ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

ผลิตภัณฑ์ >> ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด คุณสมบัติที่สำคัญของเลนส์ RF- Part

RF10-20mm f/4L IS STM: เลนส์ซูมแบบไม่ใช่ฟิชอายที่กว้างที่สุดในโลก

2023-10-18
3
556

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2566 Canon ได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้เลนส์มุมกว้างอัลตร้าไวด์อีกครั้งด้วยการเปิดตัวเลนส์ RF10-20mm f/4L IS STM เลนส์รุ่นใหม่นี้เป็นเลนส์ซูมมุมกว้างอัลตร้าไวด์แบบ Rectilinear (ไม่ใช่ฟิชอาย) สำหรับกล้องฟูลเฟรมรุ่นแรกของโลกที่มีระยะมุมกว้าง 10 มม. ด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออพติคอล (ระบบ IS แบบออพติคอล) ในตัว เลนส์นี้จึงมีขนาดกะทัดรัดเทียบเท่าเลนส์ f/4L รุ่นอื่นๆ ในกลุ่มเลนส์ RF ของ Canon และยังมีโครงสร้างรวมถึงคุณภาพของภาพระดับมืออาชีพอันเป็นเอกลักษณ์ของเลนส์ L อ่านต่อเพื่อหาคำตอบว่าเลนส์รุ่นนี้สร้างปรากฏการณ์ในการถ่ายทอดความสร้างสรรค์ได้อย่างไร

ในบทความนี้:

เปอร์สเปคทีฟแบบใหม่อันน่าทึ่ง

ให้คุณมองโลกได้กว้างขึ้น: เปอร์สเปคทีฟแบบใหม่อันน่าทึ่ง

ความปรารถนาที่จะถ่ายภาพให้กว้างขึ้นคือความฝันของช่างภาพมุมกว้างทุกคน และความต้องการนี้จะแรงกล้าขึ้นไปอีกเมื่อได้พบกับทิวทัศน์กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาที่คุณอยากจะถ่ายภาพให้ได้ในเฟรมเดียว หรือเมื่อคุณทราบว่าหากมุมรับภาพกว้างขึ้นอีกเพียงมิลลิเมตรเดียวเท่านั้นก็จะได้ภาพที่ให้ความประทับใจอย่างที่คุณต้องการ ความฝันเหล่านี้ได้กลายเป็นจริงแล้วด้วย RF10-20mm f/4L IS STM รุ่นใหม่ของ Canon ซึ่งเป็นเลนส์ซูมมุมกว้างอัลตร้าไวด์แบบไม่ใช่ฟิชอายที่กว้างที่สุดเท่าที่เคยมีมา


เมาท์ RF ที่ตอบโจทย์เลนส์ระดับตำนานอย่าง EF11-24mm f/4L USM

RF10-20mm f/4L IS STM เป็นเลนส์ในกลุ่มเวอร์ชัน RF สำหรับ EF11-24mm f/4L USM ซึ่งเป็นเลนส์ที่ผลิตขึ้นในยุค EOS DSLR และมีชื่อเสียงในด้านคุณภาพของภาพระดับสูงและเปอร์สเปคทีฟมุมกว้าง 11 มม. อันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นกว่ามาตรฐานของเลนส์ซูมมุมกว้าง 16 มม. ถึง 18 มม. โดยทั่วไป ในช่วงที่เวอร์ชัน RF รุ่นถัดไปยังไม่ถือกำเนิดขึ้น เลนส์นี้ยังคงเป็นเลนส์ชิ้นสำคัญสำหรับช่างภาพจำนวนมากจนถึงยุคแห่งกล้อง EOS R แบบมิเรอร์เลส

และเลนส์ที่เป็นดั่งทายาทของเลนส์รุ่นนี้ก็คือ RF10-20mm f/4L IS STM เลนส์รุ่นใหม่นี้กว้างขึ้น 1 มม. ด้วยระยะมุมกว้าง 10 มม. และมีสมรรถนะในแบบเลนส์ L ที่สามารถเทียบเคียงได้กับเลนส์ EF หรืออาจจะดียิ่งกว่า และยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว (ระบบ IS) ใหม่เพิ่มเข้ามาในตัวเลนส์ที่เบาขึ้น จึงสามารถชดเชยปัญหาเรื่องขนาดที่ใหญ่โตซึ่งเป็นจุดด้อยเพียงข้อเดียวของเลนส์ EF11-24mm f/4L USM ได้ คุณสมบัติทั้งหมดนี้ช่วยมอบความเป็นไปได้ในการถ่ายภาพมุมกว้างอัลตร้าไวด์ในระดับที่ไม่มีใครเทียบให้กับทั้งช่างภาพและนักสร้างสรรค์วิดีโอ

EOS R5/ RF10-20mm f/4L IS STM/ FL: 10 มม./ Manual exposure (f/5,6, 1/60 วินาที)/ ISO 800/ WB: อัตโนมัติ


เสริมทัพเลนส์ซูมมุมกว้างอัลตร้าไวด์ RF ที่มีอยู่เดิม

กลุ่มเลนส์ RF ในปัจจุบันมีเลนส์ซูมมุมกว้างอัลตร้าไวด์ 3 รุ่น ได้แก่
- RF14-35mm f/4L IS USM
- RF15-35mm f/2.8L IS USM
- RF15-30mm f/4.5-6.3 IS STM

ด้วยความครอบคลุมที่กว้างขึ้นของระยะ 10-20 มม. เลนส์ RF10-20mm f/4L IS STM จึงให้มุมรับภาพในแนวทแยงถึง 130.4 องศา ซึ่งมีขอบเขตที่กว้างกว่าเลนส์มุมกว้าง RF ในปัจจุบัน กล่าวคือระยะมุมกว้าง 10 มม. จะทำให้เกิดเปอร์สเปคทีฟอันน่าประทับใจในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมสำหรับฉากหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพทิวทัศน์ การตกแต่งภายใน การถ่ายภาพดวงดาว ภาพพอร์ตเทรต หรือแม้แต่การถ่ายภาพมาโครแบบมุมกว้าง

ดังที่เห็นได้จากภาพทางด้านซ้าย เมื่อถ่ายภาพจากตำแหน่งเดียวกัน ระยะมุมกว้าง 10 มม. ของเลนส์ RF10-20mm f/4L IS STM จะครอบคลุมพื้นที่ได้ราวสองเท่าของทางยาวโฟกัส 14 มม. และครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1.4 เท่าของทางยาวโฟกัส 12 มม. นอกจากนั้น ความครอบคลุมที่กว้างขึ้นยังช่วยให้เกิดเปอร์สเปคทีฟที่น่าประทับใจมากยิ่งขึ้นด้วย

เบาและพกพาสะดวกด้วยน้ำหนักเพียง 570 กรัม

หนักเพียง 570 กรัม: ความสำเร็จทางด้านวิศวกรรมที่ช่วยยกระดับความคล่องตัว

ทางยาวโฟกัสของเลนส์มุมกว้างที่ลดลง 1 มม. ทำให้ระยะครอบคลุมของเลนส์เปลี่ยนไปอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยนี้ไม่ได้ทำให้ความท้าทายในการออกแบบออพติคอลลดน้อยลงไปด้วย และปัญหายังซับซ้อนมากขึ้นอีกเมื่อเลนส์ต้องมีมาตรฐานด้านคุณภาพของภาพตามที่กำหนดไว้ แต่ชิ้นเลนส์ออพติคอลที่จำเป็นต้องใช้ในการแก้ไขความคลาดของเลนส์เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดปราศจากความบิดเบี้ยวตั้งแต่กึ่งกลางไปจนถึงขอบภาพนั้น ทำให้เลนส์มีขนาดและน้ำหนักมากขึ้น

ด้วยน้ำหนักราว 570 กรัม เลนส์ RF10-20mm f/4L IS STM จึงนับเป็นความสำเร็จทางด้านวิศวกรรม เนื่องจากไม่เพียงแต่สามารถลดทางยาวโฟกัสของเลนส์ EF11-24mm f/4L USM ลงได้ 1 มม. เท่านั้น แต่ยังสามารถลดน้ำหนักของเลนส์ดังกล่าวซึ่งเคยหนักถึง 1,108 กรัมลงได้ 50% ความคล่องตัวในอีกระดับนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการถ่ายภาพและขยายขอบเขตความเป็นไปได้ในการสร้างสรรค์ให้มากขึ้น

เมื่อติดตั้งเลนส์ RF10-20mm f/4L IS STM ลงบนกล้อง EOS R5 น้ำหนักรวม 1,308 กรัมที่ได้นั้นจะหนักกว่าเลนส์ EF เพียงอย่างเดียวแค่เล็กน้อย และเมื่อเทียบกับเลนส์ EF ที่ใช้ร่วมกับกล้อง EOS 5D Mark IV ก็จะเบากว่าถึง 750 กรัม เลนส์รุ่นนี้มีขนาดใกล้เคียงกับเลนส์ซูม f/4L อันทรงพลังในตระกูล RF ของ Canon


อะไรทำให้สามารถลดน้ำหนักลงได้มากเท่านี้

ความยืดหยุ่นในการออกแบบที่เกิดจากเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่ของเมาท์ RF และระยะแบ็คโฟกัสสั้นคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้สามารถลดน้ำหนักของเลนส์ได้ วิศวกรของ Canon ได้ทำการปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนต่างๆ ที่ใช้ในเลนส์ตั้งแต่ออพติคส์ไปจนถึงโครงสร้างทางกลไก Stepping Motor (STM) แบบลีดสกรูที่มีช่วงการเลื่อนสั้นถูกนำมาใช้ในการขับเคลื่อนชิ้นเลนส์โฟกัสที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาขณะโฟกัสอัตโนมัติ จึงทำให้ AF สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วภายในตัวเลนส์ที่มีขนาดเล็กลงและเบาขึ้น

คุณภาพของภาพอันยอดเยี่ยมจนถึงขอบ

คุณภาพของภาพที่คมชัดจนถึงขอบภาพ

ระยะมุมกว้าง 10 มม. ของ RF10-20mm f/4L IS STM ทำให้เลนส์นี้เป็นเลนส์แบบไม่ใช่ฟิชอายที่กว้างที่สุดของ Canon RF10-20mm f/4L IS STM นั้นต่างจากเลนส์ฟิชอายที่มักจะทำให้เกิดความบิดเบี้ยวเป็นแนวโค้งหากต้องการถ่ายภาพฉากหนึ่งด้วยมุม 180 องศา แต่เลนส์รุ่นนี้เป็นเลนส์แบบเส้นตรงที่แก้ไขความบิดเบี้ยวได้ จึงสามารถถ่ายภาพออกมาในลักษณะที่เราคุ้นเคยมากกว่า ซึ่งการแก้ไขในระดับสูงนี้จำเป็นต้องใช้ชิ้นเลนส์พิเศษมากมาย

EOS R5/ RF10-20mm f/4L IS STM/ FL: 10 มม./ โหมด Bulb (f/5,6, 59.9 วินาที)/ ISO 100/ WB: แสงหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ขาว

การแก้ไขความบิดเบี้ยวประสิทธิภาพสูง
มุมมองแบบขยายขนาดที่มุมบนซ้ายของภาพก่อนหน้า แม้ที่ระยะ 10 มม. มุมของภาพก็มีความคมชัดและชัดเจน และมีการบิดเบี้ยวน้อยมากดังที่เห็นจากรั้วลวดตาข่าย นี่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเลนส์มีความสามารถในการแก้ไขความบิดเบี้ยวที่ยอดเยี่ยม


โครงสร้างของเลนส์ประกอบด้วยชิ้นเลนส์พิเศษที่ช่วยแก้ไขความคลาดต่างๆ ดังนี้:
- เลนส์แก้ความคลาดทรงกลม 3 ชิ้น รวมถึงชิ้นเลนส์ด้านหน้าขึ้นรูปด้วยแก้วที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่และความโค้งสูง
- เลนส์ Super UD 1 ชิ้น
- เลนส์ UD 3 ชิ้น (รวมชิ้นเลนส์แก้ความคลาด UD 1 ชิ้น)

โครงสร้างเลนส์นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อคุณภาพของภาพระดับสูงสุดซึ่งเป็นไปได้ด้วยระยะแบ็คโฟกัสสั้นของเมาท์ RF เลนส์จะทำงานร่วมกับฟังก์ชั่นการแก้ไขความบิดเบี้ยวทางดิจิทัลของกล้องเพื่อให้ได้คุณภาพของภาพเทียบเท่า EF11-24mm f/4L USM ในตัวเลนส์ที่มีขนาดเล็กกว่าและเบากว่า
การเคลือบแบบ SWC (Subwavelength Structure Coating) (ฉบับภาษาอังกฤษ) และ ASC (Air Sphere Coating) (ฉบับภาษาอังกฤษ) บนพื้นผิวทั้งสองด้านทำให้ควบคุมแสงหลอกและแสงแฟลร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แผนภาพโครงสร้างเลนส์
A: ชิ้นเลนส์แก้ความคลาดทรงกลม
B: ชิ้นเลนส์ Super UD/UD
C: ชิ้นเลนส์ UD แก้ความคลาดทรงกลม
D: SWC
E: ASC

ความสำคัญของชิ้นเลนส์ที่อยู่หน้าสุด
ที่ 10 มม. เลนส์จะได้รับแสงจากพื้นที่ที่กว้างมาก ซึ่งแสงเหล่านี้จำเป็นต้องผ่านเข้ามาสู่ชิ้นเลนส์ด้านหลังโดยมีระดับการหักเหที่เหมาะสม ชิ้นเลนส์ที่อยู่หน้าสุดจึงมีบทบาทสำคัญมาก ชิ้นเลนส์ด้านหน้าใน RF10-20mm f/4L IS STM มีขนาดใหญ่ มีความโค้งสูง ขึ้นรูปด้วยแก้ว และเป็นเลนส์แก้ความคลาดทรงกลม ชิ้นเลนส์นี้เป็นผลจากการจำลองการออกแบบหลายครั้งโดยคำนึงถึงความเหมาะสมในการผลิตเป็นจำนวนมาก และยังใช้รูปทรงที่เหมาะสมเพื่อความแม่นยำและสมรรถนะในระดับสูง

ระบบป้องกันภาพสั่นไหวสูงสุดถึง 6 สต็อปพร้อมการแก้ไขการเบลอที่ขอบภาพ

ระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่แก้ไขการเบลอที่ขอบภาพได้

หลายคนเชื่อกันว่าระบบป้องกันภาพสั่นไหวนั้นไม่จำเป็นสำหรับเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสสั้น และถึงแม้จะต้องใช้งานจริงๆ ระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวกล้อง (ระบบ IS ในตัวกล้อง) ก็จะมีประสิทธิภาพมากกว่าระบบป้องกันภาพสั่นไหวภายในเลนส์ (ระบบ IS แบบออพติคอล) อย่างไรก็ตาม เลนส์ที่กว้างกว่านั้นจะเกิดความบิดเบี้ยวที่ขอบภาพได้ง่ายกว่าเนื่องจากเปอร์สเปคทีฟ จึงเกิดเป็นภาพเบลอในส่วนขอบ (การเบลอที่ขอบภาพ) ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยระบบ IS ในตัวกล้องเพียงอย่างเดียว

นอกจากจะมีการใช้ระบบ IS แบบออพติคอลแล้ว เลนส์ RF10-20mm f/4L IS STM ยังมีอัลกอริธึมที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ซึ่งจะทำงานร่วมกับระบบ IS ในตัวกล้องภายในตัวกล้องเองเพื่อแก้ไขการเบลอที่ขอบภาพ* คุณสมบัตินี้ทำให้ได้ภาพมุมกว้างอัลตร้าไวด์ที่มีคุณภาพของภาพสูงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

* ปัจจุบันมีใช้งานในกล้อง EOS R5 เท่านั้น (เมื่อใช้เฟิร์มแวร์เวอร์ชัน 1.9.0 หรือสูงกว่า) ขณะเปิดตัว

ระบบ IS แบบออพติคอล
ระบบ IS แบบออพติคอล + ระบบ IS ในตัวกล้อง
สูงสุด 5 สต็อป
สูงสุด 6 สต็อป

*ตามมาตรฐาน CIPA (ในทิศทางแกนยกและแกนหัน) ที่ทางยาวโฟกัส 20 มม.

ระบบ IS แบบออพติคอลจะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันภาพสั่นไหวสูงสุดเทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์ 5 สต็อปในตัวเอง เมื่อใช้ระบบ IS แบบประสานการควบคุมในกล้องที่มีระบบ IS ในตัวกล้อง ประสิทธิภาพการป้องกันภาพสั่นไหวที่ได้จากทั้งสองระบบรวมกันจะสูงถึงเทียบเท่า 6 สต็อป

หลักการทั่วไประบุว่าจำเป็นต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์อย่างน้อย 1/(ทางยาวโฟกัส) จึงจะถ่ายภาพได้โดยที่กล้องไม่สั่นหากไม่ใช้ขาตั้งกล้อง นั่นหมายความว่าหากใช้เลนส์ RF10-20mm f/4L IS STM จะสามารถถ่ายภาพแบบไม่ใช้ขาตั้งให้มีความคมชัดได้แม้จะใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำที่เกิน 1 วินาที คุณจึงมีอิสระในการสร้างสรรค์ผลงานมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพในตอนกลางคืน ใช้เอฟเฟ็กต์ภาพเบลอจากการเคลื่อนไหวอย่างสร้างสรรค์ หรือผสมผสานทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน

EOS R5/ RF10-20mm f/4L IS STM/ FL: 10 มม./ Manual exposure (f/5.6, 0.5 วินาที)/ ISO 800/ WB: อัตโนมัติ

ภาพเหล่านี้ถ่ายโดยไม่ใช้ขาตั้งกล้องในสภาวะที่มีแสงน้อย จะเห็นได้จากภาพระยะใกล้ที่มุมบนขวาว่าระบบ IS ช่วยให้ภาพมีความคมชัดแม้แต่ในบริเวณขอบ แม้จะไม่มีภาพเบลอจากการเคลื่อนไหวเนื่องจากการสั่นของกล้องปรากฏให้เห็นในภาพตัวอย่างที่ไม่ใช้ระบบ IS แต่รายละเอียดก็ยังดูไม่ชัดเจนเนื่องจากเกิดการเบลอที่ขอบภาพ

เหมาะสำหรับการถ่ายวิดีโอด้วยเช่นกัน

ตัวเลือกอันทรงประสิทธิภาพสำหรับการถ่ายวิดีโอ

เนื่องจากเป็นเลนส์ที่ผลิตในยุคที่การสร้างวิดีโอกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ RF10-20mm f/4L IS STM จึงได้รับการออกแบบมาโดยคำนึงถึงทั้งการถ่ายภาพนิ่งและการถ่ายวิดีโอ

การติดตามโฟกัสที่ลื่นไหล
เลนส์นี้เป็นเลนส์ L รุ่นแรกที่มีโฟกัสอัตโนมัติขับเคลื่อนโดย STM แบบลีดสกรู ซึ่งสามารถขับเคลื่อนชุดโฟกัสได้อย่างราบรื่นเพื่อให้ได้ฟุตเทจที่มีการเปลี่ยนตำแหน่งโฟกัสอย่างเป็นธรรมชาติแม้ในขณะที่ AF จะติดตามโฟกัสอยู่

รูรับแสงคงที่ f/4
เนื่องจากมีรูรับแสงกว้างสุดคงที่ที่ f/4 ตลอดช่วงโฟกัส ค่าการเปิดรับแสงจึงมีความสม่ำเสมอในทุกลำดับภาพแม้ในขณะทำการซูม

ระบบป้องกันภาพสั่นไหว
ระบบ IS แบบออพติคอลในตัวช่วยให้ถ่ายฟุตเทจได้อย่างมั่นคงโดยไม่ใช้ขาตั้ง และสามารถประสานการทำงานกับระบบ Movie Digital IS ของกล้องได้เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะได้ฟุตเทจที่ไม่สั่นไหวแม้จะถ่ายทำในขณะที่กำลังเดิน นอกจากนี้ยังใช้งานร่วมกับระบบ IS ในตัวกล้องได้ด้วยเพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น

ไม่ว่าจะถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอ คุณก็สามารถใช้เลนส์กับกล้องฟูลเฟรมเพื่อให้ได้เปอร์สเปคทีฟที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ในแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน

ใช้เลนส์ RF10-20mm f/4L IS STM ในการถ่ายภาพทางอากาศ: ความคล่องตัวในอีกระดับของเลนส์ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานกับโดรน

คุณสมบัติอื่นๆ ที่โดดเด่น

คุณสมบัติอื่นๆ ที่โดดเด่น

ดีไซน์กันฝุ่นและหยดน้ำ

ด้วยวงแหวน สวิตช์ และชิ้นส่วนเคลื่อนไหวต่างๆ ที่ได้รับการซีลป้องกันสภาพอากาศ เลนส์จึงมีการออกแบบที่สามารถป้องกันฝุ่นและหยดน้ำไม่ให้เข้ามาในเลนส์ได้ ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มความทนทาน

การเคลือบฟลูออรีน

การเคลือบฟลูออรีนป้องกันรอยเปื้อนที่ชิ้นเลนส์ด้านหน้าสุดช่วยป้องกันการเกาะติดของฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกบนเลนส์ อีกทั้งยังทำให้สามารถเช็ดออกได้อย่างง่ายดายด้วยผ้าทำความสะอาด

 

ตัวล็อคฟิลเตอร์ด้านหลัง

RF10-20mm f/4L IS STM มีเลนส์ฮูดที่มีท่อเลนส์ด้วย จึงไม่สามารถใช้ฟิลเตอร์ชนิดสวมหน้าเลนส์ตามปกติได้ แต่จะใส่ฟิลเตอร์ด้านหลังแทน

ปุ่มฟังก์ชั่นของเลนส์

นอกจากการควบคุมที่พบในเลนส์ RF โดยทั่วไปแล้ว RF10-20mm f/4L IS STM ยังมีปุ่มฟังก์ชั่นเลนส์ที่สามารถใช้เป็นทางลัดในการกำหนดฟังก์ชั่นอื่นๆ เช่น AF และการควบคุมระดับแสงได้

ข้อมูลจำเพาะที่สำคัญ

RF10-20mm f/4L IS STM: ข้อมูลจำเพาะที่สำคัญ

โครงสร้างเลนส์: 16 ชิ้นเลนส์ใน 12 กลุ่ม
ระยะโฟกัสใกล้สุด: 0.25 ม.
กำลังขยายสูงสุด: 0.12 เท่า (ที่ 20 มม.)
จำนวนม่านรูรับแสง: 9 (กลีบ)
ฟิลเตอร์ : แบบใส่ด้านหลัง
ขนาด: φ83.7 x 112 มม.
น้ำหนัก: ประมาณ 570 ก.
มีเลนส์ฮูดในตัว

ภาพตัวอย่าง

ภาพตัวอย่าง


EOS R5/ RF10-20mm f/4L IS STM/ FL: 12 มม./ Manual exposure (f/8, 1/640 วินาที)/ ISO 400/ WB: อัตโนมัติ


EOS R5/ RF10-20mm f/4L IS STM/ FL: 10 มม./ Manual exposure (f/4, 1/13 วินาที)/ ISO 1600/ WB: อัตโนมัติ


EOS R3/ RF10-20mm f/4L IS STM/ FL: 10 มม./ Manual exposure (f/4, 20 วินาที)/ ISO 10000/ WB: 4600K


EOS R5/ RF10-20mm f/4L IS STM/ FL: 10 มม./ Manual exposure (f/4, 1/10 วินาที)/ ISO 3200/ WB: อัตโนมัติ

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา