พื้นฐานเกี่ยวกับกล้อง #3: การเปิดรับแสง
การเปิดรับแสงคือหนึ่งในปัจจัยหลักที่จะกำหนดว่าภาพถ่ายของคุณจะออกมาเป็นอย่างไร เราลองมาพูดคุยถึงวิธีเริ่มใช้ประโยชน์จากการเปิดรับแสงเพื่อให้ได้ผลภาพที่ดีที่สุดกัน (เรื่องโดย: Tomoko Suzuki)
"การเปิดรับแสง" หมายถึงความสว่างในภาพที่เกิดจากการทำงานร่วมกันระหว่างค่ารูรับแสงและความเร็วชัตเตอร์
สิ่งที่พึงจดจำ
- กล้องจะมีฟังก์ชัน Auto exposure (AE)
- เราเรียกความสว่างที่เกิดจากการคำนวณและตั้งค่าของกล้องว่า "ระดับแสงที่เหมาะสม"
- หากระดับแสงที่เหมาะสมยังไม่น่าพอใจ คุณสามารถใช้การชดเชยแสงเพื่อปรับค่าได้
คำว่า "การเปิดรับแสง" หมายถึงปริมาณแสงที่ได้รับในขณะที่ถ่ายภาพซึ่งส่งผลต่อความสว่างของผลภาพที่ได้ โดยปริมาณแสงนี้เกิดขึ้นจากการตั้งค่ารูรับแสงและค่าความเร็วชัตเตอร์
ในกล้อง DSLR จะมีฟังก์ชันการปรับระดับแสงอัตโนมัติ (AE) ดังนั้น หากถ่ายภาพในสภาวะปกติซึ่งมีความไวแสง ISO คงที่ คุณไม่จำเป็นต้องคิดว่าค่ารูรับแสงและความเร็วชัตเตอร์เท่าใดจึงจะให้การเปิดรับแสงที่เพียงพอ เนื่องจากกล้องจะตั้งค่าดังกล่าวให้โดยอัตโนมัติ เราจะได้ผลลัพธ์ภาพที่สวยสดงดงามในทุกๆ ฉากและตัวแบบทุกประเภทจากการเปิดรับแสงที่กำหนดโดยอัตโนมัตินี้ ซึ่งเราเรียกว่า "ระดับแสงที่เหมาะสม"
อย่างไรก็ดี ระดับแสงที่เหมาะสมอาจไม่ใช่การเปิดรับแสงที่เหมาะสมสำหรับฉากนั้นๆ ก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะของฉากและตัวแบบที่ใช้ด้วย หลายครั้งหลายคราความสว่างในฉากอาจไม่ให้ผลภาพอย่างที่คาดหวังไว้ เมื่อเกิดกรณีเช่นนี้ เราสามารถ ใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติการชดเชยแสง เพื่อปรับระดับความสว่างได้เสมอ โดยหากเราต้องการให้ภาพดูมืดลง เราสามารถตั้งค่าการชดเชยแสงเป็นลบ (“-“) และหากเราต้องการให้ภาพสว่างขึ้น เราสามารถตั้งค่าการชดเชยแสงเป็นบวก (“+”) ได้
แม้แต่ในขณะที่ถ่ายภาพในสถานการณ์เดียวกันหรือตัวแบบเดียวกัน การปรับค่าการชดเชยแสงอย่างง่ายๆ ยังช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ต่างออกไปอย่างมาก อีกนัยหนึ่งคือ ศิลปะของการชดเชยแสงเป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องเรียนรู้เพื่อที่จะถ่ายภาพได้อย่างสวยงามนั่นเอง
เมื่อเราเปิดก๊อกน้ำ (ค่ารูรับแสง) เวลาที่ใช้รองรับน้ำ (ความเร็วชัตเตอร์) จะสั้นลง
เมื่อเปิดก๊อกน้ำ (=ค่ารูรับแสง) น้ำ (=แสง) จะไหลมากขึ้น และเวลาที่ใช้รองรับน้ำ (=ความเร็วชัตเตอร์) จะสั้นลง (=จะเร็วขึ้น) และเพียงพอที่จะได้ระดับการเปิดรับแสงที่เหมาะสม ในอีกทางหนึ่ง เมื่อหรี่ก๊อกน้ำ (=ค่ารูรับแสง) ลง น้ำ (=แสง) จะไหลน้อยลง และเวลาที่ใช้รองรับน้ำ (=ความเร็วชัตเตอร์) จะนานขึ้น
แนวคิดที่ 1: ผลลัพธ์จากการเปิดรับแสงที่ได้จากการทำงานร่วมกันระหว่างค่ารูรับแสงและความเร็วชัตเตอร์
การใช้วิธีการใดวิธีการหนึ่งต่อไปนี้อาจทำให้ได้ระดับความสว่างที่เท่ากัน:
1. ค่ารูรับแสงที่กว้างขึ้น (ค่า f ต่ำลง) + ความเร็วชัตเตอร์เร็วขึ้น
2. ค่ารูรับแสงที่แคบลง (ค่า f สูงขึ้น) + ความเร็วชัตเตอร์ต่ำลง
ลองดูตัวอย่าง (3), (5) และ (7) ด้านล่าง ซึ่งเป็นผลจากการใช้ความเร็วชัตเตอร์และค่ารูรับแสงที่แตกต่างกัน แต่คุณจะเห็นว่าภาพแต่ละภาพมีความสว่าง (การเปิดรับแสง) เท่ากัน
ตัวอย่าง (3), (5) และ (7) มีความสว่างเท่ากันหมด (ระดับแสงที่เหมาะสม)
ตัวอย่าง (1) ได้รับแสงมากเกินไป
ตัวอย่าง (9) ได้รับแสงน้อยเกินไป
แนวคิดที่ 2: ฟังก์ชันการปรับระดับแสงอัตโนมัติ (AE)
เราลองมาดูภาพประกอบด้านล่าง ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงรูปแบบบางประการในการใช้ค่ารูรับแสงและความเร็วชัตเตอร์ คุณอาจพบว่าการตัดสินใจใช้วิธีการใดเป็นเรื่องยาก แต่กล้องดิจิตอลที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการปรับระดับแสงอัตโนมัติ (AE) ที่สะดวกอย่างยิ่งจะทำให้กระบวนการง่ายดายขึ้น
กล้องมี “โหมด Program AE” [ P ] ที่สามารถตั้งค่าทั้งรูัรับแสงและความเร็วชัตเตอร์ได้โดยอัตโนมัติ โหมด “Shutter-priority AE” [ Tv ] เป็นโหมดที่คุณสามารถตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ได้เอง จากนั้นกล้องจะทำหน้าที่กำหนดค่ารูรับแสง ส่วนโหมด “Aperture-priority AE” [ Av ] เป็นโหมดที่ให้คุณตั้งค่ารูรับแสง จากนั้นกล้องจะกำหนดความเร็วชัตเตอร์เอง เราจะอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับโหมดต่างๆ เหล่านี้ในบทความต่อๆ ไป ดังนั้นอย่าพลาดนะครับ!
เมื่อคุณตั้งค่ากล้องในโหมดใดโหมดหนึ่งนี้แล้ว ก็เหลือเพียงแค่ลั่นชัตเตอร์แล้วรอรับภาพที่มีปริมาณแสงที่เหมาะสมเท่านั้น สะดวกสบายและไม่ยุ่งยากเลยใช่ไหมล่ะครับ!
รับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับข่าวสาร เคล็ดลับและลูกเล่นในการถ่ายภาพได้โดย ลงทะเบียนเป็นสมาชิกกับเรา!
เกี่ยวกับผู้เขียน
นิตยสารรายเดือนที่เชื่อว่าความสุขของการถ่ายภาพจะยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ถ่ายภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องมากยิ่งขึ้น นิตยสารเล่มนี้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับกล้องรุ่นใหม่ๆ รวมถึงคุณสมบัติของกล้องและนำเสนอเทคนิคการถ่ายภาพอย่างหลากหลาย
จัดพิมพ์โดย Impress Corporation
หลังเรียนจบจากวิทยาลัยของมหาวิทยาลัยโตเกียวโพลีเทคนิคแล้ว Suzuki ก็เข้าทำงานกับบริษัทโปรดักชั่นโฆษณาแห่งหนึ่ง เธอได้ทำงานเป็นผู้ช่วยให้กับช่างภาพหลายคน รวมถึง Kirito Yanase และมีความเชี่ยวชาญการถ่ายภาพโฆษณาผลิตภัณฑ์จำพวกเครื่องแต่งกายและเครื่องสำอางอีกด้วย ตอนนี้เธอทำงานเป็นช่างภาพสตูดิโอให้กับบริษัทผลิตเสื้อผ้าแห่งหนึ่ง