าที่เป็นทั้งตัวส่งและตัวรับ การส่งสัญญาณวิทยุจะได้รับผลกระทบจากสิ่งกีดขวางน้อยกว่า และไม่จำเป็นต้องอาศัย “แนวสายตา” ระหว่างตัวส่งกับตัวรับ จึงทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการจัดวางอุปกรณ์จัดแสง หากไม่มีสิ่งกีดขวางหรือสัญญาณรบกวนระหว่างตัวส่งกับตัวรับ จะสามารถส่งสัญญาณได้ภายในรัศมี 30 เมตร*
เมื่อ Speedlite EL-10 ทำหน้าที่เป็นตัวส่ง จะสามารถควบคุมแฟลชรับสัญญาณได้สูงสุด 15 ตัว พร้อมทั้งควบคุมแฟลชแต่ละกลุ่มได้สูงสุด 5 กลุ่ม ความสามารถขั้นสูงในการควบคุมแฟลชนอกตัวกล้องเหล่านี้จะคล้ายกับของ Speedlite ระดับไฮเอนด์ เช่น Speedlite EL-1 และ EL-5
*สภาพอากาศและสภาพแวดล้อม สิ่งกีดขวาง และปัจจัยอื่นๆ อาจทำให้รัศมีการส่งสัญญาณลดลง
ความสามารถในการส่งสัญญาณวิทยุร่วมกับอุปกรณ์ที่มีอยู่
*การถ่ายภาพแบบเชื่อมโยงกันเท่านั้น
Speedlite EL-10 สามารถรับสัญญาณจากแฟลชและตัวส่งสัญญาณแฟลชอื่นๆ ของ Canon ได้ด้วยคุณสมบัติของตัวส่งสัญญาณวิทยุ
ควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพจากแอพ Canon Camera Connect
คุณสามารถใช้สมาร์ทโฟนเพื่อกำหนดการตั้งค่าแฟลชไร้สาย ยิงแฟลช ตรวจดูภาพ รวมถึงปรับมุมแฟลชและระดับกำลังแสงแฟลชด้วยแอพ Camera Connect ที่สามารถใช้งานได้ฟรี ซึ่งเหมาะสำหรับ
- การถ่ายภาพตัวเอง
- การจัดแสงแบบใช้ไฟหลายดวง
- การถ่ายภาพในจุดที่คุณติดตั้ง Speedlite ไว้ในสถานที่ที่เอื้อมถึงได้ยาก
- การถ่ายภาพโดยช่างภาพที่ฉายเดี่ยว
- การถ่ายภาพกับทีมงานเล็กๆ
คุณสมบัติสำคัญอื่นๆ
ใช้งานง่ายด้วยเมนูโดยตรงและวงแหวนเลือก
A: เมนูโดยตรง (ใช้งานกับแฟลชหรือกล้องได้)
B: การชดเชยแสง/ การชดเชยปริมาณแสงแฟลช
C: โหมดแฟลช
D: การตั้งค่าการถ่ายภาพแบบไร้สาย/เชื่อมโยงกัน
E: วงแหวนเลือก
Speedlite EL-10 รองรับคุณสมบัติเมนูโดยตรง ซึ่งสามารถปรับการตั้งค่า Speedlite ได้จากกล้อง วงแหวนเลือกและปุ่ม 4 ทิศทาง ช่วยให้เข้าถึงคุณสมบัติต่างๆ ได้โดยสะดวกและปรับการตั้งค่าได้ง่าย
ออกแบบมาเพื่อฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่น
Speedlite EL-10 ออกแบบมาให้ใช้ร่วมกับฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่น ซึ่งช่วยให้สื่อสารได้อย่างรวดเร็วและเสถียร จึงสามารถควบคุมขั้นสูงได้อย่างเชื่อถือได้
กล้องที่มีฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่น
EOS R3 / EOS R6 Mark II / EOS R8
EOS R7 / EOS R10 / EOS R50
(ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2567)