[ตอนที่ 2] ความท้าทายในการปรับปรุงความสามารถในการใช้งานและพลังการถ่ายทอดภาพของกล้อง EOS 5D Mark III ที่ได้รับความนิยมมายาวนานให้มีประสิทธิภาพ
หลังจากผ่านกระบวนการพัฒนาเพื่อปรับรุ่นใหม่ที่ยาวนานถึง 4 ปี กล้อง EOS 5D Mark III ก็ได้ปรากฏตัวพร้อมความก้าวหน้าครั้งใหญ่ นอกเหนือจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานขั้นพื้นฐานแล้ว พลังในการถ่ายทอดภาพของ EOS 5D Mark III ยังได้รับการพัฒนาอย่างมากเช่นกัน และอาจมีคนจำนวนมากที่อยากทราบว่ากล้องรุ่นใหม่นี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร บทสัมภาษณ์ต่อไปนี้เป็นการสัมภาษณ์นักพัฒนาคนสำคัญถึงความหลงใหลของพวกเขาที่มีต่อกล้องรุ่นนี้ บทความนี้เป็นบทความต่อเนื่อง [ตอนที่ 2] ที่ทุกคนรอคอย ซึ่งจะแนะนำความสามารถในการใช้งานระดับสูง และความท้าทายในการให้คำนิยามถึงพลังการถ่ายทอดภาพของกล้อง DSLR รุ่นใหม่ (ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ในเดือนพฤษภาคม 2012) (ผู้สัมภาษณ์: Ryosuke Takahashi/ ภาพโดย: Takehiro Kato)
หน้า: 1 2
(แถวบน จากซ้าย)
Noriaki Tsunai, กลุ่มผลิตภัณฑ์ภาพถ่าย/ Makoto Kameyama, ศูนย์พัฒนากล้อง/ Kentaro Midorikawa, ศูนย์พัฒนากล้อง/ Shingo Nakano, ศูนย์พัฒนากล้อง
(แถวล่าง จากซ้าย)
Mie Ishii, ศูนย์พัฒนากล้อง/ Masami Sugimori, ศูนย์พัฒนากล้อง/ Keita Sato, ศูนย์การออกแบบ/ Hiromichi Sakamoto, ศูนย์พัฒนากล้อง
ความร่วมมือจากหลายฝ่ายเพื่อให้ได้มุมมองที่ครอบคลุมประมาณ 100%
― มีการใช้ดีไซน์แบบใหม่สำหรับเพนทาปริซึมของช่องมองภาพใช่มั้ยครับ?
Nakano ในการทำให้ช่องมองภาพมีมุมมองที่ครอบคลุมประมาณ 100% จำเป็นต้องเพิ่มขนาดของปริซึมห้าเหลี่ยม เราจึงเริ่มดำเนินการออกแบบใหม่ตั้งแต่ต้น
A: เพนทาปริซึม
B: LCD โปร่งแสง
C: LED ผลึกเหลวโปร่งใส
D: หน้าจอโฟกัส
E: เซนเซอร์ตรวจจับแหล่งแสงสำหรับการโฟกัสอัตโนมัติ
F: LCD สำหรับแสดงข้อมูลในช่องมองภาพ
G: เลนส์ใกล้ตา
H: เซนเซอร์การวัดแสง
นอกจากส่วนประกอบแต่ละอย่างจะมีความแม่นยำสูงขึ้นแล้ว ยังได้มีการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในกระบวนการสร้างภาพถ่ายอีกด้วย ในขณะเดียวกันก็ได้มีความพยายามที่จะรักษาความแม่นยำตลอดกระบวนการประกอบชิ้นส่วน
― การทำให้ช่องมองภาพมีมุมมองที่ครอบคลุม 100% น่าจะทำได้ยากใช่ไหมครับ?
Nakano การที่ช่องมองภาพจะมีมุมมองครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 100% ลำพังแค่การเพิ่มความแม่นยำของส่วนประกอบต่างๆ เพียงอย่างเดียวนั้นยังไม่เพียงพอ นอกจากนี้ ยังเป็นไปไม่ได้อีกด้วยที่จะทำเพียงแค่เพิ่มขนาดของเพนทาปริซึม เราคงไม่สามารถทำได้ตามสเปคที่ตั้งไว้หากไม่ได้รับความร่วมมือจากแผนกการผลิต
― หมายถึงความร่วมมือเพื่อขั้นตอนการผลิตที่มีเสถียรภาพหรือเปล่าครับ?
Nakano ประมาณนั้นครับ ถ้าชิ้นส่วนที่ปรับปรุงมีความแม่นยำไม่สม่ำเสมอกัน ก็จะไม่สามารถรักษามุมมองที่ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 100% ไว้ได้ เราได้พัฒนาวิธีการพิเศษในการประกอบชิ้นส่วนที่ปรับปรุงใหม่เข้ากับช่องมองภาพ โดยที่ยังรักษาความแม่นยำไว้ได้ตลอดกระบวนการ
― ระบบออพติคอลของเลนส์ใกล้ตานี้มีการใช้เทคโนโลยีใหม่บ้างไหมครับ?
Nakano ระบบออพติคอลของเลนส์ใกล้ตาสำหรับ EOS 5D Mark II ใช้ชิ้นเลนส์แก้ความคลาดทรงกลมสองชิ้นจากทั้งหมดสามชิ้น และได้เพิ่มจำนวนเป็นสี่ชิ้นใน EOS 5D Mark III ซึ่งเลนส์เหล่านี้ทั้งหมดเป็นเลนส์แก้ความคลาดทรงกลม ระบบนี้ถูกสร้างขึ้นมาโดยดีไซน์เนอร์ที่มีความตั้งใจอย่างมาก และได้พยายามที่จะทำให้แน่ใจว่าช่องมองภาพมีความคมชัดสูง
― “ช่องมองภาพอัจฉริยะ” เป็นแบบเดียวกับที่ใช้ใน EOS 7D หรือไม่?
Sakamoto ทุกรุ่นที่ติดตั้งระบบนี้จะใช้อุปกรณ์ต่างกัน สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้บน EOS 5D Mark III จะมีการพัฒนาการตอบสนองที่อุณหภูมิต่ำเมื่อเทียบกับ EOS 7D
ช่องมองภาพอัจฉริยะได้ถูกนำมาใช้ในกล้อง EOS 5D Mark III โดยมีฟังก์ชั่นที่สามารถแสดงข้อมูล เช่น เส้นตาราง จุด AF และระดับความเอียงอิเล็กทรอนิกส์ในช่องมองภาพ และยังได้พัฒนาการตอบสนองที่อุณหภูมิต่ำให้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับ EOS 7D
ปัจจุบัน EOS 5D Mark III รองรับการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 6 ภาพ/วินาที อะไรเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้ได้ถึงสเปคนี้?
Nakano ตัวเลขที่ระบุในสเปคสำหรับคุณสมบัตินี้ถือเป็นการสั่งสมความพยายามจากการทำงานในแต่ละด้าน ตัวอย่างเช่น ระบบกลไกจะใช้ระบบมอเตอร์คู่ ซึ่งแยกระบบชาร์จชัตเตอร์ออกจากระบบชาร์จกระจกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน นอกจากนี้ EOS 5D Mark III ยังมาพร้อมกับกลไกลดการเคลื่อนของกระจก ทำให้การถ่ายภาพต่อเนื่องทำได้ดียิ่งขึ้นโดยลดการเคลื่อนของกระจกตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
ชัตเตอร์ของกล้อง EOS 5D Mark III ทนทานกว่าชัตเตอร์ที่พบในกล้องรุ่นก่อนหน้า เพราะมีถึง 150,000 วงจร เสียงชัตเตอร์ชัดกว่าที่เคยเพราะกลไกลดการเคลื่อนของกระจกที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
― ระบบกลไกนี้แตกต่างจากที่ใช้ในกล้อง EOS-1D X ใช่มั้ย?
Nakano กลไกลดการเคลื่อนของกระจกหลักเหมือนกันค่อนข้างมาก แต่เราใช้ระบบกลไกที่แตกต่างตามลักษณะของกล้องทั้งสองรุ่น ที่สำคัญที่สุด เราได้ทำการปรับเปลี่ยนตัวกลไกลดการเคลื่อนกระจกชิ้นรองของกล้อง EOS 5D Mark III อย่างมากมาย เราใช้กลไกที่พับกระจกชิ้นรองเพื่อทำให้การเคลื่อนกระจกง่ายขึ้น และด้วยระบบนี้ การเคลื่อนของกระจกจึงลดลงอย่างได้ผล
A: ระบบชาร์จชัตเตอร์
B: มอเตอร์ชาร์จชัตเตอร์
C: บาแรนเซอร์คู่
D: มอเตอร์ชาร์จกระจก
E: ระบบขับเคลื่อนกระจก
F: กระจกสะท้อนภาพหลัก
G: กลไกป้องกันการเคลื่อนของกระจกรอง
ในการลดการสั่นสะเทือนของกระจกบนกล้องฟูลเฟรมที่มีขนาดใหญ่และหนักนั้น เราได้สร้างกลไกลดการขับเคลื่อนไว้สำหรับกระจกหลักและกระจกรอง ไม่เพียงแต่จะช่วยลดการหน่วงเวลาลั่นชัตเตอร์เท่านั้น แต่ยังลดช่วงเวลาที่เส้นทางแสงจะถูกปิดกั้นโดยกระจกด้วยเช่นกัน จึงเพิ่มความแม่นยำในการโฟกัสมากขึ้น
― ผมรู้สึกว่าเสียงชัตเตอร์ชัดกว่าก่อน จริงหรือเปล่าครับ?
Nakano ตามที่ผมได้กล่าวไปข้างต้น โดยทั่วไปแล้ว มีสาเหตุมาจากกลไกลดการเคลื่อนของกระจกที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ข้อเท็จจริงที่ว่าเสียงการทำงานจะเบาลงทันทีนั้นจะส่งผลต่อเสียงการทำงานของชัตเตอร์ และหากมารวมกับเสียงกระแทกที่สร้างขึ้นมานั้นก็จะส่งผลอย่างมากเช่นกัน ในการกำหนดเสียงของชัตเตอร์ เราได้สร้างรูปแบบที่แตกต่างกันเพื่อเลือกในสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งรวมถึงการปรับเปลี่ยนที่เป็นรายละเอียด เช่น การเปลี่ยนวัสดุของชิ้นส่วนกลไกการทำงาน
― คุณพอจะอธิบายได้มั้ยครับ ว่าระบบทำงานอย่างไรในโหมดการถ่ายภาพแบบเงียบรูปแบบใหม่นี้่?
Nakano โดยทั่วไปแล้ว แรงขับเคลื่อนกระจกจะถูกส่งมาจากโหลดของสปริง แต่ในโหมดการถ่ายภาพแบบเงียบ กระจกจะค่อยๆ เลื่อนขึ้นลงโดยแรงของกระจกแทนที่จะมาจากโหลดของสปริง กระจกจะถูกขับเคลื่อนโดยการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนในระหว่างที่ใช้ลูกเบี้ยวเพื่อทำให้แน่ใจว่าจะมีเสียงเกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการนี้น้อยที่สุด
― ปัจจุบัน EOS 5D Mark III รองรับการถ่ายภาพต่อเนื่อง ผมจะพูดได้ไหมครับว่า ระบบกลไกนี้มีการพัฒนาที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับ EOS-1D X ซึ่งรองรับเฉพาะการถ่ายภาพเดี่ยวแบบเงียบ?
Nakano คงไม่อาจพูดว่าอย่างนั้นได้ซะทีเดียวครับ คงต้องบอกว่า ดีไซน์เชิงกลไกของกล้อง EOS 5D Mark III ก่อนนี้จำเป็นต้องปรับให้เรียบง่ายขึ้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องแบบเงียบได้ ขณะที่กล้อง EOS-1D X ต้องมีระดับความทนทานสูง จึงมีดีไซน์ระบบกลไกที่ซับซ้อนกว่า วิธีที่เราใช้พัฒนาจึงต่างกันสำหรับกล้องทั้งสองรุ่นนี้ และโหมดการถ่ายภาพต่อเนื่องแบบเงียบสำหรับกล้อง EOS 5D Mark III สร้างสรรค์ขึ้นระหว่างกระบวนการดังกล่าว
ปัจจุบันมีการถ่ายภาพต่อเนื่องแบบเงียบบนกล้อง EOS 5D Mark III แล้ว คุณสามารถตั้งค่าจากเมนูโหมดขับเคลื่อน
― จากแง่มุมของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งใดเป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนให้เกิดความสำเร็จเรื่อง 6 ภาพ/วินาที?
Sakamoto แน่นอนว่าเซนเซอร์ CMOS และความสามารถในการประมวลผลภาพของ DIGIC 5+ มีส่วนด้วยเช่นกัน แต่ปัจจัยที่ซ่อนเร้นสำคัญคือประสิทธิภาพของกำลังไฟที่ได้รับการปรับปรุงดีขึ้น กระบวนการอ่านข้อมูลผ่านแปดช่องทางและการประมวลผลภาพตามข้อมูลจะใช้กำลังไฟปริมาณมาก ดังนั้น จุดสำคัญคือจะจัดการกำลังไฟอย่างไรเพื่อลดการสิ้นเปลืองไฟในกระบวนการนี้
― EOS 5D Mark III มาพร้อมกับช่องใส่การ์ดแบบคู่ ทำไมจึงใช้การ์ด CF ร่วมกับการ์ด SD?
Nakano นับตั้งแต่รุ่น EOS 5D Mark II เราก็ได้รับเสียงเรียกร้องเข้ามามากให้เราออกแบบช่องใส่การ์ดแบบคู่เข้าไปด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุว่าทำไมเราจึงต้องการที่จะทำให้สิ่งนี้ปรากฏอยู่ในกล้องรุ่นใหม่อย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีไอเดียเรื่องการใช้ช่องใส่การ์ด CF สองอันคู่กัน แต่การทำเช่นนี้จะส่งผลให้ตัวกล้องมีขนาดเทอะทะมากขึ้น จากการพิจารณาถึงข้อเท็จจริงที่ว่าปัจจุบัน การ์ดหน่วยความจำ SD มีความจุมากขึ้นและมีประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น เราจึงได้ตัดสินใจใช้ช่องใส่การ์ดแบบคู่ CF + SD
― การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดอย่างหนึ่งของ EOS 5D Mark III คือตำแหน่งและการทำงานของปุ่มขยาย คุณช่วยอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของปุ่มนี้ได้ไหม?
Tsunai ทีมของเรามีข้อโต้เถียงเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างมาก ส่วนนี้เป็นการพัฒนาร่วมกับทีม EOS-1D X และเราได้ชั่งน้ำหนักระหว่างข้อดีและข้อเสียของการเปลี่ยนแปลงหน้าที่การทำงานของปุ่ม เหตุผลของการย้ายตำแหน่งปุ่มขยาย คือการตัดสินใจที่จะรวมปุ่มควบคุมการดูภาพทั้งหมดให้อยู่ทางด้านซ้าย เพื่อให้การสั่งงานในระหว่างการเรียกดูแบบกลุ่มและการจัดเรียงภาพทำได้ดียิ่งขึ้น จากข้อพิจารณานี้ เราได้ข้อสรุปออกมาเป็นเลย์เอาต์ซึ่งใช้มือขวาในการเลื่อนภาพด้วยล้อควบคุมหลัก ในขณะที่สามารถใช้มือซ้ายให้คะแนนและลบภาพได้ ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดอีกข้อหนึ่งของเลย์เอาต์ใหม่นี้คือ เมื่อคุณตรวจดูภาพทันทีที่ถ่ายเสร็จ คุณจะสามารถขยายภาพได้ทันทีเพื่อตรวจสอบความแม่นยำของจุดโฟกัส เราจึงได้ข้อสรุปหลังจากพิจารณาวิธีที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการค้นหาภาพและการสั่งการปุ่มควบคุมต่างๆ
A: ปุ่มเปลี่ยนโหมดการถ่าย Live View/Movie และปุ่ม เริ่ม/หยุด
B: ปุ่ม Quick Control
C: ทัชแพด
D: สวิตช์ล็อคมัลติฟังก์ชั่น
E: ปุ่มแสดงภาพสร้างสรรค์/ทีละสองภาพ
F: ปุ่มให้คะแนน
G: ปุ่มขยาย/ลดขนาดภาพ
มีการปรับโฉมเลย์เอาต์ปุ่มกดบนกล้อง EOS 5D Mark III ปุ่มฟังก์ชั่นเปิดดูภาพอยู่ทางด้านซ้าย ขณะที่ปุ่มสำหรับฟังก์ชั่นถ่ายภาพจัดวางอยู่ทางด้านขวา
HDR และการถ่ายภาพซ้อน
― ผมรู้สึกประทับใจกับการสร้างภาพถ่ายที่แม่นยำมากขึ้นเมื่อเทียบกับ EOS 5D Mark II นี่เป็นเพราะความแตกต่างของจำนวนพิกเซลเท่านั้นหรือเปล่า?
Sugimori ผมคงไม่พูดว่าเป็นเพราะจำนวนพิกเซลเท่านั้น เหตุผลสำคัญอีกข้อหนึ่งคือเราได้ปรับปรุงความคมชัดให้เหมาะสมที่สุด หากเพียงแค่เพิ่มจำนวนพิกเซล ภาพก็จะไม่คมชัดในกรณีที่มีเส้นบางๆ อยู่ในภาพ ในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ เราได้ทำการปรับเปลี่ยนวิธีการสร้างภาพเล็กน้อยเพื่อทำให้ความละเอียดคมชัดของภาพที่ได้รับนั้นสมดุลกับจำนวนพิกเซลเป็นอย่างดี