สวนลิงจิโกคุดานิ (ฉบับภาษาอังกฤษ) ในจังหวัดนากาโน่ ประเทศญี่ปุ่น ขึ้นชื่อในเรื่องลิงหิมะป่า (ลิงแม็คแคกญี่ปุ่น) ซึ่งชื่นชอบการแช่น้ำในบ่อน้ำพุร้อน (ออนเซ็น) ในสวนแห่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาว ลิงเหล่านี้ยังเป็นตัวแบบที่ช่างภาพสัตว์ป่า Yukihiro Fukuda โปรดปรานอีกด้วย ในบทความนี้ เขาจะมาแบ่งปันวิธีการถ่ายภาพ “ความอบอุ่น” ในภาพอันน่าจดจำซึ่งบรรดาลิงกำลังผ่อนคลายในบ่อน้ำพุร้อนนี้ (เรื่องโดย Yukihiro Fukuda, Digital Camera Magazine)

EOS 5D Mark IV/ EF50mm f/1.4 USM/ FL: 50 มม./ Manual exposure (f/1.6, 1/1,250 วินาที)/ ISO 200/ WB: แสงแดด

แม้ว่าสิ่งที่ผมให้ความสนใจเป็นหลักในภาพนี้จะเป็นสีหน้าของแม่ลิงและลูกลิง แต่ผมก็อยากจะแสดงให้เห็นด้วยว่ามีลิงตัวอื่นๆ อีกมากที่กำลังแช่น้ำอยู่ในบ่อน้ำพุร้อนเช่นกัน มุมรับภาพจึงออกมาเป็นเช่นนี้ ผมทำให้ภาพดูมืดลงเล็กน้อยเพื่อสื่อถึงอากาศเย็นจัดของฤดูหนาว ผู้ชมจะสามารถจินตนาการได้เลยว่าการแช่ในบ่อน้ำร้อนจะทำให้รู้สึกอุ่นสบายได้ขนาดไหน!

 

1. ใช้ไอน้ำให้เป็นประโยชน์

หากมีภาพเดียวที่ช่างภาพทุกคนในสวนลิงจิโกคุดานิต้องการถ่าย ภาพนั้นคือภาพลิงที่กำลังแช่น้ำในบ่อน้ำพุร้อนท่ามกลางหิมะที่กำลังตก แต่หิมะอาจไม่ตกลงมาเสมอไป ดังนั้น จะเป็นอย่างไร หากคุณเปลี่ยนมาสนใจความร้อนของน้ำในบ่อน้ำพุร้อนแทน หากคุณใช้ไอน้ำให้เป็นประโยชน์ คุณจะสามารถถ่ายภาพที่สื่อถึงบรรยากาศของบ่อน้ำพุร้อนได้

เคล็ดลับ: ถ่ายภาพจากใต้ลม

คุณจะถ่ายภาพไอน้ำได้ดีแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณในการอ่านทิศทางลม ไอน้ำจะดูน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดเมื่อถ่ายจากใต้ลม

ข้อควรระวัง!: ไอน้ำอาจมีมากเกินไปจนทำให้คุณมองไม่เห็นอะไรเลย และจะทำให้เกิดฝ้าที่เลนส์ของคุณด้วย คำแนะนำที่เป็นประโยชน์คือ ควรพกผ้าไมโครไฟเบอร์ติดตัวไว้เพื่อใช้เช็ดเลนส์เมื่อจำเป็น

 

2. ถ่ายภาพด้วยรูรับแสงกว้างมากๆ เพื่อให้ลิงที่เป็นตัวแบบหลักอยู่ในโฟกัสที่คมชัด

สวนลิงจิโกคุดานิเป็นสถานที่ที่ผมค่อนข้างมีอิสระในการเคลื่อนไหวตามต้องการ ผมจึงชอบที่จะใช้เลนส์เดี่ยวความไวแสงสูง แทนที่จะเป็นเลนส์ซูม ซึ่งช่วยให้ผมเบลออย่างอื่นนอกจากลิงซึ่งเป็นตัวแบบหลักเป็นโบเก้ที่นุ่มนวลสวยงามได้ ทำให้ได้ภาพที่ส่งผลต่ออารมณ์มากยิ่งขึ้น ผมถ่ายภาพหลักที่ f/1.6 ด้วยเลนส์ EF50mm f/1.4 USM ซึ่งเป็นเลนส์ที่ผมมักเลือกใช้เมื่อต้องถ่ายภาพลิงหิมะ

เคล็ดลับ: ปิดใช้งานการแก้ไขความคลาดเคลื่อนของเลนส์

หรือพูดให้ชัดเจนขึ้นก็คือ ปิดการใช้งานการแก้ไขระดับแสงขอบภาพ เพราะฟังก์ชั่นนี้จะแก้ไขขอบมืดในภาพ แต่สำหรับภาพนี้ ผมต้องการคงขอบมืดเอาไว้เพื่อสื่อถึงความหนาวเย็น

f/11

ภาพตัวอย่างนี้ถ่ายในระดับสายตาโดยใช้รูรับแสงแคบของเลนส์ซูม ดูแล้วค่อนข้างต่างจากภาพหลักใช่ไหม คนส่วนใหญ่ที่มาสวนลิงจิโกคุดานิก็จะถ่ายภาพแบบนี้เช่นกัน

 

3. มุมต่ำช่วยให้เห็นทั้งโบเก้และไอน้ำได้เด่นชัดขึ้น

ผมถ่ายภาพโดยนอนคว่ำลงกับพื้นถัดจากบ่อน้ำพุร้อนเพื่อให้ตัวกล้องอยู่ในไอน้ำ หากมีไอน้ำมากเกินไป คุณจะมองเห็นอะไรได้ไม่ชัดเจนนัก เมื่อถ่ายภาพนี้ ผมจะคอยสังเกตการเคลื่อนที่ของไอน้ำและลั่นชัตเตอร์ในจังหวะที่ดูดีที่สุด

หมายเหตุ: หากกล้องของคุณมีหน้าจอแบบปรับหมุนได้ คุณจะสามารถถ่ายภาพในมุมต่ำได้โดยไม่ต้องนอนลงบนพื้น

ข้อควรรู้: การเปิดรับแสงจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากไอน้ำ
คุณจะไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะมีไอน้ำมากแค่ไหน และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในขณะที่คุณถ่ายภาพ เมื่อมีไอน้ำมาก กล้องจะถูก “หลอก” ให้ลดความสว่างลงหากคุณใช้โหมดกึ่งอัตโนมัติ ให้ใช้โหมดตั้งค่าระดับแสงด้วยตนเองเพื่อการควบคุมที่ดีกว่า และเปิดรับแสงไปที่ลิงพวกนั้น

 

4. แต่งกายและสวมรองเท้าให้เหมาะสม

ในช่วงฤดูหนาว (เดือนธันวาคมถึงมีนาคม) ภูมิภาคที่สวนนี้ตั้งอยู่จะมีหิมะตกหนักมาก ไม่เพียงแต่ทางเดินด้านนอกและด้านในสวนจะลื่นมากเนื่องจากหิมะที่ตกหนาและน้ำแข็งเท่านั้น แต่น้ำจากบ่อน้ำพุร้อนที่ไหลหรือกระเซ็นมาโดนพื้นยังทำให้หิมะละลายด้วย ซึ่งทำให้ยากต่อการหาตำแหน่งที่ยืนที่มั่นคง จึงควรสวมรองเท้าที่เหมาะสมและเดินด้วยความระมัดระวัง

คุณอาจพบว่าการจะได้ภาพที่ต้องการนั้น บางครั้งจำเป็นต้องเข้าไปใกล้หรือนอนลงบนพื้น จึงควรสวมใส่เสื้อผ้าที่คุณสามารถทำเลอะเทอะได้

เคล็ดลับ: อย่าลืมป้องกันกล้องของคุณด้วย!

นำผ้าคลุมกันฝนหรือแผ่นพลาสติกไปด้วยเพื่อป้องกันอุปกรณ์ของคุณจากหิมะ ฝน และไอน้ำ คุณอาจจะอยากใส่ซองซิลิกาเจลขนาดใหญ่ไว้ในกระเป๋ากล้องด้วยเพื่อดูดซับความชื้นส่วนเกิน (เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ วิธีการป้องกันกล้องของคุณสำหรับการถ่ายภาพในสภาพอากาศหนาวเย็น)

ต่อไปนี้คือเคล็ดลับการตั้งค่า AF และการเปิดรับแสงสำหรับการถ่ายภาพลิง:
เทคนิคการใช้กล้อง EOS 7D Mark II ของช่างภาพมืออาชีพ - ภาพสัตว์ป่า

คุณอาจสนใจอ่านบทความนี้เช่นกัน:
การถ่ายภาพสัตว์ป่า: เทคนิค 3 ประการจากช่างภาพมืออาชีพ
จับภาพความเคลื่อนไหวของสัตว์ป่าด้วยการควบคุมความเร็วชัตเตอร์

----

เกี่ยวกับสถานที่

สวนลิงจิโกคุดานิ (ฉบับภาษาอังกฤษ) (“จิโกคุดานิ ยาเอ็น-โคเอ็น” ในภาษาญี่ปุ่น) ตั้งอยู่ในหุบเขาจิโกคุดานิในตอนเหนือของจังหวัดนากาโน่ ประเทศญี่ปุ่น และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า สวนนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมและอาจมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากโดยเฉพาะในฤดูหนาว

แม้มีผู้ดูแลสวนคอยให้อาหาร แต่ลิงหิมะเหล่านี้เป็นลิงป่าที่มีอิสระในการเดินไปรอบๆ สวนและตามภูเขาที่อยู่โดยรอบ พวกมันมักจะไม่สนใจมนุษย์

รายละเอียด

ค่าเข้าชม: 800 เยนสำหรับผู้ใหญ่, 400 เยนสำหรับเด็กอายุ 6 ปีขึ้นไป

เวลาเปิดทำการ: โดยทั่วไป 8:30-17:00 น. (เดือนเมษายนถึงตุลาคม) 9:00-16:00 น. (เดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม) เวลาเปิดอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและปัจจัยอื่นๆ

ฤดูที่มีนักท่องเที่ยวสูงสุด: ฤดูหนาว (เดือนธันวาคมถึงมีนาคม) เนื่องจากหิมะที่อยู่โดยรอบจะทำให้ภาพลิงที่กำลังแช่น้ำมีความสวยงามมากเป็นพิเศษ ว่ากันว่าเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปเยี่ยมชม

วิธีเดินทาง: โดยรถยนต์หรือรถบัสด่วนจากสถานีนากาโน่ (รายละเอียดบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ (ฉบับภาษาอังกฤษ)) เนื่องจากพื้นที่จอดรถมีจำกัด ขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวใช้บริการขนส่งสาธารณะแทน

แผนที่: คลิกที่นี่เพื่อดูแผนที่ Google (ฉบับภาษาอังกฤษ)

ข้อควรทราบอื่นๆ:
- เส้นทางที่ใช้กันบ่อยที่สุดจากลานจอดรถ/ จุดจอดรถบัสมายังทางเข้าสวนนั้นมีความยาว 2 กม. และใช้เวลาเดินผ่านเส้นทางในป่าเป็นเวลา 30 นาที ซึ่งจะมีความงดงามมากเป็นพิเศษในฤดูหนาวเช่นกัน
- ควรไปแต่เช้าเพื่อหลีกเลี่ยงคนจำนวนมาก
- อย่าให้อาหารหรือสัมผัสลิง!

 

---

---