การทำความรู้จักระบบควบคุมและฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้อง DSLR เป็นขั้นตอนแรกสู่การถ่ายภาพที่เหนือไปกว่าการเล็งแล้วถ่ายแบบง่ายๆ ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับส่วนต่างๆ ที่สำคัญของกล้องและประโยชน์ใช้งาน (เรื่องโดย: Ryosuke Takahashi)
ด้านหน้า
F1: ปุ่มชัตเตอร์

กดปุ่มนี้เพื่อลั่นชัตเตอร์ การกดปุ่มชัตเตอร์มี 2 จังหวะคือ กดปุ่มลงครึ่งหนึ่งเพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชั่น AF และกดลงจนสุดเพื่อลั่นชัตเตอร์
F2: ไฟลดตาแดง/ตัวตั้งเวลา

ฟังก์ชั่นลดตาแดง: หากเปิดใช้งาน ฟังก์ชั่นลดตาแดง ในกล้อง การกดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งจะทำให้ไฟดวงนี้สว่างขึ้นเมื่อใช้แฟลชติดกล้อง
ตัวตั้งเวลา: เมื่อคุณตั้งค่าตัวตั้งเวลา ไฟดวงนี้จะกะพริบตามระยะเวลาที่ตั้งไว้จนกว่าจะถ่ายภาพ
F3: เมาท์ของเลนส์

ส่วนนี้ใช้เพื่อยึดเลนส์แบบถอดเปลี่ยนได้เข้ากับตัวกล้อง ในการใส่เลนส์ คุณต้องวางดัชนีสำหรับติดตั้งเลนส์ (ดู F3) บนเลนส์ให้ตรงกับดัชนีที่สอดคล้องกันบนเมาท์ของเลนส์ จากนั้นหมุนเลนส์ตามเข็มนาฬิกาจนได้ยินเสียงคลิก
F4: ดัชนีสำหรับติดตั้งเลนส์

ใส่เลนส์โดยให้ตั้งแนวเครื่องหมายสีแดงบนตัวกล้องตรงกับเครื่องหมายบนตัวเลนส์
ดัชนีสีแดง: สำหรับเลนส์ EF (สามารถใช้ได้ทั้งกับกล้องฟูลเฟรมและ DSLR ขนาด APS-C ของ Canon)
ดัชนีสีขาว: สำหรับเลนส์ EF-S (สามารถใช้ได้กับกล้อง DSLR ขนาด APS-C ของ Canon)
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเลนส์แบบต่างๆ รวมถึงแนวคิดสำคัญเกี่ยวกับเลนส์ได้ใน:
จุดโฟกัส: พื้นฐานเกี่ยวกับเลนส์
F5: ปุ่มปลดเลนส์

กดปุ่มนี้เมื่อต้องการถอดเลนส์ สลักล็อคเลนส์จะคลายออกเมื่อกดปุ่มนี้ ทำให้คุณหมุนเลนส์ได้อย่างไม่ติดขัด ก่อนถ่ายภาพ ให้ล็อคเลนส์อยู่กับที่โดยการหมุนเลนส์เข้าตำแหน่งจนได้ยินเสียงคลิก
F6: กระจก

กระจกถือเป็นจุดเด่นของกล้อง DSLR เพราะจะสะท้อนแสงจากเลนส์ไปยังช่องมองภาพ ช่วยให้ช่างภาพมองเห็นภาพผ่านช่องมองภาพได้ทันที กระจกจะดีดตัวขึ้นทันทีก่อนลั่นชัตเตอร์ (ถ่ายภาพ)
F7: ไมโครโฟน

นี่คือไมโครโฟนในตัวกล้องสำหรับบันทึกเสียงในระหว่างถ่ายภาพเคลื่อนไหว ไมโครโฟนที่ใช้อาจเป็นแบบช่องเดี่ยวหรือสเตอริโอ ขึ้นอยู่กับรุ่นของกล้อง
F8: แฟลชติดกล้อง

คุณสามารถยิงแสงไฟแฟลชเพื่อการถ่ายภาพในสถานที่ที่มีแสงน้อยได้ เมื่อจำเป็น ในบางโหมด แฟลชอาจเปิดทำงานขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ
ต่อไปนี้คือบทช่วยสอนเกี่ยวกับวิธีใช้แฟลชติดกล้องเพื่อสร้างเอฟเฟ็กต์ที่น่าสนใจ:
เทคนิคการใช้แฟลช #1: วิธีจัดการกับเงาที่เด่นชัดซึ่งเกิดจากแสงย้อน
เทคนิคการใช้แฟลช #6: วิธีสร้างวงกลมโบเก้ที่น่ามหัศจรรย์ในวันที่ฝนตก
การแสดงผลบนช่องมองภาพ
V1: จุด AF
ระบุตำแหน่งของโฟกัส ระหว่างการถ่ายภาพในโหมด AF (โฟกัสอัตโนมัติ) จุด AF ที่เลือกจะอยู่ในกรอบสีแดง คุณสามารถเลือกจุด AF แบบอัตโนมัติหรือกำหนดเองก็ได้
V2: ความเร็วชัตเตอร์
ระบุระยะเวลาในการเปิดชัตเตอร์ ค่าความเร็วชัตเตอร์จะแสดงในรูปแบบ "1/พารามิเตอร์" อย่างไรก็ตาม ในช่องมองภาพจะแสดงเฉพาะค่าพารามิเตอร์ การเพิ่มค่าพารามิเตอร์จะลดช่วงเวลาการเปิดชัตเตอร์ให้สั้นลง ความเร็วชัตเตอร์ที่ช้ากว่า 1/4 วินาที จะแสดงดังนี้ เช่น 0''3, 0''4, 0''5, 0''6, 0''8, 1'' หรือ 1''3 ในกรณีนี้ 1"3 หมายถึง 1.3 วินาที
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเร็วชัตเตอร์ได้ที่: พื้นฐานเกี่ยวกับกล้อง #2: ความเร็วชัตเตอร์
V3: ค่ารูรับแสง
ค่านี้ระบุขอบเขตที่ม่านรูรับแสงภายในเลนส์เปิด ค่าตัวเลขยิ่งน้อย หมายถึง รูรับแสงยิ่งเปิดกว้างขึ้น แสงเข้ามาได้มากขึ้น ช่วงค่ารูรับแสงที่เลือกได้จะต่างกันไปตามเลนส์ที่ใช้
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูรับแสงได้ที่: พื้นฐานเกี่ยวกับกล้อง #1: รูรับแสง
V4: ความไวแสง ISO
การตั้งค่าความไวแสง ISO จะเปลี่ยนไปทันทีที่เลือกการตั้งค่าเป็นอัตโนมัติ ค่าความไวแสง ISO สูงๆ จะช่วยให้ถ่ายภาพในสถานที่ที่มีแสงน้อยได้ง่ายขึ้น
คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับความไวแสง ISO ได้ใน: พื้นฐานเกี่ยวกับกล้อง #5: ความไวแสง ISO
ด้านหลัง
R1: ยางรองตา

ยางรองตาจะป้องกันไม่ให้แสงจากภายนอกเข้ามาที่ตาของคุณ ขณะที่กำลังมองผ่านเลนส์ใกล้ตา ยางรองตาทำจากวัสดุที่อ่อนนุ่มเพื่อให้ความสบายกับดวงตาและหน้าผาก
R2: เลนส์ใกล้ตาที่ช่องมองภาพ

เลนส์ใกล้ตาที่ช่องมองภาพคือหน้าต่างจอเล็กในกล้องที่คุณสามารถมองผ่านเข้าไปเพื่อจัดองค์ประกอบภาพและจับโฟกัสที่ตัวแบบได้ เมื่อถ่ายภาพโดยใช้ช่องมองภาพ แสงจากภายนอกจะลดลง คุณจึงมุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ตัวแบบที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างเต็มที่ ซึ่งช่วยให้ง่ายต่อการติดตามตัวแบบที่กำลังเคลื่อนไหว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่องมองภาพได้ที่นี่: พื้นฐานเกี่ยวกับกล้อง #12: ช่องมองภาพ
R3: หน้าจอ LCD

นอกจากการตั้งค่าถ่ายภาพตามที่แสดงในภาพนี้แล้ว หน้าจอ LCD ยังแสดงภาพที่ถ่ายไว้ รวมทั้งข้อมูลต่างๆ เช่น เมนู ได้เช่นกัน ทั้งนี้ คุณสามารถขยายภาพที่แสดงเพื่อตรวจดูรายละเอียดต่างๆ ได้ กล้องบางรุ่นมีหน้าจอ LCD แบบปรับหมุนได้ ทำให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนมุมของหน้าจอในระหว่างการถ่ายภาพ Live View ซึ่งจะทำให้การถ่ายภาพมุมต่ำหรือมุมสูงง่ายขึ้น
R4: ปุ่ม MENU

ใช้ปุ่มนี้เพื่อแสดงหน้าจอเมนู สำหรับการปรับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้อง หลังจากเลือกรายการเมนูแล้ว คุณจะสามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่ารายละเอียดต่างๆ ที่มีอยู่ในกล้องได้
R5: ปุ่ม Playback

ปุ่มนี้มีไว้สำหรับเปิดดูภาพที่ถ่ายแล้ว การกดปุ่มจะแสดงภาพล่าสุดที่คุณถ่ายหรือเปิดดูบนหน้าจอ LCD
R6: ไฟ Wi-fi

ไฟนี้จะแสดงสถานะการเชื่อมต่อแบบไร้สาย
ไฟสว่าง: เชื่อมต่อ Wi-fi แล้ว
ไฟกะพริบ: กล้องกำลังรอการเชื่อมต่อ/การเชื่อมต่อใหม่
ไฟกะพริบอย่างรวดเร็วเป็นครั้งคราว: เกิดข้อผิดพลาดในการเชื่อมต่อ
ไฟกะพริบอย่างรวดเร็ว: กำลังส่ง/รับข้อมูล
R7: ไฟแสดงการเข้าใช้ข้อมูล

ไฟนี้จะกะพริบเมื่อมีการถ่ายโอนข้อมูลภาพระหว่างกล้องและการ์ดหน่วยความจำ ห้ามเปิดฝาปิดช่องบรรจุแบตเตอรี่หรือการ์ดขณะที่ไฟติดอยู่ เพราะอาจทำให้กล้องทำงานผิดปกติได้
R8: ปุ่ม SET/Multi-controller

ปุ่ม Multi-controller คือปุ่มสี่ทิศทางที่ช่วยให้คุณสามารถ:
- เลื่อนรายการเมนูต่างๆ
- เลื่อนภาพขยายไปยังจุดต่างๆ ในระหว่างที่ดูภาพ
- เลื่อนตำแหน่งจุด AF ในระหว่างที่เลือกจุด AF
ในโหมดถ่ายภาพ ฟังก์ชั่นของปุ่มนี้จะเปลี่ยนไปตามไอคอนที่ระบุไว้ และปุ่ม SET จะช่วยยืนยันการเลือก
R9: ปุ่มตั้งค่าความไวแสง ISO

กดปุ่มนี้เพื่อปรับความไวแสงของกล้อง ความไวแสง ISO เป็นมาตรฐานสากลที่กำหนดตามความไวแสงของฟิล์มเนกาทีฟ
R10: ปุ่ม Quick Control

การกดปุ่มนี้จะแสดงหน้าจอ Quick Control (อธิบายเพิ่มเติมไว้ในส่วน "การตั้งค่าบนหน้าจอ Quick Control") ซึ่งช่วยให้คุณสามารถยืนยันการตั้งค่าต่างๆ ของกล้องได้ทันที แล้วจึงปรับตามต้องการ
R11: ปุ่มแสดงข้อมูล

เมื่อกดปุ่ม DISP คุณสามารถ:
- เปิด/ปิดหน้าจอ
- เปลี่ยนการแสดงข้อมูลต่างๆ ในโหมดดูภาพ/ภาพเคลื่อนไหว และระหว่างถ่ายภาพ Live View
- แสดงการตั้งค่าฟังก์ชั่นหลักของกล้องเมื่อแสดงเมนู
R12: ปุ่มลบ

ใช้ปุ่มนี้เพื่อลบภาพที่ไม่ต้องการ
R13: ปุ่มเลือกจุดโฟกัสอัตโนมัติ

ใช้ปุ่มนี้เพื่อเข้าสู่โหมดเลือกจุด AF (โฟกัสอัตโนมัติ) ในระหว่างการถ่ายภาพด้วย AF จากนั้น คุณสามารถเลือกจุด AF ใดก็ได้ด้วยตนเองโดยใช้ปุ่ม Multi-controller
R14: ปุ่มเปลี่ยนโหมดการถ่ายภาพ Live View/การถ่ายภาพเคลื่อนไหว

ใช้ปุ่มนี้เพื่อเปิดหรือปิดฟังก์ชั่น Live View การกดปุ่มนี้หนึ่งครั้งจะแสดงภาพ Live View บนหน้าจอ LCD และกล้องจะเตรียมพร้อมสำหรับการถ่ายภาพ Live View เมื่อต้องการบันทึกภาพเคลื่อนไหว ตั้งค่าโหมดถ่ายภาพไปที่ "การถ่ายภาพเคลื่อนไหว" บนวงแหวนเลือกโหมด (T6) แล้วกดปุ่มนี้เพื่อเริ่มบันทึก กดอีกครั้งเมื่อต้องการหยุด
R15: ปุ่มปรับแก้สายตา

ใช้ปุ่มนี้เพื่อปรับความชัดของช่องมองภาพให้ตรงกับสายตาของคุณ เมื่อต้องการปรับ ให้หมุนปุ่ม พร้อมกับมองผ่านช่องมองภาพไปด้วย
การตั้งค่าบนหน้าจอ Quick Control
QC1: โหมดการถ่ายภาพ

แสดงข้อความหรือไอคอนตามโหมดการถ่ายภาพที่คุณเลือกเมื่อคุณหมุนแหวนปรับโหมด
QC2: ความเร็วชัตเตอร์

แสดงระยะเวลาที่เปิดชัตเตอร์ การเพิ่มค่าพารามิเตอร์จะลดช่วงเวลาการเปิดชัตเตอร์ให้สั้นลง
QC3: ระดับแบตเตอรี่

กล้องจะแสดงระดับแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ด้วยรูปไอคอน ภาพนี้แสดงสถานะเมื่อแบตเตอรี่เต็ม และจะเปลี่ยนไปเมื่อระดับแบตเตอรี่ลดลง
QC4: จำนวนภาพที่ยังถ่ายได้

เป็นการบ่งบอกจำนวนภาพที่ยังถ่ายได้ จำนวนนี้จะเปลี่ยนไปตามความจุของการ์ดความจำที่ใช้ รวมถึงคุณภาพการบันทึกภาพที่เลือกด้วย
QC5: รูปแบบ/คุณภาพการบันทึกภาพ

จะแสดงคุณภาพการบันทึกภาพที่เลือกไว้ในปัจจุบัน ภาพไอคอนนี้เป็นการระบุว่าได้ตั้งค่ากล้องให้บันทึกภาพในรูปแบบ JPEG ขนาดใหญ่
QC6: ความไวแสง ISO

ค่าความไวแสง ISO สูงๆ จะช่วยให้ถ่ายภาพในสถานที่ที่มีแสงน้อยได้ง่ายขึ้น โดยทั่วไป ค่า ISO 100 นั้นคือค่ามาตรฐาน ในการตั้งค่า ISO อัตโนมัติ กล้องจะเลือกค่าที่เหมาะที่สุดโดยอัตโนมัติตามแต่ฉากที่ถ่าย และคุณยังสามารถเลือกที่จะตั้งค่าความไวแสง ISO ได้ด้วยตนเอง
QC7: ค่ารูรับแสง

ค่านี้ระบุขอบเขตที่ม่านรูรับแสงภายในเลนส์เปิด ค่าตัวเลขยิ่งน้อย หมายถึง รูรับแสงยิ่งเปิดกว้างขึ้น แสงเข้ามาได้มากขึ้น ค่ารูรับแสงเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า ค่า f ซึ่งจะเปลี่ยนไปตามเลนส์ที่ใช้
ด้านบน
T1: สวิตช์เปลี่ยนโหมดโฟกัส

ใช้สวิตช์นี้ในการตั้งค่าโหมดโฟกัสไปที่โฟกัสอัตโนมัติ (AF) หรือแมนนวลโฟกัส (MF)
T2: ลำโพง

เสียงจากภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกสามารถเปิดฟังผ่านลำโพงได้ ระหว่างที่เล่นภาพเคลื่อนไหว ล้อควบคุมหลักจะใช้เพื่อปรับระดับเสียง ไม่เพียงเท่านั้น คุณยังสามารถเลือกและเปิดเล่นเสียงดนตรีแบ็คกราวด์จากหน้าจอเมนูได้อีกด้วย
T3: จุดยึดสายคล้อง

ดึงปลายสายคล้องผ่านช่องของหูยึด ล็อคให้แน่น และดูให้แน่ใจว่าปลายสายทั้งสองข้างสมดุลกัน
T4: ฐานเสียบแฟลช

นี่เป็นขั้วสำหรับติดตั้ง อุปกรณ์แฟลชเสริม ข้อมูลจะถูกถ่ายโอนระหว่างกล้องกับอุปกรณ์แฟลชผ่านทางหน้าสัมผัส ควรดูแลรักษาหน้าสัมผัสให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถยิงแสงแฟลชได้อย่างถูกต้องเมื่อต้องการใช้งาน
T5: สวิตช์ปิดเปิด

ใช้สวิตช์นี้สำหรับเปิดและปิดกล้อง เมื่อเปิดกล้องทิ้งไว้ระยะหนึ่ง กล้องจะเปลี่ยนเป็นโหมดสแตนด์บายโดยอัตโนมัติเพื่อรักษาแบตเตอรี่ สำหรับกล้องบางรุ่น สวิตช์ปิดเปิดจะมาพร้อมกับไอคอนภาพเคลื่อนไหวตามที่เห็นจากภาพตัวอย่าง ซึ่งคุณจะสามารถเปลี่ยนเป็นโหมดการถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้โดยตรง
T6: วงแหวนปรับโหมด

หมุนวงแหวนนี้เพื่อเลือกโหมดตามฉากที่คุณต้องการถ่าย โหมดการถ่ายภาพจะแบ่งเป็นสองโซนหลัก ได้แก่ Creative Zone และ Basic Zone
A: Creative Zone
โหมดการถ่ายภาพใน Creative Zone ช่วยให้ผู้ใช้เลือกและตั้งค่าฟังก์ชั่นตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไว้
B: Basic Zone
โหมดการถ่ายภาพใน Basic Zone กล้องจะเลือกการตั้งค่าที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ ตามฉากที่เลือกไว้
T7: ปุ่มแฟลช

ใช้ปุ่มนี้เพื่อเปิดแฟลชในตัวกล้องให้ดีดขึ้น ขณะใช้งานโหมด Basic Zone ในบางกรณีแฟลชในตัวจะดีดขึ้นอัตโนมัติ ตามฟังก์ชั่นที่ใช้
T8: วงแหวนควบคุมหลัก

นี่เป็นล้อเลื่อนอเนกประสงค์ที่ให้คุณจัดการงานต่างๆ เช่น ปรับการตั้งค่าการถ่ายภาพ (ปกติ ได้แก่ รูรับแสง/ความเร็วชัตเตอร์/ค่าชดเชยแสง) และเปิดข้ามภาพถ่ายที่เปิดดู
T9: วงแหวนซูม

หมุนวงแหวนซูมเพื่อปรับเปลี่ยนทางยาวโฟกัส ทางยาวโฟกัสที่เลือกสามารถดูได้จากตัวเลขหรือเครื่องหมายดัชนีบนขอบล่างของเลนส์
T10: วงแหวนโฟกัส

เมื่อกล้องอยู่ในโหมดแมนนวลโฟกัส (MF) ให้หมุนวงแหวนนี้เพื่อปรับโฟกัส ตำแหน่งของวงแหวนโฟกัสจะเปลี่ยนไปตามเลนส์ที่ใช้
ด้านข้าง
S1: ช่องต่อรีโมทคอนโทรล, ช่องต่อ Audio/Video OUT/Digital, ช่องต่อ HDMI Mini OUT, เครื่องหมาย N

A: ช่องต่อรีโมทคอนโทรล
ช่องต่อนี้ใช้สำหรับเชื่อมต่อกล้องกับอุปกรณ์ภายนอก ก่อนจะเชื่อมต่อ ควรตรวจสอบว่าอุปกรณ์นั้นๆ ใช้งานกับกล้องได้ แล้วจึงเชื่อมต่ออุปกรณ์อย่างถูกต้อง
B: ช่องต่อ Audio/Video OUT/Digital
C: ช่องต่อ HDMI Mini OUT
ช่องต่อเหล่านี้ใช้สำหรับต่อเอาต์พุตออกไปยังเครื่องโทรทัศน์และถ่ายโอนข้อมูล รวมถึงสำหรับการต่อเอาต์พุต HDMI Mini
D: เครื่องหมาย N
เมื่อแตะเครื่องหมาย N กับสมาร์ทโฟนที่รองรับ NFC จะเริ่มการจับคู่กล้องกับสมาร์ทโฟน
ด้านล่าง
B1: ช่องใส่การ์ด ช่องบรรจุแบตเตอรี่

ช่องบรรจุแบตเตอรี่
บรรจุแบตเตอรี่ที่มาพร้อมกล้องที่ช่องนี้ ใส่แบตเตอรี่โดยให้ขั้วแบตเตอรี่หันเข้าด้านในบอดี้กล้อง
ช่องใส่การ์ด
เสียบการ์ดหน่วยความจำสำหรับบันทึกภาพเข้าไปที่ช่องนี้ ชนิดของการ์ดที่ใช้ได้จะแตกต่างกันไปตามรุ่นของกล้อง
B2: รูยึดขาตั้งกล้อง

รูด้านล่างของบอดี้กล้องมีไว้สำหรับยึดกล้องเข้ากับขาตั้งกล้อง ในกล้อง DSLR แทบทุกรุ่น รูนี้จะพอดีกับขนาดของเส้นเกลียวสลักตามมาตรฐาน 1/4-20 UNC ซึ่งใช้กันในขาตั้งกล้องที่มีขายทั่วไป
ที่กล่าวมาทั้งหมดคือส่วนประกอบสำคัญของกล้อง DSLR และประโยชน์ใช้งาน ขั้นต่อไปก็คือเริ่มการถ่ายภาพ โปรดดูเคล็ดลับและบทช่วยสอนของเราสำหรับไอเดียเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเริ่มต้นในเมนูด้านล่าง และหากต้องการอ่านแนวคิดและทฤษฎีที่สำคัญต่างๆ คุณยังสามารถดูบทความต่อเนื่องเกี่ยวกับพื้นฐานเกี่ยวกับกล้องหรือพื้นฐานเกี่ยวกับเลนส์ได้
ขอให้มีความสุขกับการถ่ายภาพครับ!
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!
เกี่ยวกับผู้เขียน
เกิดที่จังหวัดไอชิเมื่อปี 1960 Takahashi เริ่มทำงานอิสระในปี 1987 หลังจากทำงานในสตูดิโอถ่ายภาพโฆษณาและสำนักพิมพ์ นอกจากถ่ายภาพสำหรับงานโฆษณาและนิตยสารทั้งในและนอกญี่ปุ่นแล้ว เขายังทำหน้าที่เป็นนักรีวิวให้กับ "Digital Camera Magazine" นับตั้งแต่นิตยสารเปิดตัว ตลอดจนตีพิมพ์ผลงานต่างๆ มากมาย ในส่วนของการรีวิวผลิตภัณฑ์และเลนส์ Takahashi เน้นให้คำแนะนำเกี่ยวกับเทคนิคการถ่ายภาพที่ดึงประสิทธิภาพการทำงานของเลนส์ออกมาผ่านมุมมองและการทดสอบเฉพาะตัวของเขาเอง ไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก และเขาก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งของ Japan Professional Photographers Society (JPS) ด้วย