ถ่ายภาพให้สวยงามขึ้นด้วยเมาท์อะแดปเตอร์ฟิลเตอร์แบบ Drop-in EF-EOS R
เมาท์อะแดปเตอร์ฟิลเตอร์แบบ Drop-in EF-EOS R ช่วยให้คุณใช้ฟิลเตอร์ ND หรือฟิลเตอร์ CPL ได้กับเลนส์ EF ทุกรุ่น แม้แต่รุ่นที่ไม่รองรับฟิลเตอร์ชนิดสวมหน้าเลนส์ เช่น เลนส์มุมกว้างอัลตร้าไวด์ EF11-24mm f/4L USM อ่านเพิ่มเติมในบทความนี้ว่าคุณสามารถทำอะไรที่น่าทึ่งได้บ้าง (ภาพและเรื่องโดย Yoshiki Fujiwara)
ในบรรดาเมาท์อะแดปเตอร์ EF-EOS R หลากหลายรุ่น ที่ช่วยให้คุณใช้เลนส์ EF กับกล้องในซีรีย์ EOS R ได้ รุ่นที่มีฟิลเตอร์แบบ Drop-in น่าจะเป็นรุ่นที่น่าใช้ที่สุด เนื่องจากช่วยให้คุณใช้ฟิลเตอร์กับเลนส์ได้ทุกแบบไม่ว่าฟิลเตอร์นั้นจะมีสลักเกลียวหรือเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเท่าใด เพียงแค่ใส่ฟิลเตอร์รุ่นที่รองรับการใช้งานลงไปในอะแดปเตอร์
เมาท์อะแดปเตอร์ฟิลเตอร์แบบ Drop-in มีสองประเภท ประเภทแรกคือรุ่นที่มีฟิลเตอร์โพลาไรซ์ทรงกลม (CPL) และอีกประเภทจะมีฟิลเตอร์ Neutral Density (ND) แบบปรับได้ซึ่งคุณสามารถปรับความทึบแสงได้ระหว่างเทียบเท่า ND3 ไปจนถึง ND500 (ผลที่ได้เทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์สูงสุดถึง 9 สต็อป)
เมาท์อะแดปเตอร์ฟิลเตอร์แบบ Drop-in EF-EOS R
ฟิลเตอร์ CPL และฟิลเตอร์ ND แบบปรับได้ที่มาพร้อมกับอะแดปเตอร์ยังเป็นอุปกรณ์ที่ซื้อแยกเพิ่มเติมได้ด้วย หากคุณไม่ต้องการใช้เอฟเฟ็กต์ฟิลเตอร์ใดๆ คุณสามารถใส่ฟิลเตอร์ใสเข้าไปได้ ซึ่งมีจำหน่ายแยกต่างหาก
คุณสมบัติเด่น 2 ข้อของเมาท์อะแดปเตอร์ฟิลเตอร์แบบ Drop-in EF-EOS R
#1: สามารถใช้งานกับเลนส์ EF/EF-S ได้ทุกรุ่น
เมาท์อะแดปเตอร์รุ่นนี้สามารถใช้กับเลนส์ EF/EF-S ที่ไม่มีสลักเกลียวได้ เช่น เลนส์มุมกว้างอัลตร้าไวด์ EF11-24mm f/4L USM และเนื่องจากไม่สำคัญว่าฟิลเตอร์จะมีขนาดเท่าใด คุณจึงไม่ต้องซื้อฟิลเตอร์เพิ่มเพื่อใช้กับเลนส์ที่มีขนาดแตกต่างกัน คุณสมบัตินี้มีประโยชน์มากในการถ่ายทำวิดีโอ ซึ่งฟิลเตอร์ ND เป็นอุปกรณ์สำคัญในการควบคุมการเปิดรับแสงขณะถ่ายภาพในสภาวะที่มีแสงสว่างจ้า
#2: คุณสามารถปรับเอฟเฟ็กต์ได้ด้วยการหมุนวงแหวน
หากต้องการปรับความเข้มของเอฟเฟ็กต์ฟิลเตอร์ ให้ปรับวงแหวนที่อยู่บนเมาท์อะแดปเตอร์ และคุณสามารถทำได้แม้ในขณะที่กำลังตรวจดูเอฟเฟ็กต์ผ่าน EVF
การใช้ฟิลเตอร์โพลาไรซ์ทรงกลม
ควบคุมการเกิดเงาเพื่อบันทึกสีสันและรายละเอียดที่แท้จริงของฉาก
EOS R / EF11-24mm f/4L USM/ FL: 11 มม./ Manual exposure (f/8, 1/15 วินาที)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ
เอฟเฟ็กต์ฟิลเตอร์: สูง
ฟิลเตอร์ CPL เป็นประโยชน์สำหรับฉากแบบใด
แสงสะท้อนไม่เพียงแต่เป็นอุปสรรคในการถ่ายภาพสิ่งที่อยู่ใต้ผิวน้ำเท่านั้น แต่ยังทำให้สีสันต่างๆ ดูจืดชืดไร้ชีวิตชีวาต่างไปจากที่ตาเห็นอีกด้วย หากใช้ฟิลเตอร์โพลาไรซ์ทรงกลม (CPL) เพื่อโพลาไรซ์ (“กำจัด”) แสงสะท้อนออกไป คุณจะสามารถ:
- ทำให้น้ำดูใสขึ้น
- ทำให้สีฟ้าของท้องฟ้าชัดเจนขึ้น
- ถ่ายทอดสีสันเจิดจ้าของฤดูใบไม้ร่วงได้อย่างเต็มที่
เมื่อใช้เมาท์อะแดปเตอร์ฟิลเตอร์แบบ Drop-in EF-EOS R กับฟิลเตอร์ CPL คุณจะสามารถปรับเอฟเฟ็กต์โพลาไรซ์ได้ง่ายๆ ด้วยการหมุนวงแหวน
เคล็ดลับ: แสงสะท้อนเล็กน้อยในภาพจะช่วยเพิ่มความมีมิติให้ฉากได้มากขึ้น
ทำให้สีของท้องฟ้าเข้มขึ้น
1. สูง
2. ต่ำ
3. ไม่ใช้ฟิลเตอร์ CPL
แสงสะท้อนจากพระอาทิตย์ทำให้ท้องฟ้าดูเป็นสีขาว คุณจึงแทบมองไม่เห็นต้นไม้ที่อยู่ทางด้านซ้าย การใช้เอฟเฟ็กต์ของฟิลเตอร์ CPL ในระดับสูงจะช่วยกำจัดแสงสะท้อน ทำให้มองเห็นรายละเอียดและสีสันที่แท้จริงของฉากได้
กำจัดเงาสะท้อนบนผิวน้ำ
EOS R/ EF11-24mm f/4L USM/ FL: 24 มม./ Manual exposure (f/8, 1/15 วินาที)/ ISO 200/ WB: อัตโนมัติ
เอฟเฟ็กต์ฟิลเตอร์: สูง
1. สูง
2. ต่ำ
3. ไม่ใช้ฟิลเตอร์ CPL
แสงอาทิตย์ที่สะท้อนบนผิวน้ำในสระนั้นชัดเจนมาก และหากไม่ใช้ฟิลเตอร์ CPL คุณจะถ่ายได้เพียงเงาของต้นไม้ที่อยู่รอบๆ เท่านั้น ซึ่งอาจจะเป็นภาพที่มีความสวยงามทีเดียว แต่ผมต้องการจะแสดงให้เห็นใบไม้ที่ร่วงลงไปอยู่ในสระน้ำด้วย ซึ่งฟิลเตอร์ CPL ช่วยได้
ต่อไปนี้คือฉากที่คุณสามารถใช้ฟิลเตอร์ PL ให้เป็นประโยชน์ได้
2 ไอเดีย สำหรับการถ่ายภาพดอกไม้ยามเย็น
เคล็ดลับสำหรับการถ่ายภาพรุ้งกินน้ำ
การใช้ฟิลเตอร์ Neutral Density แบบปรับได้
เปิดรับแสงให้นานขึ้นเพื่อเบลอน้ำและก้อนเมฆที่กำลังเคลื่อนที่
EOS R/ EF11-24mm f/4L USM/ FL: 24 มม./ Manual exposure (f/8, 8 วินาที)/ ISO 200/ WB: อัตโนมัติ
เอฟเฟ็กต์ฟิลเตอร์: สูง
ฟิลเตอร์ ND เป็นประโยชน์สำหรับฉากแบบใด
ฟิลเตอร์ Neutral Density (ND) ช่วยลดแสงที่ผ่านเข้ามา ทำให้คุณสามารถถ่ายภาพด้วยความเร็วชัตเตอร์ที่ช้าลงได้แม้ในสภาวะที่มีแสงสว่างจ้า เช่น กลางแสงแดดในช่วงเที่ยงวัน เมื่อใช้ฟิลเตอร์นี้ คุณจะสามารถ:
- ทำให้การไหลของน้ำมีความนุ่มนวล
- ทำให้ก้อนเมฆเบลอ
- ใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำเพื่อถ่ายภาพดอกไม้ไฟ
- ใช้รูรับแสงกว้างสุดได้แม้อยู่ท่ามกลางแดดจ้า
เมาท์อะแดปเตอร์ฟิลเตอร์แบบ Drop-in EF-EOS R: ลดความยุ่งยากในการใช้อุปกรณ์ของคุณ
ฟิลเตอร์ ND ทั่วไปจะมีความทึบแสงคงที่ และคุณจะต้องใช้ฟิลเตอร์ที่มีความทึบแสงต่างไปจากเดิมหากคุณต้องการลดความเร็วชัตเตอร์ลง
แต่ฟิลเตอร์ ND แบบปรับได้ที่มาพร้อมกับเมาท์อะแดปเตอร์ EF-EOS R ช่วยให้คุณใช้ความทึบแสงเท่าใดก็ได้ระหว่าง ND3 ถึง ND500 ซึ่งลดความเร็วชัตเตอร์ให้ช้าลงระหว่าง 1.5 ถึง 9 สต็อป คุณจึงถ่ายภาพได้หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างการเบลอเพียงเล็กน้อย หรือเปิดรับแสงได้นานถึง 30 วินาที
การทำให้น้ำดูมีความนุ่มนวลดุจแพรไหม
1. สูง
2. ต่ำกว่า: 1 วินาที
3. ไม่ใช้ฟิลเตอร์ ND: 1/6 วินาที
การใช้ชัตเตอร์ช้าเพิ่มความนุ่มนวลให้การไหลของน้ำ จึงทำให้ดูเงียบสงบ คุณสามารถถ่ายภาพเช่นนี้ได้โดยการปรับฟิลเตอร์ ND ให้ได้เอฟเฟ็กต์ระดับสูงซึ่งทำให้ความเร็วชัตเตอร์ช้าลงเป็น 8 วินาที ที่ f/8 หากไม่ใช้ฟิลเตอร์ ความเร็วชัตเตอร์ที่เหมาะสมจะสั้นกว่ามากที่ 1/6 วินาที
ทำให้ผิวน้ำดูเหมือนกระจก
EOS R/ EF11-24mm f/4L USM/ FL: 11 มม./ Manual exposure (f/8, 15 วินาที)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ
เอฟเฟ็กต์ฟิลเตอร์: สูง
1. สูงกว่า: 15 วินาที
2. ต่ำกว่า: 1.5 วินาที
3. ไม่ใช้ฟิลเตอร์ ND: 1/20 วินาที
ในการเปิดรับแสงนานเช่นนี้ การเคลื่อนไหวของคลื่นและกระแสน้ำจะถูกทำให้ราบเรียบจนผิวทะเลสาบดูเรียบเนียนเหมือนกระจก ซึ่งจะช่วยดึงความสนใจของผู้ชมไปยังเสาไม้ ภาพนี้ถ่ายโดยใช้ฟิลเตอร์ ND ในระดับความทึบที่สูงขึ้น ซึ่งลดความเร็วชัตเตอร์ลงไปเป็น 15 วินาที
เคล็ดลับสุดท้าย: ใช้ฟิลเตอร์สองชิ้นร่วมกันหากเลนส์ของคุณรองรับ
หากเลนส์ของคุณรองรับฟิลเตอร์ชนิดสวมหน้าเลนส์ได้ด้วย คุณสามารถใช้ฟิลเตอร์นี้ร่วมกับฟิลเตอร์ในเมาท์อะแดปเตอร์ เมื่อใช้ทั้งฟิลเตอร์ ND และฟิลเตอร์ CPL คุณจะสามารถทำให้ผิวน้ำดูเรียบเนียนและใสได้ด้วยในเวลาเดียวกัน
ดูตัวอย่างฉากเพิ่มเติมที่ถ่ายได้ด้วยฟิลเตอร์ ND ได้ที่:
3 เคล็ดลับเพื่อยกระดับการถ่ายทอดเรื่องราวในงานแต่งงาน (และเหตุผลที่ EOS R ช่วยคุณได้)
การใช้ฟิลเตอร์เลนส์: 2 เทคนิคจากช่างภาพมืออาชีพ
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!เกี่ยวกับผู้เขียน
นิตยสารรายเดือนที่เชื่อว่าความสุขของการถ่ายภาพจะยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ถ่ายภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องมากยิ่งขึ้น นิตยสารเล่มนี้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับกล้องรุ่นใหม่ๆ รวมถึงคุณสมบัติของกล้องและนำเสนอเทคนิคการถ่ายภาพอย่างหลากหลาย
จัดพิมพ์โดย Impress Corporation
แต่เดิม Fujiwara เคยเป็นนักสโนว์บอร์ดมืออาชีพ ต่อมาได้ผันตัวเข้าสู่อาชีพที่สองในฐานะช่างภาพหลังจากเลิกเล่นสโนว์บอร์ดเพราะอาการบาดเจ็บ เขามุ่งหาวิธีใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติเพื่อสร้างความรู้สึกโปร่งแสง และประสบการณ์ที่ได้รับจากการศึกษาด้วยตนเองทำให้ภาพถ่ายของเขาได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน “10 ภาพที่แชร์กันอย่างแพร่หลายของ Tokyo Camera Club”