ในบทความก่อนหน้านี้ เราได้ทำความรู้จักกับประโยชน์ของการมีแฟลชเสริมกันไปแล้ว ตอนนี้คุณต้องการซื้อแฟลชเสริมสักรุ่นหนึ่ง คุณจะทราบได้อย่างไรว่าแฟลชรุ่นใดในตลาดที่เหมาะกับคุณ ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่า "ค่าไกด์นัมเบอร์" หมายถึงอะไรและเพราะเหตุใดจึงมีความสำคัญ พร้อมกับทำความเข้าใจหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณาในการเลือกซื้อแฟลช นั่นคือ กำลังแสงแฟลช (เรื่องโดย: Masakatsu Nagayama)
คำถามที่พบบ่อย 1: ฉันควรพิจารณาอะไรบ้างเมื่อเลือกซื้อแฟลชเสริม
คำตอบ 1: ชุดแฟลชเสริมมีกำลัง ขนาด และน้ำหนักแตกต่างกันไป จึงควรเลือกให้เหมาะกับวัตถุประสงค์การใช้งานของคุณมากที่สุด
แฟลชเสริมต่างๆ ที่วางจำหน่ายในท้องตลาดมีขนาด น้ำหนัก และราคาที่แตกต่างกัน หลักการทั่วไปคือ แฟลชที่มีขนาดใหญ่กว่าและมีราคาสูงกว่าจะมีค่าไกด์นัมเบอร์ (GN) มากกว่า (ดูคำถามที่พบบ่อย 2) รวมถึงมีคุณสมบัติหลากหลายกว่า
เมื่อเลือกซื้อแฟลช ประการแรก ควรพิจารณาอย่างรอบคอบว่าคุณต้องการใช้งานในด้านใดบ้าง
หากคุณวางแผนที่จะใช้ประโยชน์จากเทคนิคที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เช่น การถ่ายภาพแบบยิงแฟลชสะท้อนและการยิงแสงแฟลชแบบไร้สาย ควรเลือกแฟลชเสริมสเปคปานกลางหรือสูงซึ่งมาพร้อมหัวแฟลชที่ปรับหมุนได้ การถ่ายภาพด้วยแฟลชสะท้อนจำเป็นต้องใช้กำลังแสงแฟลชมากกว่าการถ่ายภาพโดยใช้แฟลชธรรมดา คุณจึงอาจต้องการเลือกใช้แฟลชที่มีสเปคสูงขึ้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
ในขณะเดียวกัน หากความสะดวกในการพกพาคือสิ่งที่คุณให้ความสำคัญ โดยปกติชุดแฟลชระดับเริ่มต้นจะมีขนาดเล็กและเบาที่สุด อย่างไรก็ดี แฟลชระดับนี้จะมีกำลังแสงที่ค่อนข้างด้อยกว่าและมีเวลาในการกลับมาพร้อมใช้งานนานกว่า จึงอาจไม่เหมาะกับการถ่ายภาพด้วยแฟลชสะท้อนและการถ่ายภาพต่อเนื่องเท่าใดนัก
เราจะพาไปรู้จักกับการถ่ายภาพด้วยแฟลชสะท้อนและการถ่ายภาพต่อเนื่องในบทความต่อไป และเน้นเรื่องกำลังแสงแฟลชในบทความนี้
คำถามที่พบบ่อย 2: "ค่าไกด์นัมเบอร์" คืออะไร
คำตอบ 2: คือค่าที่แสดงว่าแฟลชมีประสิทธิภาพเพียงใด
ค่าไกด์นัมเบอร์ (GN) จะระบุถึงกำลังของแฟลชคร่าวๆ ค่า GN ที่มากขึ้นหมายถึงกำลังของแฟลชที่สูงขึ้น
ค่า GN สำหรับแฟลชติดกล้องของ EOS 77D อยู่ที่ค่า 12 โดยประมาณ ขณะที่ค่า GN สำหรับแฟลช Speedlite 600EX II-RT ระดับมืออาชีพอยู่ที่ค่า 60 โดยประมาณ
คุณสามารถทราบค่าไกด์นัมเบอร์สำหรับแฟลชเสริมได้โดยดูจากคู่มือการใช้งาน
ข้อกำหนดเฉพาะของค่า GN สำหรับแฟลช Speedlite ชนิดต่างๆ เป็นตามที่แสดงดังต่อไปนี้:
Speedlite 600EX II-RT
ค่าไกด์นัมเบอร์: ประมาณ 60 (เมตร) ที่ ISO 100 และมุมแฟลช 200 มม.
Speedlite 430EX III-RT
ค่าไกด์นัมเบอร์: ประมาณ 43 (เมตร) ที่ ISO 100 และมุมแฟลช 105 มม.
Speedlite 270EX II
ค่าไกด์นัมเบอร์: ประมาณ 27 (เมตร) ที่ ISO 100 และมุมแฟลช 28 มม.
หมายเหตุ: โดยปกติ มุมแฟลช (มุมมองที่ครอบคลุม) ที่กล่าวถึงคือมุมแฟลชสูงสุดของแฟลชในแง่ของทางยาวโฟกัสที่เทียบเท่าฟอร์แมตฟิล์ม 35 มม. (ฟูลเฟรม)
ค่า GN คำนวณอย่างไร
สูตรการคำนวณค่า GN คือ
GN = ระยะห่างระหว่างตัวแบบกับแฟลช (เมตร) × ค่า f
ตัวอย่างเช่น สำหรับค่า GN60 เมื่อใช้กำลังแสงแฟลชสูงสุดที่ ISO 100 ตัวแบบที่อยู่ห่างออกไป 10 ม. จะได้รับแสงแฟลชที่ค่า f/6 และเมื่อห่างออกไป 5 ม. จะรับแสงแฟลชที่ค่า f/12
อย่างไรก็ดี ค่า GN ไม่ใช่ค่าวัดกำลังแสงแฟลชที่สมบูรณ์ เพราะกำลังแสงแฟลชขึ้นอยู่กับความไวแสง ISO และมุมมองที่ครอบคลุม (มุมแฟลช)
เมื่อคุณเปรียบเทียบค่า GN ของแฟลชรุ่นต่างๆ ควรดูให้แน่ใจว่าแฟลชแต่ละรุ่นมีการตั้งค่าความไวแสง ISO มาตรฐานที่เหมือนกัน นอกจากนี้ยังต้องพิจารณามุมแฟลชด้วย
ซึ่งโดยทั่วไป Canon จะไม่ต่างจากผู้ผลิตรายอื่นส่วนใหญ่ที่มีค่าไกด์นัมเบอร์อยู่ที่ ISO 100
คำถามที่พบบ่อย 3: แฟลชเสริมของฉันจะส่องแสงได้ไกลแค่ไหน
คำตอบ 3: ขึ้นอยู่กับการตั้งค่ารูรับแสงและความไวแสง ISO
ในการคำนวณระยะห่างสูงสุดระหว่างแฟลชกับตัวแบบ (เช่น แฟลชเสริมจะส่องแสงได้ไกลแค่ไหน) ที่การตั้งค่ารูรับแสงที่กำหนดไว้ เราจะใช้สูตรดังต่อไปนี้
ค่าไกด์นัมเบอร์ (GN) ÷ ค่า f
ตัวอย่างเช่น เมื่อใช้แฟลชเสริมที่มีค่า GN40 และปรับค่ารูรับแสงเลนส์ไปที่ f/4 แสงที่ปล่อยออกมาสามารถส่องได้ถึงระยะ 40 (GN) ÷ 4 (ค่า f) = 10 ม.
คุณสามารถเพิ่มค่า GN ได้โดยการเพิ่มความไวแสง ISO ของกล้อง หรือลดมุมแฟลชให้แคบลงโดยใช้คุณสมบัติการซูมของแฟลช
อีกนัยหนึ่ง หากต้องการให้แฟลชกับตัวแบบอยู่ห่างจากกันมากที่สุด ให้ใช้แฟลชพลังสูง รูรับแสงกว้างสุด และความไวแสง ISO ที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ควรทราบว่าคุณสมบัติแฟลชอัตโนมัติอาจทำงานได้ไม่แม่นยำมากนักหากตัวแบบอยู่ไกลเกินไป ระยะแสงแฟลชปกติที่มีประสิทธิภาพสำหรับ Speedlite 600EX II-RT ระดับมืออาชีพจะอยู่ที่ประมาณ 30 ม. (เมื่อใช้เลนส์ EF50mm f/1.4 ที่ความไวแสง ISO 100)
แฟลชเสริมที่มาพร้อมคุณสมบัติปรับการซูมช่วยให้คุณสามารถปรับมุมแฟลชได้ด้วยตนเองหรือโดยอัตโนมัติ แสงจากแฟลชจะส่องได้ไกลขึ้นหากมุมแฟลชแคบลง ในหน้าจอที่แสดงด้านบน มีการตั้งค่าปรับการซูมไว้สูงสุดสำหรับทางยาวโฟกัส 105 มม. ค่าต่างๆ ที่อยู่ในกรอบสีแดงแสดงว่าแฟลชสามารถส่องได้ถึงระยะ 6 ม. ที่รูรับแสง f/7.1
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเลือกแฟลชเสริมรุ่นต่างๆ ของ Canon ได้ในบทความต่อไปนี้
เลือกแฟลช Canon Speedlite อย่างไร
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Speedlite แต่ละรุ่นได้ในบทความต่อไปนี้
คู่มือผู้ซื้อฉบับย่อ: Speedlite 270EX II
คู่มือผู้ซื้อฉบับย่อ: Speedlite 430EX III-RT
คู่มือผู้ซื้อฉบับย่อ: Speedlite 600EX II-RT
Canon เปิดตัว Speedlite 470EX-AI: แฟลช Speedlite ตัวแรกของโลกที่มีเทคโนโลยี AI Bounce
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!
เกี่ยวกับผู้เขียน
นิตยสารรายเดือนที่เชื่อว่าความสุขของการถ่ายภาพจะยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ถ่ายภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องมากยิ่งขึ้น นิตยสารเล่มนี้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับกล้องรุ่นใหม่ๆ รวมถึงคุณสมบัติของกล้องและนำเสนอเทคนิคการถ่ายภาพอย่างหลากหลาย
จัดพิมพ์โดย Impress Corporation
ดำเนินธุรกิจสตูดิโอโฆษณาและเริ่มเป็นช่างภาพอิสระตั้งแต่ปี 1998 ซึ่งเขามีส่วนในงานถ่ายภาพโฆษณาสำหรับนิตยสารและสื่อออนไลน์เป็นหลักความเชี่ยวชาญของเขาคือการถ่ายภาพสแนปช็อตชีวิตคนเมือง