ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

เคล็ดลับและบทเรียน >> เคล็ดลับและบทเรียนทั้งหมด

Digital Lens Optimizer: ยกระดับคุณภาพของภาพขึ้นไปอีกขั้น

2021-09-02
0
570
ในบทความนี้:

คุณสมบัติ Digital Lens Optimizer (DLO) ทำหน้าที่แก้ไขความคลาดทางออพติคอลและความบิดเบี้ยวประเภทต่างๆ รวมถึงสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้คุณภาพของภาพด้อยลง เช่น เอฟเฟ็กต์ฟิลเตอร์ Low-pass ด้วยเหตุนี้ DLO จึงมีบทบาทสำคัญในการทำให้คุณมั่นใจว่าภาพจะมีคุณภาพสูงสุด คุณสมบัตินี้ทำงานอย่างไร และเราควรใช้เมื่อใด อ่านต่อเพื่อหาคำตอบได้ในบทความนี้ (เรื่องโดย: Kazuo Nakahara, Digital Camera Magazine)

 

Digital Lens Optimizer มีการทำงานอย่างไร

มีปัจจัยมากมายที่ทำให้ความละเอียดของภาพด้อยลง เช่น ความคลาดของเลนส์ การกระจายแสง เอฟเฟ็กต์ฟิลเตอร์ Low-pass และอื่นๆ ซึ่ง Canon ได้เก็บรวบรวมข้อมูลเหล่านี้ไว้ Digital Lens Optimizer (DLO) คือซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อบกพร่องในภาพและใช้ข้อมูลการแก้ไขนี้เพื่อฟื้นฟูไฟล์ภาพให้กลับคืนสู่คุณภาพสูงสุด คุณสมบัตินี้เดิมเคยมีอยู่ในขั้นตอนการปรับแต่งภาพในซอฟต์แวร์ Digital Photo Professional ของ Canon เท่านั้น แต่ได้กลายมาเป็นคุณสมบัติในตัวกล้องนับตั้งแต่รุ่น EOS-1D X Mark II เป็นต้นมา

สำหรับเลนส์ RF และเลนส์ EF รุ่นใหม่ ข้อมูลการแก้ไขจะถูกจัดเก็บไว้ภายในตัวเลนส์และถ่ายโอนมายังตัวกล้องโดยอัตโนมัติเมื่อติดตั้งเลนส์เข้ากับกล้อง ข้อมูลการแก้ไขสำหรับเลนส์ EF รุ่นเก่าส่วนใหญ่จะถูกติดตั้งไว้ล่วงหน้าในตัวกล้อง Canon EOS รุ่นใหม่ รวมถึงกล้องในระบบ EOS R

เมาท์ RF มีประโยชน์อย่างไรสำหรับ DLO อ่านต่อได้ที่นี่

 

การตั้งค่า “มาตรฐาน” และ “สูง” เพื่อให้ได้ระดับการแก้ไขที่จำเป็น

กล้องตั้งแต่รุ่น EOS R5 และ EOS R6 เป็นต้นไป การตั้งค่า ‘สูง’ แบบใหม่จะรวมอยู่ใน DLO เพื่อให้ผู้ใช้ระดับมืออาชีพเลือกใช้ระดับการแก้ไขได้ตามต้องการ

สามารถเลือกระดับเอฟเฟ็กต์ของ DLO (“มาตรฐาน” หรือ “สูง”) ได้ในเมนู “การแก้ไขความคลาดของเลนส์” ในแท็บ SHOOT

 

ฉันควรใช้ DLO เมื่อใด


ฉากที่ 1: เพื่อแก้ไขการเบลอเมื่อใช้รูรับแสงกว้างสุด

EOS R5/ RF35mm f/1.8 Macro IS STM ที่ f/1.8, 1/125 วินาที, ISO 800, EV +0.7

ปิด


เลนส์หลายรุ่นมักจะให้ภาพที่เบลอเมื่อเปิดรูรับแสงกว้าง จึงเป็นสาเหตุให้ช่างภาพที่ต้องการเพิ่มความคมชัดมักจะลดจำนวนสต็อปลงเล็กน้อยจากรูรับแสงกว้างสุด DLO จะช่วยแก้ไขความเบลอที่เกิดขึ้นนี้

มาตรฐาน

การตั้งค่า DLO ในระดับ “มาตรฐาน” ไม่เพียงแต่ช่วยปรับปรุงรายละเอียดของภาพให้มีความละเอียดขึ้นเท่านั้น แต่ยังสามารถกำจัดความคลาดสีที่หลงเหลืออยู่เล็กน้อยได้อีกด้วย

สูง

การตั้งค่า “สูง” ทำให้รายละเอียดดูคมชัดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

ฉากที่ 2: เพื่อลดการเบลอที่ขอบภาพ

EOS R5/ RF24-105mm f/4L IS USM ที่ 105 มม., f/4, 1/1250 วินาที, ISO 100

ปิด


ความคลาดของเลนส์มักจะเกิดขึ้นที่ขอบภาพมากกว่าตรงกึ่งกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสูญเสียรายละเอียดรวมถึงสีจางและสีเพี้ยนจะเห็นได้อย่างชัดเจน

สีจางและสีเพี้ยนเกิดจากความคลาดสีตามแนวทแยง ซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากการโฟกัสของความยาวคลื่นแสงต่างๆ ในตำแหน่งที่แตกต่างกันบนระนาบโฟกัสเดียวกัน ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้รูรับแสงที่แคบลง

มาตรฐาน

สีเพี้ยนได้รับการแก้ไขเมื่อตั้งค่า DLO ไว้ที่ “มาตรฐาน”

สูง

การตั้งค่า “สูง” ปรับปรุงความละเอียดของภาพให้ดีขึ้น ลองสังเกตดูว่าข้อความดูคมชัดขึ้นแค่ไหน

 

ฉากที่ 3: เพื่อแก้ไขเอฟเฟ็กต์การกระจายแสงเมื่อใช้รูรับแสงแคบ

EOS R5/ RF24-105mm f/4L IS USM ที่ 61 มม., f/22, 1/125 วินาที, ISO 500, EV +0.7

ปิด


ในกล้องที่มีจำนวนพิกเซลสูง เช่น EOS R5 จะเกิดการเบลอจากการเลี้ยวเบนของแสงที่เห็นได้ชัดเจนพอจนอาจทำให้คุณกังวลเมื่อใช้รูรับแสงตั้งแต่ f/11 เป็นต้นไป

ความสัมพันธ์ระหว่างระยะชัดกับการเลี้ยวเบนของแสงที่ลดทอนกันเช่นนี้อาจทำให้ช่างภาพหลีกเลี่ยงการใช้โฟกัสชัดลึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความละเอียดสูงสุดของภาพเป็นความสำคัญอันดับหนึ่ง

มาตรฐาน

อย่างไรก็ตาม ความละเอียดจะสามารถฟื้นฟูได้เมื่อตั้งค่า DLO ไปที่ “มาตรฐาน”…

สูง

…และจะได้รับการฟื้นฟูมากยิ่งขึ้นเมื่อตั้งค่า DLO ไว้ที่ “สูง” ผลลัพธ์ที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการเพิ่มระดับความคมชัดในกระบวนการปรับแต่งภาพ

 

EOS R5/ RF24-105mm f/4L IS USM ที่ 24 มม., f/22, 45 วินาที, ISO 100

ปิด


หากถ่ายภาพโดยใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำหรือเปิดรับแสงเป็นเวลานาน ยิ่งเปิดรับแสงนานเท่าใดจะต้องใช้รูรับแสงที่แคบลงเท่านั้น การเปิดรับแสงเช่นนี้อาจทำให้ภาพเกิดเอฟเฟ็กต์การเลี้ยวเบนของแสง ซึ่งทำให้รายละเอียดและขอบภาพดูเบลอและไม่คมชัด

มาตรฐาน

DLO สามารถฟื้นฟูรายละเอียดที่สูญเสียไปเนื่องจากการเลี้ยวเบนของแสงได้แม้จะมีแสงจ้าในเมือง ซึ่งอาจทำให้เอฟเฟ็กต์การเลี้ยวเบนของแสงเด่นชัดขึ้น

สูง

การตั้งค่า “สูง” ช่วยปรับปรุงรายละเอียดได้ดียิ่งขึ้นอีก ซึ่งทำให้คุณสามารถจับภาพเส้นแสงและภาพเบลอจากการเคลื่อนไหวได้โดยไม่สูญเสียรายละเอียดมากนักแม้จะไม่มีฟิลเตอร์ ND

 

ข้อควรรู้


(1) เอฟเฟ็กต์ต่างๆ ใช้ได้กับไฟล์ JPEG เท่านั้น

ฟังก์ชัน DLO ในกล้องจะทำการแก้ไขในทันที แต่เอฟเฟ็กต์ต่างๆ จะถูกนำไปใช้กับไฟล์ JPEG ขณะทำการบันทึกเท่านั้น หากต้องการใช้ DLO กับไฟล์ RAW คุณสามารถเลือก:

- ปรับแต่งไฟล์ภาพ RAW ในกล้อง คุณสามารถใช้ DLO (หากไม่ได้เปิดใช้อยู่แล้ว) หรือเปลี่ยนระดับของเอฟเฟ็กต์ได้ และจะสามารถมองเห็นเอฟเฟ็กต์ได้ในไฟล์ JPEG ที่ส่งออกแล้ว

- ใช้ซอฟต์แวร์ Digital Photo Professional (DPP) ฟรีของ Canon เพื่อปรับแต่งไฟล์ RAW ในคอมพิวเตอร์ของคุณ

แถบเลื่อน Digital Lens Optimizer ใน DPP ช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้เอฟเฟ็กต์ DLO ที่มีระดับความชัดเจนต่างกันตั้งแต่ 0 ถึง 100


(2) ใช้เอฟเฟ็กต์ “สูง” เมื่อคุณให้ความสำคัญกับความละเอียดของภาพมากกว่าความเร็ว

เมื่อใช้เอฟเฟ็กต์ “สูง” จะใช้เวลามากขึ้นในการประมวลผลภาพและบันทึกไปยังการ์ด และความเร็วสูงสุดในการถ่ายภาพต่อเนื่องจะต่ำลง ดังนั้น จึงแนะนำให้ใช้การตั้งค่านี้เมื่อคุณให้ความสำคัญกับความละเอียดสูงๆ ของภาพเป็นอันดับแรกเท่านั้น สำหรับสถานการณ์อื่นๆ ขอแนะนำให้ใช้การตั้งค่า “มาตรฐาน”


(3) คุณสามารถแก้ไขความคลาดบางชนิดของเลนส์ได้ต่างหาก

หากไม่สามารถเลือกใช้ DLO ในระหว่างถ่ายภาพ คุณสามารถเปิดใช้งานแยกต่างหากได้ในฟังก์ชันการแก้ไขความคลาดของเลนส์ในตัวกล้อง เพื่อการแก้ไขเฉพาะจุดสำหรับการเลี้ยวเบนของแสง ความคลาดสี ความบิดเบี้ยว และมุมภาพที่มืด (การเกิดขอบมืด)


---

คุณได้เปิดใช้ DLO แล้วหรือยัง ระหว่างตรวจดู ลองศึกษาการตั้งค่า 7 แบบเหล่านี้ที่สามารถทำให้การถ่ายภาพของคุณลื่นไหลยิ่งขึ้นด้วย

 


รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT

ลงทะเบียนตอนนี้!

เกี่ยวกับผู้เขียน

Digital Camera Magazine

นิตยสารรายเดือนที่เชื่อว่าความสุขของการถ่ายภาพจะยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ถ่ายภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องมากยิ่งขึ้น นิตยสารเล่มนี้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับกล้องรุ่นใหม่ๆ รวมถึงคุณสมบัติของกล้องและนำเสนอเทคนิคการถ่ายภาพอย่างหลากหลาย
จัดพิมพ์โดย Impress Corporation

Kazuo Nakahara

เกิดที่เมืองฮอกไกโดในปี 1982 Nakahara ผันเข้าสู่วงการถ่ายภาพหลังจากทำงานในบริษัทผลิตสารเคมี เขาถ่ายภาพที่ Vantan Design Institute เป็นหลักและเป็นผู้บรรยายในเวิร์คช็อปและสัมมนาด้านการถ่ายภาพ นอกเหนือจากการทำงานถ่ายภาพโฆษณา เขายังเป็นหนึ่งในผู้ดำเนินงานเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลด้านการถ่ายภาพอย่าง studio9 อีกด้วย

http://photo-studio9.com/

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา