เมื่อถ่ายภาพี่แสงน้อย ช่างภาพหลายคนหลีกเลี่ยงการใช้แฟลช และเลือกใช้การเพิ่มค่า ISO ของกล้องแทน เหตุผลอาจขึ้นอยู่กับประสบการณ์การใช้แฟลชซึ่งให้ภาพที่ดูกระด้างและดูผิดธรรมชาติซึ่งทำให้เขาไม่ชอบใช้แฟลช หรือบางทีช่างภาพเหล่านี้อาจมีความเข้าใจผิดว่าแฟลชใช้งานยาก 

อาจฟังดูดีเกินเกินจริง แต่ก็ไม่ยากที่จะถ่ายภาพที่ดีด้วยแฟลชในสถานการณ์ที่มีแสงน้อย สิ่งที่จําเป็นก็คือการปรับระดับแสงแฟลชให้สมดุลกับการเปิดรับแสงโดยรอบ ในบทความนี้เราจะแนะนําถึงวิธีการต่างๆ ในการทําเช่นนี้ด้วยสปีดไลท์ของคุณ  

 

ทำความเข้าใจกับการเปิดรับแสง 

EOS 5D Mark IV, EF24-70mm f/4L IS USM, f/8, ISO 100, 1/15s, 70 มม. แฟลชที่สมดุลกับแสงแวดล้อม​  

สําหรับช่างภาพที่ใช้โหมดอัตโนมัติ (Program) หรือกึ่งอัตโนมัติ (Aperture หรือ Shutter priority) กล้องจะกําหนดการเปิดรับแสงที่ดีที่สุดสําหรับคุณ ดังนั้ เมื่อเลนส์ของคุณโฟกัสที่ตัวแบบ เลนส์สามารถวัดระยะห่างของตัวแบบจากกล้องและแบ่งปันข้อมูลนี้ให้กับ Speedlite ของคุณ จากนั้นแฟลชของคุณจะให้ระดับแสงในปริมาณที่เหมาะสมสําหรับตัวแบบตามการตั้งค่าการเปิดรับแสง บ่อยครั้งที่แสงจากแฟลชดูกระด้างและไม่น่าดูนัก  

ในการหลีกเลี่ยงผลลัพธ์แบบนี้ เราจําเป็นต้องเปิดรับแสงสําหรับพื้นหลังและปรับสมดุลพลังของแฟลชเพื่อสร้างภาพที่ดูเป็นธรรมชาติ 

 

การใช้โหมดแมนนวล  

EOS 5D Mark IV, EF24-70mm f/4L IS USM, f/8, ISO 100, 1/15s, 70 มม. ไม่ใช้แฟลช    

วิธีหนึ่งในการทําให้ภาพแสงแฟลชของคุณสมดุลคือการใช้โหมดแมนนวล (M) และทําตามขั้นตอนต่อไปนี้: 

 

EOS 5D Mark IV, EF24-70mm f/4L IS USM, f/8, ISO 100, 1/60, 70 มม. แสงแฟลชสําหรับตัวแบบ ​  

หากคุณมี Speedlite EL-1, คุณสมบัติแฟลชขนาดเล็กจะส่องแสงที่พลังงาน 1/8192 เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเพิ่มแสงเพียงเล็กน้อยเพื่อทําให้ตัวแบบดูมีชีวิตชีวามากขึ้น  

 

การใช้ Flash Exposure Lock (FE-L) 

อาจมีสถานการณ์ที่มิเตอร์ของกล้องถูกหลอกโดยสภาพแวดล้อม ซึ่งจะทําให้แฟลชแรงหรือเบาเกินไป ทําให้ตัวแบบดูสว่างหรือมืดเกินไป สิ่งนี้มักเกิดขึ้นเมื่อคุณปรับองค์ประกอบภาพใหม่หลังจากโฟกัสที่ตัวแบบ  

นี่คือจุดที่คุณสมบัติที่เรียกว่า Flash Exposure Lock (FE-L) จะมีประโยชน์ หลังจากที่คุณโฟกัสไปที่ตัวแบบแล้ว ให้กดปุ่ม FE-L นี่จะทำให้แฟลชสว่างขึ้น ทําให้กล้องอ่านและคํานวณการตั้งค่าแฟลชที่ดีที่สุดสําหรับการถ่ายภาพนั้น ค่าที่อ่านนี้จะถูกเก็บไว้เป็นเวลา 16 วินาทีและในช่วงเวลานี้คุณสามารถจัดองค์ประกอบภาพของคุณและถ่ายภาพด้วยการตั้งค่าแฟลชล่าสุด    

 

E-TTL Balance 

ช่างภาพที่ใช้กล้อง EOS-1DX Mark III, R5 หรือ R6 จะสามารถเปิดใช้งาน E-TTL Balance เมื่อถอดแฟลชออกจากกล้อง ในเมนูของกล้อง การตั้งค่าการควบคุมแฟลชภายนอกจะแสดงตัวเลือก Standard, Ambient Priority และ Flash Priority

การใช้ Ambient Priority จะช่วยให้ช่างภาพสร้างภาพถ่ายที่ดีขึ้น กล้องจะจัดลําดับความสําคัญของสภาพแสงโดยรอบและจัดการระดับแสงแฟลชเพื่อรักษารูปลักษณ์ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นจากสปีดไลท์  

 

ศัพท์เกี่ยวกับแฟลชทั้งหมดนี้อาจฟังดยุ่งยาก แต่เมื่อคุณเข้าใจพื้นฐานแล้ว คุณจะสามารถใช้สปีดไลท์ได้อย่างง่ายดาย เมื่อคุณชินกับมันแล้ว จะไม่มีสภาพแสงใดที่จะเป็นอุปสรรคในการถ่ายภาพของคุณ เนื่องจากคุณสามารถควบคุมแฟลชได้ ท้ายที่สุดแล้ว การถ่ายภาพก็คือการวาดภาพด้วยแสงใช่ไหม?