ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

เคล็ดลับและบทเรียน >> เคล็ดลับและบทเรียนทั้งหมด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการตั้งค่ากล้อง: จะเพิ่มระยะชัดได้อย่างไรเวลาถ่ายภาพโดยใช้รูรับแสงกว้าง

2023-06-29
3
445

การถ่ายภาพด้วยรูรับแสงกว้างมีข้อดีคือ โบเก้ที่สวยงาม ภาพที่สว่างขึ้น และความเร็วชัตเตอร์ที่สูงขึ้นในสภาวะแสงน้อย อย่างไรก็ตาม ระยะชัดที่ค่อนข้างตื้นอาจทำให้ตัวแบบทั้งหมดอยู่ในโฟกัสได้ยากเช่นกัน วิธีแก้ไขคือใช้ฟังก์ชั่น Focus Bracketing และ Depth Compositing ที่มีในตัวกล้องมิเรอร์เลสระบบ EOS R รุ่นใหม่! เราจะแสดงตัวอย่างให้ดูโดยใช้การถ่ายภาพแบบมาโครและการถ่ายภาพโคลสอัพ แต่วิธีนี้ก็สามารถใช้ได้กับการถ่ายภาพรายละเอียดของการตกแต่งภายในอาคารที่มีแสงน้อยเช่นกัน (เรื่องโดย Chikako Yagi, Digital Camera Magazine)

ดอกเห็ดที่มีแบ็คกราวด์เบลอ

EOS R7/ RF100mm f/2.8L Macro IS USM/ FL: 100 มม. (เทียบเท่า 160 มม.)/ Aperture-priority AE (f/2.8, 1/200 วินาที)/ ISO 100
ได้จากการใช้ภาพ Focus Bracketing 30 ภาพ

ฟังก์ชั่น Focus Bracketing และ Depth Compositing ช่วยให้ดอกเห็ดอยู่ในโฟกัสได้ทั้งดอกโดยที่ยังคงมีแบ็คกราวด์เบลออันนุ่มนวลที่ f/2.8

ในบทความนี้:

 

ระยะชัดที่คุณต้องตัดสินใจเลือกในการถ่ายภาพโคลสอัพ

การได้เห็นวัตถุต่างๆ ในระยะใกล้ผ่านเลนส์มาโครเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง แต่การถ่ายภาพให้มีระดับแสงที่เหมาะสมและอยู่ในโฟกัสทั้งหมดอาจต้องอาศัยความพยายามมากกว่าที่คุณคิด!

สาเหตุข้อหนึ่งของปัญหานี้คือระยะชัด (DOF) ที่ตื้นมากในการถ่ายภาพโคลสอัพ DOF ตื้นคือสิ่งที่ช่วยสร้างแบ็คกราวด์เบลออันสวยงาม (โบเก้) ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบในการถ่ายภาพพอร์ตเทรต แต่ก็อาจทำให้ตัวแบบดู “เบลอ” หรือ “ไม่คมชัด” ได้หากอยู่นอกโฟกัสมากเกินไป แต่ถึงอย่างนั้น การใช้รูรับแสงที่แคบลงเพื่อเพิ่ม DOF ก็อาจไม่ช่วยให้คุณได้เอฟเฟ็กต์ที่ต้องการ


f/2.8: สิ่งที่ (มักจะ) เกิดขึ้นเมื่อใช้ค่ารูรับแสงกว้าง

EOS R7/ RF100mm f/2.8L Macro IS USM/ FL: 100 มม. (เทียบเท่า 160 มม.)/ Aperture-priority AE (f/2.8, 1/200 วินาที)/ ISO 100

ค่ารูรับแสงกว้างเช่น f/2.8 ทำให้ DOF ตื้น และการถ่ายภาพโคลสอัพก็ทำให้ระยะนี้แคบลงอีก แม้จะมีเอฟเฟ็กต์โบเก้ที่สวยงามในแบ็คกราวด์ แต่มีเพียงบางส่วนของดอกเห็ดเท่านั้นที่อยู่ในโฟกัส จึงทำให้ทั้งภาพดูนุ่มนวลเกินไป


f/22: ตัวแบบอยู่ในโฟกัส แต่แบ็คกราวด์ดูยุ่งเหยิง

เมื่อเราปรับรูรับแสงให้แคบลงที่ f/22 DOF จะเพิ่มขึ้นจนมากพอที่จะทำให้ดอกเห็ดอยู่ในโฟกัสทั้งหมด อย่างไรก็ตาม วิธีนี้มีข้อเสียเล็กน้อย ได้แก่

- แบ็คกราวด์มีความเบลอน้อยลง ซึ่งดึงความสนใจของผู้ชมไปจากภาพ
- ภายใต้สภาวะแสงน้อย ภาพอาจดูมืดเกินไป คุณอาจต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ช้าลง ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการเกิดปัญหากล้องสั่นเมื่อถ่ายภาพโดยไม่ใช้ขาตั้ง
- ภาพที่คุณได้อาจยังคงดูนุ่มนวลอยู่เนื่องจากการเบลอจากการกระจายแสง

 

วิธีแก้ไข: ฟังก์ชั่น Focus Bracketing + Depth Compositing

EOS R7/ RF100mm f/2.8L Macro IS USM/ FL: 100 มม. (เทียบเท่า 160 มม.)/ Aperture-priority AE (f/2.8, 1/200 วินาที)/ ISO 100
ได้จากการใช้ภาพ Focus Bracketing 30 ภาพ/ การเพิ่มโฟกัส: 1

ตัวแบบที่มีขนาดเล็กอย่างดอกเห็ดนี้จะใช้จำนวนภาพน้อยกว่าและการตั้งค่าการเพิ่มโฟกัสน้อยกว่าเพื่อให้อยู่ในโฟกัสทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถ่ายภาพจากมุมที่ค่อนข้างแบนราบ

 

ฟังก์ชั่น Focus Bracketing และ Depth Compositing คืออะไร

Focus Bracketing คือการถ่ายภาพหลายภาพโดยให้ส่วนต่างๆ ของตัวแบบอยู่ในโฟกัส เมื่อนำภาพเหล่านี้มารวมเข้าด้วยกัน (“ซ้อนโฟกัส” หรือ “รวมความลึก”) ภาพที่ได้จะมี DOF กว้างกว่าที่เคยทำได้ตามปกติ

กล้องรุ่นเก่า เช่น EOS RP และ PowerShot G7 X Mark II มีฟังก์ชั่นที่สามารถ Focus Bracketing ได้อัตโนมัติโดยการถ่ายภาพหลายภาพอย่างรวดเร็วต่อเนื่องกัน กล้องรุ่นใหม่อย่าง EOS R7, EOS R10 และ EOS R50 ก็สามารถนำภาพมาซ้อนกันในตัวกล้องได้เช่นกัน คุณจึงสามารถดูผลลัพธ์ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอให้คุณใช้คอมพิวเตอร์เพื่อซ้อนภาพ

 

วิธีการทีละขั้นตอน: วิธีการใช้ฟังก์ชั่น Focus Bracketing และ Depth Compositing

1. หาฟังก์ชั่น “Focus Bracketing” แล้วเปิดใช้งาน
หากกล้องของคุณมีฟังก์ชั่นนี้ ก็น่าจะอยู่ในเมนู SHOOT สีแดง ตำแหน่งที่แน่นอนจะขึ้นอยู่กับรุ่นของกล้องที่คุณใช้

2. ตั้งค่า “Focus Bracketing” ไปที่ “เปิดใช้งาน”
ดังที่เคล็ดลับบนหน้าจอได้แนะนำไว้ การสร้างโฟลเดอร์ใหม่สำหรับลำดับภาพซ้อนจะทำให้ง่ายต่อการระบุและจัดการภาพที่นำมาซ้อนกันมากกว่าในภายหลัง

การตั้งค่าใน 2 ขั้นตอนถัดไปจะขึ้นอยู่กับตัวแบบของคุณ คุณอาจต้องทดลองสักสองสามครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละฉาก


3. กำหนดค่าการเพิ่มโฟกัส

การตั้งค่านี้เป็นตัวกำหนดว่าโฟกัสจะเปลี่ยนแปลงไปมากเท่าใดในแต่ละภาพ กล้องจะปรับตำแหน่งโฟกัสโดยอัตโนมัติเพื่อให้เหมาะกับค่ารูรับแสง ระยะชัดที่นำมารวมกันจะมีค่าสูงสุดเมื่อใช้ค่ารูรับแสงแคบ (ค่า f สูง) นอกจากนี้ ทางยาวโฟกัสและเลนส์ก็อาจส่งผลต่อภาพที่ได้เช่นกัน


4. กำหนดจำนวนภาพ

สำหรับตัวแบบที่มีขนาดเล็กอย่างดอกเห็ดในภาพตัวอย่างด้านบน ภาพ 30 ภาพที่ใช้ค่าการเพิ่มโฟกัสเพียงเล็กน้อยที่ “1” และค่ารูรับแสง f/2.8 จะเพียงพอสำหรับการถ่ายภาพให้ตัวแบบทั้งหมดอยู่ในโฟกัสโดยที่แบ็คกราวด์ยังคงเบลออยู่ โบเก้ในแบ็คกราวด์อาจดูแปลกตาไปหากใช้ค่าการเพิ่มโฟกัสที่ห่างกันมาก แน่นอนว่าหากคุณใช้ฟังก์ชั่นนี้เพื่อโฟกัสลึกในฉากจากโฟร์กราวด์ไปจนถึงแบ็คกราวด์ การตั้งค่าของคุณจะแตกต่างออกไป


ตรวจดูว่า: การ์ดหน่วยความจำของคุณมีพื้นที่เพียงพอหรือไม่

ภาพที่ถ่ายโดยใช้ Focus Bracketing จะถูกบันทึกในรูปแบบการบันทึกของคุณตามปกติ หากคุณถ่ายภาพโดยใช้ไฟล์ RAW ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีพื้นที่เก็บข้อมูลเหลืออยู่มากพอ!

5. เปิดใช้งาน Depth Compositing
ฟังก์ชั่นนี้จะปิดการใช้งานโดยค่าเริ่มต้น การเปิดใช้งานจะเป็นการสั่งให้กล้องนำภาพจากการ Focus Bracketing มารวมกันโดยอัตโนมัติหลังถ่ายภาพ
ภาพสุดท้ายที่ได้จากการรวมความลึกจะถูกบันทึกในรูปแบบไฟล์ JPEG

6. ตั้งค่า “การเกลี่ยแสง” และ “ครอปการรวมความลึก” หากจำเป็น
โดยค่าเริ่มต้น การตั้งค่าเหล่านี้จะถูกตั้งไว้ที่ “เปิดใช้งาน”
“การเกลี่ยแสง” จะช่วยชดเชยการเปลี่ยนแปลงระดับความสว่างที่อาจเกิดขึ้นระหว่างภาพแต่ละภาพ
“ครอปการรวมความลึก” จะครอปภาพโดยอัตโนมัติเพื่อให้ภาพซ้อนทั้งหมดอยู่ในแนวเดียวกัน


7. สร้างโฟลเดอร์ใหม่หากจำเป็น

ไอคอนในกรอบสีแดงช่วยให้คุณสร้างโฟลเดอร์การบันทึกใหม่ได้ คุณจึงสามารถแยกภาพจากการ Focus Bracketing และภาพที่ถ่ายโดยการซ้อนโฟกัสออกจากภาพธรรมดาได้


8. ให้จุดโฟกัสอยู่ที่ด้านหน้าภาพในตำแหน่งใดก็ได้ที่คุณต้องการให้เป็นจุดเริ่มต้นของระนาบโฟกัส

จากนั้นจึงกดและลั่นปุ่มชัตเตอร์ กล้องจะถ่ายภาพตามจำนวนที่ระบุโดยเปลี่ยนตำแหน่งโฟกัสให้เหมาะสม หากเปิดใช้งาน “การรวมความลึก” ฟังก์ชั่นนี้จะนำภาพมารวมกันเป็นภาพ JPEG ภาพเดียวโดยอัตโนมัติ

 

สิ่งที่ควรทราบขณะถ่ายภาพ

- จัดองค์ประกอบให้มีพื้นที่เหลือ
เนื่องจากภาพอาจถูกครอปออกไปเพื่อจัดเรียงให้เป็นแนวเดียวกันในระหว่างกระบวนการรวมภาพ

- อย่าใช้ฟังก์ชั่นนี้กับตัวแบบที่กำลังเคลื่อนไหว ถือกล้องให้นิ่ง
วิธีนี้จะช่วยให้คุณถ่ายภาพได้สำเร็จมากขึ้น

- เมื่อต้องถ่ายภาพโดยใช้แสงเทียม ให้ตั้งความเร็วชัตเตอร์เพื่อป้องกันการเกิดแถบสี
ฟังก์ชั่น Anti-flicker จะไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากฟังก์ชั่น Focus Bracketing ต้องใช้ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ คุณจะต้องหาการตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ที่เหมาะสมกับความถี่ในการกระพริบของแหล่งกำเนิดแสง 

ส่วนใหญ่แล้ว ความถี่ (รอบ) นี้จะเท่ากับค่าของไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ในประเทศของคุณ ยกตัวอย่างเช่น หากประเทศของคุณใช้ความถี่ 50 เฮิร์ตซ์ ให้ลองใช้ความเร็ว 1/50 หรือ 1/100 วินาที หากวิธีนี้ไม่ได้ผล แหล่งกำเนิดแสงอาจมีรอบการกระพริบที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น ให้ลองถ่ายภาพทดสอบสักสองสามภาพโดยใช้ความเร็วชัตเตอร์อื่นในโหมดชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์

1/125 วินาที

ทุกภาพที่ประกอบกันเป็นภาพซ้อนที่ 1/125 วินาทีนี้มีแถบสีเกิดขึ้น การประมวลผลของกล้องทำให้มองเห็นแถบสีได้น้อยลงมาก แต่ยังคงมองเห็นได้อยู่ในครึ่งล่างของภาพ

1/30 วินาที

ภาพที่นำมารวมกันเป็นภาพนี้ไม่เกิดแถบสีเลย

 

ฟังก์ชั่น Focus Bracketing ในตัวกล้องมีประโยชน์ในการถ่ายภาพทิวทัศน์และในสถานการณ์ที่ต้องถ่ายภาพด้วยมุมกว้างเช่นกัน! และสามารถลดขั้นตอนการทำงานตามปกติดังที่ได้อธิบายไว้ในบทความด้านล่างนี้
คำแนะนำด้านการซ้อนโฟกัสสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์ให้คมชัด

ดูเคล็ดลับในการถ่ายภาพมาโครและภาพโคลสอัพเพิ่มเติมได้ที่
ภาพมาโครชวนน้ำลายสอ: ศิลปะแห่งการถ่ายภาพอาหารแบบโคลสอัพ
เทคนิคการถ่ายภาพมาโคร: การสร้างพื้นที่ว่างและความลึกลวงตา
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลนส์: ฉันจะได้ภาพแบบไหนหากถ่ายด้วยกำลังขยาย 0.25 หรือ 0.5 เท่า มีเลนส์

เกี่ยวกับผู้เขียน

Digital Camera Magazine

นิตยสารรายเดือนที่เชื่อว่าความสุขของการถ่ายภาพจะยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ถ่ายภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องมากยิ่งขึ้น นิตยสารเล่มนี้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับกล้องรุ่นใหม่ๆ รวมถึงคุณสมบัติของกล้องและนำเสนอเทคนิคการถ่ายภาพอย่างหลากหลาย
จัดพิมพ์โดย Impress Corporation

Chikako Yagi

Chikako Yagi มีอายุเพียง 20 ปีตอนที่เธอเริ่มเรียนรู้การถ่ายภาพด้วยตัวเองโดยใช้กล้องฟิล์ม SLR เธอออกจากงานประจำมาเป็นช่างภาพทิวทัศน์เต็มตัวในปี 2016 เธอเคยฝึกงานกับช่างภาพชื่อดังหลายราย เช่น Kiyoshi Tatsuno และ Tomotaro Ema และยังเป็นสมาชิกของชมรม Shizensou Club ซึ่งก่อตั้งโดย Kiyoshi Tatsuno และเป็นหนึ่งในชมรมช่างถ่ายภาพทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ในปี 2013 เธอได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 10 อันดับช่างภาพฝีมือดีของชมรม Tokyo Camera Club

www.chikakoyagi.com
Instagram: @chikako_yagi

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา