ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

ผลิตภัณฑ์ >> ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด

EF70-200mm f/4L IS II USM การทดลองถ่ายภาพทิวทัศน์

2018-08-09
4
7.36 k
ในบทความนี้:

เลนส์ EF70-200mm f/4L IS II USM รุ่นใหม่ของ Canon วางจำหน่ายหลังจากการเปิดตัวของเลนส์รุ่นก่อนหน้าถึง 12 ปี โดยมาพร้อมกับระบบป้องกันภาพสั่นไหวถึง 5 สต็อป และประสิทธิภาพยอดเยี่ยมในการถ่ายภาพเมื่อมีแสงย้อนจากด้านหลัง เลนส์รุ่นนี้ทำได้อย่างไร หาคำตอบด้วยตัวคุณเองจากภาพทิวทัศน์เหล่านี้ ซึ่งถ่ายด้วยเลนส์ซูมเทเลโฟโต้ (เรื่องโดย: GOTO AKI)

 

ข้อควรรู้เกี่ยวกับเลนส์รุ่นนี้

1. เป็นเลนส์ Canon รุ่นแรกที่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวถึง 5 สต็อป

ภาพน้ำตกที่ถ่ายโดยใช้ระบบป้องกันภาพสั่นไหว

ถ่ายภาพได้นิ่งแม้ใช้ความเร็วชัตเตอร์ 1/100 วินาทีโดยถือกล้องด้วยมือที่ระยะเทเลโฟโต้
EOS 5D Mark IV/ EF70-200mm f/4L IS II USM/ FL: 200 มม./ Shutter-priority AE (f/5.6, 1/100 วินาที, EV-0.7)/ ISO 400/ WB: Manual

EF70-200mm f/4L IS II USM ไม่เพียงแต่มีฟังก์ชั่นป้องกันภาพสั่นไหว (IS) ในตัวเลนส์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในบรรดาเลนส์ Canon เท่านั้น แต่ยังมีโหมด IS ให้เลือกถึง 3 โหมดด้วยกันเพื่อตอบสนองทั้งการถ่ายภาพแบบแพนกล้องและการถ่ายภาพกีฬา ภาพด้านบนถ่ายโดยถือกล้องด้วยมือโดยใช้ระยะเทเลโฟโต้ 200 มม. ด้วยความคมชัดระดับนี้ ผู้ใช้จึงอดรู้สึกไม่ได้ว่าอยากจะถ่ายภาพน้ำตกเพิ่มอีกโดยถือกล้องด้วยมือ

 

2. รูรับแสงทรงกลมทำให้เกิดโบเก้ที่สวยงามแม้ใช้ค่ารูรับแสงแคบ

ภาพใบไม้ที่มีวงโบเก้

วงโบเก้ที่กลมสวยงามแม้ถ่ายที่ f/8
EOS 5D Mark IV/ EF70-200mm f/4L IS II USM/ FL: 200 มม./ Aperture-priority AE (f/8, 1/640 วินาที, EV-2.0)/ ISO 1600/ WB: Manual

ภาพนี้ถ่ายโดยมีแสงย้อนจากด้านหลัง โดยแสงอาทิตย์ส่องทะลุผ่านใบไม้บนต้นไม้ในป่า แทบจะไม่มีแสงหลอกหรือแสงแฟลร์เลย เนื่องจากขอบของม่านรูรับแสงนั้นไม่เด่นชัด วงโบเก้จึงกลมและดูสวยงามแม้จะใช้รูรับแสงแคบกว่ารูรับแสงกว้างสุดสองถึงสามสต็อป (ในภาพด้านบนใช้ f/8)

 

3. เมื่อเปรียบเทียบกับเลนส์ EF70-200mm f/4L อีก 2 รุ่นของ Canon แล้วเป็นอย่างไร

Canon มีเลนส์ EF70-200mm f/4L อีก 2 รุ่น ได้แก่

- EF70-200mm f/4L IS USM (เลนส์รุ่นก่อนหน้า)
- EF70-200mm f/4L USM (เลนส์ที่ไม่มีระบบ IS) 

ตารางด้านล่างแสดงการเปรียบเทียบเลนส์ทั้งสามรุ่น คุณจะเห็นได้ว่า EF70-200mm f/4L USM มีข้อได้เปรียบมากกว่าในเรื่องของม่านรูรับแสงและประสิทธิภาพในการป้องกันภาพสั่นไหว

ตารางเปรียบเทียบเลนส์

 

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติการพัฒนาเลนส์ซูม f/4L รุ่นคลาสสิคของ Canon ได้จากบทความเหล่านี้:
คุณรู้จักเลนส์ซูม f/4L ดีแค่ไหน
ประวัติที่แทบไม่มีใครรู้ของเลนส์ซูม f/2.8L และ f/4L ของ Canon

 

การทดสอบภาคสนามของเลนส์

สถานที่: บริเวณทะเลสาบทั้งห้ารอบภูเขาฟูจิ
สภาพอากาศ: มีเมฆมากและมีแสงแดดเป็นระยะ
สภาพแสง: ค่อนข้างแย่

 

ประสิทธิภาพที่แท้จริงของระบบป้องกันภาพสั่นไหว 5 สต็อป

EF70-200mm f/4L IS II USM คือเลนส์ EF70-200mm f/4L IS USM ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นโดยวางจำหน่ายเมื่อ 12 ปีก่อน และได้รับเสียงชื่นชมอย่างกว้างขวางในด้านประสิทธิภาพในการถ่ายทอดภาพ ในฐานะที่เป็นช่างภาพทิวทัศน์ที่มักจะถ่ายภาพโดยถือกล้องด้วยมือ ผมตั้งตารอคอยที่จะได้ลองใช้ระบบป้องกันภาพสั่นไหว 5 สต็อปในเลนส์นี้

ผมถ่ายภาพด้านล่างโดยถือกล้องด้วยมือในป่าที่ไม่ค่อยมีแสงในวันที่มีเมฆมาก เมื่อใช้ความไวแสง ISO 1600 ความเร็วชัตเตอร์จะอยู่ที่ประมาณ 1/50 วินาที ซึ่งช้ากว่าที่คาดไว้เล็กน้อยจากเลนส์ซูมเทเลโฟโต้ 

ต้นไม้เล็กๆ ในป่า

EOS 5D Mark IV/ EF70-200mm f/4L IS II USM/ FL: 70 มม./ Aperture-priority AE (f/5.6, 1/50 วินาที, EV±0)/ ISO 1600/ WB: แสงแดด

เมื่อใช้ IS โหมด 1 ขณะถ่ายผ่านช่องมองภาพ จะช่วยป้องกันไม่ให้กล้องสั่น จึงได้ภาพที่มีความคมชัดและดูเหมือนต้นไม้หยุดความเคลื่อนไหว ผมให้ลำต้นของต้นไม้ในพื้นหลังอยู่ในโฟกัสเพื่อให้ได้เอฟเฟ็กต์ภาพที่ดูเหมือนกำลังจ้องมองผ่านแถวต้นไม้เหล่านั้น

ข้อได้เปรียบหลักๆ ของเลนส์รุ่นนี้คือทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะสามารถถ่ายภาพได้อย่างคมชัด รวมถึงรายละเอียดต่างๆ โดยไม่เกิดการเบลอของตัวแบบ แทนที่จะคอยย้อนกลับมาดูภาพบ่อยๆ เพื่อเช็คว่ากล้องสั่นหรือไม่ ตอนนี้ผมรู้สึกว่าสิ่งที่ผมต้องสนใจมีเพียงแค่ลั่นชัตเตอร์ให้ทันเพื่อเก็บภาพสภาพแสงที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แม้ในสภาวะการถ่ายภาพที่ไม่จำเป็นต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์สูง เลนส์นี้ก็ยังสามารถถ่ายทอดภาพอย่างสร้างสรรค์ได้หลากหลายแบบ เลนส์นี้สามารถถ่ายภาพไฮคีย์ที่มีโทนสีขาวหรือโทนสว่างเป็นส่วนใหญ่ได้อย่างง่ายดาย

เมื่อใช้เลนส์นี้กับกล้องที่มีประสิทธิภาพในการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย เช่น EOS 5D Mark IV หรือ EOS 6D Mark II คุณจะสามารถถ่ายภาพได้อย่างไร้ความกังวล ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพในเวลาเช้าตรู่ ในตอนเย็น หรือช่วงเวลาอื่นๆ ที่มีแสงน้อย

พระอาทิตย์ในยามเย็น

EOS 5D Mark IV/ EF70-200mm f/4L IS II USM/ FL: 94 มม./ Aperture-priority AE (f/11, 1/1,000 วินาที, EV−1.0)/ ISO 400/ WB: แสงแดด

ดวงอาทิตย์ในยามเย็นเหนือทะเลสาบยามานากะนั้นมีแสงจ้า แต่การเคลือบผิวแบบ Super Spectra Coating (SSC) ทำให้สามารถป้องกันการเกิดแสงแฟลร์และแสงหลอกได้ เพราะอย่างนี้ ผมจึงให้ความสนใจกับสภาพแสงและการเคลื่อนที่ของก้อนเมฆได้อย่างเต็มที่ เพื่อถ่ายภาพให้ออกมาสมบูรณ์แบบ

 

ด้วยความอเนกประสงค์มากระดับนี้ ผมแทบไม่เชื่อว่ากำลังใช้เลนส์เพียงแค่ตัวเดียว

ระยะโฟกัสใกล้สุดที่สั้นกว่า (หรือระยะการถ่ายภาพต่ำสุดที่ 1 ม. เมื่อเทียบกับ 1.2 ม. ของเลนส์ EF70-200mm f/4L IS USM) มีประโยชน์อย่างมาก ตอนนี้ผมสามารถถ่ายภาพต้นไม้หรือดอกไม้ที่อยู่บนพื้นได้อย่างสะดวกสบายในขณะที่กำลังยืนอยู่

เลนส์นี้ทำให้ผมถ่ายภาพได้อย่างเพลิดเพลิน ไม่ใช่แค่เพราะโหมดมาโครเทเลโฟโต้ที่สามารถให้กำลังขยายได้ 0.27 เท่าเท่านั้น แต่ยังให้เอฟเฟ็กต์โบเก้ที่สวยงามอีกด้วย ผมชอบความสามารถรอบด้านของเลนส์นี้เป็นพิเศษ เพราะบางครั้งผมรู้สึกราวกับว่ากำลังใช้เลนส์สองถึงสามตัว ไม่ใช่แค่ตัวเดียว

ดอกไม้เล็กๆ สีขาว

EOS 5D Mark IV/ EF70-200mm f/4L IS II USM/ FL: 70 มม./ Aperture-priority AE (f/11, 1/1,600 วินาที, EV−0.7)/ ISO 400/ WB: แสงแดด

ดอกไม้เหล่านี้กำลังโอนเอนเล็กน้อยไปตามแรงลม ผมเขยิบเข้าไปใกล้และถ่ายภาพดอกไม้เหล่านั้นจากระยะโฟกัสใกล้สุด รายละเอียดภาพถ่ายทอดออกมาอย่างดีด้วยค่า f/11 และความเร็วชัตเตอร์สูง ผมปรับการชดเชยแสงลงมาที่ EV-0.7 เพื่อให้ส่วนที่มืดดูมีความลึกมากขึ้นและทำให้ดอกไม้สีขาวเด่นออกมา

อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงที่สำคัญจากเลนส์รุ่นก่อนคือการเพิ่มจำนวนม่านรูรับแสงเป็น 9 กลีบ เมื่อถ่ายภาพโดยใช้รูรับแสงที่แคบกว่ารูรับแสงกว้างสุด 2 ถึง 3 สต็อป วงโบเก้ (ดูภาพที่ 3 จากด้านบน) ก็ยังคงกลมสวยอยู่และมองไม่เห็นขอบ ทำให้ภาพดูมีความนุ่มนวล

ดอกป๊อปปี้สีเหลืองที่มีโบเก้

EOS 5D Mark IV/ EF70-200mm f/4L IS II USM/ FL: 200 มม./ Aperture-priority AE (f/8, 1/2,500 วินาที, EV−0.7)/ ISO 400/ WB: แสงแดด

ภาพมาโครเทเลโฟโต้ของดอกป๊อปปี้ที่ยังตูมนี้ถ่ายที่ระยะ 1 ม. (ระยะโฟกัสใกล้สุด) แม้ผมจะตั้งค่ารูรับแสงไว้ค่อนข้างแคบที่ f/8 ระยะชัดลึกที่ตื้นที่ 200 มม. และรูรับแสงทรงกลมก็ยังช่วยทำให้เกิดโบเก้ที่สวยงามและนุ่มนวลได้จากสีสันในแบ็คกราวด์

 

สืบทอดคุณสมบัติอันเป็นที่ยอมรับมาจากเลนส์รุ่นก่อนและนำมาพัฒนาต่อ

ผมใช้เวลาทั้งวันในการถ่ายภาพตัวแบบต่างๆ ในบริเวณภูเขาฟูจิโดยถือกล้องด้วยมือและใช้เลนส์ EF70-200mm f/4L IS II USM

เมื่อหมดวัน ผมก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าเลนส์ EF70-200mm f/4L IS II USM ยังคงมีประสิทธิภาพอันเป็นที่ยอมรับในการแยกรายละเอียดและมีความสามารถสูงในการถ่ายทอดส่วนที่มีความเปรียบต่างสูงเช่นเดียวกับเลนส์รุ่นก่อน

การปรับปรุงของเลนส์รุ่นนี้ทำให้สามารถแสดงภาพได้สว่างและคมชัดยิ่งกว่าเลนส์รุ่นไหนที่ผมเคยใช้มา

ภูเขาฟูจิที่มีโบเก้ของต้นไม้ในโฟร์กราวด์

EOS 5D Mark IV/ EF70-200mm f/4L IS II USM/ FL: 70 มม./ Aperture-priority AE (f/4, 1/3,200 วินาที, EV+0.3)/ ISO 400/ WB: แสงแดด

สามารถแยกรายละเอียดของภาพได้เป็นอย่างดีจากรูรับแสงกว้างสุดที่ f/4 และเห็นลายเส้นได้ชัดเจนทุกรายละเอียด การโฟกัสที่ภูเขาฟูจิและเบลอต้นไม้ที่อยู่ในโฟร์กราวด์ทำให้ภาพดูสมจริงมากขึ้น

*รีวิวนี้เขียนขึ้นโดยใช้กล้องรุ่นทดลองซึ่งอาจแตกต่างจากกล้องที่วางจำหน่ายในร้านค้าในเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกและคุณภาพของภาพ

 

ข้อมูลจำเพาะ

โครงสร้างเลนส์: 20 ชิ้นเลนส์ใน 15 กลุ่ม
รูรับแสงต่ำสุด: f/32
จำนวนม่านรูรับแสง: 9 (รูรับแสงทรงกลม)
ระยะโฟกัสใกล้ที่สุด: 1 ม.
กำลังขยายสูงสุด: 0.27 เท่า
เส้นผ่านศูนย์กลางฟิลเตอร์: φ72 ม.
ขนาด: φ80 ×176 มม.
น้ำหนัก: ประมาณ 780 ก.

 

แผนภาพโครงสร้างเลนส์

แผนภาพโครงสร้างเลนส์ของ EF70-200mm f4L IS II USM

A: ชิ้นเลนส์ฟลูออไรต์
B: เลนส์ UD

 

เลนส์ EF70-200mm f4L IS II USM กับกล้อง EOS 5D Mark IV

ติดตั้งบนกล้อง EOS 5D Mark IV

 

ฮูดเลนส์ ET-78B

ฮูดเลนส์ ET-78B (มาพร้อมกับกล้อง)

 


รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT

ลงทะเบียนตอนนี้!

 

เกี่ยวกับผู้เขียน

GOTO AKI

เกิดเมื่อปี 1972 ที่จังหวัดคานากาวะ จบการศึกษาจาก Sophia University และ Tokyo College of Photography Goto เผยแพร่ผลงานคอลเลคชั่นภาพถ่ายที่มีชื่อว่า "LAND ESCAPES" และยังมีส่วนร่วมในผลงานอื่นๆ อีก อาทิ "water silence" การแสดงผลงานศิลปะที่ผสานภาพถ่ายกับวิดีโอเข้าไว้ด้วยกัน

http://gotoaki.com/

Digital Camera Magazine

นิตยสารรายเดือนที่เชื่อว่าความสุขของการถ่ายภาพจะยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ถ่ายภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องมากยิ่งขึ้น นิตยสารเล่มนี้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับกล้องรุ่นใหม่ๆ รวมถึงคุณสมบัติของกล้องและนำเสนอเทคนิคการถ่ายภาพอย่างหลากหลาย
จัดพิมพ์โดย Impress Corporation

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา