ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

ผลิตภัณฑ์ >> ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด

เลนส์ 3 แบบสำหรับเริ่มต้นถ่ายภาพอาหาร

2024-05-10
0
3.36 k

ไม่ว่าจะเข้าไปใกล้ๆ เนื้อสัมผัสน่ากิน ถ่ายภาพแบบไม่ใช้ขาตั้งกล้องในร้านอาหารที่มีแสงน้อยได้คมชัดขึ้น ไปจนถึงสร้างแบ็คกราวด์เบลอ (“โบเก้”) ฟูฟ่องนุ่มนวลที่ขับเน้นให้อาหารจานหลักดูโดดเด่น เพียงเปลี่ยนเลนส์ที่คุณใช้ ก็จะเพิ่มความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการถ่ายภาพอาหาร คำถามก็คือ ท่ามกลางตัวเลือกมากมาย คุณควรเลือกใช้เลนส์แบบใด ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ควรพิจารณา รวมถึงเลนส์แนะนำของเรา

ในบทความนี้:

 

เลนส์เดี่ยว: ไวแสง คมชัด และสารพัดประโยชน์

เลนส์ตัวแรกที่ช่างภาพอาหารส่วนใหญ่จะเลือกซื้อคือเลนส์เดี่ยว เพราะเหตุผลต่อไปนี้

- รูรับแสงกว้างสุดที่กว้าง
โดยทั่วไป เลนส์เดี่ยว “มีความไวสูงกว่า” (=มีรูรับแสงกว้างสุดที่กว้างกว่า) เลนส์ซูมส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลนส์คิทที่มาพร้อมกับกล้อง เลนส์ชนิดนี้จึงมีประโยชน์ในสภาพแสงน้อย เพราะคุณสามารถใช้ความไวแสง ISO ต่ำๆ และ/หรือความเร็วชัตเตอร์สูงๆ เพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่คมชัดแม้ว่าจะไม่ได้ใช้แฟลช

- โบเก้สวย (ระยะชัดที่ตื้นขึ้น)
รูรับแสงกว้างสุดที่กว้างยังช่วยให้สร้างแบ็คกราวด์เบลอสวยๆ ได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะลดความยุ่งเหยิงของบริบทโดยรอบและดึงดูดความสนใจไปที่ตัวอาหาร จึงเป็นเรื่องง่ายขึ้นที่จะทำให้อุปกรณ์ประกอบฉากไม่หันเหความสนใจของผู้ชมไปที่อื่น

- ขนาดเล็กและใช้งานง่าย
คุณอาจพบว่าการจับถือเลนส์เดี่ยวอย่างมั่นคงและขยับหามุมที่ดีที่สุดทำได้ง่ายกว่าเลนส์ชนิดอื่น หากกล้องกับเลนส์ที่คุณใช้เบาพอที่จะถ่ายภาพได้ด้วยมือข้างเดียว คุณก็ถ่ายได้แม้แต่ภาพตอนตัวเองรินน้ำ หรือเป็นนายแบบนางแบบมือเองได้โดยไม่ต้องตั้งขาตั้งกล้อง!

- ความคมชัด
การปรับคุณภาพด้านออพติคอลให้เหมาะสมสำหรับทางยาวโฟกัสเดียวนั้นทำได้ง่ายกว่า ภาพที่ได้จากเลนส์เดี่ยวจึงคมชัดกว่าภาพที่ถ่ายด้วยเลนส์ซูมระดับเริ่มต้นหรือเลนส์ซูมคิท! ไม่มีอะไรที่จะทำให้ภาพถ่ายอาหารยิ่งดูน่ากินมากขึ้นได้เท่ากับการแสดงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้อย่างละเอียดอ่อน

 

ยิ่งไปกว่านั้น ดีไซน์ที่เรียบง่ายกว่าของเลนส์เดี่ยวช่วยให้สามารถรวมคุณสมบัติหลายอย่างเข้าด้วยกันได้มากขึ้น คุณสมบัติอย่างหนึ่งที่มีประโยชน์ซึ่งจะพบได้ในเลนส์เดี่ยวหลายรุ่นจาก Canon คือ ฟังก์ชั่นมาโคร เลนส์เดี่ยวเกือบทุกรุ่นที่เราแนะนำในบทความนี้สามารถถ่ายภาพมาโคร 0.5 เท่าเป็นอย่างน้อย คุณจะสามารถถ่ายภาพอาหารชิ้นเล็กๆ ได้เต็มเฟรมภาพยิ่งขึ้น และเก็บภาพโคสอัพของรายละเอียดและเนื้อสัมผัสชวนน้ำลายหกได้!

 

สิ่งที่ควรพิจารณาเวลาเลือกเลนส์เดี่ยว

เมื่อต้องตัดสินใจเลือกรุ่นเลนส์เดี่ยวที่จะซื้อ สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาคือทางยาวโฟกัส ควรเลือกเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสซึ่งคุณใช้งานได้ง่าย (หรือเสริมการทำงานของเลนส์ที่คุณมีอยู่) และจับภาพมุมมองเปอร์สเปคทีฟที่คุณชื่นชอบ

  ทางยาวโฟกัสกว้างๆ ทางยาวโฟกัสแคบๆ
ขอบเขตภาพ ใหญ่กว่า เล็กกว่า
ระยะชัดของภาพ ลึกกว่า ตื้นกว่า
ระยะการทำงาน
(จำเป็นในการจัดเฟรมภาพที่เหมือนกัน)
เล็กกว่า ใหญ่กว่า
ภาพโคลสอัพที่เต็มเฟรม ยากกว่า ง่ายกว่า
ความบิดเบี้ยว มากกว่า น้อยกว่า

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างทางยาวโฟกัสหลักๆ ที่ช่างภาพอาหารมืออาชีพเลือกใช้ รวมถึงเลนส์ที่แนะนำสำหรับทั้งผู้ใช้กล้องฟูลเฟรมและผู้ใช้กล้อง APS-C

 

1. เลนส์ 35 มม.: เหมาะอย่างยิ่งสำหรับภาพจากมุมสูงและภาพอาหารระหว่างท่องเที่ยว

ภาพโดย Kim/@niesukma_
EOS R6 Mark II + RF35mm f/1.8 Macro IS STM ที่ f/3.5, 1/100 วินาที, ISO 1000

เลนส์ 35 มม. ใช้ถ่ายภาพจากมุมสูงและมุมเหนือศีรษะได้สะดวก เพราะคุณไม่ต้องถือกล้องให้สูงมากเพื่อที่จะเก็บภาพไว้ในเฟรมมากขึ้น ซึ่งนับเป็นข้อดีอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นคนตัวเล็ก! อีกทั้งยังช่วยให้คุณเก็บรายละเอียดบรรยากาศโดยรอบได้มากขึ้นเวลาถ่ายภาพที่ร้านอาหาร คาเฟ่ หรืองานอีเวนต์ต่างๆ หากเลนส์มีฟังก์ชั่นมาโคร เช่น RF35mm f/1.8 Macro IS STM (กำลังขยายสูงสุดประมาณ 0.5 เท่า) ก็จะโฟกัสใกล้ตัวแบบได้มากขึ้น ทำให้จับภาพรายละเอียดและเนื้อสัมผัสให้เต็มเฟรมยิ่งขึ้นได้

เนื่องจากการจัดเฟรมภาพที่ระยะ 35 มม. ทั้งในอาคารและนอกอาคารทำได้ง่ายมาก เลนส์ 35 มม. จึงเป็นเลนส์ความไวสูงที่เหมาะสำหรับใช้ได้ทุกวันหรือเวลาเดินทางท่องเที่ยวอีกด้วย คุณจะพบว่าตัวเองใช้เลนส์นี้ถ่ายมากกว่าแค่ภาพอาหารอย่างแน่นอน!

เคล็ดลับระดับมือโปร: ความบิดเบี้ยวเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคุณหรือไม่
ไม่ต้องแปลกใจไปถ้าวัตถุทรงกลมจะดูเป็นรูปทรงรีเล็กน้อย 35 มม. เป็นทางยาวโฟกัสมุมกว้าง จึงทำให้เกิดการบิดเบี้ยวของเปอร์สเปคทีฟ ซึ่งจะเห็นชัดขึ้นที่บริเวณขอบเฟรมในภาพโคลสอัพ และเวลามีการเอียงกล้อง เช่น ภาพมุมทแยง แม้ว่าจะใช้ความบิดเบี้ยวให้ออกมาดูสร้างสรรค์ได้ แต่ถ้านั่นไม่ใช่เอฟเฟ็กต์ที่คุณ (หรือลูกค้าของคุณ) ต้องการ ควรหลีกเลี่ยงมุมเช่นนี้และระมัดระวังสิ่งที่คุณวางไว้ตรงขอบเฟรม นอกจากนี้ ควรพิจารณาใช้ทางยาวโฟกัสที่ยาวขึ้น อย่างน้อย 50 มม. ขึ้นไป

 

เลนส์ที่แนะนำสำหรับกล้องฟูลเฟรม: RF35mm f/1.8 Macro IS STM

มีน้ำหนักเบาและพกพาสะดวก เป็นเลนส์สารพัดประโยชน์มากที่สุดรุ่นหนึ่งของ Canon เลนส์รุ่นนี้มีรูรับแสงกว้างสุดความไวสูงที่ f/1.8 และระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวสูงสุดถึง 5 สต็อป ซึ่งมีประโยชน์สำหรับการถ่ายภาพโดยไม่ใช้ขาตั้งกล้องในสภาวะแสงน้อย ส่วนความสามารถในการถ่ายภาพมาโคร 0.5 เท่า จะช่วยให้คุณถ่ายภาพโคลสอัพได้โดยที่ตัวแบบอยู่ห่างจากปลายเลนส์เพียงไม่กี่เซนติเมตร อาหารจึงเป็นเพียงหนึ่งในตัวแบบที่เลนส์รุ่นนี้สามารถรับมือได้อย่างง่ายดาย!


เลนส์ที่แนะนำสำหรับกล้อง APS-C: RF24mm f/1.8 Macro IS STM

เมื่อใช้กับกล้อง APS-C
ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า: 38.4 มม.
กำลังขยายสูงสุดที่ใช้ได้จริง: ประมาณ 0.8 เท่า

หากคุณกำลังมองหาเลนส์เดี่ยวสำหรับกล้อง APS-C ต้องคำนึงถึงคุณสมบัติการครอป 1.6 เท่าด้วย RF24mm f/1.8 Macro IS STM จะให้ขอบเขตภาพคล้ายกับเลนส์ RF35mm f/1.8 Macro IS STM ที่ใช้กับกล้องฟูลเฟรม อีกทั้งยังมีขนาดใกล้เคียงกัน

 

2. เลนส์ 50 มม.: ทางยาวโฟกัสสารพัดประโยชน์

ภาพโดย Kim/@niesukma_
EOS R6 Mark II + RF50mm f/1.8 STM ที่ f/4, 1/125 วินาที, ISO 100

ช่างภาพจำนวนมากชอบถ่ายภาพจากมุม 45 องศาหรือมุมทแยงที่ระยะ 50 มม. หรือยาวกว่านั้น เพราะแทบจะไม่เห็นความบิดเบี้ยวใดๆ เมื่อเทียบกับการถ่ายที่ระยะ 35 มม. ที่จริงแล้ว เลนส์ 50 มม. มีความสามารถรอบด้านสูงมาก เพราะให้มุมมองเปอร์สเปคทีฟที่เป็นธรรมชาติไม่ว่าคุณจะถ่ายภาพในระยะใกล้ไกลแค่ไหน! ช่างภาพบางคนยังอาจจะชอบขอบเขตภาพที่แน่นขึ้นเล็กน้อย เพราะช่วยให้เก็บภาพตัวแบบที่มีขนาดเล็กได้เต็มเฟรมง่ายขึ้น

แน่นอนว่าเลนส์ประเภทนี้ยังสามารถถ่ายภาพฉากกว้างๆ เช่น ภาพจากมุมสูงและภาพอาหารบนโต๊ะ แต่คุณจะต้องขยับกล้องให้ห่างออกไปประมาณ 30 ถึง 40 ซม. เพื่อให้ได้องค์ประกอบภาพเดียวกันกับเลนส์ 35 มม.


เคล็ดลับระดับมือโปร: เมื่อถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย ควรใช้ Focus Bracketing

หากคุณต้องใช้รูรับแสงกว้างสุดเวลาถ่ายภาพและพบว่าจับโฟกัสตัวแบบได้ไม่เต็มที่ ให้ถือกล้องให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ และใช้ Focus Bracketing ฟังก์ชั่นนี้จะถ่ายภาพหลายๆ ภาพด้วยตำแหน่งโฟกัสที่ต่างกัน ซึ่งสามารถนำมารวมกันเพื่อสร้างภาพที่คมชัดยิ่งขึ้น กล้องซีรีย์ EOS R ส่วนใหญ่มีฟังก์ชั่น Focus Bracketing ซึ่งจะถ่ายภาพแบบคร่อมระยะโฟกัส และกล้องรุ่นใหม่ๆ เช่น EOS R6 Mark II และ EOS R8 มีฟังก์ชั่น Depth Composition ซึ่งจะรวมภาพที่ถ่ายคร่อมเข้าด้วยกันภายในกล้อง

อ่านเพิ่มเติมได้ที่
จะเพิ่มระยะชัดได้อย่างไรเวลาถ่ายภาพโดยใช้รูรับแสงกว้าง
การซ้อนโฟกัส: เทคนิคมืออาชีพที่ทำได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วย Focus Bracketing

 

เลนส์ที่แนะนำสำหรับกล้องฟูลเฟรม: RF50mm f/1.8 STM

“เลนส์ 50 มม. ความไวสูง” รุ่นนี้ได้รับความนิยมมากในฐานะเลนส์ตัวที่สองหรือเลนส์เดี่ยวตัวแรก เพราะราคาไม่แพง มีขนาดเล็ก และน้ำหนักเบา ตัวเลนส์ขนาดกะทัดรัดช่วยให้จับถืออย่างมั่นคงได้ง่าย แต่การใช้งานร่วมกับกล้องที่มี IS ในตัว เช่น EOS R6 Mark II จะยิ่งทำให้ผู้ใช้ได้ประโยชน์มากขึ้นจากระบบป้องกันภาพสั่นไหว


เลนส์ที่แนะนำสำหรับกล้อง APS-C: RF35mm f/1.8 Macro IS STM

เมื่อใช้กับกล้อง APS-C
ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า: 56 มม.
กำลังขยายสูงสุดที่ใช้ได้จริง: ประมาณ 0.8 เท่า

ผู้ใช้กล้อง APS-C ที่ใช้เลนส์นี้จะได้รับประโยชน์ต่างๆ เช่น ระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวสูงสุด 5 สต็อป และความสามารถในการถ่ายภาพมาโครประมาณ 0.8 เท่า

 

3. เลนส์ 85 มม.:  มุมมองเปอร์สเปคทีฟระดับมืออาชีพ

ภาพโดย Tan Jiajun/@jsquaress
EOS R5 + RF85mm f/2 Macro IS STM ที่ f/4, 1/200 วินาที, ISO 200

เลนส์ 85 มม. ถือว่าเป็นเลนส์เทเลโฟโต้ระยะกลาง (บางครั้งเรียกว่า “ระยะสั้น”) เลนส์ชนิดนี้เป็นที่ชื่นชอบในหมู่ช่างภาพอาหารเชิงพาณิชย์ เพราะให้มุมมองเปอร์สเปคทีฟที่สวยงามเป็นธรรมชาติ การบีบอัดภาพเล็กน้อย และระยะชัดที่ตื้น คุณสมบัติเหล่านี้จะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างภาพถ่ายสมจริงซึ่งดึงดูดคุณเข้าไปในเฟรมและจดจ่ออยู่ที่ตัวแบบหลัก ทั้งยังเป็นเหตุผลที่ทำให้ 85 มม. เป็นทางยาวโฟกัสมาตรฐานสำหรับการถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การครอปที่แน่นขึ้นช่วยให้ถ่ายภาพสไตล์มินิมัลของตัวแบบขนาดเล็กๆ เช่น ลูกกวาดและผลเบอร์รี่ ได้ง่ายโดยไม่เหลือพื้นที่ว่างมากเกินไป คุณจะต้องยืนห่างออกไปจากตัวแบบมากขึ้นหากต้องการรวมอุปกรณ์ประกอบฉากหรือตัวแบบรองไว้ในเฟรมภาพด้วย สำหรับภาพด้านบน ช่างภาพอยู่ห่างออกไปประมาณ 1 เมตร


เลนส์ที่แนะนำสำหรับกล้องฟูลเฟรม: RF85mm f/2 Macro IS STM

เลนส์ 85 มม. รุ่นแรกจาก Canon ที่มีความสามารถในการถ่ายภาพแบบมาโครนี้ มีน้ำหนักราว 500 กรัม ซึ่งช่วยให้จับถือได้ง่ายมาก อีกทั้งยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว (IS) ในตัว 5 สต็อป ซึ่งจะเพิ่มได้สูงสุดเป็น 8 สต็อปเมื่อใช้ร่วมกับกล้องที่มี IS ในตัว คุณจึงสามารถจับโฟกัสตัวแบบที่อยู่ห่างจากปลายเลนส์ไปประมาณ 21 ซม. ซึ่งไกลพอที่จะไม่ทำให้เกิดเงา นับได้ว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามากสำหรับเลนส์มาโครเทเลโฟโต้ตัวแรก


เลนส์ที่แนะนำสำหรับกล้อง APS-C: RF50mm f/1.8 STM

เมื่อใช้กับกล้อง APS-C
ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า: 80 มม.
กำลังขยายสูงสุดที่ใช้ได้จริง: ประมาณ 0.4 เท่า

เมื่อใช้ร่วมกับกล้อง APS-C “เลนส์ 50 มม. ความไวสูง” ระดับคลาสสิกรุ่นนี้จะกลายเป็นเลนส์เทเลโฟโต้ระยะกลางที่มีขอบเขตภาพใกล้เคียงกับเลนส์ 85 มม. แม้ว่าจะไม่มีคำว่า “มาโคร” อยู่ในชื่อเลนส์ แต่เลนส์รุ่นนี้สามารถจับโฟกัสตัวแบบที่อยู่ใกล้ถึงประมาณ 24 ซม. จากปลายเลนส์ การครอปแบบ APS-C 1.6 เท่า ช่วยให้เลนส์ขยายตัวแบบได้มากเกือบเท่ากับ RF85mm f/2 Macro IS STM

 

ฟังก์ชั่นสำคัญ: การเข้าใกล้รายละเอียด

ภาพโดย Tan Jiajun/ @jsquaress
EOS R5 + RF85mm f/2 Macro IS STM ที่ f/4, 1/200 วินาที, ISO 200

เลนส์ที่มีความสามารถในการถ่ายภาพกึ่งมาโคร เช่น RF85mm f/2 Macro IS STM และ RF35mm f/1.8 Macro IS STM สามารถจับโฟกัสได้ค่อนข้างใกล้กับตัวแบบ ซึ่งจะช่วยให้คุณถ่ายภาพโคลสอัพของรายละเอียดต่างๆ ได้เหมือนในภาพด้านบน เลนส์ประเภทนี้จึงใช้เสริมความสามารถในส่วนที่เลนส์ซูมคิทขาดไปได้ดี เพราะเลนส์ซูมคิทไม่สามารถจับโฟกัสตัวแบบได้ใกล้เท่า การใช้กล้อง APS-C หรือโหมด 1.6 เท่าในกล้องฟูลเฟรมช่วยให้คุณถ่ายภาพได้เต็มเฟรมมากขึ้น สูงสุดเทียบเท่ากำลังขยาย 0.8 เท่า

เกี่ยวกับผู้เขียน

Nie Sukma (Kim)

Nie Sukma (หรือที่คนส่วนใหญ่เรียกว่า “Kim”) เป็นช่างภาพสาวผู้อาศัยอยู่ในเมืองบันดุง จังหวะชวาตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย เธอเข้าสู่โลกแห่งการถ่ายภาพอาหารด้วยกล้อง EOS M3 ในปี 2562 และเป็น EOS Creator Indonesia ของ Canon Indonesia มาตั้งแต่ปี 2564 เธอเชี่ยวชาญด้านการถ่ายภาพสไตล์เรียบง่ายเป็นธรรมชาติ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะดึงเอาเสน่ห์ที่แท้จริงของอาหารออกมาโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ประกอบฉากมากมาย นอกจากงานถ่ายภาพสำหรับธุรกิจขนาดกลางและเล็ก แบรนด์ต่างๆ และร้านอาหารแล้ว เธอยังทำงานร่วมกับ Canon Indonesia เพื่อสอนในเวิร์กช็อปการถ่ายภาพอาหารทั่วประเทศอีกด้วย


อินสตาแกรม: @niesukma_
 
Tan Jiajun

Jiajun เริ่มเรียนถ่ายภาพและการออกแบบอาหารเมื่อครั้งยังเป็นนักศึกษาฝึกงานในบริษัทที่ถ่ายภาพอาหาร ประสบการณ์ครั้งนั้นได้จุดประกายความหลงใหลที่ทำให้เขาชนะการแข่งขันถ่ายภาพ รวมถึงรางวัลชนะเลิศในงาน Canon PhotoMarathon Singapore และการเข้าแข่งขันในรายการ Photo FaceOff ทางช่อง History Channel หลังจากเข้ารับการเกณฑ์ทหารในสิงคโปร์แล้ว เขายังคงฝึกปรือทักษะการถ่ายภาพอย่างต่อเนื่องในฐานะผู้ก่อตั้งสตูดิโอ Sparkstudio SG และได้ถ่ายภาพงานอีเวนท์และงานแต่งงานในช่วงสั้นๆ ด้วย นับแต่นั้นมา เขาก็ตัดสินใจที่จะให้ความสำคัญกับสิ่งแรกที่ตัวเองหลงใหล นั่นคือการสร้างสรรค์ภาพที่ดึงเสลองน่ห์ของอาหารออกมา นอกจากทำให้อาหารดูดีแล้ว เขายังตั้งใจที่จะบอกเล่าเรื่องราวและสร้างอารมณ์ความรู้สึกที่สะท้อนผ่านการถ่ายภาพและวิดีโออาหารอีกด้วย

อินสตาแกรม: @jsquaress, @sparkstudiofood
 

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา