ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น >> All Happenings

ฉลองครบรอบ 30 ปี ผลิตภัณฑ์ระบบ EOS (3): Digital EOS กับการพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

2018-01-04
2
1.72 k
ในบทความนี้:

แม้หลังการเปลี่ยนถ่ายจากยุคกล้องฟิล์มสู่ยุคกล้องดิจิตอล ซีรีย์ EOS ยังคงเดินหน้าพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง Canon พัฒนาเซนเซอร์ที่มีจำนวนพิกเซลเพิ่มขึ้นและมีประสิทธิภาพการถ่ายภาพความละเอียดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน กล้อง EOS สามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหวในระดับ Full HD และแม้แต่ทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟน ซึ่งพกพาความสามารถอันยอดเยี่ยมในฐานะเครื่องมือสื่อสารทางภาพ

ภาพคุณภาพสูงในกล้อง EOS เป็นจริงได้ด้วยการก้าวข้ามขีดจำกัดอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ช่างภาพจึงสามารถถ่ายภาพความละเอียดสูงได้เพียงกดปุ่มชัตเตอร์บนกล้อง

 

ยกระดับความละเอียดภาพอย่างเหนือกว่า

การเดินหน้าสู่ความท้าทายเพื่อให้ได้ความละเอียดภาพสูงเริ่มต้นขึ้นที่กล้องรุ่นเรือธงในซีรีย์นี้ EOS-1Ds (เปิดตัวในปี 2002) วางจำหน่ายต่อจาก EOS-1D (เปิดตัวในปี 2001) และความละเอียดภาพที่สูงขึ้น EOS-1Ds มาพร้อมเซนเซอร์ฟูลเฟรมที่มีความละเอียด 11.1 ล้านพิกเซลในช่วงเวลาที่กล้อง DSLR มีความละเอียดเพียง 3 ล้านพิกเซลเท่านั้น ดังนั้น กล้องรุ่นนี้จึงสามารถใช้เลนส์ EF รุ่นใดก็ได้ในการถ่ายภาพด้วยมุมรับภาพใกล้เคียงกับกล้อง DSLR 35 มม. รุ่นดั้งเดิม นอกจากนี้ ระบบประมวลผลภาพ (ซึ่งรู้จักกันดีในชื่อ DIGIC) ในกล้อง EOS-1Ds ยังรองรับการประมวลผลภาพความละเอียดสูง จึงตอบสนองความต้องการของช่างภาพมืออาชีพได้เป็นอย่างดี

EOS-1D

EOS-1D (เปิดตัวในปี 2001)
กล้องรุ่นนี้เหมาะสำหรับช่างภาพมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญในการถ่ายภาพข่าวและกีฬาโดยเฉพาะ เนื่องจากมาพร้อมเซนเซอร์ CCD ความละเอียดสูง (ขนาดเซนเซอร์ที่ใช้งานจริง: 28.7×19.1 มม., จำนวนพิกเซลที่ใช้งานได้จริง: 4.15 ล้านพิกเซล) จึงให้ภาพคุณภาพสูงและการตอบสนองความเร็วสูงผ่านระบบประมวลผลภาพที่ประมวลผลภาพความละเอียดสูงได้อย่างรวดเร็ว

EOS-1Ds

EOS-1Ds (เปิดตัวในปี 2002)
กล้องรุ่นนี้เหมาะสำหรับช่างภาพมืออาชีพ และพัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงการถ่ายภาพในสตูดิโอเป็นหลัก กล้องมาพร้อมเซนเซอร์ CMOS 35 มม. แบบฟูลเฟรมที่มีความละเอียด 11.1 ล้านพิกเซล ซึ่งหมายความว่าช่างภาพสามารถใช้เลนส์ EF รุ่นใดก็ได้ และสามารถจัดองค์ประกอบภาพโดยไม่ต้องคำนึงถึงคุณสมบัติการครอป อีกทั้งยังมีระบบประมวลผลภาพที่สามารถประมวลผลภาพความละเอียดสูงได้ 

 

การใช้เซนเซอร์ CMOS แบบฟูลเฟรมใหม่ที่ให้ภาพความละเอียดสูงยังนำไปสู่การเปิดตัวกล้องรุ่นต่างๆ ที่ผลิตขึ้นสำหรับผู้สนใจถ่ายภาพที่มีประสบการณ์โดยเฉพาะ เริ่มต้นจากกล้องในซีรีย์ 5D รุ่นแรกคือ EOS 5D (เปิดตัวในปี 2005) ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ตามมาด้วย EOS 5D Mark II (เปิดตัวในปี 2008), EOS 5D Mark III (เปิดตัวในปี 2012) และ EOS 5DS/EOS 5DS R ในปี 2015 โดยในส่วนของกล้อง EOS 5DS และ EOS 5DS R มีจำนวนพิกเซลที่ใช้งานจริงถึง 50.6 ล้านพิกเซล จึงให้ความละเอียดของภาพที่สูงล้ำเหนือคู่แข่ง แม้กระทั่งในปี 2017 นี้ Canon ยังคงมีจำนวนพิกเซลในกล้อง DSLR ที่ใช้เซนเซอร์ CMOS แบบฟูลเฟรมที่สูงที่สุดในโลก

 

ตัวอย่างภาพความละเอียด 50.6 ล้านพิกเซล ถ่ายด้วย EOS 5DS

ประสิทธิภาพความละเอียดสูงนี้เกิดขึ้นได้ด้วยเซนเซอร์ CMOS แบบฟูลเฟรมที่มีจำนวนพิกเซลใช้งานจริงถึง 50.6 ล้านพิกเซล และ Canon ยังคงเปิดตัวกล้องรุ่นต่างๆ ที่มีจำนวนพิกเซลเกิน 20 ล้านพิกเซล ซึ่งรวมถึงรุ่นที่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานเริ่มต้น อาทิ EOS 800D และ EOS M100

 

ภาพเคลื่อนไหว EOS: การปรากฏตัวของการบันทึกภาพระดับ Full HD ในกล้อง DSLR

EOS 5D Mark II (เปิดตัวในปี 2008) คือกล้อง DSLR ตัวแรกของโลกที่มาพร้อมคุณสมบัติการถ่ายภาพเคลื่อนไหวระดับ Full HD เซนเซอร์ CMOS แบบฟูลเฟรมที่ให้ระยะชัดลึกที่ตื้นและเลนส์ซีรีย์ EF ที่รองรับความสามารถในการถ่ายทอดรายละเอียดของกล้องได้รับความสนใจอย่างมาก และผู้ผลิตภาพยนตร์ระดับมืออาชีพต่างเริ่มหันมาใช้กล้องซีรีย์ EOS เช่นเดียวกัน คุณสมบัติการถ่ายภาพเคลื่อนไหวระดับ Full HD ในกล้อง EOS ที่เรียกว่า “ภาพเคลื่อนไหว EOS” มีให้ใช้งานในกล้องทุกรุ่นในปัจจุบัน (ณ ปี 2017)

อุปกรณ์สำหรับภาพเคลื่อนไหว EOS

อุปกรณ์ถ่ายภาพเคลื่อนไหวที่ใช้ระบบ EOS มีขนาดกะทัดรัดขึ้นอย่างมาก และยังมีราคาถูกกว่ากล้องถ่ายภาพเคลื่อนไหวที่มีอยู่ในท้องตลาด คุณสมบัติเหล่านี้จึงรองรับความต้องการได้อย่างที่ทีมพัฒนาคาดไม่ถึงมาก่อน

 

เทคโนโลยีการถ่ายภาพเคลื่อนไหว EOS มีบทบาทสำคัญต่อความก้าวหน้าของ Canon ในวงการฮอลลีวู้ด ในปี 2011 Canon เปิดตัวระบบ Cinema EOS ซึ่งประกอบด้วยกล้องดิจิตอล Full HD สำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์และอุปกรณ์เสริม เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์เลนส์ ซึ่งนับเป็นการเข้าสู่วงการผลิตภาพยนตร์ระดับมืออาชีพอย่างเต็มตัว

ระบบ Cinema EOS

ระบบ Cinema EOS (เปิดตัวในปี 2012)
ระบบ Cinema EOS ซึ่งได้รับการออกแบบบนสมมติฐานว่าจะนำมาใช้กับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวความละเอียดสูงระดับ 4K ซึ่งให้ความละเอียดสูงเทียบเท่า 4 เท่าของระดับ Full HD คือผลิตภัณฑ์สุดล้ำที่มาพร้อมข้อดีคือสามารถใช้ได้กับเลนส์ซีรีย์ EF ที่มีอยู่

 

คุณสมบัติการบันทึกภาพเคลื่อนไหวในกล้อง EOS เริ่มต้นจากแนวคิดในการบันทึกเอาต์พุตวิดีโอของ Live View นับตั้งแต่นั้นมา ความเร็วของ AF ในการถ่ายภาพ Live View ได้รับการปรับปรุงให้เร็วขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีต่างๆ อาทิ Hybrid CMOS AF และ Dual Pixel CMOS AF พร้อมกับสามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่นโดยการนำเทคโนโลยีเลนส์ เช่น STM (Stepping Motor) และ Nano USM (มอเตอร์อัลตราโซนิค) มาใช้

 

ปรับเปลี่ยนตามกาลเวลา - การพัฒนากล้องให้ใช้กับสมาร์ทโฟนได้อย่างลงตัว

เมื่อมีการใช้สมาร์ทโฟนอย่างแพร่หลาย การถ่ายภาพด้วยการแตะที่หน้าจอจึงกลายเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ดี เราได้นำจอ LCD แบบสัมผัสมาใช้ในกล้องซีรีย์ EOS แต่เนิ่นๆ แล้ว เพื่อความสะดวกของผู้ใช้งาน เริ่มต้นด้วย EOS 650D และ EOS M ที่เปิดตัวในปี 2012 กล้องทุกรุ่นตั้งแต่กล้องระดับเริ่มต้นจนถึงรุ่นโปรขณะนี้มาพร้อมกับจอ LCD แบบสัมผัส ซึ่งใช้งานได้อย่างง่ายดาย เช่น การตั้งค่าการถ่ายภาพและจุด AF หลากหลายรูปแบบ และการซูมเข้า/ออกในระหว่างดูภาพ

EOS 650D

EOS 650D (เปิดตัวในปี 2012)
มาพร้อมจอ LCD แบบปรับหมุนได้ที่รองรับการสั่งการระบบสัมผัส นอกเหนือจากการจับโฟกัสความเร็วสูงโดยใช้ Hybrid CMOS AF แล้ว EOS 650D ยังสามารถโฟกัสบนตัวแบบที่เคลื่อนไหวได้อย่างต่อเนื่องโดยใช้ Movie Servo AF

EOS M

EOS M (เปิดตัวในปี 2012)
กล้องมิเรอร์เลสตัวแรกในซีรีย์ EOS ที่ผสานคุณภาพของภาพสูงเข้ากับตัวกล้องที่มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา จอ LCD ด้านหลังรองรับการสั่งงานด้วยระบบสัมผัส EOS M สามารถจับโฟกัสความเร็วสูงได้โดยใช้ Hybrid CMOS AF

 

นอกเหนือจากการควบคุมการทำงานแล้ว Canon ยังให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน กล้องทุกรุ่นนับตั้งแต่ EOS 70D (เปิดตัวในปี 2013) สามารถรองรับการใช้งาน Wi-Fi อีกทั้งยังมีการเปิดตัวแอป Camera Connect โดยคำนึงถึงความสะดวกของผู้ใช้งาน ซึ่งแอปไม่เพียงช่วยให้คุณสามารถถ่ายโอนภาพถ่ายไปยังสมาร์ทโฟน ได้เท่านั้น แต่ยังถ่ายภาพจากระยะไกลได้อีกด้วย ดังนั้น ซีรีย์ EOS จึงสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของ Canon ในการทำความเข้าใจและใช้ประโยชน์จากความสามารถในการสื่อสารของสมาร์ทโฟนเพื่อก้าวล้ำเหนือคู่แข่ง

 

ระบบ EOS - ระบบที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลก

ภาพกลุ่มเลนส์ซีรีย์ EF

จนถึงปี 2017 เราได้ผลิตกล้องซีรีย์ EOS ไปแล้วกว่า 90 ล้านตัว และเลนส์ EF ไปแล้วกว่า 130 ล้านชิ้น ปริมาณดังกล่าวบ่งบอกถึงความไว้วางใจของผู้ใช้ที่มีต่อกล้อง EOS และเลนส์ EF เทคโนโลยีมากมายถูกนำมาใช้ในกล้อง EOS รุ่นต่อๆ มา และเลนส์ EF รองรับความต้องการของผู้ใช้งานและฉากการถ่ายภาพได้เป็นอย่างดี

 

ระบบกล้อง EOS เริ่มออกวางจำหน่ายในปี 1987 โดยได้รับการวางตัวให้เป็นกล้อง DSLR รุ่นบุกเบิก และได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่นั้น เริ่มจากกระบวนการดิจิไทซ์เต็มรูปแบบของเมาท์ EF นอกเหนือจากเทคโนโลยีกล้อง เช่น AI Servo AF ที่ใช้ในการติดตามตัวแบบที่เคลื่อนไหว, เซนเซอร์ CMOS ที่สามารถจับแสงให้เป็นสัญญาณดิจิตอลได้ละเอียดยิ่งขึ้น และ DIGIC ที่ใช้ในการประมวลผลภาพดิจิตอล Canon ได้นำเทคโนโลยีเลนส์มาใช้อย่างต่อเนื่อง เช่น USM เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนเลนส์ได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น ระบบป้องกันภาพสั่นไหวเพื่อลดปัญหากล้องสั่น ตลอดจนเลนส์และการเคลือบแบบพิเศษที่ลดความคลาดต่างๆ Canon ไม่ยึดติดกับความรู้สึกแบบเดิมๆ แต่เลือกที่จะนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของ AF ให้แม่นยำขึ้น การใช้งานที่ดีขึ้น และคุณภาพของภาพที่ดียิ่งขึ้น แนวคิดการออกแบบระบบกล้อง EOS นี้เองคือเหตุผลว่าทำไมระบบนี้จึงเป็นตัวเลือกของผู้คนทั่วโลก

แรงสนับสนุนมากมายจากผู้ใช้งานยังเห็นได้ชัดจากปริมาณการผลิตกล้องซีรีย์ EOS รวมที่มากถึง 90 ล้านตัว และเลนส์ EF มากถึง 130 ตัว ณ ปี 2017 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เลนส์ EF ได้สร้างสถิติโลกใหม่ในการมียอดรวมการผลิตเลนส์สูงที่สุด จึงอาจกล่าวได้ว่า EOS คือระบบกล้องที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลก

 


รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT

ลงทะเบียนตอนนี้!

 

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา