ในฐานะ "น้องเล็ก" ของซีรีย์เลนส์ซูมที่มีรูรับแสงคงที่ f/2.8L ที่ให้คุณภาพของภาพคล้ายคลึงกันสำหรับช่างภาพที่ต้องการความสะดวกในการพกพามากขึ้น เพราะเหตุใดคุณสมบัติบางอย่าง เช่น ระบบป้องกันภาพสั่นไหว จึงมีในเลนส์ซูม f/4L แต่ไม่มีในเลนส์ f/2.8L อะไรคือความท้าทายในการทำให้เลนส์ซูม f/4L มีขนาดกะทัดรัดและพกพาสะดวก ทีมพัฒนาเลนส์ของ Canon จะอธิบายให้ทราบถึงเหตุผลและรายละเอียดอื่นเพิ่มเติม
แนวคิดต่างๆ เบื้องหลังเลนส์ในซีรีย์ f/2.8 และ f/4
ซีรีย์เลนส์ซูม f/2.8L
เลนส์ซูมรุ่นเรือธงของ Canon, ผนวกเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ากับความเชี่ยวชาญ
ในฐานะเลนส์ซูมรุ่นเรือธงของ Canon สำหรับมืออาชีพ เลนส์ f/2.8L ที่แข็งแกร่งทนทานนี้สามารถถ่ายทอดภาพถ่ายได้หลายรูปแบบ ด้วยรูรับแสงกว้างสุดที่ f/2.8 ที่สว่าง พร้อมโบเก้ที่สวยงามนุ่มนวล เลนส์ผสานรวมการออกแบบออพติคอลอันซับซ้อน ผลิตโดยใช้ทฤษฎีออพติคอลที่ล้ำสมัยที่มีมายาวนาน รวมถึงเทคโนโลยีการประมวลผลที่แม่นยำเป็นพิเศษ จึงทำให้เลนส์มีประสิทธิภาพด้านออพติคอลที่โดดเด่นและใช้งานได้ดีเยี่ยมใกล้เคียงกับเลนส์เดี่ยว
ซีรีย์เลนส์ซูม f/4L
ผนวกความสะดวกในการพกพาเข้ากับประสิทธิภาพสูงด้านออพติคอล
เลนส์ในซีรีย์นี้ผสานขนาดกะทัดรัดและราคาไม่แพงเข้ากับประสิทธิภาพด้านออพติคอลที่ยอดเยี่ยม ผ่านการออกแบบให้เป็นตัวเลือกเลนส์ที่พกพาสะดวกและจับถือง่าย เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่ช่างภาพต้องการลดน้ำหนักของอุปกรณ์ เช่น เมื่อถ่ายภาพทิวทัศน์ ซีรีย์เลนส์ซูม f/4L มีระยะการซูมที่ไม่มีในซีรีย์เลนส์ซูม f/2.8L
ขนาดกะทัดรัดและพกพาสะดวก พร้อมคุณภาพของภาพที่สูงแบบเลนส์ซูม f/2.8L
- อะไรคือแรงบันดาลใจในการพัฒนาซีรีย์เลนส์ซูม f/4L
ตัวแทนฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์: ซีรีย์เลนส์ซูม f/2.8L ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากช่างภาพมืออาชีพ ความสำเร็จดังกล่าวทำให้เราต้องการสร้างระบบที่คล้ายคลึงกันนี้กับเลนส์ซูม f/4 ซึ่งให้ความสะดวกในการพกพามากยิ่งขึ้น รวมทั้งรักษาคุณภาพของภาพถ่ายให้คงเดิม เลนส์ซีรีย์นี้ได้รับการวางตัวเป็น “เลนส์ (สำรอง) ตัวที่สองสำหรับช่างภาพมืออาชีพ” การมีเส้นผ่านศูนย์กลางรูรับแสงที่เล็กลงทำให้เลนส์มีราคาย่อมเยา จึงสามารถเข้าถึงฐานผู้ใช้ที่ต้องการอุปกรณ์คุณภาพระดับมืออาชีพได้มากขึ้น
ตัวแทนฝ่ายออกแบบออพติค: เลนส์นี้อาจเป็นเลนส์พี่น้องกับซีรีย์เลนส์ซูม f/2.8L แต่ประสิทธิภาพด้านออพติคอลไม่ลดลงเลยสักนิดเดียว อันที่จริง เมื่อเปรียบเทียบภาพที่ถ่ายด้วยรูรับแสงกว้างสุด เลนส์ซูมทั้งสองซีรีย์ให้คุณภาพของภาพในระดับสูงใกล้เคียงกัน
ฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์: f/2.8 เป็นขนาดรูรับแสงที่น่าสนใจและได้รับความนิยม แต่ยังมีช่างภาพมืออาชีพอีกเป็นจำนวนมากที่ยังนิยมใช้เลนส์ f/4 อยู่ เลนส์ f/4 จึงน่าจะมีความคล่องตัวมากขึ้นได้ ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณสามารถหยิบออกมา ติดตั้ง และถ่ายภาพด้วยเลนส์นี้อย่างง่ายดายได้ทุกเมื่อ ดังนั้น ซีรีย์เลนส์ซูม f/4 จึงมีตัวเลือกให้ใช้งานมากขึ้นตามรูปแบบการถ่ายภาพและความต้องการของผู้ใช้
1985
FD80-200mm f/4L ใหม่: เลนส์ซูมน้ำหนักเบาที่ให้ภาพคุณภาพสูง
เลนส์รุ่นนี้ได้รับการพัฒนาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเลนส์ซีรีย์ L ที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก โดยไม่เพียงมีประสิทธิภาพสูงเท่านั้น แต่ยังมีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาอีกด้วย คุณอาจเรียกเลนส์นี้ว่าเป็นรุ่นพี่ของซีรีย์ EF lens f/4L zoom ก็ว่าได้
2003
EF17-40mm f/4L USM ซึ่งเปิดตัวพร้อมกับกล้อง EOS 10D
ความสามารถในการใช้งานคือสิ่งสำคัญในการออกแบบเลนส์ซูมมาตรฐานสำหรับกล้องขนาด APS-C ดังนั้น เราจึงขยายช่วงโฟกัสจนถึงช่วงเทเลโฟโต้ เพื่อให้ระยะซูมที่แตกต่างจากในเลนส์ซูมซีรีย์ f/2.8L
2005
EF24-105mm f/4L IS USM ซึ่งเปิดตัวพร้อมกันกับกล้อง EOS 5D
เลนส์ซูมอเนกประสงค์ที่ให้การซูมกำลังขยายสูงตั้งแต่ระยะมุมกว้าง 24 มม. นี้ มาพร้อมระบบ IS ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ไม่มีในเลนส์ซูมซีรีย์ f/2.8L
มาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวในเลนส์ตั้งแต่มุมกว้างจนถึงเทเลโฟโต้
- เพราะเหตุใดซีรีย์ f/4L จึงสามารถติดตั้งระบบ IS ได้
ตัวแทนฝ่ายออกแบบเชิงกลไก: เราสามารถออกแบบเลนส์ f/4L ให้มี Entrance Pupil เล็กลงได้ เนื่องจากรูรับแสงกว้างสุดมีขนาดเล็กลง นั่นหมายความว่าเราไม่จำเป็นต้องเพิ่มขนาดของเลนส์เพื่อรองรับระบบป้องกันภาพสั่นไหว (IS) อย่างไรก็ดี เราต้องคิดค้นวิธีจัดเรียงโครงสร้างของท่อเลนส์และระบบ IS เพื่อรักษาคุณภาพของภาพถ่ายให้สูงเหมือนกับในเลนส์ f/2.8L และนั่นก็เป็นโอกาสให้เราได้แสดงฝีมือกัน
ตัวแทนฝ่ายออกแบบอิเล็กทรอนิกส์: IS ยังคงพัฒนาต่อไปทุกๆ วัน เลนส์รุ่นล่าสุดของเรา EF70-200mm f/4L IS II USM ทำให้ภาพถ่ายนิ่งได้สูงถึง 5 สต็อปตามมาตรฐาน CIPA ด้วยประสิทธิภาพของ IS ที่ดียิ่งขึ้น ผู้ใช้จึงสามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำได้ แต่คุณอาจต้องชดเชยการสั่นไหวความถี่ต่ำ นั่นคือ แรงสั่นสะเทือนของตัวกล้อง เราชดเชยการสั่นไหวนี้ด้วยการคิดค้นกลไกการควบคุมที่ช่วยให้แน่ใจได้ว่า เซนเซอร์ไจโรจะส่งสัญญาณความถี่ต่ำได้มากที่สุด
ฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์: ซีรีย์เลนส์ซูม f/4L มีเลนส์ IS 4 ชิ้นที่ครอบคลุมช่วงโฟกัสต่างๆ ตั้งแต่มุมกว้างจนถึงเทเลโฟโต้ เป็นระบบเลนส์ที่มีความสะดวกในการพกพาอย่างมาก และยังมีเลนส์แบบต่างๆ ให้เลือกตามจุดมุ่งหมายในการถ่ายภาพ จึงทำให้ซีรีย์นี้น่าดึงดูดใจ
ซีรีย์ f/4L มีตัวเลือกเลนส์ที่ติดตั้งระบบ IS มากมาย ซึ่งปัจจุบันไม่มีให้ใช้งานในซีรีย์ f/2.8L
ระบบป้องกันภาพสั่นไหว
(จากซ้ายมือ)
EF16-35mm f/4L IS USM
EF24-70mm f/4L IS USM
EF24-105mm f/4L IS II USM
EF70-200mm f/4L IS II USM
EF70-200mm f/4L IS II USM ช่วยให้คุณสามารถถือกล้องถ่ายภาพยามค่ำคืนได้อย่างมั่นคง และยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวถึง 5 สต็อป*
เปิดใช้งาน IS
ทางยาวโฟกัส: 200 มม.
ISO 800 1/6 วินาที f/4
ปิดใช้งาน IS
ทางยาวโฟกัส: 200 มม.
ISO 800 1/6 วินาที f/4
* มาตรฐาน CIPA ที่ทางยาวโฟกัส 200 มม., ใช้กล้อง EOS-1DX Mark II
การพัฒนาชิปไมโครคอมพิวเตอร์เฉพาะ เพื่อควบคุมโฟกัสและรูรับแสงได้ดียิ่งขึ้น
- มีการปรับปรุงในส่วนที่เรามองไม่เห็นด้วยใช่ไหมครับ
ฝ่ายออกแบบอิเล็กทรอนิกส์: ตั้งแต่ราวปี 2007 เราเริ่มเลือกใช้ชิปไมโครคอมพิวเตอร์เฉพาะสำหรับเลนส์ EF ก่อนหน้านั้น เราใช้ชิปไมโครคอมพิวเตอร์อเนกประสงค์ และใช้ส่วนประกอบภายนอกเพื่อสร้างวงจรเฉพาะสำหรับส่วนการควบคุมต่างๆ เช่น USM และ IS แต่ชิปอเนกประสงค์ไม่ได้มีคุณสมบัติทั้งหมดที่เราต้องการ และส่งผลให้เกิดปัญหากับบริเวณเมาท์ของเลนส์และประสิทธิภาพการทำงาน ด้วยเหตุนี้ เราจึงเริ่มพัฒนาชิปไมโครคอมพิวเตอร์เฉพาะที่เหมาะสำหรับเลนส์ EF ขึ้น นอกจากนี้ เรายังติดตั้งชิปไมโครคอมพิวเตอร์ใหม่ล่าสุดใน EF70-200mm f/4L IS II USM ซึ่งมาพร้อมเลนส์ที่มีความสามารถในการคำนวณและประมวลผลที่ดีขึ้น
ฝ่ายออกแบบอิเล็กทรอนิกส์: Koji Okada, ฝ่ายออกแบบเชิงกลไก: Shigeki Sato
ฝ่ายออกแบบอิเล็กทรอนิกส์: การใช้ชิปไมโครคอมพิวเตอร์เฉพาะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและการผสานการทำงานในระดับสูง ทำให้การควบคุมแม่นยำยิ่งขึ้น และยังลดพื้นที่ที่จำเป็นสำหรับเมาท์เลนส์ จึงทำให้เลนส์มีขนาดกะทัดรัดมากยิ่งขึ้น ขณะนี้ เรากำลังทุ่มเทพัฒนาไปอีกขั้น และเดินหน้าคิดค้นสิ่งที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้นพร้อมกับความสามารถที่สูงขึ้น เลนส์ EF เกือบทั้งหมดที่เปิดตัวในปี 2007 เป็นต้นมา จะมาพร้อมกับชิปไมโครคอมพิวเตอร์เฉพาะนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง
- การควบคุมที่ดียิ่งขึ้นส่งผลอย่างไร
ฝ่ายออกแบบอิเล็กทรอนิกส์: ในระหว่างการถ่ายภาพเคลื่อนไหว การควบคุมที่ดีจะช่วยให้เราสามารถขับเคลื่อน USM ด้วยความเร็วต่ำ ทั้งยังสามารถใช้รูรับแสงแบบแม่เหล็กไฟฟ้าในระหว่างการถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่นอีกด้วย สำหรับการถ่ายภาพนิ่ง เรามักต้องการจับโฟกัสบนตัวแบบอย่างรวดเร็วที่สุด เช่นเดียวกับการลดและเพิ่มรูรับแสงให้กว้างขึ้น แต่สำหรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวกลับแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง เราจำเป็นต้องควบคุมการเปลี่ยนโฟกัสและค่ารูรับแสงอย่างค่อยเป็นค่อยไปและลื่นไหล
ฝ่ายออกแบบเชิงกลไก: เมื่อเราพัฒนาชิปเฉพาะขึ้นมา เราคำนึงถึงความต้องการในการถ่ายภาพเคลื่อนไหว USM จะขับเคลื่อนโฟกัสได้ยากมากในความเร็วต่ำ ดังนั้น เราจึงต้องหาวิธีควบคุมแบบใหม่ที่ไม่ใช่เป็นเพียงส่วนเสริมของระบบที่มีอยู่เท่านั้น USM ที่เราใช้อยู่ในขณะนี้แม้จะมีลักษณะเหมือนกับ USM รุ่นเก่าที่เราเคยใช้ก่อนปี 2007 แต่ได้มีการปรับปรุงลักษณะการเคลื่อนที่ไปอย่างมาก
ฝ่ายออกแบบอิเล็กทรอนิกส์: ทั้งซีรีย์เลนส์ซูม f/2.8L และ f.4L ต่างได้รับการออกแบบให้ลดเสียงการทำงานของเลนส์ให้มากที่สุด เราประสบความสำเร็จในการลดเสียงการขับเคลื่อนของระบบ IS ลงได้อย่างมากใน EF70-200mm f/4L IS II USM ซึ่งเป็นผลมาจากชิปไมโครคอมพิวเตอร์เฉพาะนี้ด้วย
ฝ่ายออกแบบอิเล็กทรอนิกส์: Koji Okada
ภารกิจการสร้างเลนส์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับยุคอนาคต
- คุณคิดว่าเลนส์ซูมซีรีย์ f/2.8L และ f/4L จะพัฒนาอย่างไรในอนาคต
ฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์: เลนส์ซูมทั้งสองซีรีย์นี้พัฒนาควบคู่กับกล้องที่มืออาชีพใช้กัน เช่น ซีรีย์ EOS-1 และซีรีย์ EOS 5D เรามุ่งมั่นพัฒนาเลนส์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ใช้มืออาชีพตลอดเวลา และความต้องการนี้เป็นแรงกระตุ้นให้เราเดินหน้าสู่ความท้าทายครั้งใหม่ๆ นอกจากนี้ การพัฒนาดีไซน์และเทคโนโลยีการผลิตยังเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ผลักดันให้เราสามารถผลิตเลนส์ที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้อย่างต่อเนื่อง
ในทุกยุคสมัย เราตั้งเป้าที่จะทำให้ประสิทธิภาพและคุณภาพของเลนส์ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานระดับมืออาชีพในอนาคต แม้แนวโน้มและวัฒนธรรมการสร้างภาพถ่ายอาจเปลี่ยนไป แต่ตราบใดที่ช่างภาพมืออาชีพยังคงเฟ้นหารูปแบบใหม่ๆ ในการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพถ่ายและมองเห็นคุณค่าของการสร้างสรรค์ภาพถ่าย เราก็ยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบเลนส์สำหรับมืออาชีพเพื่อรองรับระบบ EOS ในยุคนั้นต่อไป
เราหวังว่าผู้ใช้ทุกท่านจะตั้งตารอระบบซูมซีรีย์ L ในอนาคต
ประวัติของนักพัฒนา
(จากซ้ายมือ)
ฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์: Kengo Ietsuka
Ietsuka เป็นผู้รับผิดชอบด้านการวางแผนผลิตภัณฑ์สำหรับเลนส์ซีรีย์ EF เขาดูแลด้านการผลิตออกจำหน่ายและการพัฒนาประสิทธิภาพเลนส์ EF รวมถึงเลนส์ซูม f/2.8L และ f/4L
ฝ่ายออกแบบออพติค: Hiroshi Endo
Endo มีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบ EOS ในส่วนของการออกแบบออพติคนับตั้งแต่เปิดตัวระบบ เขาดูแลด้านการพัฒนาและการออกแบบเลนส์แก้ความคาดทรงกลมเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำคัญของเลนส์ซูมซีรีย์ L ที่มีรูรับแสงกว้าง นับตั้งแต่เขาเริ่มทำงานที่ Canon
ฝ่ายออกแบบด้านกลศาสตร์: Shigeki Sato
Sato เป็นผู้รับผิดชอบด้านการออกแบบเชิงกลไกของเลนส์ EF ตั้งแต่เขาเริ่มทำงานที่ Canon เขามีส่วนช่วยรังสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยีและปรับปรุงความเชื่อถือได้นับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระบบดิจิตอลอย่างรวดเร็วในปี 2000
ฝ่ายออกแบบอิเล็กทรอนิกส์: Koji Okada
Okada รับผิดชอบชุดการทำงานระบบ IS เป็นหลัก เขามีหน้าที่ดูแลให้กล้อง EOS และเลนส์ EF ทำงานสอดรับกันเป็นอย่างดี และปัจจุบันเขายังกำกับดูแลกลไกระบบของส่วนประกอบที่เข้ากันได้ ซึ่งจะส่งข้อมูลระหว่างกล้องกับเลนส์
ฝ่ายประมวลผลเลนส์: Hisakazu Nakamitsu
Nakamitsu ดูแลตรวจสอบประสิทธิภาพโดยรวมของฝ่ายการผลิตทั้งหมด รวมถึงการควบคุมคุณภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถจัดหาเลนส์ระดับมืออาชีพที่มีคุณภาพสูงได้อย่างต่อเนื่อง
ฝ่ายเทคโนโลยีการผลิต: Kenichi Okushima
Okushima รับผิดชอบด้านการสนับสนุนทางเทคนิคสำหรับการผลิตปริมาณมาก ฝ่ายของเขามีส่วนร่วมในการทำให้แน่ใจว่าเลนส์แก้ความคลาดทรงกลมที่เกิดจากการเจียรจะมีความแม่นยำสูง สนับสนุนระบบอัตโนมัติในการประมวลผลเลนส์แก้ความคลาดทรงกลมที่แม่นยำสูง และยังทำงานร่วมกับแผนกออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อพัฒนาการศึกษาเทคโนโลยีใหม่ๆ
เราทำการสัมภาษณ์นี้เนื่องในโอกาสเปิดตัวเลนส์ EF70-200mm L รุ่นใหม่ของ Canon คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่
ประวัติที่แทบไม่มีใครรู้ของเลนส์ซูม f/2.8L และ f/4L ของ Canon
Canon เผยโฉม EF70-200mm f/2.8L IS III USM
Canon เปิดตัว EF70-200mm f/4L IS II USM
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!