ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

ผลิตภัณฑ์ >> ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด The Lightest EOS Full-Frame Mirrorless Ever Built- Part

กว่า 8 เหตุผลที่ควรเลือกใช้กล้อง EOS R8 ในการสร้างคอนเทนต์

2023-02-15
2
7.85 k

ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2023 Canon ได้เปิดตัว EOS R8 ซึ่งเป็นกล้องฟูลเฟรมระดับเริ่มต้นรุ่นใหม่ในกลุ่มกล้องมิเรอร์เลสซีรีย์ EOS R ด้วยขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาเนื่องจากมีการควบคุมที่เรียบง่ายยิ่งขึ้นและแบตเตอรี่ที่เล็กลง จึงมีขนาดใกล้เคียงและจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับกล้อง EOS RP ในขณะเดียวกัน กล้องรุ่นนี้ยังมีฟังก์ชั่นพื้นฐานอันทรงพลังเช่นเดียวกับกล้องระบบ EOS R รุ่นที่สองด้วย เช่น ความสามารถระดับสูงในการถ่ายวิดีโอ การถ่ายต่อเนื่องความเร็วสูง และการตรวจจับและติดตามตัวแบบโดยอาศัยเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึก กล้องนี้จึงเป็นตัวเลือกของกล้องฟูลเฟรมขนาดเล็กและราคาถูกที่น่าสนใจสำหรับผู้สร้างคอนเทนต์ ผู้เริ่มต้นใช้กล้องฟูลเฟรม และผู้ใช้ระบบ EOS R เดิมที่กำลังมองกล้องฟูลเฟรมตัวที่สอง

 

ในบทความนี้:

ภาพรวมของกล้อง EOS R8: ข้อมูลจำเพาะโดยย่อ

  • เซนเซอร์ภาพแบบฟูลเฟรม 24.2 ล้านพิกเซล
  • ระบบประมวลผลภาพ DIGIC X
    - ตัวแบบที่ตรวจจับได้: มนุษย์ สัตว์ (สุนัข แมว นก ม้า) ยานพาหนะ (รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รถไฟ เครื่องบิน)
  • วิดีโอ 4K UHD 60p แบบ 6K-oversampled และไม่ครอป
  • Canon Log 3, HDR PQ และอัตราเฟรมสูงระดับ Full HD 180P
  • การถ่ายต่อเนื่องความเร็วสูงสุด 40 fps (ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์)
  • กะทัดรัดและมีน้ำหนักเบา: มีขนาดใกล้เคียงกับ EOS RP

1. ให้คุณภาพของภาพที่สวยงามระดับฟูลเฟรมในทันทีจากตัวกล้อง

1. ให้คุณภาพของภาพที่สวยงามระดับฟูลเฟรมในทันทีจากตัวกล้อง

เพราะเหตุใดช่างภาพและผู้สร้างคอนเทนต์จำนวนมากจึงชอบใช้กล้องฟูลเฟรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณภาพของภาพเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา

เป็นเพราะว่าหากเป็นเรื่องของคุณภาพของภาพ ขนาด (ของเซนเซอร์) นั้นเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากมีขนาดใหญ่กว่าเซนเซอร์ 1 นิ้วบนสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ถึง 7 เท่า เซนเซอร์ภาพแบบฟูลเฟรมในกล้องอย่าง EOS R8 จึงมีประโยชน์ที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนหลายข้อ ไม่ว่าจะถ่ายภาพหรือวิดีโอ คุณจะได้คุณภาพของภาพระดับฟูลเฟรมอันยอดเยี่ยม รวมถึงความสามารถอันหลากหลายของกล้องทันทีที่เริ่มใช้งาน


3 ข้อดีของเซนเซอร์ภาพแบบฟูลเฟรม

1. โบเก้ที่สวยงาม
EOS R8 + RF85mm f/2 Macro IS STM ที่ 85 มม./ f/2
แบ็คกราวด์อันนุ่มนวลที่ทำให้ตัวแบบโดดเด่นออกมาและสามารถสร้าง “วงโบเก้” ที่เบลอให้กลมใหญ่ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากในขณะที่ถ่ายภาพด้วยมุมรับภาพเดียวกัน เซนเซอร์ภาพที่ใหญ่กว่าจะช่วยทำให้ระยะชัดตื้นขึ้น

2. ใช้เลนส์มุมกว้างให้เกิดประโยชน์สูงสุด
EOS R8 + RF15-30mm f/4.5-6.3 IS STM ที่ 15 มม./ f/8

กล้องฟูลเฟรมจะสามารถบันทึกมุมรับภาพในภาพที่ฉายจากเลนส์มุมกว้างได้ทั้งหมด ทำให้คงความรู้สึก “กว้างใหญ่” ของเลนส์เอาไว้ได้ เซนเซอร์ที่เล็กกว่าจะครอปตรงส่วนขอบออกไป ซึ่งทำให้ภาพดูกว้างน้อยลง

3. ภาพความไวแสง ISO สูงที่คมชัด
EOS R8 + RF24-105mm f/4-7.1 IS STM ที่ 105 มม. / f/8/ ISO 8000

แต่ละพิกเซลในเซนเซอร์ภาพมีขนาดใหญ่กว่าและสามารถรับแสงได้มากกว่า จึงทำให้ได้ภาพที่สะอาด คมชัดกว่า และมีจุดรบกวน (“ลักษณะเป็นจุดๆ”) น้อยกว่าเมื่อถ่ายภาพด้วยความไวแสง ISO สูงในตอนกลางคืน

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างกล้องฟูลเฟรมกับกล้อง APS-C ได้ใน:
กล้องฟูลเฟรมและกล้อง APS-C: ควรเลือกรุ่นไหนดี

2. สเป็คในการถ่ายวิดีโอที่คุณต้องการเพื่อฟุตเทจเต็มศักยภาพ

2. สเป็คในการถ่ายวิดีโอที่คุณต้องการเพื่อฟุตเทจเต็มศักยภาพ

กล้อง EOS R8 มีโหมดและตัวเลือกในการบันทึกมากมายที่รองรับโครงการถ่ายภาพที่แตกต่างกันรวมถึงสิ่งที่จำเป็นสำหรับขั้นตอนการทำงาน


วิดีโอ 4K แบบ Oversampled

สำหรับโครงการถ่ายภาพที่ต้องใช้คุณสมบัติแบบ 4K กล้อง EOS R8 ก็สามารถถ่ายวิดีโอ 4K UHD 60p แบบ Oversampled จากข้อมูล 6K ที่บันทึกจากความกว้างเต็มที่ของเซนเซอร์ภาพ 24.2 ล้านพิกเซลโดยไม่ครอปได้ การประมวลผลแบบ Oversampling จะทำให้ได้วิดีโอ 4K คุณภาพสูงกว่าที่คมชัดกว่าและมีเงาแปลกปลอมน้อยลง ไม่ว่าจะวางแผนปรับแต่งฟุตเทจที่ถ่ายได้อย่างไร คุณก็วางใจได้เลยว่าจะได้ภาพที่คมชัดตั้งแต่ต้น!

อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
คำถามที่พบบ่อยในการถ่ายวิดีโอ: 8K, 4K และ Full HD คืออะไร มีวิธีใช้อย่างไร


Canon Log 3 และ HDR PQ ที่ 10-บิต YCbCr 4:2:2: ตัวเลือก High Dynamic Range สำหรับการทำงานระดับมืออาชีพ

นอกจากการบันทึกแบบ 8-บิต YCbCr 4:2:0 ตามปกติแล้ว กล้อง EOS R8 ยังสามารถบันทึกวิดีโอ Canon Log 3 และ HDR PQ ด้วยความลึกของสีระดับสูงกว่าที่ 10-บิต YCbCr 4:2:2 ทั้งสองรูปแบบทำให้สามารถสร้างฟุตเทจ High Dynamic Range (HDR)ได้: HDR PQ จะ “รวมเอา” รายละเอียดพิเศษต่างๆ เข้ามาด้วย ซึ่งทำให้สามารถมองเห็นช่วงไดนามิกเรนจ์ได้กว้างขึ้นบนหน้าจอที่ดูภาพ HDR ได้โดยอาศัยการปรับแต่งภาพเพียงเล็กน้อย ในขณะที่ Canon Log 3 จะให้ความยืดหยุ่นมากขึ้นในการเกลี่ยสี

“10-บิต YCbCr 4:2:2” หมายความว่าอย่างไร ถอดรหัสได้ที่:
คำถามที่พบบ่อยในการถ่ายวิดีโอ: ความลึกบิต (Bit depth) คืออะไร และส่งผลต่อวิดีโอ
คำถามที่พบบ่อยในการถ่ายวิดีโอ: 4:2:2 และ 4:2:0 หมายถึงอะไร


ภาพสโลโมชั่นที่น่าประทับใจด้วยความเร็ว 1/6 เท่า: วิดีโอที่มีอัตราเฟรมสูงระดับ Full HD 180p

ในฉากที่คุณต้องการเปลี่ยนระดับความเร็วและทำให้เหตุการณ์ในฉากส่งผลต่ออารมณ์มากขึ้น กล้อง EOS R8 รองรับการถ่ายภาพแบบ Full HD ที่สูงสุด 180 เฟรมต่อวินาที (180p) ซึ่งทำให้ผู้ใช้ถ่ายวิดีโอแบบสโลโมชั่นได้อย่างราบรื่นและช้ากว่า 6 เท่าเมื่อเล่นที่ 30p


คุณสมบัติอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์

- บันทึกภาพเคลื่อนไหวล่วงหน้า
บันทึกช่วงเวลาก่อนที่คุณจะกดปุ่มบันทึก คุณสามารถตั้งระยะเวลาการบันทึกล่วงหน้าได้ 3 หรือ 5 วินาที
- การแก้ไขความยาวโฟกัสเปลี่ยนตามระยะถ่ายภาพ (Focus breathing)
นี่เป็นคุณสมบัติใหม่ที่อาศัยประโยชน์จากการออกแบบด้านออพติคอลเพื่อแก้ไขความผันผวนที่ไม่ต้องการในมุมรับภาพซึ่งเกิดขึ้นขณะจับโฟกัส

3. บอดี้กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรมที่มีน้ำหนักเบาที่สุดของ Canon

3. บอดี้กล้องฟูลเฟรมที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในกลุ่มกล้อง EOS R ของ Canon ในปัจจุบัน

ด้วยน้ำหนักเพียงราว 461 กรัม EOS R8 จึงเป็นกล้องแบบฟูลเฟรมที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในซีรีย์ EOS R ของ Canon ในขณะนี้ ซึ่งเบากว่ากล้อง EOS 6D Mark II 300 กรัม (ประมาณ 765 กรัม) ซึ่งเป็นกล้อง DSLR แบบฟูลเฟรมที่เบาที่สุดของ Canon และเบากว่า EOS RP ด้วยเช่นกัน (ประมาณ 485g) นอกจากนี้ยังมีขนาดเล็กกะทัดรัดเมื่อใช้ร่วมกับเลนส์ RF24-50mm f/4.5-6.3 IS STM (ประมาณ 210 กรัม) ความจริงแล้ว ด้วยน้ำหนักประมาณ 671 กรัม หากใช้กล้อง EOS R8 และเลนส์ RF24-50mm f/4.5-6.3 IS STM ร่วมกันก็ยังนับว่าเบากว่ากล้อง EOS R5 เพียงอย่างเดียว!

ความคล่องตัวเช่นนี้ทำให้ง่ายต่อการใช้ประโยชน์จากคุณภาพระดับฟูลเฟรมอันเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าคุณจะออกไปสำรวจท้องถนน ถ่ายภาพทั่วไป หรือลองใช้การเคลื่อนไหวของกล้องในแบบต่างๆ เพื่อให้การเล่าเรื่องในวิดีโอของคุณน่าสนใจยิ่งขึ้น

4. ถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 40 fps

4. ความสามารถในการถ่ายภาพนิ่งเกือบเทียบเท่ากล้อง EOS R6 Mark II

สำหรับผู้สร้างคอนเทนต์ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ EOS R8 ก็มีคุณสมบัติในการถ่ายภาพนิ่งที่มีประสิทธิภาพเช่นกัน กล้องรุ่นนี้มีความละเอียดของภาพและความสามารถในการถ่ายต่อเนื่องเช่นเดียวกับ EOS R6 Mark II ซึ่งเป็นกล้องในระดับสูงกว่า ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์ภาพแบบฟูลเฟรม 24.2 ล้านพิกเซล ระบบประมวลผลภาพ DIGIC X และความเร็วในการถ่ายต่อเนื่องที่สูงถึง 40 fps (ใช้ AF/AE) ในโหมดชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์*

คุณสมบัติใกล้เคียงอื่นๆ ได้แก่:

  • ความเร็วชัตเตอร์สูงสุดถึง 1/16,000 วินาที** (ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์), 1/4000 วินาที (ม่านชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ชุดแรก)
  • โหมดถ่ายภาพต่อเนื่องแบบ RAW ซึ่งรองรับการบันทึกล่วงหน้าในช่วงเวลาก่อนลั่นชัตเตอร์

* ความเร็วในการถ่ายต่อเนื่องจริงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของแบตเตอรี่/การชาร์จที่เหลือ อุณหภูมิ Wi-Fi ในตัว (‘เปิด’ หรือ ‘ปิด’) การลดแสงที่สั่นไหว ความเร็วชัตเตอร์ ค่ารูรับแสง ประเภทของเลนส์ และอื่นๆ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านคู่มือผู้ใช้
** โหมดชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ไม่รองรับการถ่ายภาพโดยใช้แฟลช อาจเกิดความบิดเบี้ยวจาก Rolling Shutter ได้กับตัวแบบ/สภาวะการถ่ายภาพบางชนิด

5. การตรวจจับ ติดตามตัวแบบ และการโฟกัสอันราบรื่น

5. การตรวจจับ ติดตามตัวแบบ และการโฟกัสอันราบรื่น

ไม่ว่าคุณจะถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอ การโฟกัสให้สมบูรณ์แบบจะเป็นตัวตัดสินว่าภาพนั้นจะเป็นภาพที่ยอดเยี่ยมหรือเป็นภาพที่ต้องทิ้งไป จับโฟกัสได้ดั่งใจได้ทันทีจากในตัวกล้องด้วยคุณสมบัติการตรวจจับและติดตามตัวแบบ และโฟกัสอัตโนมัติอันทรงพลังของ EOS R8 (ประสิทธิภาพ AF) คุณสมบัติเหล่านี้จะทำงานร่วมกันเพื่อค้นหา ล็อค และจับโฟกัสที่ตัวแบบ คุณจึงสามารถปล่อยให้กล้องทำหน้าที่โฟกัสและหันมาใช้เวลาไปกับส่วนอื่นๆ ที่ต้องใช้ความสร้างสรรค์ได้


EOS iTR AF X: การตรวจจับและติดตามตัวแบบอันล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึก

ระบบประมวลผลภาพ DIGIC X ของกล้อง EOS R8 มีวงจรที่สามารถประมวลผลอัลกอริธึมการเรียนรู้เชิงลึกได้ คุณสมบัตินี้ช่วยให้รองรับระบบ EOS iTR AF X ซึ่งจะทำการตรวจจับและติดตามตัวแบบในขั้นสูงโดยอาศัยเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึกในขณะถ่ายทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ


ตัวแบบชนิดใดบ้างที่ EOS R8 สามารถตรวจจับได้

โหมด
ตัวแบบ
ส่วนที่ตรวจจับได้
มนุษย์ มนุษย์ ดวงตา (ซ้าย/ขวาเป็นลำดับแรก)/ ใบหน้า/ ศีรษะ/ ลำตัว
สัตว์ สุนัข แมว นก ม้า ดวงตา (ซ้าย/ขวาเป็นลำดับแรก)/ ใบหน้า/ ลำตัว
ยานพาหนะ กีฬาแข่งรถ
(รถยนต์ มอเตอร์ไซค์)
ตัวรถ/ หมวกกันน็อค
รถไฟ ทั้งคัน/ ขบวนแรก
เครื่องบิน
เฮลิคอปเตอร์
ทั้งลำ/ ห้องนักบิน
อัตโนมัติ ข้างต้นทั้งหมด ข้างต้นทั้งหมด

ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้กล้องเลือกดวงตาข้างซ้ายหรือขวาเป็นลำดับแรกก็ได้สำหรับมนุษย์หรือสัตว์ และ โหมดตรวจจับตัวแบบ (อัตโนมัติ) ยังสามารถตรวจจับมนุษย์ สัตว์ หรือยานพาหนะที่อยู่ในเฟรมได้โดยอัตโนมัติด้วย หากตรวจพบตัวแบบหลายตัว กล้องจะเลือกตัวแบบที่มีโอกาสจะเป็นตัวแบบหลักมากที่สุดโดยใช้รายละเอียดจากบริบท เช่น การจัดองค์ประกอบภาพและชนิดของตัวแบบ

ความสามารถในการตรวจจับตัวแบบขั้นพื้นฐานของกล้อง EOS R8 เทียบเท่ากับ EOS R3 อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัตินี้ได้ที่:
ตรวจจับตัวแบบด้วยการเรียนรู้เชิงลึกและติดตามด้วย EOS iTR AF X


Dual Pixel CMOS AF II: โฟกัสตัวแบบได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

ระบบตรวจจับและติดตามตัวแบบ EOS iTR AF X จะทำงานร่วมกับระบบ Dual Pixel CMOS AF II อย่างใกล้ชิดในการจับโฟกัส ในระบบ Dual Pixel CMOS AF II ทุกพิกเซลบนเซนเซอร์ภาพจะมีโฟโตไดโอดสองอันสำหรับสร้างภาพถ่ายและทำการตรวจจับแบบ Phase Difference ซึ่งช่วยให้ได้คุณภาพของภาพในระดับสูงและโฟกัสอัตโนมัติได้แม่นยำสูงโดยไม่ต้องทำการประมาณค่าพิกเซล (Pixel interpolation)

สามารถโฟกัสอัตโนมัติได้สูงสุด 100% ของเฟรมภาพ (แนวนอน x แนวตั้ง ในโหมด AF ทั่วพื้นที่เมื่อตัวแบบถูกตรวจพบ) ด้วยการโฟกัสอัตโนมัติที่ครอบคลุมโซนที่แบ่งอย่างละเอียดถึง 1053 โซน เสริมด้วยความสามารถในการตรวจจับและติดตามตัวแบบขั้นสูงของ EOS iTR AF X คุณจึงคาดหวังได้เลยว่าการโฟกัสจะมีความแม่นยำไปจนถึงขอบของภาพ


AF แบบแตะและลาก: ใช้หน้าจอสัมผัสในการควบคุม AF

เมื่อเปิดใช้งาน AF แบบแตะและลาก คุณจะสามารถลากนิ้วมือไปบนหน้าจอสัมผัสได้อย่างง่ายดายเพื่อเคลื่อนย้ายพื้นที่ AF ขณะมองผ่านช่องมองภาพ ระบบควบคุมอันชาญฉลาดทำให้สามารถย้ายกรอบ AF ได้ตามทิศทางการลากของคุณ หากตรวจพบตัวแบบสองตัวหรือมากกว่าในภาพ คุณเพียงต้องแตะที่หน้าจอสัมผัสเพื่อเปลี่ยนตัวแบบที่อยู่ในโฟกัสเท่านั้น

6. คุณสมบัติสุดเท่เพื่อเพิ่มความสะดวกที่ช่วยให้ถ่ายทอดได้อย่างสร้างสรรค์

6. เครื่องมือสุดเท่ที่ทำให้การถ่ายภาพอย่างสร้างสรรค์เป็นเรื่องง่าย

หากคุณต้องการใส่เอกเฟ็กต์แบบต่างๆ ในภาพอย่างรวดเร็วและง่ายดาย กล้อง EOS R8 มีคุณสมบัติเพื่อความสร้างสรรค์มากมายที่ช่วยให้ใช้ความสร้างสรรค์ในการถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น แม้ว่าคุณจะไม่คุ้นเคยกับฟังก์ชั่นต่างๆ ในกล้องก็ตาม คุณจึงใช้ประโยชน์ทั้งสองข้อได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของภาพระดับฟูลเฟรมและความง่ายดายในการใช้ความสร้างสรรค์

การถ่ายภาพแบบ HDR
โหมดนี้จะช่วยลดจุดที่สว่างหรือมืดเกินไปในฉากที่มีความเปรียบต่างสูง ทำให้ได้ภาพ HDR ที่มีโทนสีและความสว่างใกล้เคียงกับที่ตาของเรามองเห็น นอกจากจะมีโหมด HDR ตามปกติที่นำภาพ 3 ภาพจากระดับแสงที่แตกต่างกันมารวมเข้าด้วยกันแล้ว ยังมีโหมดใหม่ที่ให้ความสำคัญกับตัวแบบที่เคลื่อนไหวด้วยซึ่งทำให้ได้เอฟเฟ็กต์ HDR ภายในภาพเดียว นอกจากนี้ยังรองรับโหมด HDR PQ HEIF

Focus bracketing และ Depth Compositing ในตัวกล้อง
เหมาะสำหรับการใช้โฟกัสลึกในฉากที่มีความลึกมากเป็นพิเศษ เช่น การถ่ายภาพทิวทัศน์หรือภาพมาโครซึ่งองค์ประกอบในภาพยังคงอยู่นอกโฟกัสแม้ใช้ค่ารูรับแสงแคบ คุณสมบัติ Focus bracketing จะถ่ายภาพในฉากหลายครั้งด้วยตำแหน่งโฟกัสที่แตกต่างกัน และ Depth Compositing ในตัวกล้องจะนำภาพเหล่านี้มารวมเข้าด้วยกันภายในกล้องเพื่อให้ได้ภาพที่มีความคมชัดมากขึ้นทั่วทั้งภาพ

ภาพพาโนรามาความละเอียดสูง (โหมดภาพพาโนรามา)
โหมดฉากพิเศษนี้จะถ่ายภาพด้วยความละเอียดสูงสุดได้สูงสุดถึง 5 fps ในขณะที่คุณแพนกล้องในแนวตั้งหรือแนวนอน จากนั้นจึงนำมาเรียงต่อกันภายในตัวกล้องเพื่อให้เกิดเป็นภาพพาโนรามาความละเอียดสูงเป็นพิเศษ โดยสามารถนำภาพมารวมกันได้มากถึง 200 ภาพ

โหมดฉากพิเศษ 13 โหมด
หากคุณไม่แน่ใจว่าควรใช้การตั้งค่าแบบใดและต้องการวิธีที่รวดเร็ว เพียงแค่เลือกโหมดที่เหมาะกับฉากของคุณ จากนั้นปล่อยให้กล้องเลือกการตั้งค่าให้

โหมดต่างๆ ได้แก่:
โหมดภาพพอร์ตเทรต / โหมดภาพหมู่ / โหมดภาพทิวทัศน์ / โหมดภาพพาโนรามา / โหมดกีฬา / โหมดเด็ก / โหมดแพนกล้อง / โหมดระยะใกล้ / โหมดอาหาร / โหมดภาพพอร์ตเทรตตอนกลางคืน / โหมดถ่ายภาพด้วยมือตอนกลางคืน / โหมดควบคุมแสงพื้นหลัง HDR / โหมดชัตเตอร์เงียบ

ตัวแปลงเลนส์ดิจิทัล

ฟังก์ชั่นตัวแปลงเลนส์ดิจิทัลจะประมวลผลภาพแบบดิจิทัลเพื่อให้ได้มุมรับภาพที่เทียบเท่ากับทางยาวโฟกัส 2 หรือ 4 เท่า โดยจะถ่ายภาพโดยใช้พื้นที่ครึ่งหนึ่งหรือหนึ่งส่วนสี่ของภาพต้นฉบับตามลำดับ ภาพเหล่านี้จะถูกปรับขนาดใหม่ด้วยวิธีการแบบดิจิทัลให้เหมาะกับขนาดการบันทึก ดังนั้น หากตั้งค่ากล้องให้บันทึกภาพ JPEG ขนาด L (6000×4000) ภาพที่ผ่านการแปลงเลนส์แบบดิจิทัลจะอยู่ในขนาด L (6000×4000)* ด้วยเช่นกัน

*คุณภาพของภาพจะลดลงเนื่องจากมีการขยายและบันทึกภาพ การถ่าย JPEG เท่านั้น กรอบ AF จะถูกกำหนดไว้ที่จุดกึ่งกลาง

ฟิลเตอร์สร้างสรรค์ 10 แบบ
ฟิลเตอร์เหล่านี้ช่วยให้คุณเพิ่มเอกลักษณ์ในภาพของคุณได้

ฟิลเตอร์สร้างสรรค์ได้แก่:
ภาพเกรนแบบขาวดำ / ซอฟต์โฟกัส / เอฟเฟ็กต์เลนส์ตาปลา / เอฟเฟ็กต์ภาพสีน้ำ / เอฟเฟ็กต์กล้องของเล่น / เอฟเฟ็กต์กล้องรูเข็ม / มาตรฐานศิลปะ HDR / HDR ศิลปะ สีสดใส / HDR ศิลปะ คมเข้ม / HDR ศิลปะ ลายนูน

อื่นๆ

  • โหมดการถ่ายภาพซ้อน
  • การตั้งช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการถ่ายวิดีโอแบบไทม์แลปส์
  • การตั้งเวลาโหมด Bulb สำหรับการถ่ายภาพแบบเปิดรับแสงนาน

7. ถ่ายโอนไฟล์ไปยังสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย การไลฟ์สตรีมด้วย USB-C ที่เสียบแล้วใช้งานได้เลย

7. การเชื่อมต่อที่ง่ายดาย Camera Connect และการไลฟ์สตรีมแบบเสียบสาย USB-C แล้วใช้งานได้เลย

Canon Camera Connect เวอร์ชัน 3

หากรอไม่ไหวที่จะแบ่งปันภาพถ่ายหรือวิดีโอล่าสุด คุณก็สามารถทำได้ระหว่างเดินทาง EOS R8 มีฟังก์ชั่น Wi-Fi/Bluetooth ที่รองรับแบนด์ 2.4GHz IEEE802.11b/g/n ซึ่งช่วยให้คุณถ่ายโอนไฟล์วิดีโอและภาพ JPEG ได้แบบไร้สายไปยังสมาร์ทโฟนของคุณโดยใช้แอปสมาร์ทโฟน Camera Connect จากนั้น คุณจะสามารถปรับแต่งเนื้อหาได้ตามต้องการก่อนโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดีย หากต้องการเชื่อมต่อแบบใช้สาย คุณสามารถเชื่อมต่อกล้องของคุณเข้ากับสมาร์ทโฟนด้วยสาย USB-C ได้เช่นกัน


นอกจากนี้ แอป Camera Connect ยังมีฟังก์ชั่นการถ่ายแบบ Live View จากระยะไกลด้วย ซึ่งช่วยให้คุณดูภาพและเปลี่ยนการตั้งค่าบางอย่างในการถ่ายภาพได้ก่อนลั่นชัตเตอร์!


รองรับ UVC/UAC: ไลฟ์สตรีมแบบเสียบแล้วใช้งานได้เลยด้วยการเชื่อมต่อสาย USB-C

การใช้กล้องของคุณในการไลฟ์สตรีมหรือประชุมออนไลน์ไม่เคยเป็นเรื่องง่ายขนาดนี้มาก่อน กล้อง EOS R8 รองรับโปรโตคอล UVC (USB Video Class) และ UAC (USB Audio Class) คุณจึงสามารถส่งสัญญาณวิดีโอและเสียงคุณภาพสูงจากกล้องของคุณไปยังคอมพิวเตอร์ได้ด้วยสาย USB-C เพียงเส้นเดียว และเนื่องจากสามารถเสียบแล้วใช้งานได้เลย จึงไม่ต้องทำการติดตั้งไดรฟ์เวอร์ใดๆ ล่วงหน้า นับเป็นอีกวิธีหนึ่งในการใช้ประโยชน์จากความสามารถของกล้องฟูลเฟรมให้เต็มที่!

8. ดีไซน์กันฝุ่นและหยดน้ำเพื่อความทนทานเมื่ออยู่กลางแจ้ง

8. ดีไซน์กันฝุ่นและหยดน้ำ: ความทนทานที่เพียงพอสำหรับการถ่ายภาพกลางแจ้ง

EOS R8 มีโครงสร้างภายนอกทำจากเรซิ่นโพลีคาร์บอเนตและโครงสร้างภายในทำจากแมกนีเซียมอัลลอยที่แข็งแรง (อะลูมิเนียมอัลลอยบางส่วน) ซึ่งมีความสามารถในการกระจายความร้อนอันยอดเยี่ยม จึงทำให้มีความน่าเชื่อภายในบอดี้น้ำหนักเบา ชัตเตอร์ระนาบโฟกัสของกล้องซึ่งใช้การควบคุมแบบอิเล็กทรอนิกส์มีชัตเตอร์ที่มีความคงทนประมาณ 100,000 รอบสำหรับม่านชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ชุดแรก  คุณสมบัติเหล่านี้พร้อมด้วยโครงสร้างแบบกันฝุ่นและหยดน้ำทำให้กล้องมีบอดี้ที่ทนทานซึ่งสามารถรองรับสภาพแวดล้อมในการถ่ายภาพได้หลากหลายแบบ

อายุแบตเตอรี่

เพื่อให้มีดีไซน์กะทัดรัดและน้ำหนักเบา กล้อง EOS R8 จึงใช้แบตเตอรี่ LP-E17 ที่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่ใช้ในกล้อง EOS RP และกล้อง EOS DSLR ระดับเริ่มต้นรุ่นอื่น ในโหมดประหยัดพลังงาน จะสามารถถ่ายภาพได้สูงสุดประมาณ 220 ภาพเมื่อใช้ EVF และประมาณ 370 ภาพเมื่อใช้หน้าจอ LCD ด้านหลัง ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานของผู้ใช้ทั่วไปในหนึ่งวัน กล้องมีช่องต่อ USB Type-C (USB 3.2) ซึ่งรองรับการชาร์จผ่าน USB และการจ่ายไฟโดยใช้สาย USB

ในสถานการณ์ปกติ จะสามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดประมาณ 2 ชั่วโมง ไม่รวมกรณีที่ต้องหยุดบันทึกเนื่องจากเกิดความร้อนสูงหรือปัญหาอื่นๆ การบันทึกแบบ High Frame Rate จะลดเวลาการบันทึกลงเหลือ 20 นาที (180p/150p) และ 30 นาที (120p/100p)

9. คุณสมบัติอื่นๆ ที่โดดเด่น

9.  คุณสมบัติอื่นๆ ที่โดดเด่น

EVF ความละเอียดสูง

OLED EVF ขนาด 0.39 นิ้ว 2.36 ล้านจุดให้ความครอบคลุม 100% พร้อมกำลังขยายประมาณ 0.7 เท่า และรองรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงสุด 119.88 fps* นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติ OVF View Assist ที่ใช้เทคโนโลยี HDR ในการสร้างมุมมองที่เหมือนกับมองผ่านช่องมองภาพแบบออพติคอล

*ที่อัตรานี้ การแสดงผลอาจไม่ราบรื่นนัก

ฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่น

EOS R8 มีฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่นแบบเดียวกับกล้อง EOS R3/R5 C/R6 Mark II/R7/R10 ซึ่งสามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์เสริมใหม่ๆ หลากหลายรุ่น เช่น ไมโครโฟน Directional Stereo Microphone DM-E1D

ตัวเลือกเลนส์: เลนส์ RF, RF-S/EF, EF-S

กล้อง EOS R8 สามารถติดตั้งเลนส์ RF และ RF-S ทุกรุ่น* ได้โดยตรงโดยไม่ต้องอาศัยอะแดปเตอร์ และใช้เลนส์ EF/EF-S ผ่านเมาท์อะแดปเตอร์ Mount Adapter EF-EOS R เมื่อติดตั้งเลนส์ที่ออกแบบมาสำหรับกล้อง APS-C (EF-S, RF-S) โหมดการครอป 1.6 เท่าจะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ และหน้าจอ EVF รวมถึง Live View จะแสดงมุมรับภาพแบบครอป

*ยกเว้น RF5.2mm f/2.8L Dual Fisheye

ส่วนต่อขยายกริป EG-E1 (มีจำหน่ายแยกต่างหาก)

ขนาดที่เล็กกะทัดรัดของกล้อง EOS R8 ทำให้มีความคล่องตัวสูง แต่ผู้ใช้ที่มีมือขนาดใหญ่อาจต้องการส่วนมือจับที่ใหญ่กว่าเพื่อให้ถือได้เหมาะมือยิ่งขึ้น คุณอาจลองใช้ส่วนต่อขยายกริป EG-E1 ซึ่งใช้ได้กับกล้อง EOS RP เช่นกัน

คุณควรใช้เลนส์ EF/EF-S กับกล้องระบบ EOS R ตัวใหม่ของคุณต่อไปหรือเปลี่ยนมาใช้เลนส์ RF/RF-S อ่านข้อมูลเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียได้ใน:
เลนส์ RF กับเลนส์ EF: แตกต่างกันอย่างไรและควรตัดสินใจเลือกอย่างไร

EOS R8: ภาพตัวอย่าง

EOS R8: ภาพตัวอย่าง


EOS R8/ RF24-50mm f/4.5-6.3 IS STM / FL: 24 มม. / Manual exposure (f/8, 1/80 วินาที)/ ISO 400/ WB: อัตโนมัติ


EOS R8/ RF85mm f/2 Macro IS STM / FL: 85 มม./ Manual exposure (f/2, 1/400 วินาที)/ ISO 200/ WB: อัตโนมัติ


EOS R8/ RF35mm f/1.8 Macro IS STM/ FL: 35 มม./ Manual exposure (f/1.8, 1/500 วินาที)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา