ด้วยวัฒนธรรมและบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงทัศนียภาพอันงดงาม เกาะบาหลีในอินโดนีเซียเป็นสถานที่ยอดนิยมในช่วงวันหยุดสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ เมื่อพูดถึงบาหลี หลายคนอาจนึกถึงชายหาดใสสะอาดและทิวทัศน์ริมชายฝั่งทะเลที่สวยงาม แต่ลองขึ้นบกไปชมนาขั้นบันไดสีเขียวมรกตน่าตื่นตาตื่นใจกันบ้างดีไหม Suta Rahady ช่างภาพที่ประจำอยู่ในบาหลี (@sutarahady) รู้จักนาขั้นบันไดเป็นอย่างดี เขาชื่นชอบนาขั้นบันไดในตอนเช้าเป็นพิเศษ เพราะมีสภาพแสงงดงามที่จุดประกายให้เกิดจินตนาการใหม่ๆ ในบทความนี้ เขาจะมาแบ่งปันภาพถ่ายสวยๆ สองสามภาพที่เขาถ่ายด้วยแสงธรรมชาติทั้งหมด รวมถึงให้คำแนะนำบางอย่างกับเรา (ภาพโดย: Suta Rahady และเรื่องจากประสบการณ์ที่ Suta Rahady ได้เล่าให้ทีมงาน SNAPSHOT ฟัง)
นาขั้นบันไดในบาหลี: ความงดงามทางทัศนียภาพอันลึกซึ้ง
นาขั้นบันไดมีความหมายกับคุณอย่างไร และสถานที่นี้มีความสำคัญต่อบาหลีอย่างไร
นาขั้นบันไดในบาหลีเป็นสถานที่ที่ผมชอบไปถ่ายภาพ ไม่ว่าจะทำงานให้ลูกค้าหรือเพียงแค่ถ่ายภาพเพื่อความสุขส่วนตัว นอกจากทัศนียภาพมุมกว้างที่งดงามตระการตาหรือแสงที่สวยงามและความเงียบสงบโดยเฉพาะในตอนเช้าแล้ว ยังมีอะไรบางอย่างที่พิเศษเกี่ยวกับบรรยากาศ ซึ่งยากที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
บางทีอาจจะเกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงที่ว่านาขั้นบันไดเหล่านี้มีความสำคัญต่อวัฒนธรรมบาหลีมาโดยตลอด ไม่ใช่เพียงเพราะการผลิตข้าวมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและมรดกของเราเท่านั้น แต่นาขั้นบันไดเหล่านี้สร้างขึ้นด้วยระบบชลประทานสุบักแบบดั้งเดิม (ฉบับภาษาอังกฤษ) ซึ่งมีอายุมากกว่า 1,000 ปี และมีพื้นฐานมาจากปรัชญาที่เน้นถึงความกลมกลืนระหว่างมนุษย์ ธรรมชาติ และโลกจิตวิญญาณ ปรัชญาเดียวกันนี้ยังมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวบาหลีอย่างมากอีกด้วย ดังนั้น นาข้าวในบาหลีจึงแสดงถึงความเป็นบาหลีในหลายๆ ด้าน ยิ่งเราเห็นสีเขียวมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นสัญญาณว่าเราไม่ได้อนุรักษ์ไว้เพียงแค่ความงามตามธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวัฒนธรรมอันมั่งคั่งของเราด้วย
ในบาหลีมีนาขั้นบันไดหลายแห่ง แต่ที่สามารถเดินทางมาถึงได้ง่ายที่สุดน่าจะเป็นนาขั้นบันไดเตกัลลาลัง ซึ่งใช้เวลาขับรถไปทางเหนือของอูบุด 20 นาที นั่นเป็นที่ที่ผมถ่ายภาพต่างๆ ในบทความนี้
พระอาทิตย์ ต้นปาล์ม นาข้าว เป็นการผสมผสานที่ลงตัวที่สุด
EOS 5D Mark IV + EF16-35mm f/2.8L II USM ที่ FL: 21 มม., f/4, 1/250 วินาที, ISO 100
ทิวทัศน์และบรรยากาศที่เงียบสงบแต่ดูแปลกตาของสถานที่แห่งนี้ดึงดูดใจผู้คนจำนวนมากที่กำลังมองหาภาพพอร์ตเทรตกลางแจ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพถ่ายคู่รักหรือฮันนีมูน ผมมีลูกค้าเยอะมากที่ขอให้ไปถ่ายภาพที่นาข้าว! สำหรับผมแล้ว แสงอาทิตย์ ต้นปาล์ม และนาข้าวถือเป็นการผสมผสานที่ไม่มีอะไรมาเทียบได้ องค์ประกอบเหล่านี้กลมกลืนกันเป็นอย่างดีและชวนให้นึกถึงความงามในเขตร้อนชื้น ดังนั้นผมจะพยายามรวมทั้งสามสิ่งนี้ไว้ในภาพของผมเสมอ
สิ่งที่ผมให้ความสนใจในภาพนี้
A) เลือกเลนส์มุมกว้าง
B) ตำแหน่งของพระอาทิตย์: ด้านหลังมะพร้าวต้นหลัก
C) จัดให้นายแบบนางแบบอยู่ในตำแหน่งที่ย้อนแสงเพื่อให้ได้แสงจากด้านหลังที่สวยงาม
A) เลนส์ที่ควรใช้ - มุมกว้าง
ภาพหลักถ่ายจากมุมและตำแหน่งที่สูงขึ้นที่ 16 มม. ด้วยเลนส์ EF16-35mm f/2.8L ของผม ซึ่งทำให้ผมสามารถแสดงขนาดของภูมิประเทศและรวมปาล์มต้นหลักไว้ในเฟรมได้ทั้งต้น
แน่นอนว่าที่เตกัลลาลังเต็มไปด้วยโอกาสในการถ่ายภาพที่หลากหลาย ดังนั้น อย่าจำกัดเลนส์ที่คุณตัดสินใจพกติดตัวไปด้วย! เลนส์ที่แตกต่างกันไปให้มุมมองและโอกาสในการถ่ายภาพที่หลากหลาย เลนส์ซูมมาตรฐานก็ใช้ได้ดีเช่นกัน หรือจะเป็นเลนส์เดี่ยวความไวแสงสูงก็ย่อมได้ หากคุณต้องการโบเก้ที่สวยงามสำหรับภาพพอร์ตเทรต
สำหรับการถ่ายภาพคู่รัก ผมมักจะพกเลนส์ต่อไปนี้
- EF16-35mm f/2.8L II USM
- EF35mm f/1.4L II USM
- EF50mm f/1.2L USM (ฉบับภาษาอังกฤษ)
- EF85mm f/1.4L IS USM
สำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์ คุณอาจจะต้องพกเลนส์ซูมเทเลโฟโต้มาด้วย เพื่อจะได้เก็บภาพวิวทิวทัศน์จากอีกฟากหนึ่งของหุบเขา
สิ่งอื่นๆ ที่ควรพกติดตัวไป
- รองเท้าแตะ: นาข้าวอาจเต็มไปด้วยโคลนและเฉอะแฉะโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเหยียบลงไป
- หมวก
- น้ำดื่ม
- ยากันยุง
สำหรับช่างภาพ:
ใส่เสื้อผ้าเรียบง่าย รองเท้าใส่สบาย และแพ็คสัมภาระให้น้อย รองเท้าแตะและกางเกงขาสั้นเป็นชุดที่เหมาะที่สุดสำหรับการเคลื่อนไหวไปมาเพราะอากาศร้อนและอาจเปื้อนโคลนได้
สำหรับผู้ที่จะถูกถ่ายภาพ:
ขึ้นอยู่กับว่าคุณชอบใส่อะไร แต่เสื้อผ้าแบบพลิ้วๆ ดูเหมือนจะเป็นที่นิยม อาจเป็นเพราะเข้ากับบรรยากาศเขตร้อนชื้นที่ดูแปลกตาของสถานที่ ควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษหากใส่ชุดอย่างกางเกงยีนส์ขายาวสีขาวและเสื้อผ้าสีขาวอื่นๆ เพราะอาจสกปรกได้ ผมจะให้คำแนะนำลูกค้าเกี่ยวกับเรื่องนี้เวลาที่เราวางแผนเสื้อผ้าของพวกเขาสำหรับการถ่ายภาพ
B) รูปแบบการจัดแสง - แสงอาทิตย์จากด้านหลังต้นปาล์ม
แสงอาทิตย์มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการถ่ายภาพแบบนี้ ควรตรวจสอบพยากรณ์อากาศก่อนออกเดินทาง คุณต้องอาศัยวันที่มีแดดจัดและท้องฟ้าแจ่มใสเพื่อให้มีรัศมีของแสงอาทิตย์ที่สวยงาม
แสงแดดจะเริ่มสาดส่องผ่านกิ่งก้านของต้นปาล์มประมาณ 45 นาทีหลังจากพระอาทิตย์ขึ้น ดังนั้น ควรไปแต่เช้าและพร้อมถ่ายภาพเมื่อถึงเวลา คุณอาจเห็นทางออนไลน์ว่าเวลาเปิดทำการอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 7.00 น. หรือ 8.00 น. แต่ในความเป็นจริงแล้ว นาขั้นบันไดเปิดตลอด 24 ชั่วโมง อันที่จริง เตกัลลาลังยังเป็นสถานที่ถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นที่ขึ้นชื่ออีกด้วย! มีทางเข้าหลายทางนอกเหนือจากทางเข้าหลัก ดังนั้นหากทางเข้าแรกที่คุณลองไปปิดอยู่ ให้มองหาทางเข้าทางอื่น
ในสภาพแสงที่แตกต่างกัน
EOS 5D Mark IV/ EF35mm f/1.4L II USM ที่ f/1.8, 1/500 วินาที, ISO 100
แม้ว่าจะไม่ใช่เวลาที่มีแฉกแสง แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ในการถ่ายภาพอีกมากมาย ภาพนี้ถ่ายในช่วงเช้าตรู่ของวันในสภาพแสงที่มีความสม่ำเสมอมากกว่า ทำให้ได้อารมณ์ที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ผมต้องการอะไรที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าภาพหลัก ดังนั้น ผมจึงไม่ได้จัดท่าทางของคู่รักคู่นี้มากนัก
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพดังกล่าว
พระอาทิตย์ขึ้นประมาณ 6.10 น. ในช่วงต้นปี และจะค่อยๆ เร็วขึ้น สำหรับในเดือนตุลาคม พระอาทิตย์จะขึ้นก่อน 6.00 น. ผู้คนเริ่มจะพลุกพล่านประมาณช่วงสายๆ จนถึงใกล้เที่ยง ในช่วงกลางวัน ความร้อนและแดดอาจแรงถึงขั้นเดินไปรอบๆ ไม่ไหว!
ช่วงเวลาของปีที่ควรจะไปเพื่อให้เจอทุ่งเขียวขจี
ไม่ว่าคุณจะไปช่วงไหนของปี ก็จะมีทุ่งบางส่วนที่เขียวขจีและทุ่งส่วนอื่นๆ ที่อยู่ในระยะต่างๆ ของวัฏจักรการเก็บเกี่ยว ซึ่งก็คือ 3 ถึง 4 เดือนนับตั้งแต่ช่วงที่ปลูกจนถึงช่วงที่เก็บเกี่ยวข้าว ไม่มีฤดูปลูกหรือฤดูเก็บเกี่ยวข้าวที่แน่นอน เพราะจะขึ้นอยู่กับเกษตรกร
ช่วงเดือนที่เป็นฤดูฝนและสิ่งที่ควรระมัดระวัง
เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมจะเป็นฤดูแล้ง ในขณะที่เดือนธันวาคมและกุมภาพันธ์จะเป็นช่วงที่มีฝนตกชุกที่สุด หากคุณเดินทางมาเที่ยวหลังฝนตก ทางเดินอาจเต็มไปด้วยโคลนและลื่นมาก!
C) ตำแหน่งที่นายแบบนางแบบควรยืน - จุดที่มีแสงย้อนจากด้านหลัง
เวลาที่ผมถ่ายภาพท่ามกลางธรรมชาติ ผมมักจะใช้เพียงแสงธรรมชาติและไม่ค่อยใช้แฟลช ตราบใดที่คุณรู้ตำแหน่งของพระอาทิตย์และวิธีจัดตำแหน่งนายแบบนางแบบหรือกล้องเพื่อใช้ประโยชน์จากพระอาทิตย์ ก็ย่อมมีโอกาสมากมายในการถ่ายภาพ!
ครอปจากภาพหลัก
แสงย้อนจากพระอาทิตย์ที่เล็ดลอดผ่านใบไม้ของต้นปาล์มทำให้เกิดแสงจากด้านหลัง ซึ่งทำให้คู่รักดูโดดเด่นออกมาจากแบ็คกราวด์มากยิ่งขึ้น สังเกตว่าแสงจากด้านหลังช่วยให้เห็นเค้าโครงของผมและเสื้อผ้า ซึ่งทำให้พวกเขาดูเปล่งประกาย และในช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ยังช่วยดึงความสนใจไปที่แขนของผู้ชายขณะเอื้อมมือไปจับมือคู่รัก ซึ่งเป็นการเพิ่มความน่าประทับใจให้กับภาพ
อารมณ์ที่ผมตั้งใจจะสร้างในภาพถ่ายนั้นขึ้นอยู่กับลูกค้าที่ผมทำงานให้ หากเป็นคู่รักกัน ผมจะชอบเก็บภาพความสุขที่แท้จริงและช่วงเวลาที่ดูเป็นธรรมชาติ ดังนั้น ผมจึงมักให้คำแนะนำกว้างๆ แล้วให้ลูกค้าจัดท่าทางกันเอง แต่แน่นอนว่าลูกค้าบางคนก็เขินอายแบบสุดๆ ผมจะล้อเล่นกับพวกเขาเพื่อสร้างอารมณ์ให้ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น แต่ผมก็ยังโพสท่าของตัวเองไปด้วยเพื่อที่จะได้จัดท่าทางพวกเขาได้หากจำเป็น โดยผมได้ไอเดียการโพสท่าจากหลายๆ ที่อย่าง Pinterest
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
การโพสท่างานแต่งงานพื้นฐานแต่ดูดีสำหรับกำกับลูกค้าที่ประหม่า
3 เคล็ดลับเพื่อยกระดับการถ่ายทอดเรื่องราวในงานแต่งงาน
หมายเหตุเกี่ยวกับการปรับแต่งภาพ
เมื่อปรับแต่งภาพ RAW จากภาพที่ผมถ่ายได้ ผมจะให้ความสำคัญกับสีและโทนสีเพื่อให้ภาพดูมีความตระการตา ผมตั้งค่าบางอย่างเองไว้ล่วงหน้าสำหรับฉากที่ผมถ่ายบ่อยๆ ซึ่งรวมถึงฉากที่ส่วนใหญ่เป็นสีเขียวอย่างเช่นที่นี่ ผมใช้การตั้งค่าเหล่านี้ แล้วค่อยๆ ทำการปรับตามความจำเป็นสำหรับแต่ละภาพ
แต่ละภาพจะมีความแตกต่างกันไป และขึ้นอยู่กับสไตล์ที่ผมต้องการแสดงให้เห็นด้วย ตัวอย่างเช่น หากลูกค้าชอบภาพที่ดูสะอาดตา ผมจะเพิ่มความสว่างให้กับท้องฟ้า เพิ่มการเปิดรับแสง รวมถึงปรับให้เงาและส่วนที่เป็นสีดำดูสว่างขึ้น
ภาพที่ไม่ผ่านการปรับแต่งจากฉากเดียวกัน โดยเปิดรับแสงเพื่อเก็บรายละเอียดรัศมีของแสงอาทิตย์
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
ปรับแต่งภาพถ่ายใน 3 นาที: แสงอาทิตย์ที่น้ำตก
เคล็ดลับเกี่ยวกับสถานที่จาก Suta
- ตื่นนอนและไปถึงสถานที่ถ่ายภาพแต่เช้าตรู่ วิธีนี้จะช่วยให้คุณมีเวลาเดินไปรอบๆ และหามุมต่างๆ สำหรับการถ่ายภาพ มีป้ายบอกชัดเจนอยู่ทุกๆ ที่ ดังนั้น การเดินทางไปยังจุดถ่ายภาพที่มีชื่อเสียงจึงเป็นเรื่องง่ายพอสมควร
- คุณยังสามารถบินโดรนเพื่อรับมุมมองแบบบรรยากาศอันน่าทึ่งได้ แต่ต้องระวังต้นปาล์มรอบๆ ด้วย!
- ให้ความเคารพต่อวิถีชีวิตท้องถิ่น นาขั้นบันไดอาจเป็นแหล่งท่องเที่ยวก็จริง แต่สถานที่แห่งนี้ก็ยังเป็นที่ทำนาและเป็นแหล่งทำมาหากินของเกษตรกรในท้องถิ่นด้วย
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ: นาขั้นบันไดเตกัลลาลัง
นาขั้นบันไดเตกัลลาลังเป็นแหล่งมรดกโลกที่ได้รับคัดเลือกจากองค์การยูเนสโก (ฉบับภาษาอังกฤษ) และใช้ระบบชลประทานสุบักแบบดั้งเดิม ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในศตวรรษที่ 8
- อุณหภูมิ: ที่นี่ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 600 เมตร มีอากาศเย็นกว่าระดับพื้นดินเล็กน้อย อุณหภูมิเฉลี่ยในตอนกลางวัน: 26 องศาเซลเซียส
- การเดินทาง: ใช้เวลาขับรถไปทางเหนือของอูบุดประมาณ 20 นาที สามารถเดินทางด้วยแท็กซี่ รถเช่า หรือสกูตเตอร์ก็ได้ ถนนส่วนใหญ่เป็นทางตรง
- ค่าเข้าชม: ประมาณ 10,000 รูเปีย ณ เวลาที่เผยแพร่บทความนี้
ราคานี้ไม่รวมการเข้าถึงนาขั้นบันไดทั้งหมดเนื่องจากทางเดินหลายแห่งเป็นทางไปพื้นที่ส่วนบุคคล เกษตรกรท้องถิ่นอาจขอเงินบริจาคเล็กน้อยก่อนที่จะอนุญาตให้คุณเข้าไปในทุ่งนา อย่าลืมพกเหรียญเล็กๆ น้อยๆ ติดตัวไปเพื่อการบริจาค
---
หากคุณกำลังมองหาจุดถ่ายภาพ/คำแนะนำในการเดินถ่ายภาพที่สถานที่ท่องเที่ยวในช่วงวันหยุด ต่อไปนี้คือสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งที่น่าไปสำรวจ พร้อมคำแนะนำและเคล็ดลับจากช่างภาพคนอื่นๆ ที่คุ้นเคยกับสถานที่นั้นๆ!
#สวัสดีจากสิงคโปร์: การถ่ายภาพสถาปัตยกรรมจาก 3 ยุคในเตียงบาห์รู
#สวัสดีจากฮ่องกง: ทิวทัศน์ตระการตาจากยอดเขาที่สูงที่สุดของฮ่องกง
2 จุดถ่ายภาพฤดูหนาวอันงดงามในฮอกไกโด
จุดถ่ายภาพใบไม้เปลี่ยนสีในประเทศญี่ปุ่น: 2 สถานที่ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก
เกี่ยวกับผู้เขียน
Suta เป็นช่างภาพมืออาชีพที่เกิด เติบโต และอาศัยอยู่ในบาหลี เขาชื่นชอบการเก็บภาพช่วงเวลาที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติทั่วบาหลีและพื้นที่อื่นๆ ในอินโดนีเซีย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพพอร์ตเทรต การขอแต่งงาน งานหมั้น งานแต่ง หรือภาพฮันนีมูน ทิวทัศน์ ไลฟ์สไตล์ หรือภาพอะไรก็ตามที่พอจะนึกได้ เวลาถ่ายภาพผู้คน เขาจะพยายามสร้างความสัมพันธ์ที่จริงใจเพราะเขาเชื่อว่าวิธีนี้จะเพิ่มเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้กับภาพทุกภาพ
เว็บไซต์: https://www.sutarahady.com/
อินสตาแกรม: @sutarahady