ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

ผลิตภัณฑ์ >> ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด

เลือกกล้อง EOS R7 หรือ DSLR แบบ APS-C ระดับสูงดีกว่ากัน (ตอนที่ 2): ความสามารถหลัก

2023-03-08
1
228

EOS R7 ได้รับเสียงชื่นชมว่าเป็นรุ่นต่อยอดอย่างแท้จริงจาก EOS 7D Mark II ซึ่งเป็นกล้อง DSLR แบบ APS-C ระดับสูงของ Canon ที่ขึ้นชื่อในด้านความเร็วและประสิทธิภาพ กล้องสองรุ่นนี้แตกต่างกันอย่างไร แล้วคุณจะคาดหวังอะไรได้บ้างหากอัพเกรดจากกล้อง DSLR ที่ใช้อยู่ ในบทความสองตอนนี้ เราจะมาหาคำตอบว่าประสบการณ์การถ่ายภาพของคุณจะเปลี่ยนไปได้อย่างไร พร้อมทั้งเรียนรู้เคล็ดลับที่เป็นประโยชน์ด้วย

ในบทความตอนที่ 1 เราได้ดูการเปลี่ยนแปลงสำคัญๆ ในด้านการจัดเรียงปุ่มและวงแหวนของกล้อง EOS R7 และศึกษาคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ของ EVF แล้ว ในตอนที่ 2 ผมจะขอเน้นเรื่องฟีเจอร์ประสิทธิภาพหลัก เช่น AF, ประสิทธิภาพในสภาวะแสงน้อย และความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่อง (เรื่องโดย: Kazuo Nakahara, Digital Camera Magazine)

ในบทความนี้:

ประสิทธิภาพของ AF

AF: ประสิทธิภาพของ AF เพิ่มสูงขึ้น โหมดต่างๆ เข้าใจได้ง่ายขึ้น

EOS R7 ไม่เพียงแต่มีโฟกัสอัตโนมัติ (AF) ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเท่านั้น แต่ยังมีตัวเลือก AF ที่เข้าใจได้ง่ายกว่าของ EOS DSLR อีกด้วย


โหมดพื้นที่ AF: คล้ายคลึงกัน แต่ใช้งานง่ายกว่า

EOS R7 EOS 7D Mark II
8 โหมด (ขณะถ่ายภาพผ่าน EVF และแบบ Live View)
- AF จุดเล็ก
- AF จุดเดียว
- ขยายพื้นที่ AF: บน ล่าง ซ้าย ขวา
- ขยายพื้นที่ AF: รอบๆ
- Zone AF แบบยืดหยุ่น 1
- Zone AF แบบยืดหยุ่น 2
- Zone AF แบบยืดหยุ่น 3
- AF ทั่วพื้นที่
ขณะถ่ายภาพผ่าน OVF: 6 โหมด
- AF แบบจุดเล็กจุดเดียว (เลือกด้วยตนเอง)
- AF จุดเดียว (เลือกด้วยตนเอง)
- การขยายจุด AF (เลือกด้วยตนเอง: บน ล่าง ซ้าย ขวา) 
- การขยายจุด AF (เลือกด้วยตนเอง จุดที่อยู่รอบๆ)
- Zone AF (เลือกโซนด้วยตนเอง)
- Zone AF ขนาดใหญ่ (เลือกโซนด้วยตนเอง)
- การเลือก AF อัตโนมัติ 65 จุด

ขณะถ่ายภาพแบบ Live View: 3 โหมด
- FlexiZone – หลายจุด
- FlexiZone – จุดเดียว
- AF ตรวจจับใบหน้า + ติดตาม

กล้อง EOS DSLR มีระบบ AF สองระบบ ได้แก่

- ระบบ AF ในช่องมองภาพ: ทำงานขณะถ่ายภาพผ่าน OVF ใช้เซนเซอร์ AF แยกกัน
- ระบบ AF ใน Live View: ทำงานขณะถ่ายภาพแบบ Live View กล้อง DSLR รุ่นล่าสุดใช้ระบบ Dual Pixel CMOS AF ส่วนกล้อง DSLR รุ่นเก่าๆ บางรุ่นใช้ AF ตรวจจับความเปรียบต่าง

Dual Pixel CMOS AF คืออะไร มีข้อได้เปรียบอะไรบ้างที่เหนือกว่า AF ในช่องมองภาพและ AF ตรวจจับความเปรียบต่างทั่วๆ ไป ค้นหาคำตอบได้ที่:
รู้จักกับเทคโนโลยีของ Canon: Dual Pixel CMOS AF คืออะไร

เมื่อเทียบกันแล้ว EOS R7 มีระบบ AF เพียงระบบเดียวที่ทำงานทั้งขณะถ่ายภาพผ่าน EVF และถ่ายภาพแบบ Live View นั่นคือระบบ Dual Pixel CMOS AF ซึ่งหมายความว่า AF จะทำงานในลักษณะเดียวกันไม่ว่าคุณจะเลือกถ่ายภาพอย่างไร

โหมด AF จุดเล็ก, AF จุดเดียว, ขยายพื้นที่ AF และ AF ทั่วพื้นที่ของกล้อง EOS R7 มีความคล้ายคลึงกับโหมดพื้นที่ AF ต่างๆ ที่ใช้ได้ในกล้อง DSLR แบบ APS-C ขณะถ่ายภาพผ่าน OVF ดังนั้น ผู้ใช้ที่เปลี่ยนกล้องไปน่าจะรู้สึกคุ้นเคยอยู่แล้ว โหมด Zone AF แบบยืดหยุ่นช่วยให้คุณสามารถบันทึกขนาดพื้นที่ AF แบบกำหนดเองไว้ล่วงหน้าและเก็บไว้ใช้ในอนาคต จึงมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น

เพียงใช้โหมด Zone AF แบบยืดหยุ่นต่างๆ คุณก็สามารถตั้งค่าพื้นที่ AF ให้เล็ก กว้าง หรือยาวได้ตามต้องการ


ส่วน/พื้นที่การตรวจจับ AF

EOS R7

กล้อง EOS DSLR แบบ APS-C (EOS 7D Mark II)

EOS R7 มีพื้นที่ AF ที่ใหญ่กว่าและครอบคลุมหนาแน่นกว่า เมื่อเทียบกับกล้อง DSLR EOS 7D Mark II มี AF 65 จุด ซึ่งถือว่ามีจุด AF มากที่สุดในบรรดากล้อง EOS DSLR สำหรับผู้ใช้ทั่วไปทุกรุ่น และเป็นรองเพียง EOS-1D X Mark III ระดับมืออาชีพที่มี AF 191 จุดเท่านั้น แต่จะครอบคลุมเฉพาะพื้นที่ที่แสดงในภาพด้านบนเท่านั้น เมื่อเทียบกันแล้ว EOS R7 มีโซน AF 651 โซนที่ครอบคลุมพื้นที่ภาพทั้งหมด ซึ่งเป็นไปได้ด้วยเทคโนโลยีกล้องมิเรอร์เลส

ขณะถ่ายภาพผ่าน OVF ด้วยกล้อง DSLR นั้น การโฟกัสอัตโนมัติเกิดขึ้นจากเซนเซอร์ AF ที่อยู่ด้านล่างของกล้อง ซึ่งจะทำการตรวจจับตามแสงที่สะท้อนลงบนเซนเซอร์ดังกล่าวผ่านกระจกรอง ตามโครงสร้างแล้ว จะมีแสงเพียงบางส่วนที่ผ่านเข้ามาในกล้องและสามารถถึงเซนเซอร์เหล่านี้ได้ ดังนั้น โฟกัสอัตโนมัติจึงทำได้เฉพาะที่กึ่งกลางของเฟรมภาพซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีจุด AF อยู่

ในทางกลับกัน EOS R7 ใช้ระบบ Dual Pixel CMOS AF II แบบใช้เซนเซอร์ภาพ ซึ่งทุกพิกเซลบนเซนเซอร์ภาพสามารถตรวจจับระยะได้อีกด้วย ซึ่งไม่เพียงทำให้มีพื้นที่ครอบคลุม AF ที่หนาแน่นขึ้นตลอดพื้นที่ใหญ่ขึ้นของภาพ แต่ยังทำให้ได้ AF ที่แม่นยำขึ้นและรวดเร็วขึ้น แม้ว่าตัวแบบจะอยู่ตรงมุมของเฟรม

ข้อควรรู้: เลนส์ที่รองรับ
เลนส์ RF เกือบทุกรุ่นรองรับพื้นที่ครอบคลุม AF 100% ของกล้อง EOS R7 แต่ก็มีเลนส์ EF หลายรุ่นที่เข้ากันได้เช่นกัน!

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เลนส์ RF กับเลนส์ EF: แตกต่างกันอย่างไรและควรตัดสินใจเลือกอย่างไร


ตัวแบบที่ตรวจจับได้

EOS R7 กล้อง EOS DSLR แบบ APS-C
- มนุษย์ (ใบหน้า ดวงตา ศีรษะ ลำตัว)
- สัตว์ (สุนัข แมว นก)
- ยานพาหนะ (รถยนต์ รถจักรยานยนต์)
- ใบหน้าบุคคล (ขณะถ่ายภาพแบบ Live View)
- การตรวจจับดวงตามนุษย์* (ขณะถ่ายภาพแบบ Live View)

*กล้องรุ่นเก่าๆ เช่น EOS 7D Mark II ไม่รองรับการตรวจจับดวงตา

EOS R7 จะทำงานร่วมกับระบบการจดจำและติดตามตัวแบบ EOS iTR AF X อย่างใกล้ชิด ซึ่งใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึกเพื่อระบุตัวแบบต่างๆ (มนุษย์ สุนัข แมว นก และยานพาหนะ) ซึ่งสามารถทำเช่นนี้ได้แม้ว่าจะมองเห็นเพียงบางส่วนของตัวแบบเท่านั้น จึงช่วยเพิ่มความเร็ว ความแม่นยำ และความต่อเนื่องของ AF และการติดตามตัวแบบได้เป็นอย่างมาก!

เทคโนโลยีได้ก้าวหน้าขึ้นมาก กล่าวคือ กล้อง EOS DSLR ส่วนใหญ่ทำได้ดีที่สุดก็เพียงการตรวจจับใบหน้าและดวงตา และทำได้ขณะถ่ายภาพแบบ Live View เท่านั้น

EOS R7/ RF600mm f/4L IS USM/ Aperture-priority AE (f/4.5, 1/4000 วินาที, EV +0.7)/ ISO 640

แต่สำหรับกล้อง EOS R7 คุณสามารถคาดหวังอัตราความสำเร็จที่ดีกว่า แม้แต่ในเวลาถ่ายภาพนกขนาดเล็กที่มีความว่องไว เพราะมีอัลกอริธึมการตรวจจับและติดตามตัวแบบด้วยการเรียนรู้เชิงลึก


ระยะการทำงานของโฟกัสอัตโนมัติ

ระยะนี้จะเป็นตัวระบุสภาวะแสงที่มืดที่สุดและสว่างที่สุดที่ระบบ AF สามารถทำงานได้

EOS R7 EOS 7D Mark II
EV -5 ถึง 20 การถ่ายภาพผ่าน OVF: EV -3 ถึง 18
Live View: EV 0 ถึง 20

ขีดจำกัด AF ในสภาวะแสงน้อยที่ EV -5 ของ EOS R7 น่าจะทำให้คุณมั่นใจได้เวลาถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย อีกทั้งยังช่วยให้จับโฟกัสอัตโนมัติได้แม้ใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างสุดที่ f/22

อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการตั้งค่ากล้อง: ขีดจำกัดของ AF ในสภาวะแสงน้อยส่งผลต่อภาพอย่างไร


โหมดขับเคลื่อน AF

EOS R7 กล้อง EOS DSLR แบบ APS-C
One Shot AF
Servo AF
One Shot AF
AI Focus AF
AI Servo AF

การปรับปรุงโหมดขับเคลื่อน AF ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น อ่านบทความนี้เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมว่าควรใช้ One Shot AF และ Servo AF เมื่อใด!


ลักษณะของ Servo AF

EOS R7 EOS 7D Mark II
Case 1 ถึง 4, อัตโนมัติ Case 1 ถึง 6
(ไม่มีในกล้อง EOS XXD รุ่นใหม่)

เช่นเดียวกับโหมดขับเคลื่อน จำนวนโหมดลักษณะของ Servo AF (“Cases”) ได้รับการปรับปรุงในกล้อง EOS R7 โหมด ‘อัตโนมัติ’ ค่อนข้างแม่นยำและน่าจะเพียงพอในสถานการณ์ปกติ!


เทคนิคการใช้งานแบบมืออาชีพ: ใช้เมนู Quick Control เพื่อตั้งค่า AF

ในตอนที่ 1 เราได้กล่าวไปแล้วว่า EVF ของกล้องมิเรอร์เลสอย่าง EOS R7 นั้นช่วยให้คุณกำหนดค่าและเปลี่ยนการตั้งค่าได้โดยไม่ต้องละสายตาจากช่องมองภาพ หลักการเดียวกันนี้ใช้กับการตั้งค่า AF เช่นกัน

กดปุ่ม “Q” เพื่อแสดงเมนู Quick Control เมนูนี้จะแสดงซ้อนขึ้นมาแบบในภาพด้านบน ซึ่งคุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่ากล้องที่สำคัญๆ ได้หลายอย่าง

ต่อไปนี้คือวิธีการเข้าไปที่เมนูนี้โดยไม่ต้องละสายตาออกจากช่องมองภาพ:
- วงแหวน Quick Control: หมุนเพื่อเลื่อนดูรายการทางด้านซ้ายและขวาของหน้าจอ
- วงแหวนควบคุมหลัก (อยู่ด้านบนของกล้อง ถัดจากปุ่ม M.Fn): หมุนเพื่อเลื่อนดูตัวเลือกต่างๆ ที่ด้านล่างของหน้าจอ

คุณยังสามารถใช้ปุ่ม 4 ทิศทางได้หากต้องการ แต่วงแหวนจะทำงานได้เร็วกว่า


ยกระดับไปอีกขั้น: ปรับแต่งรายการเมนู Quick Control!

หากต้องการเข้าถึงการตั้งค่าที่คุณใช้บ่อยที่สุดได้เร็วยิ่งขึ้น คุณสามารถปรับแต่ง Quick Controls ที่จะแสดงขึ้นมา เพียงไปที่เมนู SHOOT8 และเลือก “ปรับแต่ง Quick Controls” ผมขอแนะนำให้จัดเรียงการตั้งค่า AF ที่มีการปรับเปลี่ยนบ่อยเหล่านี้ให้อยู่ข้างๆ กัน:

- ระบบขับเคลื่อน AF
- พื้นที่ AF
- โหมดขับเคลื่อน

เพื่อให้เข้าถึงการตั้งค่า AF ที่ใช้บ่อยได้รวดเร็วกว่าเดิม คุณสามารถกำหนดไว้ที่ปุ่ม M.Fn ได้

คุณรู้หรือไม่ว่าอินเทอร์เฟซ AF ของ EOS R7 สืบทอดมาจากกล้องระดับมืออาชีพอย่าง EOS R3 แม้ว่า EOS R7 จะไม่มี Eye Control AF ที่ล้ำสมัยแบบ EOS R3 แต่โหมดพื้นที่ AF และการติดตาม/ตรวจจับตัวแบบก็ทำงานคล้ายกัน อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ใน:
เผยโฉมคุณสมบัติ AF ของกล้อง EOS R3

การถ่ายภาพต่อเนื่องและความเร็วชัตเตอร์สูงสุด

ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องและความเร็วชัตเตอร์ที่สูงเป็นพิเศษ

ต่อไปนี้คือการเปรียบเทียบข้อมูลจำเพาะด้านความเร็วชัตเตอร์และการถ่ายภาพต่อเนื่องของกล้อง EOS R7 กับ EOS 7D Mark II และ EOS 90D:

EOS R7 EOS 7D Mark II/90D
ความเร็วชัตเตอร์สูงสุด
1/8,000 วินาที (ชัตเตอร์กล)
1/16,000 วินาที (ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์)
1/8,000 วินาที (ชัตเตอร์กล)
กล้อง EOS 90D เท่านั้น: 1/16,000 วินาที
(ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์)
ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด
15 fps (ชัตเตอร์กล)
30 fps (ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์)
10 fps
กล้อง EOS 90D เท่านั้น: สูงสุด 11 fps ใน Live View (One Shot AF)
ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุดต่อครั้ง
(RAW + JPEG-Large)
ประมาณ 46 ภาพ กล้อง EOS 7D Mark II: ประมาณ 18 ภาพ
กล้อง EOS 90D: ประมาณ 26 ภาพ
จำนวนภาพที่ได้โดยประมาณเมื่อแบตเตอรี่เต็ม
500 (EVF)
770 (หน้าจอ LCD ด้านหลัง)
กล้อง EOS 7D Mark II:
670 (OVF)
250 (หน้าจอ LCD ด้านหลัง)

กล้อง EOS 90D:
1300 (OVF)
450 (หน้าจอ LCD ด้านหลัง)


การถ่ายภาพต่อเนื่องอย่างมีประสิทธิภาพและภาพถ่ายความละเอียดสูง

จากข้อมูลในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2022 สำหรับกล้องในระบบ EOS R ถือว่า EOS R7 มีความเร็วสูงสุดในการถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยชัตเตอร์กล นั่นคือ สูงสุดถึง 15 fps และยังสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 30 fps เมื่อใช้ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ขณะถ่ายภาพความละเอียดสูง 32.5 ล้านพิกเซล ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้เพราะฟังก์ชันการติดตาม AF/AE ซึ่งจะติดตามตัวแบบที่เคลื่อนที่และปรับระดับแสงให้เหมาะสมกับระดับแสงที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน

EOS R7 มีโหมดชัตเตอร์ให้ใช้งานถึงสามโหมด ในขณะที่ EOS 7D Mark II รองรับเพียงชัตเตอร์กลเท่านั้น


EOS R7/ RF600mm f/4L IS USM/ Manual exposure (f/8, 1/2000 วินาที)/ ISO 400

หากพบเห็นภาพน่าตื่นตาตื่นใจบนท้องฟ้า ลองเพิ่มโอกาสในการจับภาพช่วงเวลาสำคัญด้วยความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องที่สูงขึ้นอีก


ประโยชน์ของชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์

เนื่องจากชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ทำงานด้วยการเลือกเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการอ่านข้อมูลจากพิกเซลบนเซนเซอร์ภาพ จึงไม่มีม่านชัตเตอร์กลเข้ามาเกี่ยวข้องเลย และมีประโยชน์สามประการดังนี้

- การถ่ายภาพแบบเงียบโดยไม่มีเสียงชัตเตอร์กล
- ลดปัญหากล้องสั่นซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่อม่านชัตเตอร์กลเปิดและปิด
- ได้ความเร็วชัตเตอร์สูงกว่าที่เคยเป็นมาก โดยที่ชัตเตอร์กลมีความเร็วสูงสุดถึง 1/16,000 วินาที

ความเร็วชัตเตอร์ที่เพิ่มขึ้นช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการหยุดการเคลื่อนไหว รวมถึงการสร้างโบเก้ในสภาวะที่มีแสงจ้าได้อีกด้วย


เทคนิคการใช้งานแบบมืออาชีพ: ควรใช้โหมดชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์เมื่อใด

แม้ว่าโหมดชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์จะมีประโยชน์ แต่ก็มีข้อเสียประการหนึ่งคือ มีความเสี่ยงที่จะเกิดความบิดเบี้ยวจาก Rolling Shutter เนื่องจากสัญญาณจากพิกเซลบนเซนเซอร์ภาพจะถูกอ่านทีละแถวในระหว่างเปิดรับแสง การอ่านสัญญาณจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ตัวแบบที่เคลื่อนที่ไวในระหว่างกระบวนการนี้อาจดูบิดเบี้ยวเนื่องจากการหน่วงเวลา ควรใช้โหมดชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์อย่างเหมาะสม


สามารถใช้โหมดชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ได้เมื่อ…:

- ตัวแบบเคลื่อนที่ช้าหรืออยู่นิ่งกับที่
- ตัวแบบกินพื้นที่เพียงส่วนเล็กๆ ของเฟรม
- ตัวแบบกำลังเคลื่อนที่เข้าหาหรือออกไปจากคุณ
- คุณถ่ายภาพมุมกว้างด้วยเอฟเฟ็กต์การขยายมุมมองเปอร์สเปคทีฟที่เกินจริง
- คุณไม่ต้องการให้รูปร่างของตัวแบบแสดงออกมาอย่างสมจริง

ปัญหา Rolling Shutter ในภาพนี้ไม่ชัดเจนเนื่องจากรถไฟเคลื่อนที่จากด้านหลังของภาพมายังด้านหน้า


โหมดชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ไม่เหมาะที่จะใช้เมื่อใด:

- เมื่อตัวแบบเคลื่อนที่หรือหมุนอย่างรวดเร็วมาก
- เมื่อตัวแบบกินพื้นที่ส่วนมากในเฟรม
- เมื่อตัวแบบเคลื่อนที่ในแนวนอนข้ามเฟรม
- เมื่อคุณถ่ายภาพด้วยทางยาวโฟกัสเทเลโฟโต้ ซึ่งเห็นการบิดเบี้ยวของเปอร์สเปคทีฟได้ไม่ชัด
- เมื่ออยู่ในสภาวะที่มีแหล่งกำเนิดแสงที่สั่นไหว

ความบิดเบี้ยวจาก Rolling shutter หรือ “Jelly-Effect” มองเห็นได้ในภาพนี้ ซึ่งมีสภาวะที่ไม่เหมาะสมสามประการ สำหรับการถ่ายภาพด้วยโหมดชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ 1. ตัวแบบที่เคลื่อนที่เร็วที่ 2. กินพื้นที่ส่วนมากในเฟรม อีกทั้งยัง 3. เคลื่อนที่ในแนวนอนข้ามเฟรม

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับโหมดชัตเตอร์ต่างๆ ได้ที่:
โหมดชัตเตอร์และโหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง: ควรใช้แต่ละโหมดเมื่อใด

คุณภาพของภาพความไวแสง ISO สูง

คุณภาพของภาพความไวแสง ISO สูง

การเพิ่มจำนวนพิกเซลบนเซนเซอร์ภาพโดยปกติจะลดระยะห่างระหว่างพิกเซล ซึ่งส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพความไวแสง ISO สูง แต่ภาพความไวแสง ISO สูงของกล้อง EOS R7 นั้นยังคงดูค่อนข้างสะอาดตา ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับเทคโนโลยีการลดจุดรบกวนของระบบประมวลผลภาพ DIGIC X

ดังที่เห็นในภาพด้านล่าง แม้ว่า EOS R7 และ EOS 7D Mark II จะมีระดับจุดรบกวนใกล้เคียงกันเมื่อใช้ ISO 3200 แต่ก็ยังมีข้อแตกต่างอยู่มากในแง่ของรายละเอียดที่แสดงออกมา อันที่จริงแล้ว EOS R7 จะรักษารายละเอียดไว้ได้ดีจนถึง ISO 12,800

  EOS R7 EOS 7D Mark II
ISO 3200
ISO 6400
ISO 12,800
ISO 25,600

คุณสมบัติอื่นๆ ที่ควรพิจารณา

คุณสมบัติอื่นๆ ที่ควรพิจารณา

ระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวกล้อง (IS ในตัวกล้อง) ของ EOS R7

คุณสมบัตินี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันภาพสั่นไหวของเลนส์ RF ที่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวในเลนส์เทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์สูงถึง 8 สต็อป (ขึ้นอยู่กับรุ่นของเลนส์) อีกทั้งยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว 5 แกนแบบ Sensor-shift สำหรับเลนส์ EF และ RF ที่ไม่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัว จึงเพิ่มความเป็นไปได้ในการถ่ายภาพด้วยเลนส์ต่างๆ เช่น เลนส์ Nifty Fifty ยอดนิยม (เลนส์ 50mm f/1.8)!

อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
ข้อควรรู้เกี่ยวกับ IS ในตัวกล้อง


วิดีโอ

กล้อง EOS R7 มีคุณสมบัติการบันทึกวิดีโอระดับมืออาชีพ คุณจึงมั่นใจได้เสมอหากตัดสินใจ (หรือกำลังคิด) ว่าจะจริงจังกับการผลิตวิดีโอมากขึ้น

EOS R7 EOS 7D Mark II EOS 90D
ความละเอียดวิดีโอสูงสุด
4K UHD 60p
(4K UHD Fine จากการทำ Oversampling แบบ 7K สูงสุดถึง 30p)
(3840 × 2160)
Full HD 60p
(1920 × 1080)
4K UHD 30p
(3840 × 2160)
วิดีโอที่มีอัตราเฟรมสูง
Full HD 120/100p ไม่ได้ Full HD 120/100p
การถ่ายแบบ Canon Log/HDR PQ
ได้
ไม่ได้
รูปแบบไฟล์
MP4 MOV, MP4 MP4
ไมโครโฟนในตัวกล้อง
สเตอริโอ ช่องเดียว สเตอริโอ
ตัวเลือกไมโครโฟนเสริม
ช่องต่อ IN สำหรับไมโครโฟนเสริม: มินิแจ็คแบบสเตอริโอ 3.5 มม.
ฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่น: ใช้ได้กับไมโครโฟน Directional Stereo Microphone DM-E1D
ช่องต่อ IN สำหรับไมโครโฟนเสริม: มินิแจ็คแบบสเตอริโอ 3.5 มม.
ระยะเวลาในการบันทึกต่อเนื่อง
6 ชั่วโมง
29 นาที 59 วินาที


สื่อบันทึก (ช่องใส่การ์ด)

EOS R7 EOS 7D Mark II กล้องซีรีย์ EOS XXD
การ์ด SD 2 อัน การ์ด SD 1 อัน
การ์ด CF 1 อัน
ช่องใส่การ์ด SD แบบเดี่ยว


แบตเตอรี่

EOS R7 EOS 7D Mark II/EOS 90D/ EOS 80D
LP-E6NH
รองรับ LP-E6N และ LP-E6 ด้วย
LP-E6N
รองรับ LP-E6 ด้วย

กล้อง EOS R7 ยังรองรับการชาร์จแบตเตอรี่ด้วยสาย USB และการจ่ายไฟผ่าน USB Power Adapter PD-E1 หรือสาย USB Type-C ที่สามารถใช้ร่วมกับ PD ได้

สรุป

สรุป

กล้อง EOS R7 สร้างมาเพื่อความเร็ว ด้วยเทคโนโลยีมิเรอร์เลส ประสิทธิภาพของการติดตามและ AF ขั้นสูง ความสามารถยอดเยี่ยมในการประมวลผลภาพ และมีความเร็วสูง จึงทำให้มีข้อได้เปรียบมากมายที่เหนือกว่ากล้อง EOS 7D Mark II ที่มีอายุเกือบสิบปี รวมถึงกล้องรุ่นใหม่อย่าง EOS 90D ด้วย บางทีอาจถึงเวลาที่คุณควรเปลี่ยนกล้องใหม่ได้แล้ว!


แต่หากกำลังคิดจะอัพเกรดเป็นกล้องแบบฟูลเฟรมแทน ลองศึกษาข้อดีข้อเสียได้ใน:
กล้องฟูลเฟรมและกล้อง APS-C: ควรเลือกรุ่นไหนดี

ยังมีข้อมูลอีกมากมายเกี่ยวกับกล้อง EOS R7 ที่เรากล่าวถึงได้ไม่หมด อ่านเพิ่มเติมได้ใน:
EOS R7: กล้อง EOS APS-C ความละเอียดสูงสุดและเร็วที่สุดจาก Canon

แต่ถ้าคุณเป็นเจ้าของ EOS R7 อยู่แล้ว กล้องรุ่นนี้มีฟังก์ชั่นหลายอย่างที่เหมือนกับกล้องแบบฟูลเฟรมรุ่นใกล้เคียง อย่าง EOS R5 และ EOS R6 ลองอ่านบทความต่อไปนี้เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการตั้งค่าและการกำหนดค่าที่สามารถทำให้การถ่ายภาพของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น!
5 การตั้งค่าพื้นฐานของกล้อง EOS R5/ EOS R6 ที่ปรับแต่งได้ตามต้องการตั้งแต่ต้น
การตั้งค่ากล้อง 7 แบบที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้ราบรื่นขึ้นแต่มักถูกมองข้าม

เกี่ยวกับผู้เขียน

Digital Camera Magazine

นิตยสารรายเดือนที่เชื่อว่าความสุขของการถ่ายภาพจะยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ถ่ายภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องมากยิ่งขึ้น นิตยสารเล่มนี้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับกล้องรุ่นใหม่ๆ รวมถึงคุณสมบัติของกล้องและนำเสนอเทคนิคการถ่ายภาพอย่างหลากหลาย
จัดพิมพ์โดย Impress Corporation

Kazuo Nakahara

เกิดที่เมืองฮอกไกโดในปี 1982 Nakahara ผันเข้าสู่วงการถ่ายภาพหลังจากทำงานในบริษัทผลิตสารเคมี เขาถ่ายภาพที่ Vantan Design Institute เป็นหลักและเป็นผู้บรรยายในเวิร์คช็อปและสัมมนาด้านการถ่ายภาพ นอกเหนือจากการทำงานถ่ายภาพโฆษณา เขายังเป็นหนึ่งในผู้ดำเนินงานเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลด้านการถ่ายภาพอย่าง studio9 อีกด้วย

http://photo-studio9.com/

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา