ช่างภาพในเมืองและคอนเทนต์ครีเอเตอร์ Lee Yik Keat หรือที่รู้จักกันในนาม yk (@yk) ได้ใช้กล้อง EOS R5 Mark II มาเป็นเวลา 6 เดือนแล้วและยังคงใช้งานอยู่จนถึงทุกวันนี้ เขาจะมาแบ่งปันสิ่งที่ได้ค้นพบเกี่ยวกับกล้องรุ่นนี้ รวมถึงการที่กล้องไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับประสบการณ์ถ่ายภาพ แต่ยังทำให้ขั้นตอนการทำงานและวิธีการถ่ายภาพของเขาเปลี่ยนไปด้วย (เรื่องจากประสบการณ์ที่ได้เล่าให้ทีมงาน SNAPSHOT ฟัง)
ทำอย่างไรจึงจะบันทึกความสมจริงเอาไว้ได้
การบันทึกภาพช่วงเวลาเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวันบนท้องถนนโดยไม่มีการจัดฉากคือสิ่งที่ทำให้ผมหลงใหลในการถ่ายภาพ ไม่ว่าจะออกไปถ่ายภาพครั้งใด ผมก็ใช้เวลามากเป็นพิเศษเพื่อเฝ้าดูและสังเกตรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ขณะที่ผู้คนมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม รวมถึงวิธีการที่แสงส่งผลกระทบต่ออาคารและสิ่งก่อสร้างที่อยู่รอบๆ ในภาพถ่ายและวิดีโอของผม ผมตั้งใจจะถ่ายทอดช่วงเวลาเหล่านี้ในลักษณะที่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงอารมณ์และบรรยากาศของฉากนั้นได้อย่างแท้จริง
กล้อง EOS R5 Mark II ทำงานได้ราวกับเป็นอีกส่วนหนึ่งของดวงตาและความคิดของผม ซึ่งช่วยให้ผมถ่ายภาพในขณะนั้นได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสภาพแสงที่ท้าทายหรือปัญหาทางด้านเทคนิค และด้านล่างนี้คือตัวอย่างคุณสมบัติที่ใช้ได้ผลดีสำหรับผม
ความเร็วในการถ่ายภาพช่วงวินาทีสั้นๆ
EOS R5 Mark II/ RF24-70mm f/2.8L IS USM/ FL: 24 มม./ Aperture-priority AE (f/22, 1/5 วินาที, EV +0.3)/ ISO 100
สำหรับการถ่ายภาพสตรีทในสไตล์ที่ว่องไวและไม่มีแบบแผนมากนักของผม ทุกวินาทีมีความหมาย EOS R5 Mark II ช่วยให้ผมถ่ายภาพได้คมชัดที่สุดในเวลาเพียงเสี้ยววินาที ซึ่งกล้องรุ่นอื่นๆ ที่ผมเคยใช้มาไม่สามารถทำได้ เมื่อจัดเฟรมภาพและลั่นชัตเตอร์แล้ว ผมมั่นใจได้ว่าโฟกัสของตัวเองจะว่องไว คมชัด และแม่นยำ และความเร็วในการถ่ายต่อเนื่องสูงสุดที่ 30 fps จะช่วยให้ผมถ่ายภาพออกมาได้อย่างที่ใจคิด
โฟกัสที่รวดเร็ว แม่นยำ และต่อเนื่อง
EOS R5 Mark II/ RF24-70mm f/2.8L IS USM/ FL: 70 มม./ Aperture-priority AE (f/2.8, 1/640 วินาที)/ ISO 1600
ระบบ Dual Pixel Intelligent AF ใหม่ของ EOS R5 Mark II ได้นำเอาเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึกมาใช้งานมากขึ้นเมื่อเทียบกับกล้องรุ่นก่อน จึงทำให้สามารถตรวจจับและติดตามตัวแบบได้ดียิ่งขึ้นแม้ในขณะที่มีสิ่งกีดขวางอยู่ด้านหน้า ภาพด้านบนที่ถ่ายได้ในทันทีที่สบตากันคือตัวอย่างหนึ่ง หากเป็นกล้องรุ่นอื่น โฟกัสมักจะเลื่อนไปจับอยู่ที่ประตูรั้วเหล็กด้านหน้า แต่ AF ของกล้อง EOS R5 Mark II สามารถล็อคโฟกัสไว้ที่ดวงตาของตัวแบบได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผมถ่ายภาพออกมาได้อย่างที่ต้องการก่อนที่ตัวแบบจะสังเกตเห็นและหันหน้าหนีไป
ประสิทธิภาพ AF ที่ดียิ่งขึ้นนี้ทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดีกับโหมด Register People Priority ที่พลิกโฉมขั้นตอนการทำงานของผมไปอย่างสิ้นเชิงในการถ่ายภาพคอนเสิร์ตและงานอีเวนต์ซึ่งผมต้องถ่ายภาพผู้คนที่ต้องการให้ได้ในทันที ผมเพียงแค่ต้องบันทึกใบหน้าของคนคนนั้นไว้เท่านั้น แล้ว AF จะล็อคโฟกัสที่ใบหน้าของตัวแบบอย่างรวดเร็วและติดตามไปแม้จะมีสิ่งรบกวนสายตาในโฟร์กราวด์ เช่น อุปกรณ์เวทีหรือคนอื่นๆ คุณสมบัตินี้มีประโยชน์มากเนื่องจากสิ่งกีดขวางในโฟร์กราวด์เช่นนี้ถือเป็นเรื่องปกติ!
EOS R5 Mark II/ RF24-70mm f/2.8L IS US/ FL: 57 มม./ Aperture-priority AE (f/2.8, 1/2000 วินาที)/ ISO 1000
การควบคุมโฟกัสอย่างง่ายดาย
สิ่งที่คุณเลือกให้อยู่ในโฟกัสจะทำให้ภาพดูเปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากที่มีเงาสะท้อนบนกระจกอย่างภาพด้านบน
Eye Control AF ที่ช่วยให้คุณควบคุมโฟกัสได้ด้วยแนวสายตาของคุณเองคือหนึ่งในคุณสมบัติใหม่ของกล้อง EOS R5 Mark II ที่ผมชื่นชอบ ดวงตาของผมมีสัญชาตญาณในการมองหาตัวแบบได้ดีกว่ามือของผม ดังนั้น Eye Control AF จึงช่วยให้ตอบสนองต่อโอกาสในการถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น และคุณสมบัตินี้ยังใช้งานได้สนุกด้วยเพราะให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกมตามล่าหาโฟกัส! ก่อนหน้านี้ผมมักจะอาศัยหน้าจอ LCD ด้านหลังเป็นส่วนใหญ่แม้กระทั่งในการถ่ายภาพ แต่ปัจจุบันนี้ผมหันมาใช้ช่องมองภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องคอยมองหาตัวแบบหรือเมื่อต้องโฟกัสที่แหล่งกำเนิดแสงเพียงแหล่งเดียว
ดูบทวิจารณ์อีกบทหนึ่งเกี่ยวกับระบบ AF ของกล้อง EOS R5 Mark II โดยช่างภาพแอ็คชัน Mark Teo ได้ที่
EOS R5 Mark II: ทดสอบการถ่ายภาพและวิดีโอในสังเวียนมวย
EOS R5 Mark II/ RF24-70mm f/2.8L IS USM/ FL: 37 มม./ Aperture-priority AE (f/2.8, 1/200 วินาที)/ ISO 800
ความเร็วในการถ่ายต่อเนื่องสูงสุด 30 fps เพื่อการถ่ายภาพในเสี้ยววินาทีที่เพียงกะพริบตาก็อาจพลาดโอกาสได้
สิ่งหนึ่งที่ท้าทายเกี่ยวกับการถ่ายภาพเพื่อหยุดเวลาคือ การหาและเลือกเฟรมภาพที่สามารถถ่ายทอดอารมณ์และบรรยากาศของฉากจริงออกมาได้ดีที่สุด ความเร็วในการถ่ายต่อเนื่องสูงสุด 30 fps ของกล้อง EOS R5 Mark II จะทำงานร่วมกับระบบ AF อันทรงประสิทธิภาพเพื่อการบันทึกภาพในเสี้ยววินาทีที่สมบูรณ์แบบ คุณสมบัตินี้สามารถใช้ร่วมกับฟังก์ชั่นชัตเตอร์เงียบได้ ซึ่งทำให้ผมถ่ายภาพได้ราวกับตัวเองกำลังล่องหน จึงเป็นการเว้นระยะจากตัวแบบและรักษาความงดงามของวินาทีนั้นเอาไว้
เคล็ดลับระดับมือโปร: การถ่ายภาพสตรีทด้วยกล้องขนาดใหญ่ การถ่ายภาพสตรีทด้วยกล้องขนาดใหญ่อย่าง EOS R5 Mark II อาจดูเป็นอะไรที่น่าหวั่นใจอยู่ไม่น้อย แต่ความเร็วและประสิทธิภาพของกล้องรุ่นนี้ ไม่มีกล้องรุ่นใดเทียบ จึงสามารถชดเชยขนาดที่ใหญ่ได้ และคุณยังคงสามารถถ่ายภาพโดยไม่โจ่งแจ้งนักได้อยู่หากใช้เทคนิคเข้าช่วย ตัวอย่างเช่น ผมจะไม่ยกกล้องไว้ด้านหน้าตัวเองจนกว่าจะต้องถ่ายรูป และผมยัง “มองหา” ภาพจากระยะไกลและตัดสินใจอย่างรวดเร็วด้วย |
คุณสมบัติสำหรับการถ่ายวิดีโอมากมายที่ช่วยแสดงลักษณะของฉากได้มากขึ้น
ถ่ายด้วย EOS R5 Mark II + RF28-70mm f/2.8 IS STM
คอนเทนต์ออนไลน์จำนวนมากของผมเป็นวิดีโอ นอกจากบทช่วยสอนและคอนเทนต์อื่นๆ ที่มีตัวผมเองอยู่ในนั้นแล้ว ผมยังถ่ายวิดีโอที่ตัวแบบกำลังมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นหรือกับสิ่งแวดล้อมด้วย เนื่องจากวิดีโอจะบันทึกลำดับการเคลื่อนไหวทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ คุณจึงรู้สึกถึงพื้นที่ ความสมจริง และปฏิสัมพันธ์ได้ดีกว่าซึ่งคุณจะไม่ได้รับจากภาพนิ่ง ดังเช่นวิดีโอด้านบนที่ชายคนหนึ่งกำลังรำไทเก๊กอยู่ที่ใต้ถุน (พื้นที่ส่วนกลาง) อาคารพักอาศัยของการเคหะในสิงคโปร์

เลื่อนสลับโหมดถ่ายภาพและวิดีโอได้อย่างรวดเร็ว
การปรับปรุงอย่างหนึ่งที่ผมคิดว่าสะดวกสบายมากของกล้อง EOS R5 Mark II คือสวิตช์สลับภาพถ่าย/วิดีโอที่อยู่บนแผงมุมบนซ้าย สวิตช์นี้ทำให้ผมเลื่อนเพื่อสลับระหว่างโหมดถ่ายภาพและวิดีโอได้อย่างรวดเร็ว ผมจึงสามารถบันทึกภาพในช่วงเวลาสั้นๆ ที่เกิดขึ้นบนท้องถนนได้ทั้งในรูปแบบของภาพนิ่งและวิดีโอ
เคล็ดลับระดับมือโปร: สูตรสำเร็จของ yk ในการถ่ายวิดีโอปฏิสัมพันธ์ให้ยอดเยี่ยม นอกจากเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดหรือเหตุการณ์ที่ต้องการถ่ายภาพแล้ว ผมยังบันทึกภาพในช่วงเวลาก่อนหน้านั้นด้วย รวมถึงวินาทีหลังจากนั้นที่ตัวแบบอาจแสดงอารมณ์หรือกระทำการอื่นๆ ตามมาในภายหลัง ภาพเหล่านี้จะค่อยๆ สร้างอารมณ์ความรู้สึกและทำให้เกิดความลื่นไหล ผู้ชมจึงเห็นภาพสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น |
เครื่องมือในตัวกล้องที่ช่วยให้จัดการคุณสมบัติทางเทคนิคที่จำเป็นได้ดังใจ
การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นคอนเทนต์สำหรับโซเชียลมีเดียที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ในการทำงาน ผมมักจะส่งมอบผลงานภาพถ่ายได้ภายในหนึ่งวันและภายในสามวันสำหรับวิดีโอ หากเป็นโครงการส่วนตัว ผมชอบที่จะใช้เวลามากกว่าในการทำให้ภาพดูสวยงาม โดยมากผมจึงพยายามให้ได้ภาพออกมาภายใน 3 วัน และ 4 ถึง 6 วันสำหรับวิดีโอ
ผมเป็นคนที่ต้องการให้ภาพออกมาสวยงามอย่างสมบูรณ์แบบ และด้วยระยะเวลาอันน้อยนิด การพยายามทำงานให้เสร็จมากที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ในขณะถ่ายภาพจึงช่วยลดเวลาทำงานที่ไม่จำเป็นในขั้นตอนการปรับแต่งออกไปได้
ลองรับชม: ด้านหน้าพระอาทิตย์ตก
ถ่ายด้วย EOS R5 Mark II + RF24-70mm f/2.8L IS USM
การเปิดรับแสงคือสิ่งหนึ่งที่ผมต้องถ่ายให้ได้ในทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับวิดีโอ เนื่องจากแสงสว่างโพลนและส่วนที่ดำมืดจะไม่สามารถแก้ไขได้ในกระบวนการปรับแต่งภาพ และยังมีเรื่องของประสิทธิภาพเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย EOS R5 Mark II ได้เพิ่มฟังก์ชั่นการแสดงรูปคลื่นสำหรับวิดีโอเข้ามา ซึ่งจะช่วยแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับความสว่างของทั้งภาพ ฟังก์ชั่นนี้ช่วยให้ผมได้ช่วงไดนามิกเรนจ์ที่ดีที่สุดโดยการตรวจสอบว่าพื้นที่ในส่วนที่สว่างและส่วนที่เป็นเงาไม่ได้รับแสงมากหรือน้อยจนเกินไป และยังมีประโยชน์มากในสภาวะที่มีแสงจ้าซึ่งหน้าจอ LCD อาจไม่แม่นยำนัก
ผมชอบสีที่เป็นธรรมชาติของ Canon จึงมักจะบันทึกภาพด้วยแกมมาแบบมาตรฐาน (SDR) แต่ผมก็พบว่าตัวเองชอบใช้ Canon Log 2 ในฉากที่มีความเปรียบต่างสูงด้วยเช่นกัน ช่วงไดนามิกเรนจ์ที่กว้างขึ้นทำให้เก็บข้อมูลในส่วนสว่าง เงา และโทนน้ำหนักกลางได้มากขึ้น ผมจึงสามารถแสดงรายละเอียดให้ผู้ชมเห็นได้มากขึ้น เช่น ในภาพพระอาทิตย์ตก การที่สามารถควบคุมสิ่งต่างๆ ได้อย่างใจมันดีจริงๆ!
เคล็ดลับระดับมือโปร: ใช้โปรไฟล์สีอย่างรูปแบบภาพหรือ LUT เพื่อให้สีสันสวยงามขึ้น สำหรับกล้อง EOS R5 Mark II คุณสามารถใช้รูปแบบภาพและรูปภาพแบบกำหนดเองของระบบ Cinema EOS ในการปรับแต่งสีสันให้วิดีโอปกติและวิดีโอ Canon Log 2/3 ของคุณได้ รูปแบบภาพเหล่านี้ใช้งานเหมือนกับค่าที่ตั้งไว้ล่วงหน้า และคุณยังสามารถนำเข้า LUT ของตนเองได้ด้วย ซึ่งเป็นวิธีการที่ผมใช้กับวิดีโอ Log ของผม สำหรับวิดีโอที่ไม่ใช่แบบ Log ผมจะใช้รูปแบบภาพทิวทัศน์ในการถ่ายภาพทิวทัศน์ และรูปแบบภาพพอร์ตเทรตในฉากที่เน้นคนเป็นหลัก แล้วจึงปรับแต่งสีโดยละเอียดในภายหลัง |
เก็บรายละเอียดแม้ในสภาวะแสงน้อย
EOS R5 Mark II/ RF24-70mm f/2.8L IS USM/ FL: 70 มม./ Aperture-priority AE (f/2.8, 1/80 วินาที, EV -1.3)/ ISO 2000
EOS R5 Mark II มีความสามารถในการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยที่ดีขึ้นมาก ด้วยโครงสร้างเซนเซอร์รับแสงด้านหลังซ้อนกันแบบใหม่ ผมจึงไม่ต้องเลิกถ่ายภาพกลางแจ้งก่อนเวลาอันควรเพราะมืดเกินไป! ผมสามารถปรับค่าความไวแสง ISO ให้สูงกว่าที่เคยใช้ได้โดยที่ภาพไม่มีเม็ดเกรนมากเกินไปจนใช้งานไม่ได้ คุณสมบัตินี้ยอดเยี่ยมมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการถ่ายวิดีโอในสถานการณ์ที่มีแสงน้อย เพราะผมชอบให้วิดีโอของตนเองดูคมชัด
ลองรับชม: อาคารของการเคหะในยามค่ำคืน
ถ่ายด้วย EOS R5 Mark II + RF28-70mm f/2.8 IS STM
ในช่วงหัวค่ำ เมื่อผู้พักอาศัยกลับจากโรงเรียนและที่ทำงานมาถึงบ้าน อาคารของการเคหะก็กลับดูมีชีวิตชีวา
EOS R5 Mark II/ RF24-70mm f/2.8L IS USM/ FL: 24 มม./ Manual exposure (f/2.8, 1/80 วินาที, EV -1.3)/ ISO 20,000
ผมไม่กลัวที่จะเพิ่มค่าความไวแสง ISO ให้สูงขึ้นเมื่อถ่ายภาพนิ่ง เพราะเม็ดเกรนจะดูเหมือนถ่ายด้วยกล้องฟิล์มหากผมลดจุดรบกวนสีลง ค่าต่ำสุดที่ผมมักจะใช้คือ ISO 12,800 แต่สำหรับ EOS R5 Mark II ผมเคยถ่ายภาพด้วยค่าสูงสุดถึง ISO 20,000 และได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ เช่นภาพด้านบนที่ถ่ายจากคอนเสิร์ตของศิลปิน Lauv คุณสมบัตินี้มีประโยชน์สำหรับการถ่ายภาพเพื่อหยุดเวลาในสถานที่จัดคอนเสิร์ตที่ค่อนข้างมืด ในการถ่ายภาพทัวร์คอนเสิร์ต ผมมักจะมีเวลาเพียง 30 ถึง 45 นาทีเท่านั้นในการคัดเลือก ปรับแต่ง และส่งรูปภาพให้กับศิลปิน! ด้วยเวลาในการทำงานทั้งหมดที่มีเพียงน้อยนิด ประสิทธิภาพความไวแสง ISO ที่สูง ช่วงไดนามิกเรนจ์ และสีสันสวยงามที่ได้จากกล้องในทันทีของ EOS R5 Mark II จึงมีประโยชน์มาก เพราะผมไม่จำเป็นต้องปรับแต่งภาพมากนักเพื่อให้ภาพออกมาดูดี
10 อันดับเลนส์โปรดที่ yk ใช้กับ EOS R5 Mark II
1. RF24-70mm f/2.8L IS USM
เลนส์นี้เป็นเลนส์หลักที่ผมใช้ในการทำงาน ช่วงโฟกัสของเลนส์นี้ครอบคลุมความต้องการของผมได้แทบทั้งหมด และรูรับแสงคงที่ f/2.8 ยังเหมาะสำหรับการถ่ายภาพให้ตัวแบบโดดเด่นออกมาจากแบ็คกราวด์ที่ยุ่งเหยิงบนท้องถนน
2. RF70-200mm f/2.8L IS USM Z
นี่เป็นเลนส์โปรดตัวใหม่ของผม ความสามารถในการควบคุมรูรับแสงได้โดยตรงด้วยวงแหวนไอริสช่วยประหยัดเวลาได้มาก! ในกล้องรุ่นเก่าอย่าง EOS R5 วงแหวนไอริสจะใช้ได้เฉพาะตอนถ่ายวิดีโอเท่านั้น แต่กับ EOS R5 Mark II จะสามารถใช้งานขณะถ่ายภาพนิ่งได้ด้วย นอกจากนี้ คุณยังสามารถติดตั้ง Power Zoom Adapter PZ-E2 ได้เพื่อการซูมที่ราบรื่นขณะถ่ายวิดีโอ
ลองรับชม: ท่ามกลางสายฝน
ถ่ายด้วย EOS R5 Mark II และ RF70-200mm f/2.8L IS USM Z และใช้ Power Zoom Adapter PZ-E2
3. RF35mm f/1.4L VCM
สิ่งที่ผมชอบที่สุดเกี่ยวกับเลนส์นี้คือความคมชัดและรูรับแสงกว้าง ซึ่งคุณสมบัติข้อที่สองนั้นมีประโยชน์อย่างยิ่งในสถานการณ์ที่มีแสงน้อย 35 มม. เป็นทางยาวโฟกัสที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพให้ได้ทั้งตัวแบบและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมทำทุกวัน เลนส์รุ่นนี้มีวงแหวน Iris เช่นกัน
ภาพอื่นๆ ที่ yk ถ่ายด้วย EOS R5 Mark II
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!