จุดถ่ายภาพใบไม้เปลี่ยนสีในประเทศญี่ปุ่น: 2 สถานที่ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก
สีสันที่จัดจ้านของใบไม้เปลี่ยนสีทำให้เกิดทัศนียภาพที่มีความงดงามควรค่าแก่การชื่นชมและถ่ายภาพ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีจุดชมวิวสีสันสวยงามมากมาย บางแห่งมีชื่อเสียงโด่งดังไปไกลถึงต่างประเทศ แต่สำหรับช่างภาพที่มองหาสถานที่ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก (และอาจมีคนไปเยือนไม่มาก) เราขอแนะนำจุดถ่ายภาพ 2 แห่งที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ และเคล็ดลับบางประการในการเก็บภาพสวยๆ จากสถานที่เหล่านี้กัน (เรื่องโดย: Michiko Kaneko, Takashi Nishikawa)
1. วนอุทยาน Kannon-numa (จังหวัดฟุกุชิมะ)
EOS 5D Mark III/ EF70-200mm f/2.8L IS USM / FL: 78 มม./ Aperture-priority AE (f/13, 1/5 วินาที, EV+0.7)/ ISO 200/ WB: แสงแดด
ภาพโดย: Michiko Kaneko
ช่วงที่เหมาะแก่การชมมากที่สุด: กลางเดือนตุลาคม / เวลาที่ถ่ายภาพ: 9:30 น.
ภาพสะท้อนของใบไม้เปลี่ยนสีให้ฉากที่สวยงามราวกับภาพวาดสีน้ำมัน
ในวนอุทยาน Kannon-numa (แปลตรงตัวคือ “วนอุทยานบึงพระแม่กวนอิม”) มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นหมู่เกาะขนาดเล็กลอยอยู่รอบบึง ภาพของใบไม้เปลี่ยนสีที่สะท้อนบนผิวน้ำของบึงก่อให้เกิดภาพที่งดงามตระการตา ผมจัดวางตำแหน่งของภาพเพื่อให้ต้นไม้และภาพสะท้อนของใบไม้เปลี่ยนสีในน้ำอยู่ในเฟรมภาพ และใช้ทางยาวโฟกัส 78 มม. เพื่อให้ส่วนหนึ่งของภาพที่ผมรู้สึกว่ามีองค์ประกอบสมดุลที่สุดรวมอยู่เฟรมภาพด้วย แม้ว่าแสงจะค่อนข้างสม่ำเสมอ แต่ฉากดูมืดไปเล็กน้อย ผมจึงตั้งค่าการชดเชยแสงไว้ที่ EV+0.7
เทคนิค: สร้างภาพแนวแอ็บสแทร็กต์โดยนำเฉพาะองค์ประกอบทางกายภาพและภาพสะท้อนมาไว้ในเฟรมภาพเท่านั้น
การถ่ายภาพข้างต้นโดยใช้มุมรับภาพที่ 78 มม. ช่วยให้ผมสามารถวางตำแหน่งเฟรมโดยมีใบไม้เปลี่ยนสีและภาพสะท้อนบนผิวน้ำปรากฏในภาพ ผมถ่ายภาพนี้โดยเก็บเฉพาะสีสันอันละลานตาของใบไม้ร่วง และสีที่สะท้อนบนผิวน้ำแบบกลับหัวไว้ในเฟรมภาพ ทำให้ได้เอฟเฟ็กต์ดูราวกับภาพวาดสีน้ำมัน
คุณเองก็สามารถรังสรรค์ภาพแนวแอ็บสแทร็กต์เช่นภาพด้านล่างนี้ได้โดยเก็บภาพสะท้อนให้เต็มเฟรมเท่านั้น
EOS 5D Mark III/ EF70-200mm f/2.8L IS USM / FL: 200 มม./ Aperture-priority AE (f/13, 1/6 วินาที, EV +1.0)/ ISO 200/ WB: แสงแดด
ภาพโดย: Michiko Kaneko
วิธีเดินทาง:
โดยรถยนต์: ประมาณ 40 นาทีจาก Tohoku IC บนทางด่วน Tohoku
โดยระบบขนส่งสาธารณะ: นั่งแท็กซี่ราว 10 นาทีจากสถานี Yoson-Koen บนเส้นทางรถไฟสาย Aizu
อ่านไอเดียเพิ่มเติมเกี่ยวกับการถ่ายภาพโดยใช้ภาพสะท้อนบนผิวน้ำได้ที่:
การถ่ายภาพออโรราและแสงสะท้อนบนทะเลสาบ
การถ่ายภาพต้นซากุระในญี่ปุ่น: จุดชมวิวและเคล็ดลับของช่างภาพมืออาชีพ (3) (ตัวอย่างที่ 2)
เคล็ดลับในการถ่ายภาพสะท้อนบนผิวน้ำ: เพลิดเพลินกับแอ่งน้ำ!
ต่อไปนี้เป็นไอเดียเพิ่มเติมเกี่ยวกับการถ่ายภาพแนวแอ็บสแทร็กต์:
การถ่ายภาพแอบสแตร็ค: เปลี่ยนธรรมชาติให้เป็นพร็อบ
2. น้ำตก Ninai (จังหวัดมิเอะ)
EOS 5D Mark II/ EF24-105mm f/4L IS USM/ FL: 32 มม./ Aperture-priority AE (f/11, 1 วินาที, EV ±0)/ ISO 200/ WB: แสงแดด
ภาพโดย: Takashi Nishikawa
ช่วงที่เหมาะแก่การชมมากที่สุด: กลางเดือนตุลาคม/ เวลาที่ถ่ายภาพ: 9:30 น.
สร้างสมดุลที่ลงตัวระหว่างสายน้ำของน้ำตกสองแห่งกับใบไม้เปลี่ยนสีด้วยการถ่ายภาพในแนวนอน
น้ำตก 48 สายแห่งอาคาเมะ (Akame 48 waterfalls) ตั้งอยู่ใจกลางอุทยานแห่งชาติ Murō-Akame-Aoyama Quasi ประกอบด้วยน้ำตกมากกว่า 20 สายเรียงตัวลดหลั่นกันเป็นขั้นบันได กินพื้นที่ครอบคลุมกว่า 4 กม. และติดอันดับต้นๆ ของ "น้ำตกที่สวยที่สุด 100 แห่ง" ของญี่ปุ่น ในบรรดาน้ำตกทั้ง 48 สาย หนึ่งในนั้นคือ น้ำตก Ninai (แปลตรงตัวคือ "น้ำตกที่รองรับน้ำหนัก") ความสูง 8 เมตร ซึ่งมีก้อนหินคั่นอยู่ตรงกลางแยกสายน้ำออกเป็นลำธารสองแห่ง ดูคล้ายหินกำลัง "รับน้ำหนัก" ของน้ำตกอยู่
สำหรับผู้ที่ต้องการมาถ่ายภาพที่นี่ ขอแนะนำให้ถ่ายหลังฝนตก เพราะระดับน้ำของน้ำตกจะสูงขึ้น ที่ด้านบนสุดของภาพมีหมอกแผ่ปกคลุมรอบๆ กลุ่มใบไม้ที่เปลี่ยนสีเล็กน้อย จึงเพิ่มความโดดเด่นมากขึ้น ต่อมา ผมเลือกถ่ายภาพในแนวนอนเพื่อสร้างสมดุลที่เหมาะเจาะลงตัวระหว่างน้ำตกและใบไม้เปลี่ยนสี จากนั้น ผมปรับขนาดรูรับแสงลงเหลือ f/11 เพื่อลดความเร็วชัตเตอร์เหลือ 1 วินาที เพื่อเน้นสายน้ำไหลและทำให้มองเห็นเด่นชัดมากขึ้น
เทคนิค: ถ่ายภาพในช่วงเวลาที่หมอกเริ่มก่อตัว
เนื่องจากหุบเขานี้ค่อนข้างมืด ผมจึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการถ่ายภาพในวันที่มีแดดจ้าซึ่งจะมีความเปรียบต่างสูง แต่ให้ถ่ายภาพในวันที่ท้องฟ้ามีเมฆมากแต่สว่างซึ่งจะมีหมอกปรากฏขึ้นแทน นอกจากนี้ คุณยังสามารถขับเน้นความมีชีวิตชีวาของใบไม้เปลี่ยนสีได้โดยการให้แสงจากทางด้านหน้ากระจายทั่วทั้งภาพ ผมถ่ายภาพด้านล่างนี้ในตอนเช้า แม้จะจับภาพน้ำในน้ำตกและใบไม้สีแดงได้มากมาย แต่ไม่มีชั้นของหมอกที่ด้านบนสุดของภาพ ซึ่งต่างจากภาพด้านบน เนื่องจากฤดูใบไม้ร่วงจะเปียกและชื้นแฉะ ผมจึงรู้สึกว่าหากมีหมอกในภาพจะช่วยสื่อถึงฤดูนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
EOS 5D Mark II/ EF24-105mm f/4L IS USM/ FL: 32 มม./ Aperture-priority AE (f/16, 1 วินาที, EV-0.5)/ ISO 200/ WB: แสงแดด
ภาพโดย: Takashi Nishikawa
ตัวอย่างที่ไม่ดี: เมื่อถ่ายภาพในแนวตั้งจะทำให้ภาพดูแออัด
EOS 5D Mark II/ EF24-105mm f/4L IS USM/ FL: 47 มม./ Aperture-priority AE (f/11, 1 วินาที, EV-0.5)/ ISO 100/ WB: แสงแดด
การถ่ายภาพในแนวตั้งจะช่วยเน้นน้ำตกให้เด่นชัดมากขึ้น แต่่ส่งผลให้ใบไม้ที่ด้านบนของภาพดูระเกะระกะและทำให้ภาพขาดสมดุล
ภาพโดย: Takashi Nishikawa
วิธีเดินทาง
โดยรถยนต์: ประมาณ 2 ชม. 30 นาที จาก Hari IC บนถนนไฮเวย์ Meihan National Highway
โดยระบบขนส่งสาธารณะ: ประมาณ 10 นาที โดยรถประจำทางจากสถานี Kintetsu Akameguchi ลงรถที่ Akamedaki น้ำตก Ninai Falls อยู่ห่างจากป้ายรถประจำทางประมาณ 4 กม. (ใช้เวลาเดินประมาณ 70 นาที) ระหว่างทางคุณจะพบกับน้ำตกอื่นๆ อีกมากมาย
สำหรับเคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับการถ่ายภาพน้ำตก โปรดดูที่:
การถ่ายภาพน้ำตก: เคล็ดลับพื้นฐาน
1: วนอุทยาน Kannon-numa (จังหวัดฟุกุชิมะ)
2: น้ำตก Ninai (จังหวัดมิเอะ)
อ่านคำแนะนำเกี่ยวกับจุดถ่ายภาพในญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน:
ภาพทิวทัศน์ในฤดูร้อนที่สวยงามน่าทึ่ง: จุดชมวิวในญี่ปุ่นและเคล็ดลับของช่างภาพมืออาชีพ (1)
ภาพทิวทัศน์ในฤดูร้อนที่สวยงามน่าทึ่ง: จุดชมวิวในญี่ปุ่นและเคล็ดลับของช่างภาพมืออาชีพ (2)
ภาพทิวทัศน์ในฤดูร้อนที่สวยงามน่าทึ่ง: จุดชมวิวในญี่ปุ่นและเคล็ดลับของช่างภาพมืออาชีพ (3)
การถ่ายภาพต้นซากุระในญี่ปุ่น: จุดชมวิวและเคล็ดลับของช่างภาพมืออาชีพ (1)
การถ่ายภาพต้นซากุระในญี่ปุ่น: จุดชมวิวและเคล็ดลับของช่างภาพมืออาชีพ (2)
การถ่ายภาพต้นซากุระในญี่ปุ่น: จุดชมวิวและเคล็ดลับของช่างภาพมืออาชีพ (3)
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!
เกี่ยวกับผู้เขียน
นิตยสารรายเดือนที่เชื่อว่าความสุขของการถ่ายภาพจะยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ถ่ายภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องมากยิ่งขึ้น นิตยสารเล่มนี้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับกล้องรุ่นใหม่ๆ รวมถึงคุณสมบัติของกล้องและนำเสนอเทคนิคการถ่ายภาพอย่างหลากหลาย
จัดพิมพ์โดย Impress Corporation
เกิดที่จังหวัดนาระ เมื่อปี 1965 Nishikawa จบการศึกษาจากคณะวิจิตรศิลป์ สาขาการแพร่ภาพและภาพยนตร์ Osaka Professional Total Creative School เขาศึกษาการถ่ายภาพด้วยตนเอง และทำงานที่บริษัทผลิตวิดีโอโฆษณาและศูนย์พิมพ์ภาพระดับมืออาชีพ ก่อนจะผันตัวมาเป็นช่างภาพอิสระในที่สุด และยังเป็นสมาชิกของสมาคม Japan Nature Scenery Photograph Association (JNP) อีกด้วย
เกิดที่เมือง Sendai จังหวัด Miyagi เธอเริ่มสนใจการถ่ายภาพหลังจากบังเอิญได้เห็นภาพถ่ายที่ทำให้เธอเกิดแรงบันดาลใจใน Okunikko ในปี 1987 เธอศึกษาการถ่ายภาพจาก Shotaro Akiyama ช่างภาพผู้มีชื่อเสียงที่ล่วงลับไปแล้ว ก่อนจะเปิดสตูดิโอของตัวเองและผันตัวมาเป็นช่างภาพอิสระ ด้วยความหลงใหลในสีสันอันงดงามของธรรมชาติ เธอจึงเดินทางไปทั่วญี่ปุ่นด้วยรถยนต์ของเธอ เพื่อเก็บภาพทิวทัศน์แสนสงบในฤดูต่างๆ รวมทั้งภาพที่มีทั้งรถไฟและทิวทัศน์ด้วย เธอเป็นสมาชิกของ Japan Professional Photographers Society (JPS) และ Japan Society for Arts and History of Photography (JSAHP)