กว่า 8 เหตุผลที่ควรเลือกใช้กล้อง EOS R8 ในการสร้างคอนเทนต์
ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2023 Canon ได้เปิดตัว EOS R8 ซึ่งเป็นกล้องฟูลเฟรมระดับเริ่มต้นรุ่นใหม่ในกลุ่มกล้องมิเรอร์เลสซีรีย์ EOS R ด้วยขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาเนื่องจากมีการควบคุมที่เรียบง่ายยิ่งขึ้นและแบตเตอรี่ที่เล็กลง จึงมีขนาดใกล้เคียงและจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับกล้อง EOS RP ในขณะเดียวกัน กล้องรุ่นนี้ยังมีฟังก์ชั่นพื้นฐานอันทรงพลังเช่นเดียวกับกล้องระบบ EOS R รุ่นที่สองด้วย เช่น ความสามารถระดับสูงในการถ่ายวิดีโอ การถ่ายต่อเนื่องความเร็วสูง และการตรวจจับและติดตามตัวแบบโดยอาศัยเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึก กล้องนี้จึงเป็นตัวเลือกของกล้องฟูลเฟรมขนาดเล็กและราคาถูกที่น่าสนใจสำหรับผู้สร้างคอนเทนต์ ผู้เริ่มต้นใช้กล้องฟูลเฟรม และผู้ใช้ระบบ EOS R เดิมที่กำลังมองกล้องฟูลเฟรมตัวที่สอง
ภาพรวมของกล้อง EOS R8: ข้อมูลจำเพาะโดยย่อ
-
เซนเซอร์ภาพแบบฟูลเฟรม 24.2 ล้านพิกเซล
-
ระบบประมวลผลภาพ DIGIC X
- ตัวแบบที่ตรวจจับได้: มนุษย์ สัตว์ (สุนัข แมว นก ม้า) ยานพาหนะ (รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รถไฟ เครื่องบิน) -
วิดีโอ 4K UHD 60p แบบ 6K-oversampled และไม่ครอป
-
Canon Log 3, HDR PQ และอัตราเฟรมสูงระดับ Full HD 180P
-
การถ่ายต่อเนื่องความเร็วสูงสุด 40 fps (ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์)
-
กะทัดรัดและมีน้ำหนักเบา: มีขนาดใกล้เคียงกับ EOS RP
1. ให้คุณภาพของภาพที่สวยงามระดับฟูลเฟรมในทันทีจากตัวกล้อง
1. ให้คุณภาพของภาพที่สวยงามระดับฟูลเฟรมในทันทีจากตัวกล้อง
เพราะเหตุใดช่างภาพและผู้สร้างคอนเทนต์จำนวนมากจึงชอบใช้กล้องฟูลเฟรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณภาพของภาพเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา
เป็นเพราะว่าหากเป็นเรื่องของคุณภาพของภาพ ขนาด (ของเซนเซอร์) นั้นเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากมีขนาดใหญ่กว่าเซนเซอร์ 1 นิ้วบนสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ถึง 7 เท่า เซนเซอร์ภาพแบบฟูลเฟรมในกล้องอย่าง EOS R8 จึงมีประโยชน์ที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนหลายข้อ ไม่ว่าจะถ่ายภาพหรือวิดีโอ คุณจะได้คุณภาพของภาพระดับฟูลเฟรมอันยอดเยี่ยม รวมถึงความสามารถอันหลากหลายของกล้องทันทีที่เริ่มใช้งาน
3 ข้อดีของเซนเซอร์ภาพแบบฟูลเฟรม
1. โบเก้ที่สวยงาม
EOS R8 + RF85mm f/2 Macro IS STM ที่ 85 มม./ f/2
แบ็คกราวด์อันนุ่มนวลที่ทำให้ตัวแบบโดดเด่นออกมาและสามารถสร้าง “วงโบเก้” ที่เบลอให้กลมใหญ่ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากในขณะที่ถ่ายภาพด้วยมุมรับภาพเดียวกัน เซนเซอร์ภาพที่ใหญ่กว่าจะช่วยทำให้ระยะชัดตื้นขึ้น
2. ใช้เลนส์มุมกว้างให้เกิดประโยชน์สูงสุด
EOS R8 + RF15-30mm f/4.5-6.3 IS STM ที่ 15 มม./ f/8
กล้องฟูลเฟรมจะสามารถบันทึกมุมรับภาพในภาพที่ฉายจากเลนส์มุมกว้างได้ทั้งหมด ทำให้คงความรู้สึก “กว้างใหญ่” ของเลนส์เอาไว้ได้ เซนเซอร์ที่เล็กกว่าจะครอปตรงส่วนขอบออกไป ซึ่งทำให้ภาพดูกว้างน้อยลง
3. ภาพความไวแสง ISO สูงที่คมชัด
EOS R8 + RF24-105mm f/4-7.1 IS STM ที่ 105 มม. / f/8/ ISO 8000
แต่ละพิกเซลในเซนเซอร์ภาพมีขนาดใหญ่กว่าและสามารถรับแสงได้มากกว่า จึงทำให้ได้ภาพที่สะอาด คมชัดกว่า และมีจุดรบกวน (“ลักษณะเป็นจุดๆ”) น้อยกว่าเมื่อถ่ายภาพด้วยความไวแสง ISO สูงในตอนกลางคืน
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างกล้องฟูลเฟรมกับกล้อง APS-C ได้ใน:
กล้องฟูลเฟรมและกล้อง APS-C: ควรเลือกรุ่นไหนดี
2. สเป็คในการถ่ายวิดีโอที่คุณต้องการเพื่อฟุตเทจเต็มศักยภาพ
2. สเป็คในการถ่ายวิดีโอที่คุณต้องการเพื่อฟุตเทจเต็มศักยภาพ
กล้อง EOS R8 มีโหมดและตัวเลือกในการบันทึกมากมายที่รองรับโครงการถ่ายภาพที่แตกต่างกันรวมถึงสิ่งที่จำเป็นสำหรับขั้นตอนการทำงาน
วิดีโอ 4K แบบ Oversampled
สำหรับโครงการถ่ายภาพที่ต้องใช้คุณสมบัติแบบ 4K กล้อง EOS R8 ก็สามารถถ่ายวิดีโอ 4K UHD 60p แบบ Oversampled จากข้อมูล 6K ที่บันทึกจากความกว้างเต็มที่ของเซนเซอร์ภาพ 24.2 ล้านพิกเซลโดยไม่ครอปได้ การประมวลผลแบบ Oversampling จะทำให้ได้วิดีโอ 4K คุณภาพสูงกว่าที่คมชัดกว่าและมีเงาแปลกปลอมน้อยลง ไม่ว่าจะวางแผนปรับแต่งฟุตเทจที่ถ่ายได้อย่างไร คุณก็วางใจได้เลยว่าจะได้ภาพที่คมชัดตั้งแต่ต้น!
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
คำถามที่พบบ่อยในการถ่ายวิดีโอ: 8K, 4K และ Full HD คืออะไร มีวิธีใช้อย่างไร
Canon Log 3 และ HDR PQ ที่ 10-บิต YCbCr 4:2:2: ตัวเลือก High Dynamic Range สำหรับการทำงานระดับมืออาชีพ
นอกจากการบันทึกแบบ 8-บิต YCbCr 4:2:0 ตามปกติแล้ว กล้อง EOS R8 ยังสามารถบันทึกวิดีโอ Canon Log 3 และ HDR PQ ด้วยความลึกของสีระดับสูงกว่าที่ 10-บิต YCbCr 4:2:2 ทั้งสองรูปแบบทำให้สามารถสร้างฟุตเทจ High Dynamic Range (HDR)ได้: HDR PQ จะ “รวมเอา” รายละเอียดพิเศษต่างๆ เข้ามาด้วย ซึ่งทำให้สามารถมองเห็นช่วงไดนามิกเรนจ์ได้กว้างขึ้นบนหน้าจอที่ดูภาพ HDR ได้โดยอาศัยการปรับแต่งภาพเพียงเล็กน้อย ในขณะที่ Canon Log 3 จะให้ความยืดหยุ่นมากขึ้นในการเกลี่ยสี
“10-บิต YCbCr 4:2:2” หมายความว่าอย่างไร ถอดรหัสได้ที่:
คำถามที่พบบ่อยในการถ่ายวิดีโอ: ความลึกบิต (Bit depth) คืออะไร และส่งผลต่อวิดีโอ
คำถามที่พบบ่อยในการถ่ายวิดีโอ: 4:2:2 และ 4:2:0 หมายถึงอะไร
ภาพสโลโมชั่นที่น่าประทับใจด้วยความเร็ว 1/6 เท่า: วิดีโอที่มีอัตราเฟรมสูงระดับ Full HD 180p
ในฉากที่คุณต้องการเปลี่ยนระดับความเร็วและทำให้เหตุการณ์ในฉากส่งผลต่ออารมณ์มากขึ้น กล้อง EOS R8 รองรับการถ่ายภาพแบบ Full HD ที่สูงสุด 180 เฟรมต่อวินาที (180p) ซึ่งทำให้ผู้ใช้ถ่ายวิดีโอแบบสโลโมชั่นได้อย่างราบรื่นและช้ากว่า 6 เท่าเมื่อเล่นที่ 30p
คุณสมบัติอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์
- บันทึกภาพเคลื่อนไหวล่วงหน้า
บันทึกช่วงเวลาก่อนที่คุณจะกดปุ่มบันทึก คุณสามารถตั้งระยะเวลาการบันทึกล่วงหน้าได้ 3 หรือ 5 วินาที
- การแก้ไขความยาวโฟกัสเปลี่ยนตามระยะถ่ายภาพ (Focus breathing)
นี่เป็นคุณสมบัติใหม่ที่อาศัยประโยชน์จากการออกแบบด้านออพติคอลเพื่อแก้ไขความผันผวนที่ไม่ต้องการในมุมรับภาพซึ่งเกิดขึ้นขณะจับโฟกัส
3. บอดี้กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรมที่มีน้ำหนักเบาที่สุดของ Canon
3. บอดี้กล้องฟูลเฟรมที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในกลุ่มกล้อง EOS R ของ Canon ในปัจจุบัน
ด้วยน้ำหนักเพียงราว 461 กรัม EOS R8 จึงเป็นกล้องแบบฟูลเฟรมที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในซีรีย์ EOS R ของ Canon ในขณะนี้ ซึ่งเบากว่ากล้อง EOS 6D Mark II 300 กรัม (ประมาณ 765 กรัม) ซึ่งเป็นกล้อง DSLR แบบฟูลเฟรมที่เบาที่สุดของ Canon และเบากว่า EOS RP ด้วยเช่นกัน (ประมาณ 485g) นอกจากนี้ยังมีขนาดเล็กกะทัดรัดเมื่อใช้ร่วมกับเลนส์ RF24-50mm f/4.5-6.3 IS STM (ประมาณ 210 กรัม) ความจริงแล้ว ด้วยน้ำหนักประมาณ 671 กรัม หากใช้กล้อง EOS R8 และเลนส์ RF24-50mm f/4.5-6.3 IS STM ร่วมกันก็ยังนับว่าเบากว่ากล้อง EOS R5 เพียงอย่างเดียว!
ความคล่องตัวเช่นนี้ทำให้ง่ายต่อการใช้ประโยชน์จากคุณภาพระดับฟูลเฟรมอันเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าคุณจะออกไปสำรวจท้องถนน ถ่ายภาพทั่วไป หรือลองใช้การเคลื่อนไหวของกล้องในแบบต่างๆ เพื่อให้การเล่าเรื่องในวิดีโอของคุณน่าสนใจยิ่งขึ้น
4. ถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 40 fps
4. ความสามารถในการถ่ายภาพนิ่งเกือบเทียบเท่ากล้อง EOS R6 Mark II
สำหรับผู้สร้างคอนเทนต์ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ EOS R8 ก็มีคุณสมบัติในการถ่ายภาพนิ่งที่มีประสิทธิภาพเช่นกัน กล้องรุ่นนี้มีความละเอียดของภาพและความสามารถในการถ่ายต่อเนื่องเช่นเดียวกับ EOS R6 Mark II ซึ่งเป็นกล้องในระดับสูงกว่า ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์ภาพแบบฟูลเฟรม 24.2 ล้านพิกเซล ระบบประมวลผลภาพ DIGIC X และความเร็วในการถ่ายต่อเนื่องที่สูงถึง 40 fps (ใช้ AF/AE) ในโหมดชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์*
คุณสมบัติใกล้เคียงอื่นๆ ได้แก่:
- ความเร็วชัตเตอร์สูงสุดถึง 1/16,000 วินาที** (ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์), 1/4000 วินาที (ม่านชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ชุดแรก)
- โหมดถ่ายภาพต่อเนื่องแบบ RAW ซึ่งรองรับการบันทึกล่วงหน้าในช่วงเวลาก่อนลั่นชัตเตอร์
* ความเร็วในการถ่ายต่อเนื่องจริงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของแบตเตอรี่/การชาร์จที่เหลือ อุณหภูมิ Wi-Fi ในตัว (‘เปิด’ หรือ ‘ปิด’) การลดแสงที่สั่นไหว ความเร็วชัตเตอร์ ค่ารูรับแสง ประเภทของเลนส์ และอื่นๆ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านคู่มือผู้ใช้
** โหมดชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ไม่รองรับการถ่ายภาพโดยใช้แฟลช อาจเกิดความบิดเบี้ยวจาก Rolling Shutter ได้กับตัวแบบ/สภาวะการถ่ายภาพบางชนิด
5. การตรวจจับ ติดตามตัวแบบ และการโฟกัสอันราบรื่น
5. การตรวจจับ ติดตามตัวแบบ และการโฟกัสอันราบรื่น
ไม่ว่าคุณจะถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอ การโฟกัสให้สมบูรณ์แบบจะเป็นตัวตัดสินว่าภาพนั้นจะเป็นภาพที่ยอดเยี่ยมหรือเป็นภาพที่ต้องทิ้งไป จับโฟกัสได้ดั่งใจได้ทันทีจากในตัวกล้องด้วยคุณสมบัติการตรวจจับและติดตามตัวแบบ และโฟกัสอัตโนมัติอันทรงพลังของ EOS R8 (ประสิทธิภาพ AF) คุณสมบัติเหล่านี้จะทำงานร่วมกันเพื่อค้นหา ล็อค และจับโฟกัสที่ตัวแบบ คุณจึงสามารถปล่อยให้กล้องทำหน้าที่โฟกัสและหันมาใช้เวลาไปกับส่วนอื่นๆ ที่ต้องใช้ความสร้างสรรค์ได้
EOS iTR AF X: การตรวจจับและติดตามตัวแบบอันล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึก
ระบบประมวลผลภาพ DIGIC X ของกล้อง EOS R8 มีวงจรที่สามารถประมวลผลอัลกอริธึมการเรียนรู้เชิงลึกได้ คุณสมบัตินี้ช่วยให้รองรับระบบ EOS iTR AF X ซึ่งจะทำการตรวจจับและติดตามตัวแบบในขั้นสูงโดยอาศัยเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึกในขณะถ่ายทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ
ตัวแบบชนิดใดบ้างที่ EOS R8 สามารถตรวจจับได้
|
|
|
มนุษย์ | มนุษย์ | ดวงตา (ซ้าย/ขวาเป็นลำดับแรก)/ ใบหน้า/ ศีรษะ/ ลำตัว |
สัตว์ | สุนัข แมว นก ม้า | ดวงตา (ซ้าย/ขวาเป็นลำดับแรก)/ ใบหน้า/ ลำตัว |
ยานพาหนะ | กีฬาแข่งรถ (รถยนต์ มอเตอร์ไซค์) |
ตัวรถ/ หมวกกันน็อค |
รถไฟ | ทั้งคัน/ ขบวนแรก | |
เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ |
ทั้งลำ/ ห้องนักบิน | |
อัตโนมัติ | ข้างต้นทั้งหมด | ข้างต้นทั้งหมด |
ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้กล้องเลือกดวงตาข้างซ้ายหรือขวาเป็นลำดับแรกก็ได้สำหรับมนุษย์หรือสัตว์ และ โหมดตรวจจับตัวแบบ (อัตโนมัติ) ยังสามารถตรวจจับมนุษย์ สัตว์ หรือยานพาหนะที่อยู่ในเฟรมได้โดยอัตโนมัติด้วย หากตรวจพบตัวแบบหลายตัว กล้องจะเลือกตัวแบบที่มีโอกาสจะเป็นตัวแบบหลักมากที่สุดโดยใช้รายละเอียดจากบริบท เช่น การจัดองค์ประกอบภาพและชนิดของตัวแบบ
ความสามารถในการตรวจจับตัวแบบขั้นพื้นฐานของกล้อง EOS R8 เทียบเท่ากับ EOS R3 อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัตินี้ได้ที่:
ตรวจจับตัวแบบด้วยการเรียนรู้เชิงลึกและติดตามด้วย EOS iTR AF X
Dual Pixel CMOS AF II: โฟกัสตัวแบบได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ระบบตรวจจับและติดตามตัวแบบ EOS iTR AF X จะทำงานร่วมกับระบบ Dual Pixel CMOS AF II อย่างใกล้ชิดในการจับโฟกัส ในระบบ Dual Pixel CMOS AF II ทุกพิกเซลบนเซนเซอร์ภาพจะมีโฟโตไดโอดสองอันสำหรับสร้างภาพถ่ายและทำการตรวจจับแบบ Phase Difference ซึ่งช่วยให้ได้คุณภาพของภาพในระดับสูงและโฟกัสอัตโนมัติได้แม่นยำสูงโดยไม่ต้องทำการประมาณค่าพิกเซล (Pixel interpolation)
สามารถโฟกัสอัตโนมัติได้สูงสุด 100% ของเฟรมภาพ (แนวนอน x แนวตั้ง ในโหมด AF ทั่วพื้นที่เมื่อตัวแบบถูกตรวจพบ) ด้วยการโฟกัสอัตโนมัติที่ครอบคลุมโซนที่แบ่งอย่างละเอียดถึง 1053 โซน เสริมด้วยความสามารถในการตรวจจับและติดตามตัวแบบขั้นสูงของ EOS iTR AF X คุณจึงคาดหวังได้เลยว่าการโฟกัสจะมีความแม่นยำไปจนถึงขอบของภาพ
AF แบบแตะและลาก: ใช้หน้าจอสัมผัสในการควบคุม AF
เมื่อเปิดใช้งาน AF แบบแตะและลาก คุณจะสามารถลากนิ้วมือไปบนหน้าจอสัมผัสได้อย่างง่ายดายเพื่อเคลื่อนย้ายพื้นที่ AF ขณะมองผ่านช่องมองภาพ ระบบควบคุมอันชาญฉลาดทำให้สามารถย้ายกรอบ AF ได้ตามทิศทางการลากของคุณ หากตรวจพบตัวแบบสองตัวหรือมากกว่าในภาพ คุณเพียงต้องแตะที่หน้าจอสัมผัสเพื่อเปลี่ยนตัวแบบที่อยู่ในโฟกัสเท่านั้น
6. คุณสมบัติสุดเท่เพื่อเพิ่มความสะดวกที่ช่วยให้ถ่ายทอดได้อย่างสร้างสรรค์
6. เครื่องมือสุดเท่ที่ทำให้การถ่ายภาพอย่างสร้างสรรค์เป็นเรื่องง่าย
หากคุณต้องการใส่เอกเฟ็กต์แบบต่างๆ ในภาพอย่างรวดเร็วและง่ายดาย กล้อง EOS R8 มีคุณสมบัติเพื่อความสร้างสรรค์มากมายที่ช่วยให้ใช้ความสร้างสรรค์ในการถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น แม้ว่าคุณจะไม่คุ้นเคยกับฟังก์ชั่นต่างๆ ในกล้องก็ตาม คุณจึงใช้ประโยชน์ทั้งสองข้อได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของภาพระดับฟูลเฟรมและความง่ายดายในการใช้ความสร้างสรรค์
การถ่ายภาพแบบ HDR
โหมดนี้จะช่วยลดจุดที่สว่างหรือมืดเกินไปในฉากที่มีความเปรียบต่างสูง ทำให้ได้ภาพ HDR ที่มีโทนสีและความสว่างใกล้เคียงกับที่ตาของเรามองเห็น นอกจากจะมีโหมด HDR ตามปกติที่นำภาพ 3 ภาพจากระดับแสงที่แตกต่างกันมารวมเข้าด้วยกันแล้ว ยังมีโหมดใหม่ที่ให้ความสำคัญกับตัวแบบที่เคลื่อนไหวด้วยซึ่งทำให้ได้เอฟเฟ็กต์ HDR ภายในภาพเดียว นอกจากนี้ยังรองรับโหมด HDR PQ HEIF
Focus bracketing และ Depth Compositing ในตัวกล้อง
เหมาะสำหรับการใช้โฟกัสลึกในฉากที่มีความลึกมากเป็นพิเศษ เช่น การถ่ายภาพทิวทัศน์หรือภาพมาโครซึ่งองค์ประกอบในภาพยังคงอยู่นอกโฟกัสแม้ใช้ค่ารูรับแสงแคบ คุณสมบัติ Focus bracketing จะถ่ายภาพในฉากหลายครั้งด้วยตำแหน่งโฟกัสที่แตกต่างกัน และ Depth Compositing ในตัวกล้องจะนำภาพเหล่านี้มารวมเข้าด้วยกันภายในกล้องเพื่อให้ได้ภาพที่มีความคมชัดมากขึ้นทั่วทั้งภาพ
ภาพพาโนรามาความละเอียดสูง (โหมดภาพพาโนรามา)
โหมดฉากพิเศษนี้จะถ่ายภาพด้วยความละเอียดสูงสุดได้สูงสุดถึง 5 fps ในขณะที่คุณแพนกล้องในแนวตั้งหรือแนวนอน จากนั้นจึงนำมาเรียงต่อกันภายในตัวกล้องเพื่อให้เกิดเป็นภาพพาโนรามาความละเอียดสูงเป็นพิเศษ โดยสามารถนำภาพมารวมกันได้มากถึง 200 ภาพ
โหมดฉากพิเศษ 13 โหมด
หากคุณไม่แน่ใจว่าควรใช้การตั้งค่าแบบใดและต้องการวิธีที่รวดเร็ว เพียงแค่เลือกโหมดที่เหมาะกับฉากของคุณ จากนั้นปล่อยให้กล้องเลือกการตั้งค่าให้
โหมดต่างๆ ได้แก่:
โหมดภาพพอร์ตเทรต / โหมดภาพหมู่ / โหมดภาพทิวทัศน์ / โหมดภาพพาโนรามา / โหมดกีฬา / โหมดเด็ก / โหมดแพนกล้อง / โหมดระยะใกล้ / โหมดอาหาร / โหมดภาพพอร์ตเทรตตอนกลางคืน / โหมดถ่ายภาพด้วยมือตอนกลางคืน / โหมดควบคุมแสงพื้นหลัง HDR / โหมดชัตเตอร์เงียบ
ตัวแปลงเลนส์ดิจิทัล
ฟังก์ชั่นตัวแปลงเลนส์ดิจิทัลจะประมวลผลภาพแบบดิจิทัลเพื่อให้ได้มุมรับภาพที่เทียบเท่ากับทางยาวโฟกัส 2 หรือ 4 เท่า โดยจะถ่ายภาพโดยใช้พื้นที่ครึ่งหนึ่งหรือหนึ่งส่วนสี่ของภาพต้นฉบับตามลำดับ ภาพเหล่านี้จะถูกปรับขนาดใหม่ด้วยวิธีการแบบดิจิทัลให้เหมาะกับขนาดการบันทึก ดังนั้น หากตั้งค่ากล้องให้บันทึกภาพ JPEG ขนาด L (6000×4000) ภาพที่ผ่านการแปลงเลนส์แบบดิจิทัลจะอยู่ในขนาด L (6000×4000)* ด้วยเช่นกัน
*คุณภาพของภาพจะลดลงเนื่องจากมีการขยายและบันทึกภาพ การถ่าย JPEG เท่านั้น กรอบ AF จะถูกกำหนดไว้ที่จุดกึ่งกลาง
ฟิลเตอร์สร้างสรรค์ 10 แบบ
ฟิลเตอร์เหล่านี้ช่วยให้คุณเพิ่มเอกลักษณ์ในภาพของคุณได้
ฟิลเตอร์สร้างสรรค์ได้แก่:
ภาพเกรนแบบขาวดำ / ซอฟต์โฟกัส / เอฟเฟ็กต์เลนส์ตาปลา / เอฟเฟ็กต์ภาพสีน้ำ / เอฟเฟ็กต์กล้องของเล่น / เอฟเฟ็กต์กล้องรูเข็ม / มาตรฐานศิลปะ HDR / HDR ศิลปะ สีสดใส / HDR ศิลปะ คมเข้ม / HDR ศิลปะ ลายนูน
อื่นๆ
- โหมดการถ่ายภาพซ้อน
- การตั้งช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการถ่ายวิดีโอแบบไทม์แลปส์
- การตั้งเวลาโหมด Bulb สำหรับการถ่ายภาพแบบเปิดรับแสงนาน
7. ถ่ายโอนไฟล์ไปยังสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย การไลฟ์สตรีมด้วย USB-C ที่เสียบแล้วใช้งานได้เลย
7. การเชื่อมต่อที่ง่ายดาย Camera Connect และการไลฟ์สตรีมแบบเสียบสาย USB-C แล้วใช้งานได้เลย
Canon Camera Connect เวอร์ชัน 3
หากรอไม่ไหวที่จะแบ่งปันภาพถ่ายหรือวิดีโอล่าสุด คุณก็สามารถทำได้ระหว่างเดินทาง EOS R8 มีฟังก์ชั่น Wi-Fi/Bluetooth ที่รองรับแบนด์ 2.4GHz IEEE802.11b/g/n ซึ่งช่วยให้คุณถ่ายโอนไฟล์วิดีโอและภาพ JPEG ได้แบบไร้สายไปยังสมาร์ทโฟนของคุณโดยใช้แอปสมาร์ทโฟน Camera Connect จากนั้น คุณจะสามารถปรับแต่งเนื้อหาได้ตามต้องการก่อนโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดีย หากต้องการเชื่อมต่อแบบใช้สาย คุณสามารถเชื่อมต่อกล้องของคุณเข้ากับสมาร์ทโฟนด้วยสาย USB-C ได้เช่นกัน
นอกจากนี้ แอป Camera Connect ยังมีฟังก์ชั่นการถ่ายแบบ Live View จากระยะไกลด้วย ซึ่งช่วยให้คุณดูภาพและเปลี่ยนการตั้งค่าบางอย่างในการถ่ายภาพได้ก่อนลั่นชัตเตอร์!
รองรับ UVC/UAC: ไลฟ์สตรีมแบบเสียบแล้วใช้งานได้เลยด้วยการเชื่อมต่อสาย USB-C
การใช้กล้องของคุณในการไลฟ์สตรีมหรือประชุมออนไลน์ไม่เคยเป็นเรื่องง่ายขนาดนี้มาก่อน กล้อง EOS R8 รองรับโปรโตคอล UVC (USB Video Class) และ UAC (USB Audio Class) คุณจึงสามารถส่งสัญญาณวิดีโอและเสียงคุณภาพสูงจากกล้องของคุณไปยังคอมพิวเตอร์ได้ด้วยสาย USB-C เพียงเส้นเดียว และเนื่องจากสามารถเสียบแล้วใช้งานได้เลย จึงไม่ต้องทำการติดตั้งไดรฟ์เวอร์ใดๆ ล่วงหน้า นับเป็นอีกวิธีหนึ่งในการใช้ประโยชน์จากความสามารถของกล้องฟูลเฟรมให้เต็มที่!
8. ดีไซน์กันฝุ่นและหยดน้ำเพื่อความทนทานเมื่ออยู่กลางแจ้ง
8. ดีไซน์กันฝุ่นและหยดน้ำ: ความทนทานที่เพียงพอสำหรับการถ่ายภาพกลางแจ้ง
EOS R8 มีโครงสร้างภายนอกทำจากเรซิ่นโพลีคาร์บอเนตและโครงสร้างภายในทำจากแมกนีเซียมอัลลอยที่แข็งแรง (อะลูมิเนียมอัลลอยบางส่วน) ซึ่งมีความสามารถในการกระจายความร้อนอันยอดเยี่ยม จึงทำให้มีความน่าเชื่อภายในบอดี้น้ำหนักเบา ชัตเตอร์ระนาบโฟกัสของกล้องซึ่งใช้การควบคุมแบบอิเล็กทรอนิกส์มีชัตเตอร์ที่มีความคงทนประมาณ 100,000 รอบสำหรับม่านชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ชุดแรก คุณสมบัติเหล่านี้พร้อมด้วยโครงสร้างแบบกันฝุ่นและหยดน้ำทำให้กล้องมีบอดี้ที่ทนทานซึ่งสามารถรองรับสภาพแวดล้อมในการถ่ายภาพได้หลากหลายแบบ
อายุแบตเตอรี่
เพื่อให้มีดีไซน์กะทัดรัดและน้ำหนักเบา กล้อง EOS R8 จึงใช้แบตเตอรี่ LP-E17 ที่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่ใช้ในกล้อง EOS RP และกล้อง EOS DSLR ระดับเริ่มต้นรุ่นอื่น ในโหมดประหยัดพลังงาน จะสามารถถ่ายภาพได้สูงสุดประมาณ 220 ภาพเมื่อใช้ EVF และประมาณ 370 ภาพเมื่อใช้หน้าจอ LCD ด้านหลัง ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานของผู้ใช้ทั่วไปในหนึ่งวัน กล้องมีช่องต่อ USB Type-C (USB 3.2) ซึ่งรองรับการชาร์จผ่าน USB และการจ่ายไฟโดยใช้สาย USB
ในสถานการณ์ปกติ จะสามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดประมาณ 2 ชั่วโมง ไม่รวมกรณีที่ต้องหยุดบันทึกเนื่องจากเกิดความร้อนสูงหรือปัญหาอื่นๆ การบันทึกแบบ High Frame Rate จะลดเวลาการบันทึกลงเหลือ 20 นาที (180p/150p) และ 30 นาที (120p/100p)
9. คุณสมบัติอื่นๆ ที่โดดเด่น
EVF ความละเอียดสูง
OLED EVF ขนาด 0.39 นิ้ว 2.36 ล้านจุดให้ความครอบคลุม 100% พร้อมกำลังขยายประมาณ 0.7 เท่า และรองรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงสุด 119.88 fps* นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติ OVF View Assist ที่ใช้เทคโนโลยี HDR ในการสร้างมุมมองที่เหมือนกับมองผ่านช่องมองภาพแบบออพติคอล
*ที่อัตรานี้ การแสดงผลอาจไม่ราบรื่นนัก
ฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่น
EOS R8 มีฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่นแบบเดียวกับกล้อง EOS R3/R5 C/R6 Mark II/R7/R10 ซึ่งสามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์เสริมใหม่ๆ หลากหลายรุ่น เช่น ไมโครโฟน Directional Stereo Microphone DM-E1D
ตัวเลือกเลนส์: เลนส์ RF, RF-S/EF, EF-S
กล้อง EOS R8 สามารถติดตั้งเลนส์ RF และ RF-S ทุกรุ่น* ได้โดยตรงโดยไม่ต้องอาศัยอะแดปเตอร์ และใช้เลนส์ EF/EF-S ผ่านเมาท์อะแดปเตอร์ Mount Adapter EF-EOS R เมื่อติดตั้งเลนส์ที่ออกแบบมาสำหรับกล้อง APS-C (EF-S, RF-S) โหมดการครอป 1.6 เท่าจะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ และหน้าจอ EVF รวมถึง Live View จะแสดงมุมรับภาพแบบครอป
*ยกเว้น RF5.2mm f/2.8L Dual Fisheye
ส่วนต่อขยายกริป EG-E1 (มีจำหน่ายแยกต่างหาก)
ขนาดที่เล็กกะทัดรัดของกล้อง EOS R8 ทำให้มีความคล่องตัวสูง แต่ผู้ใช้ที่มีมือขนาดใหญ่อาจต้องการส่วนมือจับที่ใหญ่กว่าเพื่อให้ถือได้เหมาะมือยิ่งขึ้น คุณอาจลองใช้ส่วนต่อขยายกริป EG-E1 ซึ่งใช้ได้กับกล้อง EOS RP เช่นกัน
คุณควรใช้เลนส์ EF/EF-S กับกล้องระบบ EOS R ตัวใหม่ของคุณต่อไปหรือเปลี่ยนมาใช้เลนส์ RF/RF-S อ่านข้อมูลเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียได้ใน:
เลนส์ RF กับเลนส์ EF: แตกต่างกันอย่างไรและควรตัดสินใจเลือกอย่างไร
EOS R8: ภาพตัวอย่าง
EOS R8/ RF24-50mm f/4.5-6.3 IS STM / FL: 24 มม. / Manual exposure (f/8, 1/80 วินาที)/ ISO 400/ WB: อัตโนมัติ
EOS R8/ RF85mm f/2 Macro IS STM / FL: 85 มม./ Manual exposure (f/2, 1/400 วินาที)/ ISO 200/ WB: อัตโนมัติ
EOS R8/ RF35mm f/1.8 Macro IS STM/ FL: 35 มม./ Manual exposure (f/1.8, 1/500 วินาที)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ