ฉากต้นซากุระตระการตาในญี่ปุ่นฝั่งตะวันตกที่ควรถ่ายด้วยเลนส์เทเลโฟโต้
หากคุณกำลังจะเดินทางไปญี่ปุ่นฝั่งตะวันตกในฤดูซากุระบาน ต่อไปนี้คือฉากสองแบบที่คุณอาจจะอยากถ่ายภาพ เคล็ดลับ: นำเลนส์ซูเปอร์ซูมหรือเลนส์เทเลโฟโต้ติดตัวไปด้วยเพื่อถ่ายภาพสถานที่เหล่านี้ให้ออกมาสวยงามที่สุด (เรื่องโดย Yoshiki Fujiwara, Katsuhiro Yamanashi, Digital Camera Magazine)
EOS 6D/ EF70-300mm f/4-5.6L IS USM/ FL: 124 มม./ Manual exposure (f/10, 1/80 วินาที)/ ISO 320/ WB: อัตโนมัติ
เดือน/ช่วงเวลาของวัน: กลางเดือนเมษายน/ 9.30 น.
ภาพโดย: Yoshiki Fujiwara
จุดที่ 1: ภูเขาโยชิโนะ (จังหวัดนาระ)
ทิวทัศน์ชวนฝันของต้นซากุระบนภูเขาที่ซ่อนอยู่ในม่านหมอก
ด้วยต้นซากุระกว่า 30,000 ต้นและการกล่าวถึงในวรรณกรรมและศิลปะโบราณอีกนับไม่ถ้วน ภูเขาโยชิโนะ (“โยชิโนะยามะ (ฉบับภาษาอังกฤษ)”) จึงเป็นจุดชมซากุระอันเป็นที่รักมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ในปี 2004 บริเวณนี้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกปี 2004 ในชื่อ “สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเส้นทางแสวงบุญแห่งเทือกเขาคิอิ”
ผมถ่ายภาพด้านบนด้วยเลนส์เทเลโฟโต้เพื่อจับภาพซากุระบานรอบๆ วัดคินปูเซนจิซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญบนภูเขา เพราะท้องฟ้ามืดและไม่ต้องการใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ช้าจนเกินไป ผมจึงถ่ายภาพโดยใช้ขาตั้งกล้องแล้วลั่นชัตเตอร์เพื่อป้องกันการสั่นของกล้อง
เทคนิคที่ 1: วางแผนการถ่ายภาพหมอกให้ดีด้วยการติดตามข่าวพยากรณ์อากาศ
หมอกเกิดจากละอองน้ำหยดเล็กๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศ แม้หมอกจะก่อตัวได้ง่ายในสถานที่เช่นภูเขาโยชิโนะ การวางแผนก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น เวลาที่เหมาะสมที่สุดในการถ่ายภาพภูเขาที่ซ่อนตัวอยู่ในม่านหมอกคือ
i) เช้าตรู่ในวันที่มีอุณหภูมิแปรปรวน หรือ
ii) ในวันที่มีฝนตก
สำหรับภาพนี้ ผมเลือกถ่ายในวันที่มีฝนตกหนัก เพราะผมคิดว่าเมื่อฝนกับหมอกรวมตัวกัน จะทำให้ภาพดูมีมนต์ขลังมากยิ่งขึ้น อุณหภูมิของอากาศที่เย็นลงและความชื้นที่เพิ่มขึ้นในวันฝนตกหมายถึงจำนวนหยดน้ำในอากาศที่มากขึ้น เกิดเป็นหมอกที่หนาขึ้น
หากไม่มีหมอก ภาพจะดูสมจริงเกินไป
หากคุณถ่ายภาพในเช้าวันที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิมากนัก จะไม่มีหมอกที่ทำให้เกิดความรู้สึกชวนฝันและมีมนต์ขลัง คุณจะสามารถเห็นรายละเอียดของเมืองที่อยู่ด้านบนของภาพได้อย่างชัดเจน ทำให้ภาพดูสมจริงมากเกินไป
เทคนิคที่ 2: ทำให้ภาพโดยรวมโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยกระบวนการปรับแต่งภาพ
ผมเพิ่มเอฟเฟ็กต์ของหมอกให้เด่นชัดขึ้นโดยใช้ Lightroom ปรับแต่งภาพ
ขั้นตอนที่ 1: ลด ‘ความคมชัด’ ลงเพื่อให้ภาพดูพร่ามัวเหมือนมีหมอกหนา
ขั้นตอนที่ 2: ใช้เครื่องมือ ‘ลดความพร่ามัว’ (Dehaze) เพื่อลดปริมาณหมอกและเพิ่มสีสันให้เด่นชัดขึ้น
ในภาพนี้ ผมตั้งค่าความคมชัดไว้ที่ -30 และลดความพร่ามัวให้เหลือ +60 ขั้นตอนเหล่านี้ช่วยให้ภาพดูเหมือนฝันและเหนือจริงมากยิ่งขึ้น เคล็ดลับ: คอยสังเกตว่าการปรับค่าต่างๆ ของคุณส่งผลอย่างไรต่อทั้งภาพ แทนที่จะดูเพียงแค่ส่วนเดียว
การเดินทางไปยังจุดถ่ายภาพ: จุดชมวิวฮานะยะรุงะ
ที่อยู่: Kami Senbon, Yoshinoyama, Yoshino-machi, Yoshino-gun จังหวัดนาระ
คลิกที่นี่เพื่อดูแผนที่ Google (ฉบับภาษาอังกฤษ)
ระบบขนส่งสาธารณะ: ขึ้นรถไฟสายคินเท็ตสึและลงที่สถานีโยชิโนะ
รถยนต์: ไม่อนุญาตให้รถยนต์ส่วนตัวเข้าในฤดูซากุระบาน คุณจะต้องจอดรถที่ลานจอดหรับนักท่องเที่ยวบนภูเขาโยชิโนะ ซึ่งมีพื้นที่สำหรับจอดรถ 400 คัน
จุดถ่ายภาพจะอยู่ในพื้นที่คามิ เซนบง (“ต้นไม้ 1000 ต้นบนที่สูง”) ของภูเขา เนื่องจากไม่มีรถบัสหรือกระเช้าลอยฟ้าในเวลาเช้าตรู่ คุณจะต้องเดินเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจากลานจอดรถไปยังจุดถ่ายภาพ สำหรับขากลับ คุณสามารถขึ้นรถบัสจากป้ายในสวนนากะ เซนบง กลับมายังลานจอดรถได้
เคล็ดลับการแต่งตัว: แต่งตัวให้พร้อมสำหรับอากาศหนาว
แม้ภาพนี้จะถ่ายในเดือนเมษายน แต่อากาศบนภูเขาโยชิโนะก็อาจหนาวทีเดียว แต่งตัวให้เหมือนกับว่าคุณกำลังจะไปปีนเขาในฤดูหนาว
จุดที่ 2: ปราสาทมัตสึยามะ (จังหวัดเอฮิเมะ)
ซากุระบานเต็มที่รอบๆ ปราสาทอันมีชื่อเสียง
EOS-1Ds Mark III/ EF28-300mm f/3.5-5.6L IS USM/ FL: 80 มม./ Aperture-priority AE (f/11, 1/125 วินาที, EV +0.3)/ ISO 250/ WB: อัตโนมัติ
เดือน/ช่วงเวลาของวัน: ปลายเดือนมีนาคม/ 12.30 น.
ภาพโดย: Katsuhiro Yamanashi
ปราสาทมัตสึยามะ (ฉบับภาษาอังกฤษ) ตั้งอยู่บนภูเขาสูงชันและเป็นหนึ่งในปราสาท 12 แห่งเท่านั้นในญี่ปุ่นที่ยังหลงเหลืออยู่หลังจากการปฏิรูปเมจิในปี 1868 ในวันที่ผมถ่ายภาพมุมต่ำนี้มีแสงแดดที่กระจายตัวอย่างสวยงามในช่วงเที่ยงวัน ทำให้ดอกซากุระ โซเมอิ โยชิโนะ ดูสว่างสดใสในเฟรมภาพจนแทบจะเป็นสีขาวมากกว่าสีชมพู
เทคนิคที่ 1: ใช้เลนส์เทเลโฟโต้เพื่อตัดเอาองค์ประกอบที่ไม่จำเป็นออกไป
การใช้เลนส์ซูเปอร์ซูมทำให้ผมสามารถลองจัดเฟรมภาพโดยใช้ทางยาวโฟกัสที่ยาวขึ้นได้ ผมพบว่าการจัดเฟรมภาพที่เหมาะสมที่สุดคือใช้ทางยาวโฟกัสเทเลโฟโต้ระยะกลางที่ 80 มม. ซึ่งไม่เพียงแต่ตัดนักท่องเที่ยวในโฟร์กราวด์ออกไปได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ดอกซากุระดูมีขนาดใหญ่ขึ้นด้วย
การตัดองค์ประกอบที่ไม่จำเป็นออกไปจากเฟรมทำให้ได้การจัดองค์ประกอบภาพที่แน่นขึ้น
50 มม.: จะมีนักท่องเที่ยวอยู่ในเฟรมภาพด้วย
การถ่ายภาพที่ระยะ 50 มม. จากมุมเดียวกันจะถ่ายติดนักท่องเที่ยวในเฟรมภาพด้วย แต่ทำให้เกิดเอฟเฟ็กต์เปอร์สเป็คทีฟที่เด่นชัดกว่าหากเทียบกับระยะ 80 มม. หากคุณต้องการองค์ประกอบภาพเช่นนี้ ให้หาฐานสำหรับยืนหรือปรับขาตั้งกล้องเพื่อให้กล้องอยู่ในตำแหน่งสูง วิธีนี้จะทำให้คนอยู่นอกเฟรมภาพ
ดูเคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากลักษณะเฉพาะของเลนส์ในการจัดองค์ประกอบภาพได้ที่:
เทคนิคการจัดองค์ประกอบภาพอย่างมืออาชีพ (3): ดึงความสามารถสูงสุดของเลนส์มาใช้
เทคนิคที่ 2: ใช้การชดเชยแสง
เนื่องจากมีท้องฟ้าอยู่ในเฟรมภาพและดอกไม้มีความสว่างทั้งยังมีสีอ่อนมาก การใช้โหมดวัดแสงอัตโนมัติจะทำให้ได้ภาพที่ดูมืดเกินไป ควรใช้การชดเชยแสง และผมขอแนะนำค่า EV +0.3 ถึง +0.5
การเดินทางไปจุดถ่ายภาพ: ปราสาทมัตสึยามะ
ที่อยู่: Marunouchi, Matsuyama-shi จังหวัดเอฮิเมะ
คลิกที่นี่เพื่อดูแผนที่ Google (ฉบับภาษาอังกฤษ)
ระบบขนส่งสาธารณะ: ที่สถานี JR มัตสึยามะ ให้เปลี่ยนมาขึ้นรถรางสายหมายเลข 5 ของรถรางสายอิโยะเท็ตสึและลงที่สถานีโอไกโดะ เดิน 5 นาทีจึงจะถึงสถานีกระเช้าลอยฟ้า (เคเบิล คาร์) ของปราสาทมัตสึยามะ
รถยนต์: ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีจึงจะถึงสถานีกระเช้าลอยฟ้าปราสาทมัตสึยามะจาก Matsuyama IC บนทางหลวงมัตสึยามะ
นอกจากนี้ คุณสามารถเดินขึ้นภูเขาคัตสึยามะประมาณ 20 นาทีไปยังปราสาทได้จากสถานีโอไกโดะหรือสวนนิโนะมารุ ข้อควรระวัง: เส้นทางนี้สวยงามแต่มีความลาดชัน!
ดูจุดถ่ายภาพซากุระที่แนะนำและเคล็ดลับเพิ่มเติมได้จากบทความต่อไปนี้:
การถ่ายภาพต้นซากุระในญี่ปุ่น: จุดชมวิวและเคล็ดลับของช่างภาพมืออาชีพ (1)
การถ่ายภาพต้นซากุระในญี่ปุ่น: จุดชมวิวและเคล็ดลับของช่างภาพมืออาชีพ (2)
การถ่ายภาพต้นซากุระในญี่ปุ่น: จุดชมวิวและเคล็ดลับของช่างภาพมืออาชีพ (3)
วิธีถ่ายภาพดอกซากุระให้มีความละเอียดแต่ดูชวนฝันด้วยซอฟต์ฟิลเตอร์
การถ่ายภาพต้นซากุระ: ควรถ่ายที่ระยะมุมกว้างหรือเทเลโฟโต้ดี
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!เกี่ยวกับผู้เขียน
นิตยสารรายเดือนที่เชื่อว่าความสุขของการถ่ายภาพจะยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ถ่ายภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องมากยิ่งขึ้น นิตยสารเล่มนี้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับกล้องรุ่นใหม่ๆ รวมถึงคุณสมบัติของกล้องและนำเสนอเทคนิคการถ่ายภาพอย่างหลากหลาย
จัดพิมพ์โดย Impress Corporation
แต่เดิม Fujiwara เคยเป็นนักสโนว์บอร์ดมืออาชีพ ต่อมาได้ผันตัวเข้าสู่อาชีพที่สองในฐานะช่างภาพหลังจากเลิกเล่นสโนว์บอร์ดเพราะอาการบาดเจ็บ เขามุ่งหาวิธีใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติเพื่อสร้างความรู้สึกโปร่งแสง และประสบการณ์ที่ได้รับจากการศึกษาด้วยตนเองทำให้ภาพถ่ายของเขาได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน “10 ภาพที่แชร์กันอย่างแพร่หลายของ Tokyo Camera Club”
เกิดที่กรุงโตเกียวในปี 1945 Yamanashi ทำงานที่สำนักพิมพ์แห่งหนึ่งหลังจบการศึกษาจาก Tokyo College of Photography (ปัจจุบันมีชื่อว่า Tokyo Polytechnic University) และเดินทางไปทั่วญี่ปุ่นเพื่อเยี่ยมชมและถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงนานถึงเวลา 4 ปี หลังลาออกจากบริษัท เขาผันตัวมาเป็นช่างภาพอิสระ และท้ายที่สุดได้ก่อตั้งบริษัทของตัวเองที่มีชื่อว่า Yamanashi Photo ในปี 1989 นอกจากงานภาพถ่ายสต็อกแล้ว เขายังถ่ายภาพให้ปฏิทินบริษัท นิตยสารกล้องและการท่องเที่ยว และโปสเตอร์สำหรับการรถไฟญี่ปุ่นอีกด้วย