ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

เคล็ดลับและบทเรียน >> เคล็ดลับและบทเรียนทั้งหมด

เทคนิคการถ่ายภาพกีฬาแข่งรถ (2): เทคนิคขั้นสูง

2023-05-23
0
339

ในตอนที่ 1 เราได้เรียนรู้เทคนิคการแพนกล้องเพื่อถ่ายภาพกีฬาแข่งรถให้ดียิ่งขึ้นไปบ้างแล้ว ในตอนที่ 2 ของบทความ 2 ตอนนี้ เราจะยกระดับขึ้นไปอีกด้วยเคล็ดลับและเทคนิคโดยละเอียดในการถ่ายภาพ 2 ประเภทที่มีความท้าทายเป็นพิเศษ  (เรื่องโดย: Hirohiko Okugawa จากคู่มือการถ่ายภาพด้วย EOS R7 โดย Digital Camera Magazine)

EOS R7/ EF100-400mm f/4.5-5.6L IS II USM/ FL: 164 มม. (เทียบเท่า 262 มม.)/ Shutter-priority AE (f/5, 1/30 วินาที)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ

ในบทความนี้:

 

3. ให้ยานพาหนะที่กำลังเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงข้ามเข้ามาอยู่ในภาพด้วย

ดังที่เราได้เห็นในตอนที่ 1 ความรู้สึกของความเร็วที่สื่อออกมาจากภาพถ่ายแบบแพนกล้องนั้นไม่ได้มาจากตัวยานพาหนะ แต่มาจากภาพเบลอจากการเคลื่อนไหวขององค์ประกอบที่อยู่โดยรอบ สิ่งใดก็ตามที่เคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงข้ามกับการแพนกล้องของคุณจะทำให้เกิดภาพเบลอจากการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนกว่าองค์ประกอบที่อยู่นิ่ง เช่น สิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำให้รู้สึกถึงความเร็วได้มากยิ่งขึ้น เมื่อโอกาสมาถึง ให้ถ่ายภาพโดยใช้มุมกว้างขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้รถยนต์คันที่สองเข้ามาอยู่ในเฟรมภาพด้วย ดังภาพที่ผมถ่ายไว้ด้านบน

รถยนต์ 1 คัน

รถยนต์ 2 คัน

การจัดองค์ประกอบภาพดูน่าสนใจและมีพลังมากกว่าเมื่อมีรถยนต์คันที่ 2 อยู่ในโฟร์กราวด์


เคล็ดลับระดับมือโปรข้อที่ 1: พิจารณาถึงลักษณะของการแข่งขัน เช่น จำนวนรถที่เข้าแข่งขัน ฯลฯ

ในการถ่ายฉากดังกล่าว คุณจะต้องให้รถ 2 คันซึ่งเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงข้ามกันอยู่ใกล้กันมากพอเพื่อให้สามารถถ่ายไว้ในเฟรมเดียวกันได้ ส่วนหนึ่งอาจขึ้นอยู่กับดวง แต่ลักษณะบางอย่างของการแข่งขันจะช่วยให้คุณมีโอกาสถ่ายภาพได้มากขึ้น เช่น

- มีรถเข้าแข่งขันเป็นจำนวนมาก
- ต้องแข่งขันด้วยจำนวนรอบที่มากขึ้น

หากการแข่งขันนั้นมีรถยนต์น้อยมาก โอกาสในการถ่ายภาพของคุณอาจไม่มีวันมาถึงไม่ว่าจะอดทนรอนานสักเท่าใด! Super GT เป็นตัวอย่างการแข่งขันที่มักจะมีคุณสมบัติทั้งสองข้อข้างต้น


เคล็ดลับระดับมือโปรข้อที่ 2: ปรับหน้าจอ Live View ของคุณให้เรียบง่าย

หากคุณมีสมาธิในการแพนกล้องได้เป็นอย่างดี โอกาสในการถ่ายภาพได้ก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
ผมพบว่าการลบข้อมูลทั้งหมดที่ไม่จำเป็นออกไปจากหน้าจอนั้นช่วยได้ คุณสามารถลบข้อมูลดังกล่าวได้โดยเข้าไปที่เมนู “แสดงข้อมูลการถ่ายภาพ”

องค์ประกอบหนึ่งบนหน้าจอที่ผมเปิดทิ้งไว้คือตาราง 3x3 ซึ่งช่วยให้ผมแน่ใจว่าจะได้เส้นแนวนอนที่ตรง การที่สามารถแสดงตารางในช่องมองภาพได้คือประโยชน์ข้อหนึ่งของกล้องมิเรอร์เลส เช่น กล้องในระบบ EOS R!

 

4. ภาพจากด้านหน้าที่หยุดรายละเอียดไว้ขณะอยู่บนโค้งรูปตัว S

EOS R7/ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM/ FL: 300 มม. (เทียบเท่า 480 มม.)/ Shutter-priority AE (f/5.6, 1/800 วินาที, EV -0.3)/ ISO 320/ WB: อัตโนมัติ

เทคนิคทั้ง 3 ข้อที่เราได้อธิบายไปแล้ว รวมถึงเทคนิค 2 ข้อในตอนที่ 1 ต่างก็เป็นเทคนิคการแพนกล้องที่ใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ แต่เทคนิคสุดท้ายของเราใช้วิธีตรงข้าม นั่นคือเราจะกลับไปใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของยานพาหนะ เป้าหมายของเราไม่ใช่แค่การถ่ายภาพยานพาหนะที่กำลังเคลื่อนที่ แต่เป็นภาพจากด้านหน้ารถที่กำลังเคลื่อนตัวผ่านโค้งรูปตัว S หรือโค้งชิเคน*แบบอื่นๆ

*โค้งชิเคน: ช่วงหนึ่งในสนามแข่งรถที่มีความท้าทายเนื่องจากมีส่วนโค้งในทิศตรงข้ามติดต่อกัน


กล้องมิเรอร์เลสทำให้การถ่ายภาพเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

กล้องมิเรอร์เลสทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นในการถ่ายภาพหน้าตรงบนโค้งรูปตัว S หรือโค้งชิเคน

ในยุคของกล้อง DSLR ซึ่งพื้นที่ครอบคลุม AF นั้นจำกัดกว่านี้มาก ช่างภาพส่วนใหญ่จะใช้ AF จุดเดียวเพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถโฟกัสได้ดีที่สุดในฉากเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม นั่นหมายความว่าเราจะต้องเลือกว่าจุดตัดใดที่เราต้องการใส่เข้ามาในภาพ ด้านซ้ายหรือด้านขวา แล้วตัดอีกฝั่งหนึ่งทิ้งไป

แต่สำหรับกล้องแบบ EOS R7 คุณสมบัติการติดตามตัวแบบนั้นรวดเร็วและน่าเชื่อถือพอที่จะติดตามยานพาหนะได้ทันในขณะที่กำลังเข้าโค้งติดต่อกัน ปัจจุบันนี้เราจึงสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสในการถ่ายภาพแต่ละครั้งได้อย่างเต็มที่

อ่านเพิ่มเติมได้ที่
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการตั้งค่ากล้อง: การจัดองค์ประกอบภาพทำได้ง่ายขึ้นในกล้องมิเรอร์เลสใช่หรือไม่
รู้จักกับเทคโนโลยีของ Canon: Dual Pixel CMOS AF คืออะไร


เคล็ดลับระดับมือโปร: ใช้ฟังก์ชั่นการเลื่อนค่าเองเพื่อจัดการกับความสว่างที่ผันผวนอย่างรุนแรงโดยอัตโนมัติ

ควบคุมความเร็วชัตเตอร์และความไวแสง ISO ได้แม้รูรับแสงบนเลนส์ของคุณจะมีข้อจำกัด

การใช้โหมดเปิดรับแสงกึ่งอัตโนมัติ เช่น โหมด Shutter-priority AE (Tv) ช่วยให้ผมสามารถใช้สมาธิไปกับส่วนที่ต้องอาศัยความสร้างสรรค์ได้ ผมสามารถควบคุมความเร็วชัตเตอร์ได้ และกล้องจะปรับการตั้งค่าอื่นๆ เพื่อให้ได้ระดับแสงที่เหมาะสม ผมตั้งค่าความไวแสง ISO แบบแมนนวลเพื่อให้เกิดเม็ดเกรนน้อยที่สุดและให้รายละเอียดคมชัดสูงสุด

อย่างไรก็ตาม หากความสว่างเกิดการผันผวนไปมาอย่างรุนแรงขณะถ่ายภาพต่อเนื่อง (เช่นในภาพนี้) และคุณใช้ค่ารูรับแสงกว้างสุดหรือเกือบกว้างสุดอยู่แล้ว ก็ยังมีโอกาสที่คุณจะได้ภาพที่ดูมืดเกินไปอยู่ดี


ฟังก์ชั่นการเลื่อนค่าเองจึงเป็นวิธีที่มีประโยชน์สำหรับสถานการณ์นี้ เมื่อคุณใช้โหมดกึ่งอัตโนมัติและภาพที่ได้ดูมืดหรือสว่างเกินไปเนื่องจากข้อจำกัดของอุปกรณ์ ฟังก์ชั่นนี้จะยกเลิกค่าการเปิดรับแสงที่ตั้งแบบแมนนวลเพื่อให้ได้ระดับแสงที่ถูกต้อง

ฟังก์ชั่นการเลื่อนค่าเองจะอยู่ในเมนูสีส้มของกล้องระดับสูง

ผมตั้งค่าฟังก์ชั่นการเลื่อนค่าเองเพื่อปรับความไวแสง ISO

เมื่อใช้ฟังก์ชั่นการเลื่อนค่าเองร่วมกับโหมด Tv ผมจึงสามารถควบคุมความเร็วชัตเตอร์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งต่างจากการตั้งค่า “ความเร็วชัตเตอร์ต่ำสุดระหว่างใช้ ISO อัตโนมัติ” กล้องจะเพิ่มค่าความไวแสง ISO เมื่อไม่สามารถตั้งค่าที่ต้องการเพื่อให้มีระดับแสงที่เหมาะสมได้เท่านั้น นอกเหนือจากนี้ กล้องจะใช้ค่าที่ผมตั้งไว้

 

4B (แบบต่างๆ): ภาพถ่ายจากด้านหลัง

EOS R7/ EF300mm f/2.8L IS II USM/ FL: 300 มม. (เทียบเท่า 480 มม.)/ Shutter-priority AE (f/3.5, 1/800 วินาที, EV -0.3)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ

ในการถ่ายภาพจากด้านหลัง รถยนต์จะพุ่งเข้ามาในเฟรมภาพทันที จึงทำให้การถ่ายภาพเป็นเรื่องที่ท้าทายยิ่งกว่าสำหรับทั้งช่างภาพและตัวกล้อง เมื่อเทียบกับการถ่ายภาพจากด้านหน้าตรงซึ่งตัวรถจะเคลื่อนที่เข้าหาคุณ


เคล็ดลับ: อย่าลืมเปิดฟังก์ชั่นติดตามตัวแบบ!

สำหรับกล้องอย่าง EOS R7 คุณสมบัติการติดตามตัวแบบทำให้การถ่ายภาพอย่างแม่นยำและคมชัดเป็นเรื่องที่ง่ายดายขึ้นมาก เมื่อเปิดใช้งานโหมด Vehicle-priority ในเมนู “ตัวแบบที่ต้องการตรวจจับ” กรอบติดตามตัวแบบจะปรากฏขึ้นที่ตัวยานพาหนะทันทีที่เข้ามาในเฟรมภาพ!

ในภาพนี้ ผมไม่จำเป็นต้องจัดองค์ประกอบภาพใหม่เพื่อติดตามยานพาหนะ เนื่องจากกล้องคอยติดตามตัวแบบอยู่ไม่ว่าที่จุดใดในเฟรม แม้ในขณะเคลื่อนไปทางซ้ายและขวา ซึ่งจะไม่สามารถทำได้เลยหากใช้วิธี AF จุดเดียวแบบดั้งเดิม

อ่านเพิ่มเติมได้ที่
เผยโฉมคุณสมบัติ AF ของกล้อง EOS R3


เคล็ดลับพิเศษ: ควรใช้เลนส์รุ่นใดในการถ่ายภาพกีฬาแข่งรถ

เลนส์ RF คือเลนส์ที่ดีที่สุดสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพและความเร็วของ AF สำหรับกล้องในระบบ EOS R เลนส์ซูมเทเลโฟโต้จะให้ความยืดหยุ่นสูงสุดในการจัดเฟรมไม่ว่าจากฝั่งใดของสนาม

ด้านล่างนี้คือเลนส์ซูมเทเลโฟโต้ RF สองรุ่นที่โดดเด่น ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับเมาท์ขาตั้งกล้องและสามารถใช้ได้กับอุปกรณ์ขยายระยะเลนส์ Extender RF1.4x และ Extender RF2x เพื่อระยะที่เพิ่มขึ้น

เลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM มีความสามารถครอบคลุมฉากเกือบทุกแบบที่คุณต้องการในการถ่ายภาพกีฬาแข่งรถ หากใช้กับกล้อง APS-C เลนส์นี้จะให้ช่วงโฟกัสเทียบเท่าฟูลเฟรมที่ 160-800 มม.

หากคุณต้องถ่ายภาพในอาคารหรือในสภาวะแสงน้อยอยู่บ่อยครั้ง เลนส์ RF100-300mm f/2.8L IS USM ซึ่งมีรูรับแสงคงที่จะเป็นการลงทุนที่ดี หากใช้กับกล้อง APS-C เลนส์นี้จะให้ช่วงโฟกัสเทียบเท่าฟูลเฟรมที่ 160-480 มม. เมื่อใช้กับอุปกรณ์ขยายระยะเลนส์ คุณจะได้รูรับแสงกว้างสุดที่ f/4 หากใช้ Extender RF1.4x และ f/5.6 หากใช้ Extender RF2x

เกี่ยวกับผู้เขียน

Digital Camera Magazine

นิตยสารรายเดือนที่เชื่อว่าความสุขของการถ่ายภาพจะยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ถ่ายภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องมากยิ่งขึ้น นิตยสารเล่มนี้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับกล้องรุ่นใหม่ๆ รวมถึงคุณสมบัติของกล้องและนำเสนอเทคนิคการถ่ายภาพอย่างหลากหลาย
จัดพิมพ์โดย Impress Corporation

Hirohiko Okugawa

เส้นทางการเป็นช่างภาพของ Okugawa เริ่มตั้งแต่ครั้งยังเป็นนักเรียน ตอนที่เขาต้องการถ่ายภาพกีฬาแข่งรถ ผลงานของเขาได้รับเลือกให้จัดแสดงในนิทรรศการภาพถ่ายกีฬาแข่งรถของ Canon Japan เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน และเขายังได้ถ่ายภาพการแข่งรถฟอร์มูล่าวัน เจแปนนิส กรังด์ปรีซ์ ทุกครั้งตั้งแต่ปี 2530 ที่สนามซูซูกะและสนามฟูจิ โดยได้แบ่งเวลาถ่ายภาพและทำงานประจำด้านประชาสัมพันธ์จนกระทั่งเขาก่อตั้งบริษัทประชาสัมพันธ์ของตนเองในปี 2549 ปัจจุบัน Okugawa รับหน้าที่ถ่ายภาพกีฬาแข่งรถให้กับพอร์ทัลข่าว Car Watch ที่ดำเนินงานโดย Impress Corporation

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา