LOGIN/REGISTER is disabled on SNAPSHOT till December 11th, 2025 due to a scheduled maintenance activity. We apologize for any inconvenience caused.

ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

เคล็ดลับและบทเรียน >> เคล็ดลับและบทเรียนทั้งหมด

ฟังก์ชั่นกล้องที่เปลี่ยนโฉมภาพให้คุณได้ในพริบตา (1): หลักการพื้นฐาน

2025-09-03
4
539

การถ่ายภาพให้สวยถูกใจได้จากกล้องทันทีนั้นเป็นอะไรที่น่าพึงพอใจสุดๆ คุณได้ภาพที่ดูดีพอเอาไว้อวดได้แม้จะปรับแต่งภาพเพียงเล็กน้อยหรือไม่ได้ปรับแต่งเลยก็ตาม ทว่าในบางครั้งเมื่อนำภาพมาดูบนหน้าจอขนาดใหญ่ เรากลับได้พบว่าภาพที่เราคิดว่าถ่ายได้กับภาพที่ถ่ายได้จริงนั้นช่างแตกต่างกันเหลือเกิน

ในบทความตอนที่ 1 จากซีรีย์ที่มี 2 ตอนนี้ เราจะมาแบ่งปันฟีเจอร์พื้นฐานของกล้องที่เป็นประโยชน์และสามารถช่วยลดข้อผิดพลาดในการเปิดรับแสงและจัดองค์ประกอบภาพได้ (รวมถึงเพิ่มความพึงพอใจให้คุณด้วย) ในตอนที่ 2 เราจะสำรวจฟีเจอร์สร้างสรรค์ใช้สนุกที่จะช่วยเพิ่มสีสันให้ภาพถ่ายและจุดประกายความเป็นศิลปินของคุณ

ในบทความนี้:

 

1. แสดงตารางและระดับอิเล็กทรอนิกส์

ใช้ฟีเจอร์เหล่านี้เพื่อ:
- รักษาระดับในแนวนอนและแนวตั้ง
- ช่วยในการจัดองค์ประกอบภาพ

ภาพเอียงๆ ของเราส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งต่างจาก “มุมเฉียง” ที่เป็นเทคนิคการจัดองค์ประกอบภาพอย่างสร้างสรรค์วิธีหนึ่ง แต่ทั้งสองแบบให้ผลลัพธ์เหมือนกัน คือทำให้ผู้ชมรู้สึกหลงทิศหรืองุนงง!

แม้เราจะสามารถแก้ไขภาพเอียงได้ในการปรับแต่ง แต่ภาพของคุณจะถูกครอปออกไปด้วย ซึ่งผลที่เกิดขึ้นนี้จะทำให้องค์ประกอบภาพเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงหากภาพเอียงมากและภาพมุมกว้างสูญเสียเอฟเฟ็กต์มุมกว้างไป

แต่คุณสามารถหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดนี้ได้โดยใช้การแสดงตารางและระดับอิเล็กทรอนิกส์ขณะถ่ายภาพ ฟีเจอร์เหล่านี้จะช่วยให้เส้นแนวนอนและแนวตั้งของคุณตรงอยู่เสมอ รวมถึงด้านซ้ายและขวาของระดับกล้องด้วย

ตารางเป็นตัวช่วยที่ดีในการจัดองค์ประกอบภาพ และไม่ได้มีไว้ใช้กับการจัดองค์ประกอบภาพด้วยกฎสามส่วนหรือแบบแนวทแยงเท่านั้น! ในภาพนี้ เราใช้ตารางเพื่อตรวจสอบความสมมาตรและระดับในแนวนอน


วิธีเปิดใช้งานตาราง

ขั้นตอนที่ 1:
ไปที่เมนูสีแดง หาและเลือกเมนู “หน้าจอข้อมูลของการถ่าย”

ขั้นตอนที่ 2:
เลือก “แสดงตาราง”

ขั้นตอนที่ 3:
เลือกการแสดงตารางที่คุณต้องการ กดปุ่ม SET

เรียบร้อย!


วิธีเปิดใช้งานระดับอิเล็กทรอนิกส์

ขั้นตอนที่ 1:
ไปที่เมนูสีแดง เลือก “หน้าจอข้อมูลของการถ่าย”

ขั้นตอนที่ 2:
เลือก “ตั้งค่าข้อมูลหน้าจอ”

ขั้นตอนที่ 3:
เลือกหน้าจอแสดงข้อมูลที่คุณต้องการให้แสดงระดับอิเล็กทรอนิกส์ กดปุ่ม INFO เพื่อแก้ไข
เคล็ดลับระดับมือโปร: ขณะถ่ายภาพ คุณสามารถใช้ปุ่ม INFO เพื่อสลับการแสดงข้อมูลซ้อนแบบต่างๆ ได้

ขั้นตอนที่ 4:
แตะหรือกดปุ่ม “SET” เพื่อเลือกช่องที่อยู่ข้างไอคอนระดับอิเล็กทรอนิกส์

เรียบร้อย! เส้นตรงกลางจะกลายเป็นสีเขียวเมื่อด้านขวาและซ้ายของกล้องได้ระดับเท่ากัน

หากต้องการดูระดับอิเล็กทรอนิกส์ในหน้าจอ EVF ของคุณ
ให้เลือก “ข้อมูลช่องมองภาพ/การตั้งค่าการสับเปลี่ยน” และทำขั้นตอนที่ 3 และ 4 ซ้ำอีกครั้ง หมายเหตุ: หน้าจอ VF แรกจะไม่สามารถแก้ไขได้

 

ตรวจสอบด้วยว่า: คุณกดปุ่มชัตเตอร์แรงเกินไปหรือไม่
มีหลายสาเหตุที่ทำให้เราถ่ายภาพเอียงอยู่บ่อยๆ บางครั้งเป็นเพราะวิธีถือกล้องของเรา ซึ่งตารางและระดับอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยตรวจสอบให้คุณได้ หากสุดท้ายแล้ว ภาพของคุณยังเอียงอยู่แม้จะจัดองค์ประกอบภาพอย่างระมัดระวังแล้วก็ตาม ให้ตรวจดูว่าคุณกดปุ่มชัตเตอร์แรงเกินไปจนกระทั่งกล้องขยับหรือไม่! 

 

2. ฮิสโตแกรม

ใช้เพื่อ:
- เข้าใจระดับความสว่างของภาพได้แม่นยำยิ่งขึ้น
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนที่เป็นเงาหรือไฮไลต์ในภาพไม่สูญเสียรายละเอียด

กล้องมิเรอร์เลสมีข้อดีคือช่วยให้คุณดูตัวอย่างการตั้งค่าการเปิดรับแสงได้ (การจำลองระดับแสง) แม้ขณะถ่ายภาพผ่านช่องมองภาพ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คุณเห็นอาจได้รับผลกระทบจากการตั้งค่าความสว่างของหน้าจอและปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ เช่น การถ่ายภาพกลางแสงแดดจ้า ผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์คือการสูญเสียรายละเอียดในส่วนไฮไลต์หรือเงาที่ไม่สามารถแก้ไขได้แม้จะถ่ายภาพแบบ RAW 

หากต้องการทราบระดับความสว่างของภาพที่ถูกต้องที่สุด ให้เปิดฟีเจอร์แสดงฮิสโตแกรมและหัดทำความเข้าใจ ฮิสโตแกรมจะช่วยให้คุณเปิดรับแสงได้ดีขึ้น ไม่ว่าคุณตั้งใจจะปรับแต่งภาพเพิ่มเติมหรือแชร์ภาพทันทีหลังถ่ายได้

ข้อควรรู้: รูปแบบภาพและการตั้งค่าสมดุลแสงขาวจะส่งผลต่อฮิสโตแกรม

รูปแบบภาพและสมดุลแสงขาวจะทำให้ความเปรียบต่าง ความอิ่มตัว ฯลฯ เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจะเห็นได้ในฮิสโตแกรม และจะเป็นเช่นนี้แม้ในขณะที่คุณบันทึกภาพแบบ RAW เท่านั้น ไม่ใช่ RAW+JPEG เนื่องจากกล้องจะใช้ไฟล์ JPEG ในการแสดงภาพตัวอย่างใน LCD/EVF

หากต้องการดูฮิสโตแกรมที่ใกล้เคียงกับไฟล์ RAW ของคุณมากขึ้น ให้ใช้รูปแบบภาพที่เรียบง่ายกว่า เช่น Neutral 
เมื่อใช้ไฟล์ RAW คุณอาจจะมีโอกาสในการกู้คืนรายละเอียดได้มากกว่าที่เห็นในฮิสโตแกรมเล็กน้อย ซึ่งดีกว่าการที่แก้ไขอะไรไม่ได้เลย!


วิธีเปิดใช้งานฮิสโตแกรม

ขั้นตอนที่ 1:
ไปที่เมนูสีแดง เลือก “หน้าจอข้อมูลของการถ่าย”

ขั้นตอนที่ 2:
เลือก “ตั้งค่าข้อมูลหน้าจอ”

ขั้นตอนที่ 3:
เลือกหน้าจอแสดงข้อมูลที่คุณต้องการให้แสดงฮิสโตแกรม กดปุ่ม INFO เพื่อแก้ไข
เคล็ดลับระดับมือโปร: ขณะถ่ายภาพ คุณสามารถใช้ปุ่ม INFO เพื่อสลับการแสดงข้อมูลซ้อนแบบต่างๆ ได้

ขั้นตอนที่ 4:
แตะหรือกดปุ่ม “SET” เพื่อเลือกช่องที่อยู่ข้างไอคอนฮิสโตแกรม

เรียบร้อย!

หากต้องการดูฮิสโตแกรมในหน้าจอ EVF ของคุณ ให้เลือก “ข้อมูลช่องมองภาพ/การตั้งค่าการสับเปลี่ยน” และทำขั้นตอนที่ 3 และ 4 ซ้ำอีกครั้ง หมายเหตุ: หน้าจอ VF แรกจะไม่สามารถแก้ไขได้

เมนู “ฮิสโตแกรม” ช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนขนาดของฮิสโตแกรมและแสดงฮิสโตแกรมแบบ RGB แทนได้

ฮิสโตแกรมที่แสดงขนาดเล็กลงจะเป็นเช่นนี้

อ่านเพิ่มเติมได้ที่
ทำความเข้าใจช่วงไดนามิกเรนจ์: วิธีหลีกเลี่ยงแสงสว่างโพลนที่ไม่จำเป็น
#สวัสดีจากฮ่องกง: ทิวทัศน์ตระการตาจากยอดเขาที่สูงที่สุดของฮ่องกง

 

3. เน้นโทนภาพบริเวณสว่าง

ใช้เพื่อ: คงรายละเอียดของส่วนไฮไลต์ในฉากที่มีความเปรียบต่างสูงหรือสว่างมาก

ในการถ่ายภาพดิจิทัล การกู้คืนรายละเอียดจากส่วนไฮไลต์ที่ได้รับแสงมากเกินไปมักจะยากกว่าเมื่อเทียบกับส่วนที่ได้รับแสงน้อย
เน้นโทนภาพบริเวณสว่าง (Highlight Tone Priority) จะช่วยคงรายละเอียดของไฮไลต์ในบริเวณที่สว่างไว้เพื่อให้การเปลี่ยนโทนสีดูกลมกลืนและเป็นธรรมชาติมากขึ้นตามชื่อของฟีเจอร์นี้ โดยจะแมปข้อมูลภาพในลักษณะที่ทำให้ช่วงไดนามิกเรนจ์ของส่วนไฮไลต์กว้างขึ้นเล็กน้อย และส่งผลต่อไฟล์ภาพ RAW รวมถึงภาพ JPEG ด้วย จึงทำให้ฟีเจอร์นี้แตกต่างจาก “ปรับแสงเหมาะสมอัตโนมัติ” (Auto Lighting Optimizer) ที่ให้ผลลัพธ์เช่นเดียวกัน แต่จะส่งผลต่อภาพ JPEG เท่านั้น

วิดีโอด้านล่างจะช่วยให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า ฟีเจอร์เน้นโทนภาพบริเวณสว่างทำให้ภาพแตกต่างจากเดิมอย่างไร


ฟีเจอร์ “เน้นโทนภาพบริเวณสว่าง” ต่างจาก “ปรับแสงเหมาะสมอัตโนมัติ” อย่างไร

  เน้นโทนภาพบริเวณสว่าง ปรับแสงเหมาะสมอัตโนมัติ
หน้าที่ของฟีเจอร์ ปกป้องรายละเอียดในส่วนไฮไลต์ เลือกปรับส่วนที่สว่าง/มืดในภาพที่มีความเปรียบต่างสูง
วิธีนี้จะให้ผลลัพธ์ที่มีความสว่างสม่ำเสมอกันยิ่งขึ้น คุณจึงสูญเสียรายละเอียด น้อยลงในส่วนเงา/ไฮไลต์
โหมดการบันทึก ใช้ได้กับการถ่ายภาพทั้งแบบ RAW และ JPEG ใช้ได้กับการถ่ายแบบ JPEG เท่านั้น แต่สามารถใช้กับไฟล์ RAW ที่ผ่านการปรับแต่งด้วยซอฟต์แวร์ Digital Photo Professional (DPP) ของ Canon ได้
มีข้อจำกัดในการตั้งค่าหรือไม่
  • ใช้ได้กับโหมดการเปิดรับแสงทุกแบบ
  • ไม่สามารถตั้งค่าความไวแสง ISO ต่ำกว่า 200
  • ไม่สามารถใช้งานได้ในโหมด M และ Bulb
  • ไม่มีข้อจำกัดอื่นๆ ในการตั้งค่าการเปิดรับแสง
จดจำใบหน้าได้หรือไม่ ไม่สามารถจดจำใบหน้าได้ สามารถจดจำใบหน้าได้และปรับระดับความสว่างให้เหมาะสม
สิ่งอื่นๆ ที่ควรทราบ อาจทำให้ส่วนเงามีจุดรบกวนมากขึ้น
  • อาจทำให้ส่วนเงามีจุดรบกวนมากขึ้น
  • ภาพอาจดูซีดจางเนื่องจากความเปรียบต่างลดลง


จะเปิดใช้งาน “เน้นโทนภาพบริเวณสว่าง” ได้อย่างไร

ฟีเจอร์นี้มักจะอยู่ในเมนู SHOOT สีแดง และคุณสามารถเลือกเอฟเฟ็กต์ได้สองระดับ 

อ่านเพิ่มเติมได้ที่
3 คุณสมบัติของกล้องสำหรับการจัดการรายละเอียดของภาพบริเวณสว่างและโทนน้ำหนักกลาง

 

4. ขยาย

ใช้เพื่อ: ตรวจสอบโฟกัสและทำให้โฟกัสได้อย่างแม่นยำ

หน้าจอ LCD ขนาดเล็กในกล้องของเรานั้นอาจทำให้เห็นภาพเบลอหรือภาพที่หลุดโฟกัสไม่ชัดเจนนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตัวแบบในเฟรมมีขนาดเล็ก คุณอาจไม่มีโอกาสได้แก้ตัวเป็นครั้งที่สองหากสังเกตเห็นข้อผิดพลาดนี้เมื่อกลับถึงบ้านแล้ว ดังนั้น ให้ใช้ฟังก์ชั่นขยายภาพเพื่อให้แน่ใจว่าโฟกัสเป็นอย่างที่ต้องการก่อนเดินทางออกมาจากฉากถ่ายภาพ!

คุณอาจจะสังเกตเห็นแล้วว่า สำหรับกล้องส่วนใหญ่ ปุ่มขยายภาพจะให้คุณซูมรายละเอียดของภาพในโหมดแสดงภาพ  แต่คุณรู้หรือไม่ว่าเราสามารถขยายภาพก่อนถ่ายภาพได้ด้วย

กล้องบางรุ่น เช่น EOS R6 Mark II มีปุ่มขยายโดยเฉพาะที่สามารถใช้งานได้ทั้งในโหมดแสดงภาพและดูตัวอย่างภาพ

ไอคอนแว่นขยายที่อยู่ด้านล่างของปุ่มหมายความว่าปุ่มนี้ทำหน้าที่เป็นปุ่มขยายในโหมดแสดงภาพเท่านั้น แต่ไม่ต้องเสียใจไป เพราะคุณสามารถปรับแต่งปุ่มให้ทำหน้าที่ขยายรายละเอียดได้ในโหมด Live View ด้วยเช่นกัน

 

เมื่อกดปุ่มขยาย (ที่กำหนดไว้) ในโหมดตัวอย่างภาพ จะเป็นการซูมเข้าในส่วนที่คุณวางกรอบ AF ไว้ คุณสามารถสับเปลี่ยนได้ระหว่างการซูมแบบ 5 เท่า, 10 เท่า หรือไม่ใช้การซูม


วิธีกำหนดปุ่มให้ทำหน้าที่ขยายภาพใน Live View

ขั้นตอนที่ 1:
หาเมนู “ปรับการทำงานของปุ่ม” ในโหมดสีส้ม

ขั้นตอนที่ 2:
เลือกปุ่มที่จะกำหนดฟังก์ชั่นขยายให้ แล้วกดปุ่ม SET
สำหรับบทความนี้ เราเลือกปุ่มเลื่อนลงซึ่งไม่มีฟังก์ชั่นใดๆ ในการถ่ายแบบ Live View ด้วยกล้อง EOS R50

ขั้นตอนที่ 3:
มองหาและเลือกไอคอนแว่นขยาย กดปุ่ม SET

ขั้นตอนที่ 4:
เรากำหนดปุ่มลงให้ทำหน้าที่ขยาย/ย่อภาพเรียบร้อยแล้ว

 

เคล็ดลับระดับมือโปร: มีอะไรอีกบ้างที่จะช่วยให้โฟกัสดียิ่งขึ้น

- คุณใช้โหมดพื้นที่ AF ที่เหมาะกับฉากหรือไม่
หากต้องการควบคุมโฟกัสอัตโนมัติให้แม่นยำยิ่งขึ้น เลือก Spot AF หรือ AF จุดเดียว และหากต้องการการควบคุมที่มากขึ้นอีก ให้ลองใช้โฟกัสแบบแมนนวลดู อ่านเพิ่มเติมได้ที่ 5 เคล็ดลับเพื่อการตรวจจับและติดตามตัวแบบที่ดียิ่งขึ้น

- ใช้ค่า f สูงขึ้นในการถ่ายภาพมาโครหรือภาพโคลสอัพ
ระยะชัดจะตื้นขึ้นมากขณะถ่ายภาพแบบโคลสอัพ จึงยากต่อการทำให้ตัวแบบอยู่ในโฟกัสอย่างเพียงพอ ลองเริ่มด้วย f/11 หรือ f/16 ใช้ฟังก์ชั่นเช็คระยะชัดเพื่อดูระยะชัดจริง นอกจากนี้ เราแนะนำให้ใช้แฟลชด้วย เนื่องจากจะช่วยหยุดการเคลื่อนไหว รวมถึงทำให้มีแสงเพียงพอ

- ใช้โฟกัสแบบแมนนวล
การโฟกัสแบบแมนนวลทำให้คุณสามารถควบคุมโฟกัสได้อย่างเต็มที่ ซึ่งคุณสามารถลองใช้กับตัวแบบที่อยู่นิ่งได้ ใช้ Focus Peaking, Focus Guide และฟังก์ชั่นขยายช่วย

 

ดูเคล็ดลับการโฟกัสที่เป็นประโยชน์ได้ที่
การปรับแต่ง AF แบบแตะและลากเพื่อการถ่ายภาพผ่าน EVF ที่ดียิ่งขึ้น
ช่างภาพ 7 คนจะมาเล่าถึง: การตั้งค่าโฟกัสอัตโนมัติและโหมดขับเคลื่อนที่สลับใช้ตามฉากนั้นๆ

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา