การยิงแสงแฟลชแบบไร้สาย
การยิงแสงแฟลชแบบไร้สายเป็นคุณสมบัติที่ทำให้สามารถยิงแสงแฟลชเมื่อแฟลชวางอยู่ในระยะห่างจากตัวกล้องได้ ฟังก์ชั่นนี้ช่วยให้สามารถถ่ายภาพได้หลากหลายขึ้นอย่างมาก เพราะเอื้อให้ตัวแบบได้รับแสงมากขึ้นจากระยะไกลและจากมุมที่คุณต้องการ ในบทความนี้ ผมจะแนะนำวิธีการใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติการยิงแสงแฟลชแบบไร้สายในการถ่ายภาพประเภทต่างๆ เช่น ทิวทัศน์ พอร์ตเทรต และภาพนิ่ง (เรื่องโดย: Koji Ueda)
หน้า: 1 2
สรรค์สร้างทิวทัศน์สีสดในวันฟ้าใส
ในการถ่ายภาพทิวทัศน์ การยิงแสงแฟลชจะช่วยเพิ่มสีสันที่สดใสให้กับตัวแบบ สำหรับภาพด้านล่างนี้ ผมยิงแฟลชตรงไปที่ต้นไม้ในระยะโฟร์กราวด์เพื่อให้ได้ทั้งท้องฟ้าสีฟ้าและสีสดของต้นไม้ การสร้างความโดดเด่นให้ตัวแบบหลัก (โบสถ์) ด้วยการใช้ตัวแบบรอง (ต้นไม้) จะช่วยสร้างความรู้สึกที่ตัดกันให้กับภาพถ่าย
EOS 600D/ EF-S10-22mm f/3.5-4.5 USM/ Program AE (1/200 วินาที, f/25)/ ISO 400/ WB: อัตโนมัติ/ แฟลช: ไร้สาย
ภาพถ่าย: Ryosuke Takahashi
เคล็ดลับ
- ถือแฟลชไว้และปรับองศาตามที่ต้องการจะส่องไฟแฟลช
- ยิงแสงแฟลชตรงไปยังส่วนที่มีเงามืดในสภาพการถ่ายภาพแบบย้อนแสง
การตั้งค่าแฟลชไร้สาย
โหมดแฟลช: E-TTL/ โหมดการใช้แฟลช: Master flash (แฟลชในตัว, ปิด) + Slave 1 (Speedlite 320EX)/ การชดเชยปริมาณแสงแฟลช: Slave 1 (Speedlite 320EX): -1EV/ มุมสะท้อนแฟลช: Slave 1 (Speedlite 320EX): 24 มม.
สภาพการถ่าย
ติดตั้งกล้องบนขาตั้งกล้องอย่างมั่นคง ผมถือแฟลชแยกไว้ที่มือขวา ปรับมุมองศาแฟลช และถ่ายภาพโดยใช้การลั่นชัตเตอร์ระยะไกล
ตำแหน่งของตัวแบบ กล้อง และแฟลช Speedlite
A: Master flash (ปิด)
B: ประมาณ 2 ม.
C: ประมาณ 0.8 ม.
D: Slave 1
สร้างเงามืดบนแบ็คกราวด์ในภาพพอร์ตเทรต
เพื่อสร้างเงามืดขนาดใหญ่ของตัวแบบพอร์ตเทรตบนกำแพงซึ่งเป็นแบ็คกราวด์ของภาพ ผมยิงแสงแฟลชด้วยระดับสูงสุด ระยะครอบคลุมของแสงแฟลชถูกตั้งค่าไว้ที่ 105 มม. ในฝั่งเทเลโฟโต้เพื่อจะส่องแสงแฟลชให้สว่างจ้าไปที่ตัวแบบ นอกจากนี้ ผมต้องการจะสร้างลักษณะแสงเหมือนกับแสงอาทิตย์จริงที่ส่องมาในมุมเฉียง ผมตั้งค่าแฟลช Speedlite ที่มุม 45 องศาเหนือตัวแบบหลักและยิงแฟลชผ่านการควบคุมแบบไร้สาย เงาจะออกมาเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับแกนแสงและความสูงของแฟลช ดังนั้น จึงควรให้ความสำคัญกับตำแหน่งของแฟลชและปรับให้เหมาะสมขณะที่ถ่ายภาพ หากคุณต้องการสร้างเงาที่ใหญ่ขึ้น เพียงแค่ขยับออกห่างจากตัวแบบอีก
EOS 600D/ EF35mm f/2/ Manual exposure (1/200 วินาที, f/11)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ/ แฟลช: ไร้สาย
เคล็ดลับ
- จงใจสร้างเงาโดยใช้แสงแฟลช
- ปรับลักษณะของเงาที่ได้โดยเปลี่ยนตำแหน่งและมุมของแฟลช
การตั้งค่าแฟลชไร้สาย
โหมดแฟลช: Manual flash/ โหมดการยิงแฟลช: Master flash (แฟลชในตัว, ปิด) + Slave 1 (Speedlite 430EX II, 1/1)/ มุมสะท้อนแฟลช: Slave 1 (Speedlite 430EX II): 105 มม.
สภาพการถ่าย
ผมให้ตัวแบบยืนพิงกำแพงตอนที่ถ่ายภาพนี้ เพื่อสร้างอารมณ์ภาพที่น่าประทับใจยิ่งขึ้นโดยใช้กำแพงและแฟลช ผมจึงยิงแฟลชด้วยระดับแฟลชสูงสุดเพื่อสร้างเงาบนกำแพง โดยระยะห่างระหว่างกล้องกับกำแพงประมาณ 0.4 เมตร
ตำแหน่งของตัวแบบ กล้อง และแฟลช Speedlite
A: Slave 1
B: ประมาณ 3 ม.
C: ประมาณ 3 ม.
D: Master flash (ปิด)
ถ่ายภาพแก้วน้ำให้น่าสนใจด้วยแสงสะท้อนแฟลช
การใช้แสงสะท้อนแฟลชให้ย้อนด้านหลังตัวแบบช่วยเพิ่มสีสันให้กับของเหลวเมื่อมีแสงส่องลอดผ่าน ผมใช้ตัวส่งสัญญาณแฟลช Speedlite ST-E2 เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟสัญญาณแฟลชสะท้อนบนแก้ว
EOS 60D/ EF-S60mm f/2.8 Macro USM/ Manual exposure (1/60 วินาที, f/5.6)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ/ แฟลช: ไร้สาย
เคล็ดลับ
- เพิ่มสีสันของน้ำด้วยแสงที่ลอดผ่าน
- ป้องกันแสงแฟลชสะท้อนบนตัวแบบโดยตรงด้วยเทคนิคแสงสะท้อนแฟลช
การตั้งค่าแฟลชไร้สาย
โหมดแฟลช: Manual flash/ โหมดการใช้แฟลช: Master flash (ตัวส่งสัญญาณแฟลช Speedlite ST-E2) + Slave 1 (Speedlite 580EX II, 1/4)/ มุมสะท้อนแฟลช: Slave 1 (Speedlite 580EX II): 24 มม.
สภาพการถ่าย
ผมวางแก้ว 4-5 ใบเรียงต่อกัน แต่ละแก้วมีน้ำสีต่างกัน สีในแก้วน้ำดูหม่นหมองเมื่อไม่ใช้แฟลช เพื่อให้สีสันของน้ำโดดเด่นขึ้น ผมจึงยิงแฟลชให้สะท้อนจากกำแพงด้านหลังแก้วเพื่อให้แสงส่องย้อนผ่านแก้วที่วางเรียงกันอยู่
ตำแหน่งของตัวแบบ กล้อง และแฟลช Speedlite
A: ประมาณ 0.8 ม.
B: Slave 1
C: Master flash (ปิด)
D: ประมาณ 0.3 ม.
E: ประมาณ 0.9 ม.
เกิดเมื่อปี 1982 ที่จังหวัดฮิโรชิมา Ueda เริ่มงานด้วยการเป็นผู้ช่วยช่างภาพ Shinichi Hanawa ต่อมา เขาผันตัวมาเป็นช่างภาพอิสระ และปัจจุบันมีส่วนร่วมกับงานหลากหลายด้าน ตั้งแต่งานถ่ายภาพของนิตยสารไปจนถึงงานโฆษณา พร้อมกับการถ่ายภาพเมืองและทิวทิศน์ในที่ต่างๆ ทั่วโลก เขาเป็นนักเขียนและผู้บรรยายให้ความรู้ในการจัดอบรมและเวิร์กช็อปด้านการถ่ายภาพ