เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2022 Canon ได้เปิดตัวกล้องรุ่นแรกๆ ในระบบ EOS R ที่มีเซนเซอร์แบบ APS-C เมื่อเทียบกับ EOS R7 (ฉบับภาษาอังกฤษ) ซึ่งเป็นกล้องรุ่นพี่ในระดับไฮเอนด์นั้น EOS R10 มีขนาดเล็กกว่า ทว่ามีประสิทธิภาพในการถ่ายภาพไม่แพ้กัน พร้อมด้วยฟีเจอร์มากมาย เช่น การถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงสุด 23 ภาพต่อวินาที ความสามารถในการจดจำและติดตามตัวแบบด้วยการเรียนรู้เชิงลึก และสเปคที่น่าประทับใจอื่นๆ ในตัวกล้องที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในบรรดากล้องซีรีย์ EOS R ด้วยฟีเจอร์ประสิทธิภาพสูงสำหรับถ่ายภาพและวิดีโอที่กลายเป็นมาตรฐานในยุคใหม่นี้ ทำให้กล้องรุ่นนี้เปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้รักการถ่ายภาพระดับกลางและระดับสูงที่มองหากล้อง EOS R ตัวแรกในราคาสบายกระเป๋า

ขนาดเล็ก ความเร็วเป็นเลิศ ประสิทธิภาพ และความเป็นไปได้มากมาย

ขนาดเล็ก ความเร็วเป็นเลิศ ประสิทธิภาพ และความเป็นไปได้มากมาย

ในยุคที่สามารถใช้สมาร์ทโฟนถ่ายภาพและวิดีโอได้อย่างง่ายดาย เราจะคาดหวังอะไรได้บ้างจากกล้องถ่ายรูป มาดูบางตัวอย่างต่อไปนี้กัน
- ความละเอียดภาพสูงและคุณภาพของภาพที่รองรับการพิมพ์ภาพขนาดใหญ่
- การโฟกัสอัตโนมัติ (AF) ที่ล็อคและติดตามแม้แต่ตัวแบบที่เคลื่อนไหวในลักษณะที่คาดเดาไม่ได้อย่างแม่นยำ
- การถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงที่ช่วยให้จับภาพช่วงเวลามากมายได้เร็วกว่าที่ตาเปล่ามองเห็นได้หลายเท่า
- ตัวเลือกหลากหลายสำหรับการสร้างสรรค์วิดีโอ เช่น วิดีโอระดับ 4K, HDR และอัตราเฟรมสูง

ในอดีต คุณสมบัติเหล่านี้พบได้ในกล้องรุ่นไฮเอนด์เท่านั้น แต่ขณะนี้ได้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ที่ผู้คนต่างคาดหวังจากกล้องยุคปัจจุบัน และในฐานะกล้อง APS-C รุ่นใหม่จาก Canon ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานทั่วไปทุกวัน EOS R10 ได้รวมคุณสมบัติดังกล่าวไว้ในตัวกล้องขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และพกติดตัวได้สะดวกเสมอ ข้างๆ กุญแจ กระเป๋าสตางค์ และสมาร์ทโฟนของคุณ

ขนาดและน้ำหนัก

ประมาณ 429 กรัม: ตัวกล้องที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในกลุ่มกล้องซีรีย์ EOS R

EOS R10 ได้รับการออกแบบมาให้เป็นกล้องระดับเริ่มต้นถึงระดับกลาง ซึ่งมีการวางจุดยืนคล้ายกับ EOS 850D อย่างไรก็ตาม กล้องรุ่นนี้มีสเปคประสิทธิภาพสูงบางอย่างซึ่งมักจะพบในกล้องระดับไฮเอนด์อย่าง EOS 7D Mark II (ฉบับภาษาอังกฤษ) มากกว่า เช่น ความเร็วสูงในการถ่ายต่อเนื่อง อีกทั้งใช้ประโยชน์จากระบบกล้องมิเรอร์เลส ซึ่งทำให้ได้ตัวกล้องที่มีขนาดเล็กและเบากว่า EOS 850D

*รวมแบตเตอรี่และการ์ดหน่วยความจำ

เปรียบเทียบกับกล้องซีรีย์ EOS R รุ่นอื่น

*น้ำหนักโดยประมาณ รวมแบตเตอรี่และการ์ดหน่วยความจำ

จุดเด่นข้อหนึ่งของกล้องซีรีย์ EOS R คือการนำระบบกล้องมิเรอร์เลสมาใช้ ซึ่งทำให้ได้ตัวกล้องที่มีขนาดเล็กลงและน้ำหนักเบาขึ้น EOS R10 ก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยการใช้เซนเซอร์ APS-C ที่มีขนาดเล็กลง รวมทั้งปรับปรุงวัสดุและดีไซน์เพื่อลดขนาดและน้ำหนักได้มากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ EOS R10 จึงเป็นกล้องที่เบาที่สุดในกลุ่มกล้องซีรีย์ EOS R ณ ขณะนี้ ด้วยน้ำหนักประมาณ 429 กรัม** โดยเบากว่าขวดน้ำแร่ขนาด 500 มล.

ซึ่งเบาพอที่จะลดปัญหาความเมื่อยล้าจากการห้อยกล้องไว้ที่คอขณะที่คุณใช้เวลาทั้งวันสำรวจสถานที่ใหม่ๆ และเล็กพอที่เก็บใส่กระเป๋าที่คุณสะพายไปโรงเรียน ที่ทำงาน หรือสำหรับกิจกรรมสันทนาการ และเหมาะสำหรับใช้บันทึกช่วงเวลาสำคัญที่ควรค่าแก่การถ่ายภาพ (หรือวิดีโอ) ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทุกวันทุกเวลา

**มาตรฐาน CIPA, รวมแบตเตอรี่และการ์ดหน่วยความจำ

เคล็ดลับ: ใช้เลนส์ RF-S เพื่อใช้ประโยชน์จากขนาดและน้ำหนักของ EOS R10 ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเลนส์ดังกล่าวได้รับการออกแบบมาสำหรับกล้องระบบ APS-C EOS R โดยเฉพาะ! อ่านได้ที่: เปิดตัวเลนส์ RF-S สองรุ่นแรกของ Canon

ถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 15 ภาพต่อวินาที/23 ภาพต่อวินาที, โหมดถ่ายภาพต่อเนื่องแบบ RAW

ถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงสำหรับช่วงเวลาที่เกิดขึ้นในชั่วพริบตา

EOS R10 มีความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุดในกลุ่มกล้องซีรีย์ EOS R โดยสูงถึง 15 ภาพต่อวินาทีเมื่อใช้ชัตเตอร์กล เช่นเดียวกับ EOS R7 และสูงสุด 23 ภาพต่อวินาทีด้วยชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งความเร็วทั้งสองนี้รวมถึงการติดตาม AF และ AE ด้วย ความเร็วเช่นนี้เทียบเท่ากับได้กับกล้องระดับมืออาชีพ อีกทั้งจะช่วยให้คุณสามารถถ่ายและหยุดการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วรวมถึงช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน อย่างในฉากต่างๆ เช่น กีฬา เด็กๆ ที่เล่นสนุก หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงที่อยู่ไม่สุข

นอกจากนี้ EOS R10 ยังมีโหมดถ่ายภาพต่อเนื่องแบบ RAW ซึ่งใช้ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ในการถ่ายภาพแบบครอปรูปแบบ RAW 13.57 ล้านพิกเซล (4512×3008) ที่สูงสุด 30 ภาพต่อวินาที โดยภาพที่ถ่ายต่อเนื่องแต่ละภาพจะบันทึกเป็นไฟล์ RAW 14 บิต โหมดดังกล่าวยังรองรับการถ่ายภาพล่วงหน้า โดยเมื่อเปิดใช้งานแล้ว จะบันทึกภาพตั้งแต่สูงสุด 0.5 วินาทีก่อนกดปุ่มชัตเตอร์ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการบันทึกช่วงเวลาที่ต้องการ

*ความเร็วในการถ่ายต่อเนื่องจริงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของแบตเตอรี่/การชาร์จที่เหลือ อุณหภูมิ Wi-Fi ในตัว (‘เปิด’ หรือ ‘ปิด’) การลดแสงที่สั่นไหว ความเร็วชัตเตอร์ ค่ารูรับแสง ประเภทของเลนส์ และอื่นๆ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านคู่มือผู้ใช้

ความสามารถในการตรวจจับตัวแบบด้วยการเรียนรู้เชิงลึกขั้นสูง

พื้นที่ครอบคลุม AF 100%, การตรวจจับตัวแบบขั้นสูงด้วยการเรียนรู้เชิงลึก

ระบบการจดจำและติดตามตัวแบบ EOS iTR AF X ด้วยการเรียนรู้เชิงลึกของ EOS R10 เทียบเท่าได้กับของ EOS R3 ซึ่งกล้องเหล่านี้รองรับระบบ AF ที่มีการตรวจจับและติดตามตัวแบบขั้นสูงที่แม่นยำและไม่คลาดเคลื่อนในระหว่างการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ

EOS R10/ RF-S18-45mm f/4.5-6.3 IS STM/ FL: 18 มม. / Manual exposure (f/4.5, 1/3200 sec)/ ISO 400/ WB: อัตโนมัติ

เมื่อตั้งระบบตรวจจับตัวแบบไว้ที่คนเป็นลำดับแรกแล้ว ระบบจะสามารถตรวจจับและจดจำดวงตา ใบหน้า ศีรษะ และลำตัวของคนได้ วิธีนี้ช่วยให้รักษาโฟกัสที่ตัวแบบคนไว้อย่างมั่นคง แม้แต่ในฉากต่างๆ ที่มีการเคลื่อนไหวหนักหน่วงและคาดเดาไม่ได้ เช่น ฉากเต้นเบรกแดนซ์ข้างต้นซึ่งโฟกัสจะจับอยู่ที่ดวงตาและใบหน้าของนักเต้นหลักหากมองเห็นได้ และจะตรวจจับศีรษะรวมทั้งลำตัวเพื่อให้ตัวเขาอยู่ในระยะโฟกัสเสมอหากใบหน้าถูกบดบัง

ในโหมด Animal Detection Priority นั้น สามารถตรวจจับดวงตา ใบหน้า และทั้งตัวของสุนัข แมว และนกได้ และระบบจะติดตามการเคลื่อนไหวใหญ่ๆ และคาดเดาไม่ได้ของสัตว์ต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ในโหมด Vehicle Detection Priority กล้องจะตรวจจับยานพาหนะในการแข่งรถ (ขับเคลื่อนสองล้อและสี่ล้อ) อีกทั้งสามารถจดจำและรักษาโฟกัสไว้ที่ยานพาหนะด้วยการ “จับ” ส่วนหนึ่งจากทั้งหมด เช่น ส่วนหมวกกันน็อคของนักขับรถแบบไม่มีหลังคาและนักขี่มอเตอร์ไซค์ สำหรับทั้งโหมด Animal และ Vehicle Detection Priority นั้น ระบบจะตรวจจับหากไม่มีสัตว์/ยานพาหนะอยู่ในเฟรม

ความสามารถในการตรวจจับตัวแบบของ EOS iTR AF X บน EOS R10 จะคล้ายกับของ EOS R3 อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
ตรวจจับตัวแบบด้วยการเรียนรู้เชิงลึกและติดตามด้วย EOS iTR AF X

เซนเซอร์ภาพใหม่ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล คุณภาพที่มีดีมากกว่าจำนวนพิกเซล

เซนเซอร์ภาพ APS-C ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซลที่พัฒนาขึ้นใหม่

EOS R10 มีเซนเซอร์ Dual Pixel CMOS ที่พัฒนาขึ้นใหม่โดยมีความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล จำนวนพิกเซลนี้เพียงพอสำหรับการพิมพ์สื่อโฆษณาขนาด A3 และตอบโจทย์การใช้งานภาพส่วนใหญ่ตั้งแต่การโพสต์ลงโซเชียลมีเดียไปจนถึงการพิมพ์ 

ความละเอียดสูงที่มีประสิทธิภาพเกินตัว

ถึงแม้ความละเอียดของจำนวนพิกเซลสำหรับ EOS R10 จะคล้ายกับในกล้อง EOS APS-C ที่มีอยู่เดิมหลายรุ่น แต่ความละเอียดของภาพนั้นมีประสิทธิภาพเกินกว่านั้น ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะประสิทธิภาพด้านการสร้างภาพและออพติคอลระดับสูงจากเมาท์ RF ร่วมด้วยความสามารถในการประมวลผลขั้นสูงของระบบประมวลผลภาพ DIGIC X ซึ่งคุณสมบัติทั้งสองต่างช่วยเพิ่มความละเอียดของภาพ จึงมั่นใจได้ว่ารายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ และพื้นผิวจะแสดงออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติและละเอียดนุ่มนวล

EOS R10/ RF85mm f/2 Macro IS STM/ FL: 85 มม. / Manual exposure (f/2, 1/200 sec)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ

ประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมเพื่อการถ่ายภาพในที่แสงน้อย

ความสามารถในการประมวลผลขั้นสูงพร้อมการลดจุดรบกวนของระบบประมวลผลภาพ DIGIC X รองรับค่าความไวแสง ISO ตามปกติสูงสุด 32,000 ในระหว่างการถ่ายภาพนิ่ง (ขยายได้ถึง ISO 51,200) และสูงสุด ISO 12,800 ในระหว่างการถ่ายวิดีโอ (ขยายได้ถึง ISO 25,600) จึงทำให้ได้ภาพและวิดีโอที่คมชัดโดยแทบไม่ปรากฏจุดรบกวนให้เห็น ไม่ว่าคุณจะถ่ายภาพทิวทัศน์ยามค่ำคืน สถานที่ในร่มที่มีแสงสลัว หรือฉากอื่นๆ ที่มีแสงน้อย

EOS R10/ RF-S18-45mm f/4.5-6.3 IS STM/ FL: 22 มม. / Aperture-priority AE (f/8, 1/30 sec, EV +0.3)/ ISO 25600/ WB: อัตโนมัติ

เข้าไปใกล้ขึ้นเมื่อถ่ายภาพเทเลโฟโต้

เข้าไปใกล้ขึ้นเมื่อถ่ายภาพเทเลโฟโต้

เซนเซอร์ APS-C มีขนาดเล็กกว่าเซนเซอร์ฟูลเฟรม 35 มม. เล็กน้อยและมีข้อได้เปรียบเป็นพิเศษที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการเข้าใกล้ตัวแบบมากขึ้น เอฟเฟ็กต์เทเลโฟโต้ 1.6 เท่าที่มีอยู่ในเซนเซอร์ APS-C ทุกรุ่นสร้างเอฟเฟ็กต์ “ซูมเข้า” แบบเดียวกับเวลาที่ใช้โหมดครอป 1.6 เท่าของกล้อง EOS R ฟูลเฟรม แต่จะใช้ความละเอียดของเซนเซอร์ภาพทั้งหมด การถ่ายภาพในโหมดครอป 1.6 เท่าของ EOS R5 ที่มีความละเอียด 45 ล้านพิกเซลนั้น จะทำให้ได้ภาพที่มีความละเอียดประมาณ 17.3 ล้านพิกเซล ขณะที่ EOS R10 ถ่ายภาพที่มีความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล EOS R10 ไม่เพียงแต่ทำให้คุณเข้าใกล้ตัวแบบได้มากขึ้นในเลนส์เดิมเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ถ่ายภาพได้ใหญ่ขึ้นและมีความละเอียดสูงขึ้นอีกด้วย

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างกล้องฟูลเฟรมกับกล้อง APS-C ได้ใน:
กล้องฟูลเฟรมและกล้อง APS-C: ควรเลือกรุ่นไหนดี

คุณสมบัติใหม่: ภาพพาโนรามาและ Depth Compositing ในกล้อง

คุณสมบัติใหม่: ภาพพาโนรามาและ Depth Compositing ในกล้อง

เมื่อถ่ายตัวแบบต่างๆ เช่น ทิวทัศน์ที่กว้างใหญ่ไพศาลและตึกสูงระฟ้า แม้แต่เลนส์มุมกว้างอัลตร้าไวด์ก็อาจไม่เพียงพอที่จะเก็บภาพตัวแบบได้ทุกส่วน โหมดภาพพาโนรามา SCN แบบใหม่นี้จะถ่ายภาพสูงสุด 200 ภาพที่ความเร็ว 5 ภาพต่อวินาทีโดยอัตโนมัติในขณะที่คุณแพนกล้องแล้วนำภาพมาปะติดปะต่อเข้าด้วยกันภายในกล้อง เพื่อสร้างภาพพาโนรามาที่มีความละเอียดสูงเป็นพิเศษ ซึ่งภาพที่ได้นั้นสามารถมีพิกเซลสูงสุด 2,800×25,600 (แนวนอน × แนวตั้ง)  เมื่อถือกล้องในแนวนอน และสูงสุด 25,600×4,208 พิกเซลเมื่อถือกล้องในแนวตั้ง

โหมด SCN: ภาพพาโนรามา
ถ่ายขณะแพนกล้องในแนวนอนโดยที่ถือกล้องอยู่ในแนวตั้ง ขนาดภาพต้นฉบับ: 24,512× 4,208 พิกเซล

EOS R10/ RF24-70mm f/2.8L IS USM/ FL: 45 มม./ ภาพพาโนรามา (f/3.2, 1/30 sec/ ISO 4000)

ดูภาพขนาดใหญ่ขึ้น (ปรับขนาดเป็น 4000 x 688 px)

Focus Bracketing และ Depth Compositing ในกล้อง

การโฟกัสแบบชัดลึกและถ่ายภาพให้คมชัดตั้งแต่โฟร์กราวด์ไปจนถึงแบ็คกราวด์โดยที่ไม่มีความเบลอเลยนั้นเป็นเรื่องยากไม่น้อย ถึงแม้จะสามารถทำได้ในระดับหนึ่งด้วยปรับรูรับแสงให้แคบลง แต่เมื่อถึงจุดๆ หนึ่งแล้วก็อาจเกิดการกระจายแสงและความคมชัดลดลง ในระหว่างถ่ายภาพโคลสอัพของตัวแบบขนาดเล็กอย่างดอกไม้ แมลง หรือเครื่องประดับขนาดเล็ก ก็อาจยิ่งยากขึ้นที่จะทำให้ตัวแบบทั้งตัวอยู่ในระยะโฟกัสที่คมชัดเนื่องจากมีระยะชัดที่ตื้นขึ้น

ในกรณีดังกล่าว ช่างภาพจำนวนมากจะใช้ Focus Bracketing แล้วรวม (ซ้อนโฟกัส) ภาพเข้าด้วยกันเพื่อสร้างเอฟเฟ็กต์ที่ต้องการ EOS R10 มาพร้อมฟังก์ชั่น Depth Compositing แบบใหม่ ซึ่งจะรวมภาพที่ถ่ายด้วย Focus Bracketing เข้าด้วยกันภายในกล้องเพื่อให้คุณสามารถตรวจสอบผลลัพธ์ได้ทันที

EOS R10/ RF100mm f/2.8L Macro IS USM/ FL: 100 มม./ Aperture-priority AE (f/11, 1/5 sec, EV -2)/ ISO 100/ WB: 4800K/ Focus Bracketing + Depth Compositing ในกล้อง

คุณสมบัติในการถ่ายวิดีโอ: 4K แบบ Oversampled, HDR PQ, การไลฟ์สด

คุณสมบัติในการถ่ายวิดีโอ: 4K แบบ Oversampled, HDR PQ, การไลฟ์สด

EOS R10 มอบคุณสมบัติมากมายในการถ่ายวิดีโอสำหรับนักสร้างวิดีโอมือใหม่ ด้วยประโยชน์ของจำนวนพิกเซลที่มีมากเกินกว่าที่ต้องใช้สำหรับ 4K ทำให้สามารถถ่ายวิดีโอ 4K UHD 29.97P/25.00P คุณภาพสูงด้วยการทำ Oversampling แบบ 6K ได้ สำหรับผู้ที่ต้องการอัตราเฟรมสูงขึ้นหรือเอฟเฟ็กต์เทเลโฟโต้ที่ใหญ่ขึ้น ก็สามารถเลือกใช้โหมด 4K UHD แบบครอป ซึ่งรองรับการบันทึก 59.94P/50.00P

เมื่อถ่ายภาพในระดับ Full HD นอกจากจะได้ 59.94P/50.00P แบบไม่ครอปแล้ว ผู้ใช้ยังมีตัวเลือกสร้างสรรค์ต่างๆ มากมาย เช่น
- การบันทึกแบบอัตราเฟรมสูงที่ 119.88P/100.00P สำหรับวิดีโอสโลโมชั่น
- ซูมแบบดิจิตอลสูงสุด 10 เท่า
- ฟิลเตอร์สร้างสรรค์ 5 แบบ เช่น ‘ภาพเคลื่อนไหวแบบเก่า’ และ ‘ภาพเคลื่อนไหวแบบกล้องรูเข็ม’ เพื่อให้วิดีโอมีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร

นอกเหนือจากตัวแปลงสัญญาณ YCbCr 4:2:0 แบบ 8 บิตตามมาตรฐานแล้ว กล้อง EOS R10 ยังรองรับการบันทึก HDR PQ ในรูปแบบ YCbCr 4:2:2 แบบ 10 บิต (อ่านเพิ่มเติมได้ที่: คำถามที่พบบ่อยในการถ่ายวิดีโอ: 4:2:2 และ 4:2:0 หมายถึงอะไร)

EOS R10 สามารถบันทึกแบบต่อเนื่องตามปกติได้เป็นเวลาสูงสุด 2 ชั่วโมง (ประมาณ 30 นาทีในโหมดอัตราเฟรมสูง) ยกเว้นในกรณีที่เกิดการหยุดอัตโนมัติเนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น อุณหภูมิภายในกล้องสูงขึ้นหรือมีพื้นที่การ์ด SD ไม่เพียงพอ

รองรับการไลฟ์สดบน YouTube

คุณสามารถใช้ EOS R10 เพื่อการไลฟ์สดคุณภาพสูงไปยัง YouTube ได้ สิ่งคุณที่ต้องทำคือ เชื่อมต่อกล้องเข้ากับอินเทอร์เน็ตแล้วตั้งค่า URL สำหรับการไลฟ์สด*

*ต้องลงทะเบียนที่ image.canon ก่อนจึงจะใช้บริการไลฟ์สดได้ โปรดตรวจสอบข้อกำหนดล่าสุดของ YouTube การไลฟ์สดบน YouTube อาจมีการเปลี่ยนแปลง หยุด หรือยุติได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ Canon จะไม่รับผิดชอบต่อบริการใดๆ ที่บุคคลที่สามเป็นผู้ให้บริการ รวมถึงการถ่ายทอดแบบสดบน YouTube

Movie Digital IS: ป้องกันภาพสั่นไหว 5 แกนขณะถ่ายวิดีโอ

ข้อสังเกตอื่นๆ: แฟลชติดกล้อง ฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่นแบบใหม่ Multi-Controller ฯลฯ

ข้อสังเกตอื่นๆ: แฟลชติดกล้อง ฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่นแบบใหม่ Multi-Controller ฯลฯ

คุณสมบัติอื่นๆ มากมายรวมอยู่ในฟังก์ชันการใช้งานของ EOS R10 โดยช่วยอำนวยความสะดวกในกระบวนการถ่ายภาพและเพิ่มโอกาสในสร้างสรรค์ผลงาน อันได้แก่
- ปุ่ม Multi-Controller แบบใหม่ที่เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน AF
- แฟลชติดกล้อง
- ไมโครโฟนสเตอริโอในตัวที่สามารถบันทึกเสียงได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
- ฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่นแบบใหม่พร้อมคุณสมบัติการสื่อสารที่ดียิ่งขึ้น

EOS R10 มาพร้อมความสามารถในการเชื่อมต่อ Wi-Fi และบลูทูธเช่นเดียวกับกล้อง EOS รุ่นล่าสุด จึงสามารถถ่ายโอนภาพและวิดีโอไปยังคอมพิวเตอร์หรือเซิร์ฟเวอร์คลาวด์อย่าง image.canon* ได้อย่างง่ายดาย หรือไปยังสมาร์ทโฟนที่จับคู่ไว้สำหรับแชร์กับโซเชียลมีเดียในทันทีผ่านแอป Camera Connect และคุณยังสามารถใช้สมาร์ทโฟนเพื่อถ่ายภาพด้วยรีโมทคอนโทรลได้อีกด้วย!

ฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่นแบบใหม่ ไมโครโฟนภายในสามตัว

EOS R10 มีฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่นแบบใหม่เช่นเดียวกับ EOS R3 และ EOS R7 ฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่นแบบใหม่ใช้งานร่วมกันได้กับฐานเสียบแฟลชรุ่นก่อน และมีอินเทอร์เฟซดิจิตอลรูปแบบใหม่ที่รองรับการสื่อสารด้วยความเร็วสูงและจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ที่ติดตั้งไว้ซึ่งใช้ร่วมกันได้ คุณสมบัตินี้ช่วยให้สามารถใช้อุปกรณ์ต่างๆ เช่น ไมโครโฟนแบบไร้สายที่ใช้งานร่วมกันได้ ซึ่งคุณสามารถมั่นใจได้ว่าเสียงดิจิตอลจะมีความชัดเจนและมีเสียงรบกวนน้อยที่สุด โดยไม่ต้องกังวลเรื่องระดับแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ของไมโครโฟน

 

 

 

สรุป

กล้องที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพและวิดีโอ

สเปคของ EOS R10 เทียบเท่ากับกล้อง DSLR EOS ระดับไฮเอนด์ แต่ปัจจุบันนี้สามารถใช้สเปคประสิทธิภาพสูงเหล่านี้ให้คุ้มค่าได้ง่ายยิ่งกว่าที่เคย เนื่องจากคุณสมบัติใหม่ๆ เช่น ระบบ AF ขั้นสูง และการตรวจจับและติดตามตัวแบบด้วยการเรียนรู้เชิงลึก ซึ่งลดความยุ่งยากในกระบวนการถ่ายภาพและไม่ต้องมีขั้นตอนที่ซับซ้อน

คุณสมบัติที่นับว่าจำเป็นสำหรับมาตรฐานใหม่ในปัจจุบันและอนาคตมารวมอยู่ในตัวกล้องขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบานี้ ซึ่งก็คือ EOS R10 กล้องคู่ใจเครื่องใหม่อันทรงพลังของคุณ

ภาพตัวอย่าง

ภาพตัวอย่าง

EOS R10/ RF50mm f/1.8 STM/ FL: 50 มม. / Aperture-priority AE (f/1.8, 1/1250 sec, EV +0.3)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ

EOS R10/ RF100-500mm f/4.5-7.1 L IS USM / FL: 500 มม. / Shutter-priority AE (f/8, 1/1000 sec)/ ISO 400/ WB: อัตโนมัติ

EOS R10/ RF-S18-150mm f/3.5-6.3 IS STM/ FL: 18 มม. / Manual exposure (f/3.5, 1/2500 sec)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ

หากคุณกำลังเลือกกล้องตัวแรกและสงสัยว่า EOS R10 เหมาะกับคุณหรือไม่ หาคำตอบได้ในบทความ 7 สิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกกล้อง Canon ตัวแรกของคุณ ซึ่งอาจช่วยคุณตัดสินใจได้ดีขึ้น!

 

---

---