ช่างภาพชาวร็อค Eddie Sung บรรยายมนต์ขลังของภาพขาวดำ รวมถึงชีวิตหรูเลิศในวงการดาราและวงดนตรีร็อค
อะไรคือสิ่งแรกที่เราควรจะทราบเกี่ยวกับภาพขาวดำ
สำหรับผม ภาพขาวดำบอกเล่าถึงจิตใต้สำนึก บางครั้งเราไม่ต้องทราบเหตุผล ทว่าภาพขาวดำจับความสนใจ ถ้าเป็นภาพสวยๆ (ด้วยมุมเหมาะๆ แสงพอดี ธีมน่าสนใจ พอเห็นภาพต้องร้อง ‘ว้าว’) ก็จะได้ภาพที่โดดเด่น
ผมมักจะบอกตากล้องมือใหม่ว่าการถ่ายรูปก็เหมือนกับการเล่นว่าว เราควรจะให้ภาพถ่าย (ว่าวที่ติดลมบน) สื่อเรื่องราว โดยที่เราไม่ต้องเอ่ยปากบอกอะไรสักคำ เหมือนคนเล่นว่าวที่เท้าติดดิน ในขณะที่ว่าวลอยลมสูงลิบ ถ้าคุณเล่นว่าวที่ลอยโดดเด่นให้คนอื่นมองเห็นด้วยความชื่นชมอยู่เสมอ คุณก็จะกลายเป็นที่กล่าวขวัญ
ส่วนแง่ลบก็คือ ภาพขาวดำบางภาพที่ผมเห็นนั้นเป็นสีเทาอ่อนและสีเทาเข้ม ไม่ใช่สีขาวดำ ภาพแบบนี้ดูแล้วน่าเบื่อ
คุณกลายเป็นช่างภาพแนวนี้ได้อย่างไร
ง่ายมาก ผมชอบเพลงร็อคและภาพถ่ายชาวร็อคตั้งแต่เด็ก ผมยังเปิดเพลงฟังที่บ้านอย่างน้อยวันละสามชั่วโมง ผมชอบเปิดดูนิตยสารถ่ายภาพตราบจนทุกวันนี้ ผมไม่เคยหยุดรักภาพถ่ายชาวร็อค
อันที่จริง ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ Debbie Harry และ Chris Stein จากวง Blondie กล่าวถึงผมว่า “นอกจากจะเป็นสุภาพบุรุษแล้ว เขายังเป็นตากล้องชั้นยอดที่ถ่ายรูปให้กับวงของเราในหลายโอกาส Eddie เป็นนักดนตรีและช่างภาพเต็มตัว น่าจะจัดได้ว่าเป็นช่างภาพมือหนึ่ง”
ส่วนประกอบของกล้องถ่ายภาพดนตรีร็อคของคุณมีอะไรบ้าง
ปลั๊กอุดหู ความตื่นตัว กล้องคู่ใจ (Canon EOS 5D Mark III) และเลนส์ไวแสง (Canon EF16-35mm f/2.8L II USM, EF24-70mm f/2.8L II USM, EF70-200mm f/2.8L USM, EF15mm f/2.8 Fisheye) ผมไม่ใช้แฟลช
ทำไมภาพถ่ายขาวดำของคุณถึงแตกต่างจากช่างภาพชาวร็อคอื่นๆ
ช่างภาพชาวร็อคทางตะวันตกบอกว่าผมถ่ายรูปด้วยความผ่อนคลายตามวิถีแห่งเซนที่เป็นปรัชญาทางตะวันออก ในชั่วขณะของความเหมาะเจาะ ยามที่สบตากันด้วยสายตาหยอกล้อ นิ้วชี้มาที่เลนส์ ท่าทีร่าเริงเบิกบาน ฯลฯ “คลิกเดียวที่ใช่” ในชั่วพริบตา เป็นการจับภาพได้อย่างลงตัว
ผมชอบถ่ายภาพ ‘ประชิดตัวบนเวที’ ของดาราเพลงร็อค มีคนถามว่าสตูดิโอถ่ายภาพของผมอยู่ที่ไหน ผมตอบว่า ‘บนเวที’ ผมถ่ายรูปดาราเพลงร็อค ‘สบตา’ กัน ราวกับว่าถ่ายรูปในสตูดิโอ ผมไม่มีสิทธิ์เรียกตัวดาราเพลงร็อคมาถ่ายรูปเมื่อไรก็ได้ ทว่ามีเพียงชั่วพริบตาที่ผูกพันกันทางสายตา
ตอนนี้แหละที่กล้องคู่ใจและเลนส์ไวแสงต้องไม่ทำให้เราผิดหวัง เราต้องรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับกล้อง แต่ถ้าไม่มีดวงตา ก็ไม่มีเรื่องต้องคุยกันอีก
แล้วภาพขาวดำที่คุณโปรดปรานล่ะ มีเรื่องราวอะไรอยู่เบื้องหลัง
มีภาพจำนวนนับไม่ถ้วน ผมเพียงแต่แชร์ภาพขาวดำบางส่วนที่ผมโปรดปรานไว้ ณ ที่นี้
ผมจำได้ว่ามีสมาชิกในวง Beach Boys
ตอนที่ Blondie บันทึกเพลง “Panic of Girls” ผมได้รับเชิญให้ไปเที่ยวและถ่ายรูปที่ Woodstock ภาพที่ผมถ่ายให้เขาลงเอยในอาร์ตเวิร์กอัลบั้ม (ซีดีและแผ่นเสียง) ของเขา
ผมอยู่หลังเวทีกับ Kitaro ขณะที่เขาตรวจเครื่องเสียง ผมเห็นแสงไฟสว่างจ้าส่องมาที่เขา ผมขอให้เขามองกล้อง เขาชอบภาพที่ออกมาอย่างมาก เขาจึงใส่ไว้ในอัลบั้มชุดต่อไป ชื่อ “Thinking of You” ซึ่งเป็นไปตามคาด
Slipknot เป็นหนึ่งในคอนเสิร์ตสุดยอดที่ผมได้ถ่ายภาพ เมื่อ Joey Jordison เชิญให้ผมไปถ่ายรูปเขา ผมก็ทราบว่าจะเป็นโอกาสพิเศษ ภาพโดดเด่นดังกล่าวอยู่ในอัลบั้มการแสดงสด 9:0 ของวง Slipknot และจัดแสดงไว้อย่างน่าภาคภูมิใจที่ Hard Rock Café
Stefanie Sun ทำท่าฉลอง “50” ให้กับผม เป็นภาพถ่ายหลังเวทีที่คอนเสิร์ตอลังการ Sing50 ในฐานะที่เป็นชาวสิงคโปร์ ผมภูมิใจมากกับความสำเร็จของสิงคโปร์ในช่วงห้าทศวรรษที่ผ่านมา ผมรู้สึกว่าเป็นการจับภาพความปีติยินดีของคนทั้งประเทศได้อย่างยอดเยี่ยม
ผมนับถือความเหนียวแน่นของ Jon Bon Jovi ในฐานะดาราเพลงร็อค เขามักจะเอาใจแฟนเพลงเป็นพิเศษ ผมชื่นชอบความเป็นกันเองที่เขาแสดงออกผ่านเลนส์กล้องของผม ในชั่วพริบตาขณะที่ร้องเพลง
ผมขอบอกว่า Chris Stein (Blondie) เป็นกูรูเพลงของ Blondie ทั้งยังเป็นช่างภาพผู้ประสบความสำเร็จ ผมไปนอนค้างที่บ้านเขาหลายหน และเขาก็เคยมานอนค้างที่บ้านผม ในภาพนี้ เขากำลังแสดงลวดลายด้วยกีต้าร์ mojo ที่สตูดิโอ Magic Shop นครนิวยอร์ก David Bowie บันทึกอัลบั้มพิเศษสองชุดสุดท้ายของเขาที่นี่ คือ The Next Day และ Blackstar น่าเสียดายที่สตูดิโอปิดตัวลงแล้ว Blondie เป็นวงชื่อดังวงสุดท้ายที่บันทึกเสียงที่นั่น ผมโชคดี และรู้สึกเป็นเกียรติที่มีโอกาสได้ชมฝีมือวงดนตรีที่เป็นสุดยอดตำนานสร้างสรรค์ผลงานในอัลบั้มใหม่
ผมทราบว่า Steve Tyler จากวง Aerosmith นักร้องที่มีลีลาไม่ธรรมดาเลย เขาไม่ทำให้ผิดหวัง ในภาพเขาเป็นเหมือนคนป่าจากบอร์เนียว เป็นภาพสุดน่าทึ่ง เมื่อเขาทำท่าและมองมาที่เลนส์กล้องของผม ผมขนลุกทั้งตัว.
ผมเคยพบ Carlos Santana หลายครั้ง มีเรื่องราวให้เขียนบทความได้อีกเรื่องหนึ่งเลย เขาชื่นชอบที่ผมถ่ายภาพเพื่อนนักกีต้าร์เพลงบลูส์ ได้แก่ BB King, Eric Clapton, Buddy Guy ฯลฯ ตามปกติ ผมจะได้ถ่ายรูปการแสดงคอนเสิร์ตตั้งแต่ต้นจนจบ แทนที่จะถ่ายรูปแค่สามเพลงแรก มีชั่วขณะพิเศษ ตอนที่ Carlos เล่นเป็นตัวตลกกับเลนส์ของผม
นอกจากถ่ายรูปดาราเพลงร็อค ผมชอบไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ที่ทำในสิ่งที่เขารัก 150% ผมขอขอบคุณ 501st Stars Wars Battalion ที่ช่วยให้ผมจัดฉากการถ่ายภาพนี้ได้อย่างลงตัว แม้แต่ผู้ร้ายในกาแล็กซี่ อย่างเช่น Darth Vader ต้องตั้งสติให้ใจเย็นๆ กับงานเร่งด่วนบางอย่างที่ต้องทำ
Mr Lee Kuan Yew’s ในฐานะหัวหน้าผู้ควบคุมดูแลบริษัท ครึ่งแรกของชีวิต ผมถ่ายรูปที่คอนเสิร์ต Sing50 ในระหว่างการตรวจสอบเครื่องเสียง เมื่อภาพของ LKY ทำท่า ‘It’s gonna be alright’ ปรากฏบนจอภาพ เขาเพิ่งจะเสียชีวิตได้ไม่กี่เดือน และยังไว้อาลัยกันอยู่
เมื่อผมเห็นภาพดังกล่าวที่ดูแล้วอุ่นใจ จากสปอร์ตไลท์ที่ส่องมาจากเวที Sportshub ผมก็ทราบว่าภาพนี้พิเศษ ผมติดกรอบภาพนี้ และมอบให้กับบุตรชายของเขา นาย Mr Lee Hsien Loong โดยมอบให้ผ่านเพื่อนคนหนึ่ง
เมื่อเร็วๆ นี้ คุณไปถ่ายภาพขาวดำที่ไหนมาบ้าง
การเดินทางไปถ่ายภาพขาวดำมีมนตร์ขลังจริงๆ ผมเพิ่งกลับมาจากการเดินทางไปนิวยอร์กสองอาทิตย์ ผมได้รับเชิญให้ไปเที่ยวกับวง Blondie สุดยอดตำนาน ขณะที่เขาบันทึกเสียงอัลบั้มชุดใหม่ ผมขลุกอยู่กับเขา ตอนที่เขาบันทึกเสียงในสตูดิโอชื่อดัง Magic Shop แห่งเดียวกับที่ David Bowie บันทึกเสียงอัลบั้มพิเศษสองชุดสุดท้ายที่โด่งดังของเขา คือ The Next Day และ Blackstar
รางวัลพิเศษของภาพถ่ายชาวร็อคมีอะไรบ้าง
ผมรู้สึกภูมิใจที่ภาพถ่ายที่ผมรักถูกนำไปแสดงตามคาเฟฮาร์ดร็อค เป็นภาพหน้าปกและอาร์ตเวิร์กอัลบั้มของดารา/วงดนตรีร็อค (ซีดีและแผ่นเสียง) และเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเขา
ผมได้รับเกียรติให้เป็นชาวเอเชียคนแรกที่ได้อยู่ใน Morrison Hotel Gallery ที่ลือนาม และกวาดรางวัลชนะเลิศสามรางวัลที่ Lucie Awards (รางวัลออสการ์สำหรับวงการถ่ายภาพ) หนังสือพิมพ์และนิตยสารมีชื่อ ทั้งต่างประเทศและในประเทศ ลงเรื่องของผมเป็นประจำ
ใช่แล้ว ผมได้ไปขลุกอยู่กับดาราเพลงร็อคที่โด่งดังหลังเวที ไปเที่ยวที่บ้านเขา บางครั้งเขาก็มาเที่ยวที่บ้านผม
ภาพถ่ายแบบไหนเหมาะที่สุดกับสไตล์ขาวดำ
ภาพถ่ายทุกแบบเหมาะกับสไตล์นี้ มองดูภาพด้วยหัวใจ ด้วยความรู้สึก ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ ถ้าทุกอย่างลงตัว ภาพก็จะออกมาโดดเด่น ภาพขาวดำผสมผสานภาวะไร้กาลเวลา และความเฉียบคม ถ้าถ่ายภาพได้ดี อาจ “มีสีสัน” มากกว่าภาพสีเสียอีก!
อะไรคือปรัชญาความคิดของคุณในการถ่ายภาพ
ปรัชญาความคิดของผมในการถ่ายภาพ ก็เหมือนปรัชญาชีวิต คือ ชอบในสิ่งที่ทำ ตั้งเป้าให้สูง และไหลตามน้ำ เป็นคนคิดบวก และภาพของเราก็จะสะท้อนแง่บวก
ใครคือแรงบันดาลใจของคุณ
ตั้งแต่สมัยที่ยังอายุน้อย ผมติดตามผลงานของ Jim Marshall และ Barry Feinstein ผมโชคดี และได้รับเกียรติให้ไปเที่ยวกับเขา ก่อนที่เขาจะจากไป ผมภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับเขาที่ Morrison Hotel Gallery ผมพูดคุยกับเขาเป็นเวลานานเรื่องภาพถ่ายของเรา
ของ Jim Marshall เลี้ยงสเต็คมื้อค่ำผม และผมไปค้างที่บ้าน Barry Feinstein อันที่จริง ผมเป็นคนสุดท้ายที่ไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล (นอกจากภรรยาของเขา) ขณะที่เขายังมีชีวิต
เมื่อย้อนกลับไปดูภาพที่มีชื่อเสียงจากการเดินทาง มีผลงานใดบ้างที่คุณภูมิใจที่สุด
ผมเป็นหนึ่งในน้อยคนที่พูดได้ด้วยความภูมิใจว่าชีวิตจริงเหนือล้ำกว่าที่ฝันไว้ สมัยที่ยังหนุ่มผมติดนิตยสาร Rolling Stone ในงานแสดงภาพเดี่ยวชาวร็อคที่นิวยอร์ก บรรณาธิการภาพของ Rolling Stone แวะมาและชวนผมไปเยี่ยมที่ออฟฟิศ เป็นชีวิตที่เพียบพร้อม ผมจัดพิมพ์หนังสือภาพถ่ายสามเล่มที่ได้รับการตอบรับอย่างดี และภาพฮีโรร็อคสมัยที่ผมยังเด็ก กลายเป็นเพื่อนของผม
ตอนที่ผมสละตำแหน่งผู้บริหารของบริษัท ผมเป็นที่รู้จักในโลกธุรกิจ ตอนนี้ผมสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองด้วยภาพชาวร็อค ในในวงการภาพร็อคระดับอินเตอร์
ผมไม่ได้วางแผนอะไร แค่ก้าวต่อไปเรื่อยๆ คือเรียกได้ว่า “ไหลตามน้ำ !”
มีคำแนะนำอะไรบ้างสำหรับช่างภาพมือใหม่ที่ต้องการลองถ่ายภาพขาวดำ
ทำเลย! ถ่ายภาพไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอสไตล์ของคุณ อย่าให้คนอื่นมาบอกว่าเขาต้องการภาพแบบไหน ฟังเสียงจากหัวใจคุณเอง ความล้มเหลวเป็นแค่เรื่องชั่วคราว และเราได้เรียนรู้ มีอะไรในโลกบ้างที่ได้มาง่าย ๆ คุณต้องหมั่นฝึกทักษะ ถึงจะคล่อง
ผมมักจะบอกพวกหนุ่มสาวว่า “ในโรงเรียน เราศึกษาจากตำรา ส่วนในชีวิตจริง เราเรียนรู้” การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด ขอให้ดูผลงานของช่างภาพมือหนึ่ง แต่ถ่ายภาพด้วย “มุมมอง” ของตนเอง เพราะจะบอกเล่าเรื่องราวของคุณ ลองถ่ายภาพให้ได้สัก 10,000 ชั่วโมง จัดเต็ม! สนุกสุดๆ!
ถ้าหากประสงค์ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพร็อคของ Eddie กรุณาเยี่ยมชม www.eddie-sung.com
Eddie Sung โปรไฟล์ช่างภาพ หลังจากสำเร็จการศึกษาหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต Eddie Sung ทำงานในบริษัทที่ปรึกษาหลายแห่ง แต่เขาต้องการเป็นช่างภาพร็อคเสมอมา หลังจากที่เลิกทำงานฝ่ายสรรหาบุคคล เขาหันมาจับงานด้านที่เขารักเต็มเวลา คือ ช่างภาพคอนเสิร์ตร็อค จากนั้นเขาก็ถ่ายภาพนักดนตรีชั้นนำของโลกบางคน และได้รับเกียรติให้เป็นช่างภาพร็อคชาวเอเชียคนแรกที่ได้อยู่ใน ที่ Morrison Hotel Gallery ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการถ่ายภาพทางดนตรี |