ด้วยกำลังแสงแฟลชช่วงกว้างเทียบเท่าไดนามิกเรนจ์ 14 สต็อปและเวลาในการชาร์จที่รวดเร็วเพียง 0.9 วินาทีแม้ที่กำลังแสง 1/1 ทำให้ Speedlite EL-1 ซึ่งเป็นแฟลชตัวท็อปรุ่นใหม่จาก Canon มีความสามารถที่หลากหลายเหนือกว่าแฟลชทั่วไป เราส่งแฟลชรุ่นนี้ให้ Mark Teo ผู้ถ่ายทอดความหลงใหลในการเคลื่อนไหวและความมีพลังออกมาในการถ่ายภาพเชิงพาณิชย์และโปรเจกต์ส่วนตัว และเขาจะมาแบ่งปันประสบการณ์นี้กับเรา (ภาพโดย Mark Teo เรื่องจากประสบการณ์ที่ได้เล่าให้ทีมงาน SNAPSHOT ฟัง ภาพทั้งหมดถ่ายด้วยแฟลชเปล่าเพื่อให้เห็นความสามารถของแฟลช Speedlite ที่ยังไม่ผ่านการปรับแต่ง)
ความประทับใจแรก: ขนาดใหญ่กว่าแฟลชทั่วไป แต่มีกำลังเท่าไฟสโตรบ
เมื่อได้ยินข่าวเกี่ยวกับแฟลช Speedlite EL-1 เป็นครั้งแรก ผมก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงกล้อง Canon ในกลุ่ม EOS-1D X ทั้งสองเป็นอุปกรณ์รุ่นท็อปที่มีสมรรถนะอันโดดเด่นพร้อมด้วยโครงสร้างที่แข็งแรง แต่ผมก็ยังรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้เห็น “แฟลช Speedlite ระดับ EOS-1D X” เป็นครั้งแรก เพราะมีขนาดใหญ่กว่าที่คาดไว้ และแน่นอนว่าใหญ่กว่าแฟลชทั่วไปที่คุณใช้ (ขนาด: 84.4 x 149.0 x 136.4 มม., 678 ก. รวมชุดแบตเตอรี่) แต่เมื่อได้ลองใช้ ผมก็พบว่ามันไม่ใช่แฟลชขนาดใหญ่ แต่เป็นไฟสตูดิโอทางเลือกที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดและพกพาได้สะดวก
ฉากที่ 1: การถ่ายภาพภายในอาคาร:
ใช้ไฟสองดวงได้ในฉากที่ปกติต้องใช้สี่
EOS R5 + RF28-70mm f/2L USM ที่ 28 มม., f/5.6, 1/200 วินาที, ISO 640
ผมมักจะต้องใช้ไฟสี่ดวงเพื่อสร้างเอฟเฟ็กต์แบบเดียวกันนี้ ได้แก่ ไฟสองดวงที่แต่ละด้านเพื่อทำให้แบ็คกราวด์สว่าง และอีกสองดวงสำหรับตัวแบบ แฟลช Speedlite EL-1 ช่วยให้ผมได้เอฟเฟ็กต์เดียวกันโดยใช้แฟลชเพียงสองดวง
เบื้องหลังการถ่ายภาพ
รายละเอียดในการเตรียมการถ่ายภาพ:
- ไฟดวงที่ 1: ส่องไปที่ด้านหลังเพื่อสร้างแบ็คกราวด์สีขาวและแสงจากด้านหลัง
- ไฟดวงที่ 2: ไฟกำลังต่ำเพื่อให้แสงสว่างแก่ใบหน้าของตัวแบบ
สำหรับการถ่ายภาพในอาคาร ไม่ว่าจะเป็นในสตูดิโอของผมเองหรือสถานที่อื่น พื้นที่นั้นเป็นสิ่งที่มีค่ามาก เมื่อต้องเคลื่อนไหวในสตูดิโอที่มีอุปกรณ์จัดแสง เช่น ไฟสโตรบ ขาตั้งที่มั่นคงสำหรับไฟสโตรบ รวมถึงสายไฟต่างๆ คุณจะไม่มีพื้นที่เหลือมากนัก
เมื่อเปรียบเทียบกัน การเตรียมการถ่ายภาพด้วยแฟลช Speedlite EL-1 นั้นไม่ได้ใช้พื้นที่มากนัก แฟลช Speedlite รวมถึงตัวส่งสัญญาณแฟลช ST-E3-RT ที่ผมใช้ในการยิงแฟลชจากระยะไกลทำให้สามารถถ่ายภาพแบบไร้สายได้ด้วยการส่งสัญญาณวิทยุ ดังนั้น พื้นที่การทำงานของคุณจึงไม่เต็มไปด้วยสายไฟยุ่งเหยิง และในขณะเดียวกัน แฟลชรุ่นนี้ยังมีกำลังไฟและการควบคุมแสงแฟลชที่ดีพอเทียบเท่ากับการเตรียมการถ่ายภาพโดยใช้ไฟสโตรบตามปกติ
ปริมาณแสงแฟลชและการเชื่อมต่อของสัญญาณวิทยุมีความเสถียรและเชื่อถือได้ จึงทำให้ผมมีสมาธิในการกำกับนายแบบเพื่อให้ได้ท่วงท่าที่สวยงามที่สุด
การเตรียมการถ่ายภาพที่ใช้พื้นที่น้อย ไร้สาย และเอนกประสงค์ที่ให้อิสระในการเคลื่อนไหวมากขึ้น
EOS R + RF28-70mm f/2L USM ที่ 62 มม., f/2.8, 1/200 วินาที, ISO 800
พื้นที่กว้างขึ้น เพื่ออิสระในการเคลื่อนไหวที่มากขึ้น
เมื่อมีพื้นที่จำกัดและมีสายไฟรวมถึงไฟสโตรบตั้งอยู่โดยรอบ เราต้องระมัดระวังการเคลื่อนไหวของตนเอง คุณคงไม่อยากให้ใคร (โดยเฉพาะตัวแบบของคุณ) ชนเข้ากับอุปกรณ์หรือทำให้อุปกรณ์ล้มลง! ซึ่งนั่นหมายความว่าผมมักจะต้องจัดท่าทางตัวแบบของผม ซึ่งทำให้ยากต่อการถ่ายภาพแอ็คชั่นที่ดูเป็นธรรมชาติ
แต่เมื่อใช้แฟลช Speedlite EL-1 ที่ช่วยให้เตรียมการถ่ายภาพได้อย่างง่ายดายและประหยัดพื้นที่ ตัวแบบของผมจึงสามารถแสดงท่าทางการเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ในภาพการพลิกยางรถด้านบน ผมสามารถให้นายแบบเดินสองสามก้าวไปพร้อมกับยางรถในขณะที่ผมถ่ายภาพช่วงวินาทีที่สำคัญ
ฉากที่ 2: การถ่ายภาพแอ็คชั่นแบบต่อเนื่อง
เวลาการกลับมาพร้อมใช้งานที่รวดเร็วช่วยเพิ่มจำนวนภาพสำรองในการถ่ายภาพแอ็คชั่นความเร็วปานกลาง
ภาพด้านบน: EOS R + RF28-70mm f/2L USM ที่ 70 มม., f/2.8, 1/200 วินาที, ISO 800
การเตรียมการถ่ายภาพ: แฟลชนอกตัวกล้อง 2 ดวงสำหรับกล้องด้านซ้ายและขวา
สำหรับฉากเช่นนี้ที่มีการสะบัดเชือก การถ่ายภาพต่อเนื่องจะช่วยให้คุณมีตัวเลือกของตำแหน่งเชือกที่ถ่ายได้มากขึ้น ผมใช้โอกาสนี้ในการทดสอบเวลาอันรวดเร็วในการกลับมาพร้อมใช้งานของแฟลช Speedlite EL-1 ซึ่งกล่าวว่ามีความเร็วถึง 0.9 วินาทีแม้ที่กำลังแฟลช 1/1 ซึ่งเร็วกว่าแฟลช Speedlite 600EX II-RT ราว 6 เท่า
เมื่อถ่ายภาพในโหมดแฟลชแบบแมนนวลที่กำลังแฟลชต่ำกว่า 1/1 แฟลชสามารถยิงได้ถี่พอที่จะทำให้ผมมีภาพสำรองจำนวนหนึ่ง แม้อัตราความเร็วในการกลับมาพร้อมใช้งานของแฟลชจะไม่พอสำหรับการถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง แต่ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการถ่ายภาพแอ็คชั่นความเร็วปานกลางแบบต่อเนื่องให้มีระดับแสงที่เหมาะสมได้ เช่น ในงานอีเวนต์และงานแต่งงาน
เคล็ดลับ: เปลี่ยนไปใช้แฟลชในโหมด “เน้นการถ่ายภาพต่อเนื่อง”
ขณะถ่ายภาพต่อเนื่อง หากต้องการเร่งเวลาการกลับมาพร้อมใช้งานของแฟลชให้เร็วขึ้น ให้เปิดใช้งานโหมดเน้นการถ่ายภาพต่อเนื่อง (CSP) แทนการใช้แฟลชในโหมด M หรือ E-TTL โหมดนี้จะลดกำลังแสงแฟลชลงหนึ่งสต็อปโดยอัตโนมัติและเพิ่มความไวแสง ISO หนึ่งสต็อปเพื่อเป็นการชดเชย ซึ่งจะทำให้แฟลชกลับมาพร้อมใช้งานได้เร็วขึ้นและยังช่วยประหยัดพลังงานได้ด้วย
ฉากที่ 3: การถ่ายภาพกลางแจ้ง—ซิงค์ความเร็วสูง
การจัดแสงด้วยแฟลชคู่ทรงประสิทธิภาพนอกตัวกล้องเพื่อสร้างช่วงเวลาแห่งการเคลื่อนไหวอันน่าตื่นตาตื่นใจ
EOS R5 + RF15-35mm f/2.8L IS USM ที่ 15 มม., f/4, 1/800 วินาที, ISO 400
ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาเกือบตลอดเวลาที่ผมใช้แฟลช มีช่วงเวลาแดดออกอยู่ครู่หนึ่ง ผมจึงใช้โอกาสนี้ในการถ่ายภาพกลางแจ้งสั้นๆ การเตรียมการถ่ายภาพด้วยแฟลชที่ใช้พื้นที่น้อยแต่ทรงประสิทธิภาพและเอนกประสงค์นี้ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่ามีประโยชน์ ดังที่คุณเห็นได้จากภาพนี้ว่าผมใช้แฟลชนอกตัวกล้องในโหมดซิงค์ความเร็วสูง เพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของนักสเก็ตขณะแสดงท่าทางโลดโผน
ในโหมดซิงค์ปกติ แฟลช Speedlite EL-1 สามารถทำงานได้ที่กำลังต่ำถึง 1/8192 แม้ในขณะใช้โหมดซิงค์ความเร็วสูง ก็สามารถลดกำลังแฟลชลงได้ถึง 1/128 เพื่อให้ได้เอฟเฟ็กต์ที่อ่อนลงตามต้องการ
เบื้องหลังการถ่ายภาพ
การเตรียมการถ่ายภาพ: แฟลชนอกตัวกล้องสองดวงสำหรับกล้องด้านซ้ายและขวา ใช้เป็นไฟเสริม
การเตรียมการถ่ายภาพที่ใช้พื้นที่น้อยเหมาะสำหรับการถ่ายภาพกลางแจ้ง เนื่องจากไม่กีดขวางผู้สัญจรไปมามากนัก และยังสามารถจัดเก็บได้ง่ายเพียงถอดแฟลชออกจากขาตั้งและจัดเก็บได้ทันที จึงนับว่าสะดวกสบายมากสำหรับสถานการณ์ที่มีเวลาจำกัด เช่น เมื่อคุณต้องถ่ายภาพในสถานที่หลายแห่งติดต่อกัน
ฉากที่ 4: ภาพพอร์ตเทรตระยะใกล้
ให้การควบคุมแสงในระดับต่ำถึง 1/8192
EOS R5 + RF28-70mm f/2L USM ที่ 70 มม., f/2.8, 1/400 วินาที, ISO 100
การเตรียมการถ่ายภาพ
- ไฟ 1 ดวงสำหรับกล้องทางซ้าย
- ไฟ 1 ดวงใกล้กล้องทางขวาเพื่อสร้างแผ่นสะท้อนแสงที่ “เป็นประกาย”
เมื่อใช้แฟลชในการสร้างแผ่นสะท้อนแสง คุณไม่ควรใช้แฟลชที่มีแสงจ้าเกินไปเนื่องจากจะทำให้ตัวแบบรู้สึกอึดอัด ซึ่งนี่เป็นอีกสถานการณ์หนึ่งที่ความสามารถในการใช้แฟลชกำลังต่ำมีประโยชน์
แม้ผมจะไม่จำเป็นต้องใช้กำลังแฟลชถึงค่าต่ำสุดที่ 1/8192 ในฉากนี้ แต่ผมก็พอจะเห็นว่าการตั้งค่าในระดับต่ำเช่นนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับการถ่ายภาพแมลงและตัวแบบอื่นๆ ในการถ่ายภาพมาโคร และยังอาจเหมาะสำหรับการถ่ายภาพในคอนเสิร์ตหรือสถานที่จัดงานสาธารณะอื่นๆ ที่มีความมืดซึ่งแสงแฟลชจ้าจะเป็นการรบกวนอีกด้วย
กำลังแฟลชมีผลต่อระยะเวลาการยิงแฟลช ในฉากที่มืดสนิท การถ่ายภาพด้วยแฟลชกำลังต่ำเทียบเท่ากับการใช้ความเร็วชัตเตอร์สูง! อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
คุณสมบัติเด่น: แบตเตอรี่หนึ่งชุดเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม
แฟลช Speedlite มักต้องใช้แบตเตอรี่ AA สี่ก้อน แต่ Speedlite EL-1 ใช้ชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนหนึ่งชุด นั่นคือชุดแบตเตอรี่ LP-EL กำลังไฟ 1920 mAh, 7.2 โวลต์ นอกจากจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าแล้ว ยังสะดวกสบายกว่าด้วย เพื่อนร่วมงานของผมต่างอิจฉาและโอดครวญเกี่ยวกับแบตเตอรี่ AA ที่เราใช้กับแฟลชของเราและอยากจะเลิกใช้!
กล่าวกันว่าชุดแบตเตอรี่ LP-EL สามารถยิงแฟลชได้ราว 335 ครั้งที่กำลัง 1/1 เมื่อเทียบกับรุ่น Speedlite 600EX II-RT ที่ยิงได้ราว 100 ครั้ง แม้จะไม่สามารถใช้งานได้กับแบตเตอรี่ LP-E6 ที่ใช้ในกล้อง EOS R5 เนื่องจากยาวกว่าเล็กน้อย แต่ก็ใช้ที่ชาร์จแบบเดียวกัน
หากเป็นแฟลชของผู้ผลิตอื่นบางรุ่น คุณจะรู้สึกได้ถึงความร้อนที่เกิดขึ้นแม้จะเป็นการใช้งานตามปกติ ผมไม่ได้ถ่ายภาพโดยใช้แฟลช Speedlite EL-1 ตลอดเวลา แต่ก็ใช้ในการถ่ายภาพหลายครั้ง และมีบางครั้งที่ผมใช้แฟลชในการถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงและภาพต่อเนื่องในโหมดซิงค์ความเร็วสูง และผมไม่รู้สึกว่าแฟลชร้อนขึ้นเลย ตอนผมส่งคืนแฟลชให้ Canon ผมยังไม่ได้ชาร์จแบตเตอรี่เลยแม้แต่ครั้งเดียว
ความเห็นส่งท้าย: ระบบขนาดเล็กกะทัดรัดและเอนกประสงค์ที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพ
ผมรู้สึกตื่นตาตื่นใจมากที่ได้ลองใช้แฟลช Speedlite ระดับสูงของ Canon Speedlite EL-1 สามารถทำทุกสิ่งที่แฟลช Speedlite ระดับสูงควรจะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นกำลังแสงแฟลช การควบคุมหลายระดับ สมรรถนะในด้านอายุแบตเตอรี่และการยิงแฟลชต่อเนื่อง รวมถึงฟังก์ชันการทำงานต่างๆ เช่น การซิงค์ความเร็วสูงและการซิงค์ม่านชัตเตอร์ที่ 2 นอกตัวกล้อง ทั้งหมดนี้อยู่ภายในตัวแฟลชที่แข็งแกร่งและป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำได้ และยังเป็นระบบที่เหมาะมากสำหรับการนำไปใช้ถ่ายภาพในสถานที่ที่สามารถเข้าถึงได้ด้วยจักรยานเสือภูเขาและการเดินเท้าเท่านั้น ซึ่งสาเหตุเดียวที่ผมไม่สามารถทำเช่นนั้นได้คือสภาพอากาศที่มีพายุ!
นอกจากจะเป็นระบบไฟที่พกพาได้สะดวกและทรงประสิทธิภาพที่ใช้แทนไฟสโตรบหนึ่งหรือสองดวงได้แล้ว ผมยังคิดว่าแฟลชรุ่นนี้ยังสามารถเป็นแฟลชหลักที่น่าเชื่อถือและมีความทนทานสำหรับช่างภาพที่ต้องถ่ายภาพในสถานการณ์ที่ต้องใช้ความเร็วได้อีกด้วย เช่น งานแต่งงานและงานอีเวนต์ต่างๆ และหากคุณต้องถ่ายภาพแบบมาโครเพิ่มด้วย แฟลชรุ่นนี้เพียงอย่างเดียวก็สามารถถ่ายภาพได้ในทุกสถานการณ์แล้ว
Speedlite EL-1 เป็นแฟลชที่ให้ประสิทธิภาพสูง ตราบเท่าที่คุณยินดีลงทุน
Speedlite EL-1: ข้อมูลจำเพาะ
กล้องที่ใช้งานร่วมกันได้: กล้อง EOS ที่รองรับแฟลชอัตโนมัติ E-TTL II/ E-TTL
ค่าไกด์นัมเบอร์สูงสุด (ที่ประมาณ ISO 100): 60 (ที่มุมแฟลช 200 มม.)
ระยะครอบคลุมของแสงแฟลช (ทางยาวโฟกัส 35 มม. เทียบเท่าฟูลเฟรม): 24 ถึง 200 มม. (14 มม. เมื่อใช้แผ่นกระจายแสง)
มุมสะท้อนแสงแฟลช: 120° (ขึ้น), 7° (ลง), 180° (ซ้าย, ขวา)
โหมดการควบคุมระดับแสง: แฟลชอัตโนมัติ E-TTL II/ E-TTL, แฟลชสโตรโบสโคป, ระบบวัดแสงแฟลชภายนอกอัตโนมัติ, ระบบวัดแสงแฟลชภายนอกด้วยตนเอง, โหมดเน้นการถ่ายภาพต่อเนื่อง, การยิงพร้อมกัน
การชดเชยปริมาณแสงแฟลช: ±3 สต็อปในการปรับเพิ่มครั้งละ 1/3 สต็อปหรือ 1/2 สต็อป
ซิงค์ความเร็วสูง: รองรับ
กำลังแสงแฟลชแบบกำหนดเอง: 1/1 ถึง 1/8192 (ในการปรับเพิ่มครั้งละ 1/3 สต็อป)
เวลาในการชาร์จ (โดยประมาณ): 0.1 ถึง 0.9 วินาที (ยิงแฟลชปกติ), 0.1 ถึง 0.8 วินาที (ยิงแฟลชแบบเร็ว)
จำนวนการยิงแฟลช (โดยประมาณ): 225 ถึง 2345
แหล่งจ่ายไฟ: ชุดแบตเตอรี่ LP-EL
ขนาดภายนอก (กว้าง×สูง×ลึก): ประมาณ 84.4 × 149.0 × 136.4 มม.
น้ำหนัก: ประมาณ 572 ก. (เฉพาะตัวแฟลช)
หากไม่แน่ใจว่าต้องพิจารณาสิ่งใดบ้างเมื่อเลือกแฟลช Speedlite ลองอ่านบทความพื้นฐานต่อไปนี้
การเลือกแฟลชเสริม (1): กำลังแสงแฟลช
การเลือกแฟลชเสริม (2): แฟลชสามารถทำอะไรได้อีกบ้าง
หากต้องการไอเดียในการใช้งานแฟลช โปรดอ่านบทช่วยสอนต่อไปนี้:
วิธีถ่ายภาพหยดฝนเพื่อสร้างสรรค์พอร์ตเทรตที่เหนือจริง
[เทคนิคการใช้แฟลช] ถ่ายภาพพอร์ตเทรตยามค่ำคืนในสไตล์ป๊อปอาร์ต
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!