ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

เคล็ดลับและบทเรียน >> เคล็ดลับและบทเรียนทั้งหมด

4 แนวคิดเกี่ยวกับเลนส์ที่จะพลิกโฉมภาพถ่ายของคุณ

2022-12-30
1
550

การจัดองค์ประกอบภาพคือศิลปะแห่งการตัดสินใจว่าจะใส่อะไรเข้าไปในเฟรมภาพและจะนำเสนออย่างไร นอกเหนือไปจากแนวคิดต่างๆ อย่างทฤษฎีสีและแนวทางอย่างเช่นกฎสามส่วน เลนส์ที่คุณเลือกและวิธีการใช้เลนส์ก็มีบทบาทสำคัญต่อความรู้สึกในภาพที่ได้เช่นกัน ต่อไปนี้คือแนวคิดเกี่ยวกับเลนส์ที่สำคัญซึ่งจะช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากเลนส์ได้สูงสุด จัดองค์ประกอบภาพได้อย่างเชี่ยวชาญ และยกระดับการถ่ายภาพขึ้นไปอีกขั้น

ในบทความนี้:

1. ผลของทางยาวโฟกัสที่มีต่อมุมรับภาพ

1. ผลของทางยาวโฟกัสที่มีต่อมุมรับภาพ

หากคุณถ่ายภาพมาได้สักระยะ คุณอาจจะเข้าใจอยู่แล้วว่าทางยาวโฟกัสที่ใช้ส่งผลอย่างไรต่อมุมรับภาพ ซึ่งหมายถึงขอบเขตของฉากเบื้องหน้าที่ถูกถ่ายไว้โดยเซนเซอร์ภาพของกล้องและเข้ามาอยู่ในภาพ

ลองมาดูตัวอย่างในภาพด้านล่างซึ่งถ่ายที่ 24 มม., 45 มม. และ 105 มม. จากจุดเดียวกัน คุณสังเกตเห็นว่าขอบเขตของภาพเป็นอย่างไร และขนาดของตัวแบบ เช่น ชิงช้าสวรรค์ เป็นอย่างไร

ทางยาวโฟกัสที่สั้นกว่า (เช่น 24 มม.) จะให้มุมรับภาพที่กว้างกว่า ซึ่งหมายความว่าจะถ่ายฉากไว้ในเฟรมได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ทางยาวโฟกัสที่ 24 มม. ของกล้องฟูลเฟรมจะถ่ายภาพฉากที่มุมมอง 84° ในเฟรมภาพวัตถุต่างๆ จะดูมีขนาดเล็กลง

ทางยาวโฟกัสที่ยาวกว่าจะให้มุมรับภาพที่แคบลง ซึ่งหมายความว่าจะถ่ายภาพได้ในส่วนที่มีขนาดเล็กกว่าในฉาก ยกตัวอย่างเช่น ทางยาวโฟกัสที่ 45 มม. ของกล้องฟูลเฟรมจะมีความครอบคลุมประมาณ 51.4° ในขณะที่ 105 มม. ครอบคลุมประมาณ 23.3° ในเฟรมภาพวัตถุต่างๆ จะดูมีขนาดใหญ่ขึ้น

  ทางยาวโฟกัสสั้น ทางยาวโฟกัสยาว
มุมรับภาพ กว้างกว่า แคบกว่า
ขนาดของวัตถุที่ระยะหนึ่ง เล็กกว่า ใหญ่กว่า


แน่นอนว่าระยะห่างระหว่างคุณกับตัวแบบก็สำคัญเช่นกัน หากคุณอยู่ใกล้กับตัวแบบ คุณจะทำให้ตัวแบบกินพื้นที่ในเฟรมมากขึ้นได้แม้จะใช้ทางยาวโฟกัสสั้น

ภาพชิงช้าสวรรค์เดียวกัน ถ่ายที่ประมาณ 88 มม. ชิงช้าจะดูมีขนาดใหญ่กว่าตัวอย่างที่ถ่ายด้วยทางยาวโฟกัส 105 มม. ในภาพ GIF เนื่องจากจุดถ่ายภาพอยู่ใกล้กว่า

คุณสามารถใช้ความรู้นี้ในการเลือกเลนส์ให้เหมาะสมเพื่อใช้กับภาพที่คุณกำลังจะถ่าย คุณจะอยู่ไกลจากตัวแบบเท่าใด คุณต้องใช้พื้นที่แค่ไหนในการเคลื่อนที่ไปมา คุณต้องการให้มีบริบทโดยรอบเข้ามาในภาพมากเพียงใด สภาวะในการถ่ายภาพมีความสำคัญไม่ต่างจากความตั้งใจของคุณ หลายคนมักนึกถึงเลนส์มุมกว้างเมื่อต้องถ่ายภาพทิวทัศน์ แต่ฉากตระการตาบางฉากกลับถ่ายออกมาได้สวยงามที่สุดเมื่อใช้เลนส์เทเลโฟโต้!

อ่านเพิ่มเติมได้ที่
การเริ่มต้นถ่ายภาพทิวทัศน์: 5 สิ่งที่ควรทราบ


ข้อควรรู้: ทางยาวโฟกัสไม่ได้ส่งผลต่อการจัดเฟรมภาพเท่านั้น

การเปลี่ยนทางยาวโฟกัสสามารถส่งผลต่อลักษณะอื่นๆ ของภาพได้เช่นกัน เช่น โบเก้และเปอร์สเปคทีฟ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการให้ตัวแบบในเฟรมดูมีขนาดใหญ่ขึ้นขณะใช้ทางยาวโฟกัสสั้น คุณมักจะต้องถ่ายภาพโดยเข้าใกล้ตัวแบบให้มากขึ้น วิธีนี้ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับภาพที่ได้จากการซูมเข้าไปที่ตัวแบบโดยใช้ทางยาวโฟกัสยาว และมีความเกี่ยวข้องกับแนวคิดอื่นๆ ในบทความนี้ด้วย อ่านต่อเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเลย!

อ่านเพิ่มเติมได้ที่
เทคนิคการจัดองค์ประกอบภาพอย่างมืออาชีพ (3): ดึงความสามารถสูงสุดของเลนส์มาใช้

2. การควบคุมระยะชัดและโบเก้

2. การควบคุมระยะชัดและโบเก้

ระยะชัดหมายถึงพื้นที่ในฉากที่ปรากฏอยู่ในโฟกัสภายในภาพ
โบเก้หมายถึงคุณสมบัติด้านความสวยงามของความเบลอที่เกิดขึ้นในพื้นที่ของส่วนที่อยู่นอกโฟกัส



หมายเหตุ: ภาพด้านบนใช้สำหรับประกอบบทความเท่านั้น หากฉากมีความลึกมาก แม้แต่รูรับแสงแคบสุดก็อาจไม่สามารถทำให้ทุกอย่างอยู่ในโฟกัสได้!

จุดที่คุณวางตำแหน่งโฟกัสและปริมาณพื้นที่ของภาพที่อยู่ในโฟกัสคือสิ่งสำคัญในการบอกเล่าเรื่องราว ในบางสถานการณ์ คุณอาจต้องการสร้างโบเก้เพื่อให้ตัวแบบดูโดดเด่นตัดกับโบเก้ แต่ในสถานการณ์อื่น คุณอาจต้องการระยะชัดที่มากขึ้น (และมีโบเก้น้อยลงหรือไม่มีเลย) เพื่อให้ตัวแบบอยู่ในโฟกัสมากขึ้นหรือแสดงรายละเอียดในแบ็คกราวด์ให้มากขึ้น


ความสัมพันธ์ระหว่างระยะชัดกับรูรับแสง

f/1.2

f/8

ช่างภาพส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับความสัมพันธ์ระหว่างโบเก้และรูรับแสง:

- ค่า f น้อยลง (รูรับแสงกว้างขึ้น) = ระยะชัดที่ตื้นขึ้น โบเก้ชัดขึ้น

หากเลนส์ของคุณมี “ความไวแสง” มาก (ยิ่งรูรับแสงกว้างสุดกว้างขึ้นเท่าไหร่) คุณจะสามารถทำให้แบ็คกราวด์และโฟร์กราวด์เบลอได้มากขึ้นขณะถ่ายภาพจากตำแหน่งเดียวกันด้วยทางยาวโฟกัสเท่ากัน


เคล็ดลับระดับมือโปร: รู้จักปัจจัยที่ส่งผลต่อโบเก้

หากมีสภาวะการถ่ายภาพที่เอื้ออำนวย คุณอาจใช้ปัจจัยอื่นๆ เพื่อให้โบเก้ชัดขึ้นได้ แม้ว่าคุณจะไม่มีเลนส์ที่มีความไวแสงสูงนัก! และนี่คือสรุปสั้นๆ


ทางยาวโฟกัส

f/11 ของเลนส์ RF600mm f/11 IS STM

โดยปกติแล้ว ทางยาวโฟกัสยาวๆ จะทำให้ได้ระยะชัดที่ตื้นขึ้น จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมแบ็คกราวด์ในภาพนี้จึงดูเบลอมากแม้ใช้ค่า f/11


ระยะห่างระหว่างเลนส์และตัวแบบ

16 มม., f/8, อยู่ไกลจากตัวแบบ, โฟกัสอยู่ที่ดอกไม้ในโฟร์กราวด์


16 มม., f/8, อยู่ใกล้กับตัวแบบ สังเกตว่าอาคารในแบ็คกราวด์ดูเบลอมากกว่า 
เคล็ดลับ: หากต้องการถ่ายภาพในระยะที่ใกล้ตัวแบบเช่นนี้โดยให้ตัวแบบอยู่ในโฟกัสด้วย คุณจะต้องใช้เลนส์ที่มีระยะโฟกัสใกล้สุดที่สั้น

ยิ่งปลายเลนส์อยู่ใกล้ตัวแบบมากเท่าใด ระยะชัดของภาพจะตื้นขึ้น (แคบขึ้น) เท่านั้น ด้วยเหตุนี้ การถ่ายภาพตัวแบบให้อยู่ในโฟกัสอย่างเหมาะสมขณะถ่ายภาพมาโครจึงอาจเป็นเรื่องยากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ค่ารูรับแสงกว้างสุด


ระยะห่างจากแบ็คกราวด์

ถ่ายด้วย RF24-105mm f/4L IS USM ที่ 47 มม., f/4 อพาร์ตเมนต์ในแบ็คกราวด์อยู่ห่างออกไปประมาณ 700 ม.

แบ็คกราวด์ที่อยู่ห่างจากตัวแบบ (ระนาบโฟกัส) จะดูเหมือนอยู่นอกโฟกัสมากขึ้น

คุณสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากบทความต่อไปนี้
พื้นฐานเกี่ยวกับเลนส์ #3: การสร้างโบเก้
หากเลนส์ซูมของฉันไม่มีรูรับแสงกว้างสุดที่สว่างมาก ฉันจะสามารถสร้างโบเก้ขนาดใหญ่ได้อย่างไร

3. ความสัมพันธ์ระหว่างเลนส์และเปอร์สเปคทีฟ

3. ความสัมพันธ์ระหว่างเลนส์และเปอร์สเปคทีฟ

ในการถ่ายภาพ เปอร์สเปคทีฟหมายถึงระยะระหว่างวัตถุต่างๆ ว่าใกล้หรือไกลจากกันมากเพียงใด
ซึ่งเกี่ยวข้องกับขนาดของวัตถุในภาพ หากบางสิ่งดูมีขนาดใหญ่ เรามักจะคิดว่ามันอยู่ใกล้เรามากกว่า และหากบางสิ่งดูมีขนาดเล็ก เราก็มักจะคิดว่ามันอยู่ไกลจากเรามากกว่า

ทางยาวโฟกัสสั้น เปอร์สเปคทีฟเกินจริง วัตถุที่อยู่ใกล้เลนส์จะดูมีขนาดใหญ่กว่าปกติ แต่วัตถุที่อยู่ไกลกว่าจะมีขนาดเล็กกว่า

ในขณะเดียวกัน ที่ทางยาวโฟกัสยาวๆ (ถ่ายภาพให้มีลักษณะของเทเลโฟโต้มากกว่า) เปอร์สเปคทีฟจะถูกบีบอัด วัตถุที่อยู่ไกลจะถูก “ดึงเข้ามา” และดูเหมือนมีขนาดใหญ่ขึ้นและอยู่ใกล้ขึ้น ซึ่งทำให้ภาพดูแบนลง

  ทางยาวโฟกัสสั้น
(มุมกว้าง)
ทางยาวโฟกัสยาว
(เทเลโฟโต้)
วัตถุที่อยู่ใกล้เลนส์ ดูใหญ่กว่าอย่างไม่สมส่วน สัดส่วนไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
อาจเกิดภาพเบลอหากวัตถุอยู่ใกล้กว่าระยะโฟกัสใกล้สุด
วัตถุที่อยู่ไกล ดูเล็กลง ดูใหญ่ขึ้น
แบ็คกราวด์ ดูไกลขึ้น ดูใหญ่ขึ้นและใกล้ขึ้น
ระยะห่างระหว่างวัตถุ ดูยาวขึ้น ดูสั้นลง
ผลกระทบต่อเปอร์สเปคทีฟ เปอร์สเปคทีฟเกินจริง เปอร์สเปคทีฟแบบบีบอัด
ผลที่อาจกระทบต่อความลึก* ลึกขึ้น
(ฉากดูลึกขึ้น)
ตื้นขึ้น
(ฉากดูแบนลง)

*ความชัดเจนของเอฟเฟ็กต์นี้ขึ้นอยู่กับฉากและการจัดองค์ประกอบภาพของคุณ!


16 มม.

หอยที่กำลังถูกย่างที่ด้านหน้าดูมีขนาดใหญ่มากเมื่อเทียบกับเนื้อที่อยู่ด้านหลัง นี่เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการดึงจุดสนใจไปยังอาหาร ตราบเท่าที่รูปทรงบิดเบี้ยวไม่เป็นปัญหา!


24 มม.

เอฟเฟ็กต์เปอร์สเปคทีฟเกินจริงทำให้สะพานดูมีขนาดใหญ่และสง่างาม


120 มม.

โดย @allenlo0809 การบีบอัดแบบเทเลโฟโต้ทำให้เอฟเฟ็กต์สีรุ้งของคานหลากสีสันดูโดดเด่น!

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจุดถ่ายภาพนี้ วิธีการถ่ายภาพ และอื่นๆ อีกมากมายได้ที่ #สวัสดีจากไต้หวัน: 6 จุดถ่ายภาพในไต้หวันสำหรับผู้ชื่นชอบภาพสมมาตร


200 มม.

โดย @donamtykl เอฟเฟ็กต์การบีบอัดแบบเทเลโฟโต้ช่วย “ดึง” ป้ายต่างๆ อันเป็นสัญลักษณ์ของเขตเยาวราชในกรุงเทพฯ ออกมาจากแบ็คกราวด์และทำให้ดูมีขนาดใหญ่ขึ้น

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับพื้นที่แห่งนี้และทิวทัศน์ในจุดอื่นๆ ของกรุงเทพฯ ได้ที่ #สวัสดีจากกรุงเทพฯ: 3 สถานที่ที่มีเสน่ห์ชวนให้ถ่ายภาพได้ทั้งกลางวันและกลางคืน


เคล็ดลับระดับมือโปร: วิธีเพิ่มเอฟเฟ็กต์เปอร์สเปคทีฟ

เอฟเฟ็กต์เปอร์สเปคทีฟเกินจริงจะชัดเจนยิ่งขึ้นอีกหากคุณเอียงกล้องเล็กน้อยและถ่ายภาพให้ใกล้กับโฟร์กราวด์มากขึ้น

50 มม., เอียงกล้องขึ้น

ที่มุมนี้ รูปปั้นดูตั้งตระหง่านเหนืออาคารสูงสองแห่งที่อยู่ด้านหลัง และขาของรูปปั้นก็ดูยาวกว่าเมื่อเทียบกับภาพถัดไป

200 มม., หน้าตรง

ภาพนี้ถ่ายโดยใช้ทางยาวโฟกัสที่ยาวขึ้นจากตำแหน่งที่ที่ทำให้ได้มุมกล้องในแนวตรงมากกว่า นี่คือรูปปั้นเดียวกับภาพก่อนหน้า แต่ดูมีลักษณะและให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันมาก!


ในขณะที่การ “ทำให้แบน” ของเอฟเฟ็กต์บีบอัดเปอร์สเปคทีฟอาจชัดเจนขึ้นได้เมื่อถ่ายภาพจากด้านหน้าตรงๆ หรือจากมุมที่ทำให้วัตถุต่างๆ ดูเหมือนอยู่ซ้อนกัน

359 มม., ยืนจากด้านข้าง

ช่องว่างระหว่างคานที่มองเห็นได้ทางด้านขวาบอกให้รู้ว่ามีระยะห่างระหว่างคานอยู่

300 มม., หน้าตรง

คานดูอยู่ชิดกันในลักษณะที่หนาแน่นกว่า


เคล็ดลับ: มุมกล้องก็สำคัญเช่นกัน

คุณอาจสังเกตเห็นแล้วว่า การเอียงกล้องหรือถ่ายภาพโดยเข้าไปใกล้ตัวแบบมากขึ้นทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเปอร์สเปคทีฟได้ชัดเจนขึ้น ลองใช้วิธีเหล่านี้ในครั้งถัดไปที่คุณรู้สึกว่าไม่พอใจกับภาพที่ได้ เพราะแม้แต่การเอียงกล้องเพียงนิดเดียวก็อาจทำให้ภาพแตกต่างไปได้มาก!

อ่านเพิ่มเติมได้ที่
สำรวจเลนส์มุมกว้างตอนที่ 2: เทคนิคการจัดองค์ประกอบภาพสำหรับเลนส์มุมกว้าง
5 สิ่งที่ควรลองด้วยเลนส์เทเลโฟโต้
ทำไมเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้จึงจำเป็นต่อการถ่ายภาพกีฬา

4. ระยะโฟกัสใกล้สุด

4. ระยะโฟกัสใกล้สุด

ระยะโฟกัสใกล้สุดเป็นตัวกำหนดว่าเราสามารถถ่ายตัวแบบได้ในระยะใกล้เพียงใดก่อนที่เลนส์จะไม่สามารถโฟกัสได้ คุณสมบัตินี้มีความสำคัญมากสำหรับการถ่ายภาพในระยะใกล้ที่เราต้องการให้โฟร์กราวด์หรือด้านหน้าของตัวแบบมีความคมชัด

ถ่ายที่ 88 มม., f/4.5

ตัวอย่างหนึ่งที่ดีคือเมื่อเราถ่ายภาพอาหารในระยะใกล้โดยใช้เอฟเฟ็กต์โฟกัสตื้น (โบเก้) สำหรับภาพเช่นนี้ หากไม่มีรายละเอียดอื่นๆ ที่คุณต้องการให้เป็นจุดสนใจ มักจะไม่เกิดปัญหาใดๆ หากคุณวางโฟกัสไว้ที่ด้านหน้าตัวแบบ แต่หากส่วนนี้อยู่ใกล้กับเลนส์เกินไป คุณจะไม่สามารถจับโฟกัสได้อย่างที่ต้องการ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่
ภาพมาโครชวนน้ำลายสอ: ศิลปะแห่งการถ่ายภาพอาหารแบบโคลสอัพ


อีกตัวอย่างหนึ่งคือเมื่อเราต้องการให้เห็นเอฟเฟ็กต์เปอร์สเปคทีฟเกินจริงชัดเจนขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ในภาพตัวอย่างนี้ซึ่งถ่ายที่ 14 มม. (มุมกว้างอัลตร้าไวด์) ด้วยเลนส์ RF14-35mm f/4L IS USM การถ่ายภาพโดยให้เลนส์อยู่ใกล้กับฐานของต้นไม้อย่างมากช่วยให้เอฟเฟ็กต์เปอร์สเปคทีฟเกินจริงชัดเจนขึ้น ซึ่งทำให้ลำต้นดูยาวมาก ระยะโฟกัสใกล้สุดของเลนส์ที่ค่อนข้างสั้นที่ 0.2 ม. ทำให้สามารถถ่ายรายละเอียดโดยรอบได้อย่างคมชัด ซึ่งหากปราศจากคุณสมบัตินี้ รายละเอียดเหล่านั้นจะเบลอ


คุณคงไม่ทราบว่า ควรใช้ระยะโฟกัสใกล้สุดเพื่อสร้างโบเก้ในโฟร์กราวด์!

คุณสามารถใช้โบเก้ในโฟร์กราวด์เพื่อจัดเฟรมให้ตัวแบบหรือเพิ่มความน่าสนใจให้กับภาพได้ และสิ่งที่ดีที่สุดคือคุณสามารถทำได้โดยไม่ยากนัก เพียงแค่วางสิ่งของบางอย่างเข้าไปในโฟร์กราวด์เท่านั้น อะไรก็ตามที่อยู่ใกล้กับเลนส์มากกว่าระยะโฟกัสใกล้สุดก็จะหลุดโฟกัสไป!


ถ่ายโดย @_neo_ng_ig ที่ f/5, 106 มม.

เรียนรู้วิธีการสร้างเอฟเฟ็กต์นี้และอื่นๆ ได้ที่ วิธีใช้โบเก้ในโฟร์กราวด์ให้ได้ผลดีเมื่อถ่ายภาพด้วยเลนส์เทเลโฟโต้


---
หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดอื่นๆ เกี่ยวกับเลนส์และผลกระทบต่อภาพที่เลนส์ของคุณสามารถถ่ายได้ อ่านได้ที่
“อัตราส่วนกำลังขยาย” หมายถึงอะไร
ฉันจะได้ภาพแบบไหนหากถ่ายด้วยกำลังขยาย 0.25 หรือ 0.5 เท่า มีเลนส์
ม่านรูรับแสงคืออะไร ม่านรูรับแสงส่งผลต่อภาพถ่ายอย่างไร

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา