ในฐานะกล้อง DSLR รุ่นเรือธงตัวใหม่ของ Canon กล้อง EOS-1D X Mark III มุ่งมั่นที่จะมอบคุณภาพของภาพ ความแม่นยำ และความเร็วที่ช่างภาพมืออาชีพต้องการ ไม่ใช่เพื่อการถ่ายภาพนิ่งเท่านั้นแต่รวมถึงวิดีโอด้วย และต่อไปนี้คือเหตุผลส่วนหนึ่งที่จะทำให้กล้องรุ่นนี้ยกระดับการถ่ายภาพสัตว์ป่าของคุณ

 

การถ่ายภาพสัตว์ป่า: หนึ่งในประเภทการถ่ายภาพที่ทำได้ยากที่สุดเท่าที่เคยมีมา

การถ่ายภาพสัตว์ป่าเป็นการถ่ายภาพประเภทหนึ่งที่ทำได้ยากที่สุด ด้วยเหตุผลสองประการต่อไปนี้

1. สัตว์ป่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่คาดเดาไม่ได้ ตัวแบบจะไม่อยู่นิ่งและไม่ทำตามคำสั่ง!  หากศึกษาพฤติกรรมของสัตว์อย่างตั้งใจ คุณอาจสามารถคาดการณ์การกระทำบางอย่างของพวกมันได้ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว การจับภาพจะขึ้นอยู่กับว่าคุณ (และอุปกรณ์ของคุณ) สามารถตอบสนองได้เร็วแค่ไหน

2. สามารถพบเห็นสัตว์ป่าได้ในสถานที่ทุกแบบ ไม่ว่าจะเป็นป่ามืดมิดไปจนถึงทุ่งหญ้าสะวันนาที่เต็มไปด้วยฝุ่น กล้องของคุณจะต้องเชื่อถือได้มากพอที่จะทำงานตามปกติได้อย่างต่อเนื่องแม้อยู่ท่ามกลางสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวย

โลกแห่งการถ่ายภาพสัตว์ป่าอาจเป็นเรื่องท้าทาย แต่การปรับปรุงประสิทธิภาพและความสามารถครั้งใหญ่ทำให้กล้อง EOS-1D X Mark III พร้อมที่จะช่วยคุณถ่ายภาพสัตว์ป่าที่สร้างแรงบันดาลใจได้ แม้แต่ภาพที่คุณไม่เคยคาดว่าจะถ่ายได้มาก่อน

 

#1: ความเร็วสูงเป็นพิเศษในการถ่ายภาพต่อเนื่อง

16 fps (OVF), 20 fps (LV): เร็วพอที่จะจับภาพช่วงเวลาชั่วเสี้ยววินาที

ในฐานะช่างภาพสัตว์ป่ามืออาชีพ แค่ถ่ายภาพนกขณะกระพือปีกนั้นไม่เพียงพออีกต่อไป คุณย่อมต้องการจับภาพชั่วเสี้ยววินาทีที่ปีกกางออกจนสุดด้วยรูปทรงที่งดงามที่สุด ถึงแม้คุณจะรู้จักตัวแบบเป็นอย่างดีจนสามารถคาดเดาได้ในระดับหนึ่งว่ามันจะทำอะไรต่อไป ก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าเพียงเสี้ยวเวลาหนึ่ง ซึ่งอาจต่างกันแม้แต่หนึ่งเฟรมต่อวินาที สามารถสร้างความแตกต่างระหว่างภาพถ่ายที่ดีกับภาพถ่ายสุดพิเศษได้

กล้อง EOS-1D X Mark III สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วต่อไปนี้
- OVF: สูงสุด 16 fps (เมื่อใช้ฟังก์ชันติดตาม AF/AE)
- Live View: สูงสุด 20 fps (เมื่อใช้ฟังก์ชันติดตาม AF/AE)

สังเกตว่า 16 fps เป็นความเร็วที่นับได้ว่ามหัศจรรย์สำหรับการถ่ายภาพผ่าน OVF เมื่อพิจารณาถึงลักษณะที่กระจกต้องเลื่อนขึ้นลง นอกจากนี้ คุณสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้มากกว่า 1,000 ภาพ* แม้ว่าจะถ่ายในรูปแบบ RAW + JPEG ซึ่งคิดเป็นเวลากว่า 1 นาทีในการถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงติดต่อกันไม่หยุด

*RAW+HEIF: ประมาณ 350 ภาพ/ C-RAW+HEIF: ประมาณ 420 ภาพ

EOS-1D X Mark III/ EF600mm f/4L IS III USM/ FL: 600 มม./ Manual exposure (f/4, 1/1250 วินาที)/ ISO 250/ WB: อัตโนมัติ

ข้อควรรู้: กลไกกระจกใหม่ช่วยลดการเกิดหน้าจอสีดำในช่องมองภาพ

ไม่ว่าในกล้อง DSLR รุ่นใดก็ตาม จะมีช่วงเวลาที่ช่องมองภาพเป็นสีดำขณะที่กระจกเลื่อนขึ้น แต่ถ้าคุณกำลังสงสัยว่ายิ่งกล้อง EOS-1D X Mark III ถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงขึ้น จะยิ่งทำให้ช่องมองภาพเป็นสีดำบ่อยขึ้นหรือไม่นั้น ขอให้วางใจว่า Canon ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหานี้แล้ว กล้อง EOS-1D X Mark III ใช้กลไกกระจกใหม่ซึ่งมีกระจกหลักและกระจกรองที่ถูกมอเตอร์ความแม่นยำสูงที่มีแรงบิดกำลังสูงควบคุมโดยตรง ซึ่งช่วยลดการเกิดหน้าจอสีดำของช่องมองภาพ

EOS-1D X Mark III/ EF600mm f/4L IS III USM/ FL: 600 มม./ Manual exposure (f/5.6, 1/500 วินาที)/ ISO 2000/ WB: แสงในร่ม

 

#2: AF ที่มีทางยาวโฟกัสยาวเป็นพิเศษ แม้เมื่อใช้ตัวแปลงเลนส์

ฟังก์ชัน AF ปกติแม้เมื่อใช้รูรับแสงกว้างสุดที่ f/8 (OVF) และ f/11 (Live View)

สัตว์บางชนิดตื่นตกใจง่ายมากและจะหนีไปทันทีที่พวกมันรู้สึกว่ามีผู้บุกรุกอยู่ใกล้ ในขณะที่สัตว์ชนิดอื่นๆ จะดุร้ายและโจมตีมนุษย์

นอกจากนี้ ยังมีสัตว์ที่พบเห็นได้ง่ายที่สุดบนผาสูงหรือบนท้องฟ้า

ในสถานการณ์ที่ยากจะเข้าใกล้ตัวสัตว์พวกนี้ เลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้จะเป็นเพื่อนแท้ของคุณ คุณอาจต้องการตัวแปลงเลนส์ (เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าท่อต่อเลนส์) เพื่อให้ได้ภาพที่เหมาะสม

ตัวแปลงเลนส์มีประโยชน์ในการเพิ่มทางยาวโฟกัสตามค่ากำลังขยาย เช่น 400 มม. จะกลายเป็น 800 มม. อย่างง่ายดายด้วยตัวแปลงเลนส์ 2 เท่า  อย่างไรก็ตาม กำลังขยายนั้นจะทำให้ค่ารูรับแสงที่ใช้งานได้ของเลนส์ลดลงอย่างสอดคล้องกัน ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณใช้ตัวแปลงเลนส์ 2 เท่าร่วมกับเลนส์ f/4 รูรับแสงกว้างสุดของคุณจะช้าลงสอง f-stop และกลายเป็น f/8 รูรับแสงที่แคบลง หมายถึง การมีข้อมูลแสงที่น้อยลง ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพของ AF ถ้าระบบ AF ไม่สามารถทำงานร่วมกับรูรับแสงที่แคบเช่นนั้นได้

สำหรับกล้อง EOS-1D X Mark III เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาอย่างที่เคย ในระหว่างการถ่ายภาพ OVF นั้น เซนเซอร์ AF ความละเอียดสูงที่พัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งรองรับด้วยสมรรถนะของระบบประมวลผล DIGIC 8 เพื่อการคำนวณ AF โดยเฉพาะ ทำให้จุด AF สูงสุด 191 จุด รวมถึงจุดแบบ Cross-type สูงสุด 65 จุด ใช้ได้กับการโฟกัสที่ f/8 กล่าวได้ว่า คุณสามารถติด Extender EF 2xIII เข้ากับเลนส์ EF600mm f/4L IS III USM ถ่ายภาพที่ระยะ 1,200 มม. และสามารถใช้ AF แม้กระทั่งที่รูรับแสงสูงสุดที่ใช้งานได้ที่กว้างไม่เกินค่า f/8

EOS-1D X Mark III/ EF600mm f/4L IS III USM + Extender EF 2xIII/ FL: 1200 มม./ Aperture-priority AE (f/8, 1/1250 วินาที, EV -0.7)/ ISO 3200/ WB: อัตโนมัติ

ถ้าคุณกำลังถ่ายภาพในโหมด Live View ระบบ Dual Pixel CMOS AF ที่มีความไวสูงและแม่นยำจะรองรับการโฟกัสที่รูรับแสงกว้างสุด f/11 ทั่วทั้งพื้นที่ AF ลองนึกถึง: การถ่ายภาพด้วยความเร็วสูงสุด 20 fps เมื่อใช้ฟังก์ชันการติดตาม AF และ AE ที่ทางยาวโฟกัส 1,600 มม. ด้วยเลนส์ EF800mm f/5.6L IS USM และ Extender EX 2xIII ของคุณ และจับภาพช่วงเวลาที่ไม่คาดคิดได้ใกล้ยิ่งขึ้น คมชัดยิ่งขึ้น และชัดเจนยิ่งขึ้น

 

#3: Smart Controller เพื่อการควบคุมจุด AF ที่ทันใจและใช้งานง่าย

ทำงานได้อย่างดีเยี่ยมเมื่อใช้ร่วมกับระบบ AF ด้วยเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึก

ความเร็วสูงเป็นพิเศษในการถ่ายภาพต่อเนื่องอาจไม่มีความหมาย หากสุดท้ายภาพถ่ายทั้งหมดของคุณหลุดโฟกัส กล้อง EOS-1D X Mark III มีความเร็วและความแม่นยำของ AF ที่ดียิ่งขึ้นในระหว่างการถ่ายภาพผ่าน OVF ด้วยเซนเซอร์ AF ความละเอียดสูงที่มีจุด AF 191 จุด และระบบ AI Servo AF IV ซึ่งผสานเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึกเอาไว้

โหมดการเลือกพื้นที่ AF มีอยู่ด้วยกัน 7 โหมด ซึ่งคุณสามารถเลือกเพื่อรับมือกับฉากและตัวแบบที่แตกต่างกันไปได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงโหมด AF แบบจุดเล็กจุดเดียว โหมด Zone AF และโหมดการเลือกพื้นที่อัตโนมัติ ช่างภาพมากมายใช้ Zone AF เพื่อติดตามสัตว์ที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วในระหว่างการถ่ายภาพต่อเนื่อง และปุ่มควบคุม Smart Controller แบบใหม่ช่วยให้เลื่อนโซน AF ได้ง่ายยิ่งขึ้นขณะถ่ายภาพ เพียงเลื่อนนิ้วโป้งของคุณไปไว้เหนือปุ่มควบคุม เซนเซอร์ออพติคอลจะตรวจจับการเคลื่อนไหวของนิ้วและขยับกรอบหรือโซน AF ให้สอดคล้องกัน

 

#4: โฟกัสอัตโนมัติในสภาพแวดล้อมที่มืดถึง EV -6

เหมาะยิ่งขึ้นสำหรับการถ่ายภาพสัตว์ขณะออกหากินเวลากลางคืน

สัตว์มากมายหากินในเวลากลางคืน เช่น สัตว์ส่วนใหญ่มักจะตื่นตัวในเวลากลางคืน ในการจับภาพสัตว์เคลื่อนไหวให้ออกมาดูดี คุณจะต้องอาศัย AF แต่ความมืดมักจะทำให้แสงที่เข้าสู่กล้องไม่เพียงพอที่จะทำให้ฟังก์ชัน AF ทำงาน

แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะกล้อง EOS-1D X Mark III มีขีดจำกัดในการโฟกัสสำหรับสภาพแสงน้อยที่ลดลงเหลือ EV -4 ในระหว่างการถ่ายภาพผ่าน OVF และ EV -6 ในโหมด Live View จึงช่วยให้ AF ทำงานได้แม้ในที่มืดซึ่งคุณไม่อาจมองเห็นตัวแบบอย่างชัดเจนด้วยตาเปล่า ลองสัมผัสคุณสมบัตินี้ด้วยตัวคุณเอง เพียงนำกล้องไปใช้ที่สวนสัตว์ซาฟารีที่ใกล้ที่สุด

EOS-1D X Mark III/ EF24-105mm f/4L IS II USM/ FL: 105mm/ Aperture-priority AE (f/4, 1/4 วินาที, EV -1.3)/ ISO 25600/ WB: อัตโนมัติ

 

#5: แข็งแรงและทนทาน แม้อยู่ท่ามกลางสภาพการถ่ายภาพที่ไม่เอื้ออำนวย

คุณไม่มีทางรู้ว่าการถ่ายภาพสัตว์ป่าจะพาคุณไปที่ไหน แต่กล้อง EOS-1D X Mark III จะพร้อมช่วยคุณได้เสมอ

กล้อง EOS-1D X Mark III มีความแข็งแรง กันฝุ่น กันหยดน้ำ ทนทาน โครงสร้างภายนอกที่ทำจากแมกนีเซียมอัลลอย พร้อมด้วยวัสดุปิดกั้นคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่แข็งแรง จึงมั่นใจว่าสามารถทนต่อสภาพการถ่ายภาพที่ค่อนข้างสมบุกสมบันได้ และเนื่องจากการถ่ายภาพต่อเนื่องที่เร็วยิ่งขึ้นจะส่งผลให้จำนวนชัตเตอร์สูงขึ้น ทำให้ต้องเพิ่มความทนทานของชัตเตอร์ขึ้นด้วย ที่จริงแล้ว ชุดชัตเตอร์ของกล้องได้ผ่านการทดสอบความคงทนของชัตเตอร์สุดถึง 500,000 รอบ

อายุแบตเตอรี่ก็เป็นเรื่องที่น่าสังเกตเช่นกัน แม้ว่ากล้องรุ่นนี้จะใช้แบตเตอรี่ LP-E19 เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง EOS-1D X Mark II แต่ระบบการจัดการพลังงานแบบใหม่ช่วยให้ถ่ายภาพได้มากขึ้นเป็นสองเท่าจากการชาร์จครั้งเดียว

	EOS-1D X Mark II (อายุแบตเตอรี่ต่อการชาร์จ)	EOS-1D X Mark III (อายุแบตเตอรี่ต่อการชาร์จ)
OVF*	ประมาณ 1,210 ภาพ	ประมาณ 2,850 ภาพ
Live View*	ประมาณ 260 ภาพ	ประมาณ 610 ภาพ
วิดีโอ (4K 60P)**	ประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที	ประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที

* เมื่อใช้แบตเตอรี่ที่ชาร์จเต็มแล้ว อุณหภูมิปกติ (+23°C),
** เมื่อใช้แบตเตอรี่ที่ชาร์จเต็มแล้ว อุณหภูมิปกติ (+23°C), Movie Servo AF [No], (DCI 4K 60p)

ชุดทำความสะอาดเซนเซอร์ด้วยตัวเองที่ดียิ่งขึ้น

เมื่อคุณกำลังอยู่กลางแจ้งและสะกดรอยตามสัตว์ตัวโปรด คุณคงไม่อยากต้องกังวลกับการมีฝุ่นจับบนเซนเซอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณต้องเปลี่ยนเลนส์อย่างรวดเร็ว แต่หมดกังวลได้ด้วยชุดเซนเซอร์ทำความสะอาดตัวเองของกล้อง ซึ่งขจัดฝุ่นบนเซนเซอร์ภาพออกไปโดยใช้แรงสั่นสะเทือนแบบอัลตร้าโซนิคเพื่อสั่นกระจกซับแสงอินฟราเรดที่ด้านหน้า ชุดเซนเซอร์นี้ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อใช้แผ่นควอตซ์ ซึ่งเพิ่มความลึกของแรงสั่นสะเทือน ทำให้มีความสามารถในการขจัดฝุ่นได้ดีขึ้น

 

สรุป

เราได้แบ่งปันคุณสมบัติสำคัญ 5 ประการของกล้อง EOS-1D X Mark III ที่จะทำให้ช่างภาพสัตว์ป่ามืออาชีพชื่นชอบกันไปแล้ว แต่กล้องรุ่นนี้ก็ยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจอื่นๆ ในการถ่ายภาพนิ่งและการถ่ายวิดีโอ ด้วย ในฐานะกล้อง EOS DSLR รุ่นเรือธงของ Canon คุณภาพของภาพ ความแม่นยำ และความเร็วอันโดดเด่นจะพร้อมช่วยให้คุณจับภาพสัตว์ป่าได้ในแบบที่ไม่เคยทำได้มาก่อน

โปรดดูบทความต่อไปนี้สำหรับเคล็ดลับและไอเดียเพิ่มเติมในการถ่ายภาพสัตว์ป่า:
การถ่ายภาพสัตว์ป่า: เทคนิค 3 ประการจากช่างภาพมืออาชีพ
เทคนิคการถ่ายภาพด้วยเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ - ภาพซิลูเอตต์ของสัตว์ป่าภายใต้แสงอาทิตย์

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกล้อง EOS-1D X Mark III ได้ใน:
EOS-1D X Mark III: ถ่ายภาพให้ได้อย่างมืออาชีพ

 

---

---