EOS R6 Mark III: กล้องทรงพลังที่จะช่วยปลดปล่อยความหลงใหลของคุณ
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 Canon ได้เปิดตัว EOS R6 Mark III กล้องที่อัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติอันทรงพลังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์ CMOS แบบฟูลเฟรม 32.5 ล้านพิกเซลที่มีความละเอียดสูงขึ้น ประสิทธิภาพ AF และการถ่ายภาพนิ่งที่ดียิ่งขึ้น ความสามารถระดับสูงในการถ่ายวิดีโอที่ทำให้นึกถึงกล้อง Cinema EOS C50 เช่น การถ่ายแบบ RAW 7K 60p และการถ่ายแบบ Open Gate 7K 30p กล้องรุ่นใหม่ล่าสุดในซีรีย์ “6” จาก Canon รุ่นนี้จึงเป็นกล้องที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้ช่างภาพและครีเอเตอร์แบบไฮบริดที่กำลังไล่ตามฝันได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการถ่ายภาพตัวแบบที่มีความท้าทาย

ยกระดับภาพนิ่งและวิดีโอของคุณขึ้นไปอีกขั้น
บางคนบอกว่าอุปกรณ์ไม่สำคัญ แต่แน่นอนว่านั่นไม่เป็นความจริง อุปกรณ์ที่สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นจะช่วยให้คุณปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างอิสระ
ตั้งแต่ EOS R6 ที่นำระบบโฟกัสอัตโนมัติที่ใช้การเรียนรู้เชิงลึกและระบบ IS ในบอดี้กล้องมาใช้เป็นครั้งแรก จนถึง EOS R6 Mark II ที่โดดเด่นด้านฟีเจอร์ในการถ่ายวิดีโอและความเร็วอันน่าทึ่ง กล้องในซีรีย์ EOS R6 ก็เรียกได้ว่าเป็นกล้องระดับแถวหน้าที่นำเอาฟีเจอร์ระดับสูงจาก Canon มาไว้ในมือผู้ใช้เสมอมา และ EOS R6 Mark III ก็เช่นเดียวกัน ด้วยความเร็วและความละเอียดที่ยากจะมีใครเทียบ กล้องรุ่นนี้จะช่วยให้คุณบอกเล่าเรื่องราวได้อย่างที่ใจต้องการ แม้ในสถานการณ์ที่มีความท้าทาย
1. ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซลอันน่าทึ่ง

รายละเอียดมากขึ้นเพื่อความสมจริงยิ่งขึ้น
EOS R6 Mark III มีจำนวนพิกเซลบนเซนเซอร์ฟูลเฟรมมากกว่า จึงให้ภาพที่คมชัดจนถึงขอบ ไล่โทนสีได้อย่างกลมกลืน และแสดงรายละเอียดเล็กๆ อย่างพื้นผิวของก้อนเมฆและรายละเอียดอันประณีตบนเนื้อผ้าได้อย่างชัดเจน ผลที่ได้คือความสมจริงยิ่งขึ้นที่ดึงดูดผู้ชมของคุณเข้าไปในฉาก
ข้อควรรู้: เพียงพอสำหรับการพิมพ์คุณภาพสูงในขนาด A2
กล้อง EOS R6 Mark III สามารถถ่ายภาพด้วยความละเอียด 6960 x 4640 พิกเซล ซึ่งเพียงพอสำหรับการพิมพ์ในรูปแบบ A2 (420 x 594 มม.) ที่ 290 dpi ความละเอียดเท่านี้แทบไม่ต่างจาก 300 dpi และเพียงพอที่จะทำให้ภาพดีๆ ดูคมชัดได้โดยที่ภาพไม่แตก
EOS R6 Mark III/ RF24-70mm f/2.8L IS USM/ FL: 35 มม./ Manual exposure (f/2.8, 1/25 วินาที)/ ISO 200
ครอปภาพได้มากขึ้นโดยที่คุณภาพไม่ลดลง
EOS R6 Mark III/ RF70-200mm f/2.8L IS USM/ FL: 200 มม./ Manual exposure (f/2.8, 1/250 วินาที)/ ISO 100
ครอปจากภาพด้านบน
จำนวนพิกเซลที่มากกว่าของกล้อง EOS R6 Mark III เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าทำให้คุณสามารถครอปภาพได้มากขึ้นโดยที่ความละเอียดยังไม่ลดลง จึงเหมาะสำหรับการถ่ายภาพในจังหวะที่ไม่คาดคิดเมื่อเลนส์ที่คุณใช้มีระยะไม่พอ และการศึกษาศิลปะการครอปภาพ!
ภาพ VR 180 องศาที่สมจริงยิ่งขึ้น
เมื่อใช้กับเลนส์ RF5.2mm f/2.8L Dual Fisheye ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซลของกล้อง EOS R6 Mark III จะช่วยเพิ่มความสมจริงให้วิดีโอ VR 180 องศารวมถึงภาพนิ่ง เรียกได้ว่าเป็นการยกระดับ “ความมีชีวิต” ขึ้นไปอีกขั้น และเลนส์ยังช่วยให้การจัดเตรียมและขั้นตอนการทำงานในการสร้างภาพ VR มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยเลนส์และกล้องเพียงตัวเดียว
2. ประสิทธิภาพการถ่ายต่อเนื่องความเร็วสูงที่ดียิ่งขึ้น

แม้จะมีจำนวนพิกเซลมากกว่า แต่ EOS R6 Mark III ก็ยังสามารถถ่ายภาพได้สูงสุด 40 fps (ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์) หรือ 12 fps (ชัตเตอร์กล/ม่านชัตเตอร์ชุดแรก) พร้อมการติดตาม AF/AE เต็มรูปแบบ ด้วยความสามารถในการอ่านข้อมูลที่เร็วขึ้นของเซนเซอร์และกำลังในการประมวลผลภาพของ DIGIC X
ไม่ว่าจะเป็นภาพสัตว์ป่าหรือการแข่งขันกีฬา EOS R6 Mark III ก็สามารถติดตามตัวแบบได้อย่างรวดเร็วและเหนียวแน่น โฟกัสจึงอยู่ในจุดที่คุณต้องการเสมอ
การถ่ายภาพในโหมดชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ทำให้คุณมีทางเลือกในการใช้ชัตเตอร์ที่เงียบกว่าในฉากที่จำเป็นต้องทำงานแบบไร้เสียง
ถ่ายภาพต่อเนื่องได้นานขึ้น

การประมวลผลที่ดียิ่งขึ้นของ EOS R6 Mark III ช่วยเพิ่มความสามารถในการบัฟเฟอร์ จึงถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงได้นานขึ้นสูงสุดถึง 280 ภาพในแบบ CRAW หรือ 150 ภาพในแบบ RAW ที่ 40 fps ในโหมด H+ ซึ่งนับว่ามีประสิทธิภาพดีกว่า EOS R6 Mark II เกือบสองเท่าและเหมาะสำหรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน

การถ่ายภาพต่อเนื่องล่วงหน้า: ผู้ช่วยของคุณขณะรอจังหวะถ่ายภาพ

EOS R6 Mark III มีฟีเจอร์การถ่ายภาพต่อเนื่องล่วงหน้าแบบใหม่เช่นเดียวกับ EOS R1/ R5 Mark II ที่สามารถถ่ายภาพนิ่งความละเอียดสูงสุดได้ต่อเนื่องสูงสุด 0.5 วินาที (สูงสุด 20 เฟรม) นับตั้งแต่วินาทีที่คุณกดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่ง ความสามารถเช่นนี้ทำให้คุณมีโอกาสถ่ายภาพได้มากขึ้นในช่วงเวลาที่คาดเดาไม่ได้
ฟีเจอร์นี้อยู่ในโหมดถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง + (H+) และมีความยืดหยุ่นมากกว่าโหมดถ่ายต่อเนื่องแบบ RAW และโหมดถ่ายภาพล่วงหน้าในกล้องรุ่นก่อนๆ มีฟังก์ชั่นโฟกัสอัตโนมัติทั้งหมด และคุณสามารถใช้งานได้ในการถ่ายภาพนิ่งทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น RAW/RAW, JPEG หรือ HEIF แต่ละเฟรมจะถูกบันทึกแยกกันเช่นเดียวกับภาพอื่นๆ ทำให้ตรวจดูภาพและปรับแต่งได้อย่างง่ายดาย
ช่องใส่การ์ด CFexpress Type B + SD เพื่อขั้นตอนการทำงานที่มีประสิทธิภาพรวดเร็วขึ้น
กล้อง EOS R6 Mark III มีทั้งช่องใส่การ์ด CFexpress Type B และ SD จึงรองรับการเขียนข้อมูลความเร็วสูงที่จำเป็นต้องใช้ในการบันทึกภายในแบบ RAW 7K และการถ่ายภาพนิ่งต่อเนื่องความละเอียดสูงสุด 40 fps และคุณสมบัตินี้ยังช่วยให้สามารถบันทึกไฟล์วิดีโอหลัก/พร็อกซีหรือไฟล์วิดีโอหลัก/สำรองได้ด้วยเพื่อขั้นตอนการตัดต่อวิดีโอที่มีประสิทธิภาพ
3. โฟกัสอัตโนมัติที่ชาญฉลาดและน่าเชื่อถือยิ่งขึ้นทั้งในการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ

EOS R6 Mark III มีระบบ Dual Pixel CMOS AF II ที่ใช้การเรียนรู้เชิงลึก AF จึงสามารถ “จับและติดตาม” ตัวแบบได้เช่นเดียวกับกล้องรุ่นใหม่ในซีรีย์ EOS R ทั้งหมด ระบบนี้ทำให้สามารถล็อคโฟกัสและติดตามตัวแบบที่ตรวจพบได้จากการตั้งค่าพื้นที่ AF ทุกรูปแบบ รวมถึงโหมด AF จุดเดียวและ Spot AF ที่มีความแม่นยำสูงซึ่งมักใช้กับตัวแบบขนาดเล็กหรือฉากที่มีความซับซ้อน และระบบนี้ยังสามารถติดตามตัวแบบได้เหนียวแน่นกว่ารุ่นก่อนหน้าเนื่องจากมีอัลกอริธึม AF ที่ผ่านการปรับปรุงมาแล้ว
ควบคุมการทำงานของ AF ได้ดียิ่งขึ้น
เช่นเดียวกับ EOS R1/ R5 Mark II กล้อง EOS R6 Mark III ได้เพิ่มโหมด AF เข้ามา 4 โหมดโดยปิดใช้งานการติดตามทั้งพื้นที่ (ไอคอนล็อค) เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบตรวจจับตัวแบบโดยไม่ได้ตั้งใจขณะอยู่ท่ามกลางสิ่งกีดขวางและผู้คนในฉาก
ลงทะเบียนตามความสำคัญบุคคล: ค้นหาและติดตามบุคคลที่ต้องการโดยอัตโนมัติ

EOS R6 Mark III เป็นกล้องรุ่นแรกในซีรีย์ “6” ที่มีโหมด “ลงทะเบียนตามความสำคัญบุคคล” ซึ่งเป็นคุณสมบัติเดียวกับที่มีในกล้องระดับสูงกว่า เช่น EOS R1/ R5 Mark II โหมดนี้จะเลือกตรวจจับและติดตามบุคคลที่บันทึกไว้ก่อนเป็นหลักโดยอัตโนมัติขณะถ่ายภาพหรือวิดีโอที่มีผู้อื่นอยู่ในเฟรมอีกหลายคน จึงเหมาะสำหรับการถ่ายภาพคอนเสิร์ต งานอีเวนต์ หรือการถ่ายภาพหมู่ คุณสามารถบันทึกบุคคลล่วงหน้าได้สูงสุด 10 คนโดยการถ่ายภาพหรือโหลดภาพจากการ์ดหน่วยความจำของคุณ
4. เปลี่ยนจุดโฟกัสได้ราบรื่นเมื่อถ่ายวิดีโอ
การปรับปรุง Movie Servo AF เหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้ที่ไม่มีผู้ช่วยดึงโฟกัสสามารถเปลี่ยนจุดโฟกัสได้อย่างราบรื่นและดูเป็นธรรมชาติเมื่อใช้ AF
AF ที่ราบรื่นตามแบบฉบับกล้อง Cinema EOS

การเปลี่ยนจุดโฟกัสจะดูไม่แข็งทื่ออีกต่อไป เพราะอัลกอริธึมการเร่งและชะลอโฟกัสแบบเดียวกับที่ใช้ในกล้องถ่ายภาพยนตร์ EOS C400/C80 จะทำให้ควบคุมโฟกัสได้อย่างแม่นยำเหมือนผู้ช่วยดึงโฟกัส
Movie Servo AF ที่ดียิ่งขึ้น: เริ่มติดตามตัวแบบอีกครั้งหลังใช้โฟกัสแบบแมนนวล

ในโหมดวิดีโอ เมื่อเปิดใช้งาน Movie Servo AF กล้อง EOS R6 Mark III จะสามารถเริ่มติดตาม AF บนตัวแบบใหม่ได้โดยอัตโนมัติหลังผู้ใช้เปลี่ยนจุดโฟกัสมายังตัวแบบใหม่ด้วยตนเองโดยใช้การควบคุมโฟกัสแมนนวลแบบ Full-time คุณสมบัตินี้ทำให้คุณเปลี่ยนตัวแบบหลักได้โดยใช้แค่วงแหวนโฟกัสเท่านั้น* และจะได้ผลดีที่สุดเมื่อใช้ร่วมกับการตั้งค่าตัวแบบที่ตรวจจับและ Eye Detection AF**
* เลนส์ที่เข้ากันได้: เลนส์ RF ที่มี MF อิเล็กทรอนิกส์แบบ Full-time, เลนส์ RF ที่เข้ากันได้กับการโฟกัสอิเล็กทรอนิกส์แบบแมนนวล (เมื่อหยุดใช้งาน Movie servo AF เท่านั้น ไม่รวม RF5.2mm f/2.8L Dual Fisheye)
** อาจไม่สามารถเลือกและติดตามตัวแบบที่เลือกได้หากตัวแบบเคลื่อนไหว ไม่อยู่ในโฟกัสบนหน้าจอ หรือมีความลึกแตกต่างกัน
5. ระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่ได้รับการปรับปรุง

ระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวบนเซนเซอร์ (IS ในบอดี้กล้อง) ของ EOS R6 Mark III สามารถป้องกันภาพสั่นไหวได้ 5 แกนทั้งภาพนิ่งและวิดีโอแม้จะใช้เลนส์ที่ไม่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออพติคอลในตัวเลนส์ (IS แบบออพติคอล)
เมื่อใช้เลนส์ RF ที่เข้ากันได้และมี IS แบบออพติคอล IS ของตัวกล้องและเลนส์จะทำงานร่วมกันจนกลายเป็น IS แบบประสานการควบคุม ขณะถ่ายภาพนิ่ง จะมีประสิทธิภาพการป้องกันภาพสั่นไหวที่ดียิ่งขึ้นสูงสุดถึง 8.5 สต็อปที่กึ่งกลางภาพและ 7.5 สต็อปที่ขอบภาพ* การเบลอที่ขอบภาพซึ่งมักเกิดกับเลนส์มุมกว้างจะได้รับการแก้ไขโดยการควบคุมแบบประสานการทำงานที่ขอบภาพเมื่อใช้เลนส์ที่เข้ากันได้
วิดีโอที่ถ่ายแบบถือกล้องด้วยมือขณะเคลื่อนไหวจะป้องกันภาพสั่นได้ดียิ่งขึ้นด้วยการผสมผสานกันระหว่างระบบ IS แบบประสานการควบคุมและ Movie Digital IS
EOS R6 Mark III/ RF24-105mm f/2.8L IS USM Z/ FL: 105 มม./ Manual exposure (f/3.2, 1 วินาที)/ ISO 100
รับชม: Movie Digital IS ที่ได้รับการปรับปรุง
ระบบ IS ติดตามตัวแบบ: อยู่ในเฟรมตลอดระหว่างการบันทึกวิดีโอแบบเดินและพูดไปด้วย
ถ่ายวล็อกแบบเดินและพูดไปด้วยให้นิ่งโดยไม่ต้องครอปภาพที่ไม่ต้องการ เนื่องจาก EOS R6 Mark III เป็นกล้องแบบถอดเปลี่ยนเลนส์ได้รุ่นแรกที่มีระบบ IS ติดตามตัวแบบที่ช่วยให้ตัวแบบอยู่ในเฟรมเสมอขณะป้องกันภาพสั่นไหว
* เป็นไปตามมาตรฐาน CIPA 2024 แก้ไขการสั่นในแนวแกนยก/หัน/หมุนขณะใช้ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์และ RF24-105mm F2.8 L IS USM Z (f=105 มม.)
6. ความยืดหยุ่นในการถ่ายวิดีโอระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน: บันทึกไฟล์ RAW ภายในแบบ Open Gate สูงสุด 7K

ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซลของกล้อง EOS R6 Mark III รองรับการบันทึกวิดีโอภายในแบบ RAW 7K 60p ไปยังช่องใส่การ์ด CFexpress Type B รวมถึงการบันทึกในอัตราส่วนภาพ DCI (17:9) มาตรฐานโรงภาพยนตร์ อัตราเฟรมสูงสุด 60 fps (NTSC)/ 50 fps (PAL) ทำให้วิดีโอเคลื่อนไหวได้ไหลลื่นขึ้น ในขณะที่การบันทึกวิดีโอแบบ RAW ช่วยให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในขั้นตอนการตัดต่อที่ต้องมีการกู้คืนรายละเอียด, VFX และการปรับแต่งภาพในระดับสูง
รองรับการบันทึกภายในแบบ HDMI/ ProRes RAW สูงสุด 7K 30p ที่อัตราส่วนภาพ 17:9 แบบไม่ครอปผ่านช่องต่อเอาต์พุต HDMI Type-A (เต็มขนาด) ของกล้อง สามารถบันทึกไฟล์พร็อกซี 2K DCI MP4 ไปยังการ์ด SD ได้พร้อมกันเพื่อขั้นตอนการตัดต่อที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
การบันทึกไฟล์ RAW แบบ Open Gate 7K 30p: ฟุตเทจเดิมแต่มีความเป็นไปได้มากขึ้น

นอกจากนี้ EOS R6 Mark III ยังเป็นกล้องในซีรีย์ EOS R รุ่นแรกที่มีฟีเจอร์การบันทึกไฟล์ RAW/MP4 แบบ Open Gate 7K สูงสุด 30p โหมดนี้จะใช้ความสูงของเซนเซอร์ทั้งหมดระหว่างการบันทึก จึงให้ความยืดหยุ่นที่มากขึ้นในการครอปหรือจัดองค์ประกอบฟุตเทจใหม่ในขั้นตอนการตัดต่อ และจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการสร้างไฟล์ 9:16 ที่เหมาะกับโซเชียลมีเดียและ 16:9 ตามปกติจากฟุตเทจเดียวกัน คุณจึงไม่ต้องจัดเตรียมอุปกรณ์หลายตัว แสดงกรอบของอัตราส่วนภาพพร้อมกันสูงสุด 2 กรอบเพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นว่าวิดีโอที่ได้ในขั้นตอนสุดท้ายจะเป็นอย่างไร
ไฟล์ RAW แบบ Open Gate 7K มีขนาด 6960 x 4640 พิกเซล ในขณะที่ไฟล์ MP4 แบบ Open 7K มีขนาด 6912 x 4608 พิกเซล
ความแตกต่างระหว่างไฟล์แบบ Open Gate 7K และไฟล์ RAW 7K ทั่วไป
| 7K Open Gate (3:2) | 7K 60p RAW (17:9) | |
| อัตราส่วนภาพ | 3:2 | 17:9 |
| อัตราเฟรมสูงสุด | 30p | 60p |
| ความละเอียด | RAW: 6960 x 4640 MP4: 6912 x 4608 |
RAW: 6960 x 3672 |
| รูปแบบการบันทึกที่รองรับ | RAW, MP4 | RAW เท่านั้น |
| การบันทึกไฟล์พร็อกซี/ไฟล์สำรอง | เมื่อไฟล์หลักเป็นไฟล์ RAW: พร็อกซี FHD ในรูปแบบ XF-AVC S การบันทึกไฟล์หลักแบบ MP4 ไม่สามารถบันทึกไฟล์สำรองได้ |
พร็อกซี 2K DCI XF-AVC S หรือ 4K DCI Fine XF-HEVC S/ ไฟล์สำรอง XF-AVC S |
รูปแบบการบันทึกที่ EOS R6 Mark III รองรับ
EOS R6 Mark III รองรับความละเอียดในการบันทึกแตกต่างกันสูงสุด 11 แบบที่อัตราเฟรมหลากหลายระดับ จึงมอบตัวเลือกมากมายให้แต่ละโปรเจ็กต์ที่มีความต้องการแตกต่างกัน ซึ่งได้แก่:
- วิดีโอ 4K 30p แบบ Oversampled จาก 7K: เพื่อความละเอียดที่มากขึ้นและสิ่งแปลกปลอมที่น้อยลง
- วิดีโออัตราเฟรมสูงสุด 4K 120p และ Full HD/2K DCI 180p: สามารถใช้ในการสร้างวิดีโอสโลโมชั่นให้ลื่นไหลยิ่งขึ้นด้วยความเร็วช้าลงสูงสุด 5 เท่าแบบ 4K และช้าลง 7.5 เท่าแบบ 2K หรือ Full HD
เคล็ดลับระดับมือโปร: บันทึกวิดีโออัตราเฟรมสูงในอัตราเฟรมต้นฉบับเพื่อให้ปรับความเร็วได้ง่ายขึ้นในขั้นตอนการตัดต่อ หรือใช้โหมดภาพเคลื่อนไหวสโลและฟาสต์โมชั่นแบบใหม่เพื่อให้คลิปสโล/ฟาสต์โมชั่นพร้อมใช้งานทันที! และโหมดนี้ยังรองรับการบันทึกแบบฟาสต์โมชันสูงสุด 60 เท่า ซึ่งเหมาะสำหรับการเร่งระยะเวลาในฉากที่ผ่านไปอย่างช้าๆ
รับชม: อัลตร้าสโลโมชั่นจาก 4K 120p
อัตราเฟรมสูงทำให้วิดีโอสโลโมชั่นของคุณดูไหลลื่นมากขึ้นดังตัวอย่างด้านบนซึ่งถ่ายที่ 4K 120p แล้วนำมาปรับแต่งภายหลังเพื่อสร้างเอฟเฟ็กต์ให้ดูช้าลงและสื่อถึงอารมณ์
7. รองรับขั้นตอนการทำงานด้านสีและตัดต่อหลากหลายแบบ
รองรับทั้ง Canon Log 2 และ Log 3
EOS R6 Mark III เพิ่ม Canon Log 2 เข้ามาจาก Canon Log 3 ด้วย จึงมีตัวเลือกในการบันทึก Log มากขึ้นในการเกลี่ยสี
Canon Log 2: ให้ช่วงไดนามิกเรนจ์กว้างมากกว่า 15 สต็อปและสามารถคงรายละเอียดได้มากกว่าในส่วนที่มืด จึงสามารถปรับระดับแสงได้มากขึ้น
Canon Log 3: ทำให้เกิดจุดรบกวนในส่วนที่มืดน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ Canon Log 2 เนื่องจากเส้นโค้งของแกมมาจะกดส่วนเงาเพื่อคงช่วงไดนามิกเรนจ์ที่กว้างเอาไว้ วิธีนี้จะทำให้ภาพดูไม่แบนราบจนเกินไปและเกลี่ยสีได้ง่ายขึ้น
สำหรับกล้อง EOS R6 Mark III ทั้ง Canon Log 2 และ 3 จะเข้ากันได้กับ Cinema Gamut ซึ่งมีปริภูมิสีกว้างกว่าและช่วยให้แสดงสีสันได้สดใสยิ่งขึ้น
โหมดสี 3 แบบเพื่อขั้นตอนการทำงานและความต้องการที่แตกต่างกัน

EOS R6 Mark III มีโหมดสี 3 แบบที่สามารถปรับแต่งได้ในระดับที่แตกต่างกัน คุณจึงสามารถเลือกโหมดที่เหมาะกับความต้องการและขั้นตอนการทำงานของคุณได้
1. รูปแบบภาพ: รูปแบบที่ปรับแต่งไว้ล่วงหน้า/โปรไฟล์กล้องที่ปรับแต่งได้อย่างง่ายดาย เปลี่ยนพารามิเตอร์พื้นฐาน เช่น ความเปรียบต่าง ความคมชัด ความอิ่มตัว และโทนสี
2. ฟิลเตอร์สี 14 แบบ: ทำให้ฟุตเทจ (และภาพนิ่ง) ของคุณมีสีสันราวกับภาพยนตร์ได้จากกล้องทันที โดยสีจะถูกฝังลงไปในไฟล์
3. โหมดรูปภาพแบบกำหนดเอง: เข้ากันได้กับ Cinema EOS รองรับการตั้งค่าสีระดับสูงและการใช้งานไฟล์ LUT/Look รวมถึงไฟล์ที่นำเข้ามาจากเว็บไซต์ไลบรารี LUT อย่างเป็นทางการของ Canon (ฉบับภาษาอังกฤษ)

ฟิลเตอร์สีจะเปลี่ยนอารมณ์ให้ภาพของคุณ หมายเหตุ: ภาพที่ใช้ด้านบนเป็นภาพประกอบเท่านั้นและไม่ได้ถ่ายด้วยกล้อง EOS R6 Mark III
อิสระในการตั้งค่ารูปแบบการบันทึกหลากหลายแบบตามต้องการ
เมื่อบันทึกในรูปแบบ MP4 กล้อง EOS R6 Mark III จะช่วยให้คุณตั้งค่าแกมมา การสุ่มสี ความลึกสี และตัวแปลงสัญญาณร่วมกันหลายแบบได้อย่างยืดหยุ่นให้เหมาะความต้องการในการตัดต่อและสภาพแวดล้อมการปรับแต่ง/ส่งมอบงานที่แตกต่างกัน การตั้งค่า 4K, 2K, Full HD และอัตราบิตจะเหมือนกับ EOS R1/R5 Mark II ขั้นตอนการทำงานจึงซับซ้อนน้อยลง ทั้งยังมีความสม่ำเสมอมากขึ้นและจัดการไฟล์ได้ง่ายขึ้นเมื่อใช้ในการผลิตที่ใช้กล้องหลายตัว

8. ฟีเจอร์อื่นๆ ที่โดดเด่นในการถ่ายวิดีโอ
ช่องต่อ HDMI Type-A
ช่องต่อเอาต์พุต HDMI แบบเต็มขนาด (Type-A) ช่วยให้การเชื่อมต่อ HDMI เสถียรและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
จอ Waveform
รองรับจอ Waveform Line และ RGB Parade ให้คุณตรวจสอบระดับความสว่างของทั้งฉากได้แบบเรียลไทม์ คุณสมบัตินี้เป็นคุณสมบัติเพิ่มเข้ามานอกเหนือจากการแสดงสีเพี้ยนและ Zebra ที่มีอยู่แล้ว
ไฟแสดงการบันทึกและสัญญาณเน้นการบันทึก
ทำให้มองเห็นสถานะการบันทึกได้จากทั้งสองฝั่งของกล้อง
ฟีเจอร์สมดุลแสงขาวแบบใหม่
AWB Response ช่วยให้คุณตั้งค่าความเร็วในการเปลี่ยนสมดุลแสงขาวขณะใช้สมดุลแสงขาวอัตโนมัติได้ ในขณะที่ Shockless WB จะทำให้การเปลี่ยนฉากดูราบรื่นยิ่งขึ้นระหว่างปรับสมดุลแสงขาวด้วยตนเอง และยังสามารถกำหนดปุ่มสำหรับล็อค AWB ได้ เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงขณะถ่ายวิดีโอ
โครงสร้างไฟล์ XF-AVC S และ XF-HEVC S
เช่นเดียวกับ EOS R1/ R5 Mark II กล้อง EOS R6 Mark III ใช้ระบบไฟล์แบบ XF-AVC S/XF-HEVC S ระบบนี้จะรองรับชื่อไฟล์ยาวๆ และมีโครงสร้างโฟลเดอร์แยกจากภาพนิ่ง ทำให้มีขั้นตอนการทำงานอีกแบบที่ MP4 ตามมาตรฐาน DCF ทั่วไปไม่สามารถทำได้
การสตรีมสด 2 โหมด
EOS R6 Mark III รองรับการสตรีมสดคุณภาพสูงสุด 4K 60p พร้อมรองรับ UVC/UAC ผ่านสาย USB-C หนึ่งเส้น สามารถสตรีมสดผ่าน USB โดยจ่ายไฟจากคอมพิวเตอร์ได้สูงสุดที่ Full HD เช่นกัน
หากต้องการสตรีมสดโดยใช้หลายมุมกล้องให้ดูเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้นจากอุปกรณ์อินพุตหลายตัว ผู้ใช้สามารถสตรีมผ่าน HDMI ด้วยอุปกรณ์สลับสัญญาณ HDMI ได้
9. บอดี้กล้องทนทาน น่าเชื่อถือ พร้อมการจัดการความร้อนที่มีประสิทธิภาพ

EOS R6 Mark III ออกแบบมาเพื่อการใช้งานกลางแจ้ง จึงมีคุณสมบัติในการป้องกันฝุ่นละอองและน้ำในระดับเดียวกับ EOS R6 Mark II วัสดุซีลและการออกแบบที่แม่นยำในจุดที่เหมาะสมช่วยป้องกันฝุ่นละออง หยดน้ำ และสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ ไม่ให้เข้าสู่ตัวกล้อง ขณะที่กลไกชัตเตอร์จะช่วยปกป้องเซนเซอร์ขณะเปลี่ยนเลนส์ และมีโครงสร้างบอดี้ทำจากแม็กนีเซียมอัลลอยที่คงทนเช่นเดียวกับ EOS R6 Mark II
เพื่อประสิทธิภาพที่น่าเชื่อถือระหว่างการบันทึกวิดีโอ RAW 7K กล้องจึงใช้โครงสร้างกระจายความร้อนที่สามารถถ่ายเทความร้อนจากภายในเซนเซอร์และระบบประมวลผลภาพออกสู่ภายนอกได้โดยอาศัยแผ่นกราไฟต์ นอกจากนี้ โครงสร้างแม็กนีเซียมอัลลอยและฝาปิดด้านหลังยังช่วยให้กระจายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คลิกปุ่มด้านล่างเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกล้อง EOS R6 Mark III

EOS R6 Mark III: ภาพตัวอย่าง
EOS R6 Mark III/ RF50mm f/1.4L VCM/FL: 50 มม./ Aperture-priority AE (f/1.4, 1/3200 วินาที)/ ISO 100
EOS R6 Mark III/ RF70-200mm f/2.8L IS USM/FL: 81 มม./ Manual exposure (f/3.5, 1/1250 วินาที)/ ISO 125
EOS R6 Mark III/ RF24-105mm f/2.8L IS USM Z/ FL: 24 มม./ Manual exposure (f/8, 1 วินาที)/ ISO 100