พื้นฐานเกี่ยวกับเลนส์ #1: เลนส์ซูม
เลนส์ซูมทำให้คุณสามารถใช้ทางยาวโฟกัสได้หลากหลายแบบโดยไม่ต้องเปลี่ยนเลนส์ จึงเหมาะแก่การใช้งานอย่างมาก เราลองมาทำความรู้จักกับเลนส์ซูมประเภทต่างๆ รวมถึงคุณสมบัติพิเศษของเลนส์แต่ละประเภทกัน (เรื่องโดย Tomoko Suzuki)
เลนส์ซูมเพียงตัวเดียวถ่ายทอดอารมณ์ภาพได้หลากหลายรูปแบบ
ประโยชน์
- เลนส์เพียงตัวเดียวสามารถครอบคลุมช่วงทางยาวโฟกัสกว้าง
- คุณไม่ต้องเปลี่ยนเลนส์ตลอดเวลา
จุดอ่อน
- เลนส์ซูมส่วนใหญ่มีค่า f สูงสุดสูง (รูรับแสงกว้างสุดมีค่าต่ำ)
เลนส์ซูมใช้งานสะดวกอย่างมาก สิ่งที่คุณต้องทำมีแค่หมุนวงแหวนซูมเพื่อเปลี่ยนทางยาวโฟกัสเท่านั้น ซึ่งลดความยุ่งยากในการเปลี่ยนเลนส์ และนั่นหมายความว่าคุณจะพลาดโอกาสในการถ่ายภาพน้อยลง อีกทั้งยังช่วยลดจำนวนเลนส์ที่คุณต้องพกพาอีกด้วย และอุปกรณ์ที่เบาขึ้นคือโบนัสเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณต้องออกเดินทางหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เดินป่า นี่คือเหตุผลว่าทำไมชุดเลนส์จึงเป็นเลนส์ซูมเกือบทั้งหมดเสมอ
ช่วงทางยาวโฟกัสที่เลนส์สามารถถ่ายได้ (‘ช่วงโฟกัส’ หรือ ‘ช่วงทางยาวโฟกัส’) จะมีระบุไว้บนเลนส์ ตัวอย่างเช่น ช่วง “18 - 55 มม.” หมายความว่าคุณสามารถเปลี่ยนทางยาวโฟกัสเป็นค่าใดก็ได้ระหว่าง (และรวมถึง) 18 มม. ถึง 55 มม. ทางยาวโฟกัสที่สั้นลงจะช่วยให้คุณได้มุมรับภาพที่กว้างขึ้น และทางยาวโฟกัสที่ยาวขึ้นจะช่วยให้คุณเข้าใกล้ตัวแบบที่อยู่ในระยะไกลได้มากขึ้น
สิ่งหนึ่งที่ควรทราบคือ เมื่อเปรียบเทียบกับเลนส์เดี่ยวแล้ว เลนส์ซูมมักจะมีค่า f สูงสุดที่มากกว่า (รูรับแสงกว้างสุดมีค่าต่ำกว่า) ซึ่งหมายความว่าหากคุณใช้เลนส์ซูมเพื่อถ่ายภาพในสถานที่ที่มีแสงน้อย มีแนวโน้มมากขึ้นที่คุณจะต้องใช้ความไวแสง ISO ที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ระดับความเบลอในโบเก้ (ฉบับภาษาอังกฤษ) ที่คุณสามารถสร้างด้วยเลนส์ซูมยังมีจำกัดอีกด้วย เมื่อเทียบกับเลนส์เดี่ยวที่มีรูรับแสงกว้างสุดที่มีขนาดใหญ่กว่า (เราจะอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับโบเก้ในบทความต่อๆ ไป)
ไอเดียหลักที่ 1: ประเภทของเลนส์ซูม
เลนส์ซูมมีด้วยกันสี่ประเภท เลนส์ซูมมุมกว้างสามารถเก็บภาพทิวทัศน์เป็นบริเวณกว้าง เลนส์ซูมมาตรฐานและเลนส์ซูมพิเศษครอบคลุมช่วงทางยาวโฟกัสที่หลากหลาย รวมถึงช่วงเทเลโฟโต้ ขณะเดียวกัน เลนส์ซูมเทเลโฟโต้สามารถเก็บภาพระยะใกล้ของตัวแบบที่อยู่ห่างออกไปได้ เลนส์ซูมทั้งสี่ประเภทมีรุ่นที่สามารถใช้ได้ทั้งกับกล้อง DSLR ฟูลเฟรม กล้อง DSLR ขนาด APS-C หรือกล้องมิเรอร์เลสซีรีย์ EOS-M
คุณอาจสนใจอ่านบทความนี้:
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลนส์ #9: อะไรคือข้อแตกต่างระหว่างเลนส์ซูมเทเลโฟโต้ f/2.8 และ f/4
เลนส์ซูมมุมกว้าง
(1) EF-S10-18mm f/4.5-5.6 IS STM
(2) EF16-35mm f/4L IS USM
(3) EF-M11-22mm f/4-5.6 IS STM
เลนส์ซูมมาตรฐาน
(4) EF-S18-55mm f/3.5-5.6 IS STM
(5) EF24-105mm f/4L IS USM
(6) EF-M18-55mm f/3.5-5.6 IS STM
เลนส์ซูมพิเศษ
(7) EF-S18-135mm f/3.5-5.6 IS STM
(8) EF-M18-150mm f/3.5-6.3 IS STM
เลนส์ซูมเทเลโฟโต้
(9) EF-S55-250mm f/4-5.6 IS STM
(10) EF70-300mm f/4-5.6L IS USM
(11) EF-M55-200mm f/4.5-6.3 IS STM
ไอเดียหลักที่ 2: ช่วงโฟกัสกว้าง
คนจำนวนมากนิยมใช้เลนส์ซูมเพราะสามารถครอบคลุมช่วงทางยาวโฟกัสที่กว้าง ตัวอย่างเช่น คุณอาจต้องการเลนส์ซูมมาตรฐานตัวเดียวที่ครอบคลุมช่วงทางยาวโฟกัสทั้งหมด ตั้งแต่มุมกว้างจนถึงเทเลโฟโต้ เพราะช่วงดังกล่าวช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนโฉมภาพในขั้นสุดท้าย โดยการรวมฉากไว้ในเฟรมภาพมากขึ้นหรือโดยการเข้าใกล้พื้นที่ที่ต้องการ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
เอฟเฟ็กต์ภาพที่ได้จากเลนส์มุมกว้าง
เทคนิคการจัดองค์ประกอบภาพอย่างมืออาชีพ – ดึงความสามารถสูงสุดของเลนส์มาใช้
การใช้เอฟเฟ็กต์การบีบมุมมองภาพและโบเก้ขนาดใหญ่ด้วยเลนส์เทเลโฟโต้
EOS 5D Mark III/ EF24-105mm f/4L IS USM/ FL: 24 มม./ Program AE (f/9, 1/160 วินาที, EV+0.3)/ ISO 100/ WB: Manual
EOS 5D Mark III/ EF24-105mm f/4L IS USM/ FL: 50 มม./ Program AE (f/9, 1/200 วินาที, EV+0.3)/ ISO 100/ WB: Manual
EOS 5D Mark III/ EF24-105mm f/4L IS USM/ FL: 85 มม./ Program AE (f/7.1, 1/250 วินาที, EV+0.3)/ ISO 100/ WB: Manual
EOS 5D Mark III/ EF24-105mm f/4L IS USM/ FL: 105 มม./ Program AE (f/6.3, 1/250 วินาที, EV+0.3)/ ISO 100/ WB: Manual
ดังที่แสดงด้านบน แม้ว่ารูรับแสงกว้างสุดจะแตกต่างกัน แต่ EF24-105mm f/4L IS USM ครอบคลุมช่วงโฟกัสเหมือนกับเลนส์เดี่ยวถึง 4 ตัว
ไอเดียหลักที่ 3: รูรับแสงแบบปรับได้และรูรับแสงแบบคงที่
ในส่วนของรูรับแสงกว้างสุด เลนส์ซูมจะรวมอยู่ในกลุ่มเลนส์หนึ่งในสองประเภทต่อไปนี้ ในเลนส์ที่มีรูรับแสงแบบปรับได้ รูรับแสงกว้างสุดจะเปลี่ยนไปตลอดช่วงการซูม แต่จะยังคงเหมือนเดิมในเลนส์ที่มีรูรับแสงแบบคงที่ (หรือที่เรียกว่า "เลนส์ที่มีรูรับแสงคงที่ (constant aperture lense)) เลนส์ประเภทที่สองนี้ช่วยให้คุณสามารถใช้รูรับแสงแบบเดียวกันได้ไม่ว่าจะใช้ทางยาวโฟกัสเท่าใด ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับบางสถานการณ์ เช่น การถ่ายภาพเทเลโฟโต้ในสภาวะแสงน้อย ซึ่งคุณจำเป็นต้องให้ปริมาณแสงเข้าสู่เซนเซอร์ภาพมากที่สุด (อ่านได้จากไอเดียหลักที่ 4 ด้านล่าง) อย่างไรก็ดี เนื่องจากเลนส์ประเภทนี้มีโครงสร้างเลนส์ที่ซับซ้อนมากกว่า เลนส์ที่มีรูรับแสงแบบคงที่จึงมักมีขนาดใหญ่กว่า น้ำหนักมากกว่า และราคาสูงกว่าเลนส์ที่มีรูรับแสงแบบปรับได้
เลนส์ที่มีรูรับแสงแบบปรับได้
- EF24-105mm f/3.5-5.6 IS STM 525 ก.
- EF70-300mm f/4-5.6L IS USM 1050 ก.
เลนส์ที่มีรูรับแสงแบบคงที่
- EF24-70mm f/2.8L II USM 805 ก.
- EF70-200mm f/2.8L IS II USM 1490 ก.
ไอเดียหลักที่ 4: รูรับแสงกว้างสุดในเลนส์ที่มีรูรับแสงแบบปรับได้
รูรับแสงกว้างสุดในเลนส์ที่มีรูรับแสงแบบปรับได้จะระบุไว้เป็นช่วง เช่น “f/3.5-5.6” รูรับแสงกว้างสุดที่สว่างขึ้น (ค่า f ต่ำลง) จะใช้กับระยะมุมกว้าง และค่อยๆ มืดลงเมื่อค่า f สูงขึ้น เนื่องจากทางยาวโฟกัสเพิ่มขึ้น
ตัวอย่าง: ในเลนส์ EF-S18-135mm f/3.5-5.6 IS STM
ไอเดียหลักที่ 5: รูรับแสงกว้างสุดและระดับของโบเก้
เลนส์ที่มีรูรับแสงแบบปรับได้
EF24-105mm f/3.5-5.6 IS STM
EOS 5D Mark III/ FL: 24 มม./ Aperture-priority AE (f/3.5, 1/1250 วินาที, EV±0)/ ISO 100/ WB: Manual
เลนส์ที่มีรูรับแสงแบบคงที่
EF24-70mm f/2.8L II USM
EOS 5D Mark III/ FL: 24 มม./ Aperture-priority AE (f/2.8, 1/2500 วินาที, EV±0)/ ISO 100/ WB: Manual
ในตัวอย่างด้านบน ที่ระยะมุมกว้าง 24 มม. รูรับแสงกว้างสุดของเลนส์ที่มีรูรับแสงแบบปรับได้คือ f/3.5 และ f/2.8 ในเลนส์ที่มีรูรับแสงคงที่ ความแตกต่างอยู่ที่ประมาณ 1/3 ของ f-stop ซึ่งอาจดูน้อยมาก แต่ทำให้เอฟเฟ็กต์โบเก้ที่ได้แตกต่างกันอย่างชัดเจน ฉะนั้น โปรดจำไว้ว่าโบเก้ในส่วนแบ็คกราวด์จะเห็นได้ชัดเจนมากกว่าในภาพที่ถ่ายโดยใช้เลนส์ซูมที่มีรูรับแสงคงที่
หากต้องการอ่านเกี่ยวกับ f-stop เพิ่มเติม โปรดดูที่:
พื้นฐานเกี่ยวกับกล้อง #1: รูรับแสง
คุณอาจสนใจอ่านบทความนี้:
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลนส์ #6: หากเลนส์ซูมของฉันไม่มีรูรับแสงกว้างสุดที่สว่างมาก ฉันจะสามารถสร้างโบเก้ขนาดใหญ่ได้อย่างไร
เลนส์ที่มีรูรับแสงแบบปรับได้
EF24-105mm f/3.5-5.6 IS STM
EOS 5D Mark III/ EF24-105mm f/3.5-5.6 IS STM/ FL: 70 มม./ Aperture-priority AE (f/5.6, 1/125 วินาที, EV+0.3)/ ISO 100/ WB: Manual
เลนส์ที่มีรูรับแสงแบบคงที่
EF24-70mm f/2.8L II USM
EOS 5D Mark III/ EF24-70mm f/2.8L II USM/ FL: 70 มม./ Aperture-priority AE (f/2.8, 1/500 วินาที, EV+0.3)/ ISO 100/ WB: Manual
ในตัวอย่างด้านบน ที่ทางยาวโฟกัส 70 มม. (ช่วงเทเลโฟโต้) ค่า f สูงสุดในเลนส์ที่มีรูรับแสงแบบปรับได้คือ f/5.6 และ f/2.8 ในเลนส์ที่มีรูรับแสงที่คงที่ ซึ่งแตกต่างกันถึง 2 f-stop ความแตกต่างที่มากขึ้นนี้ยังส่งผลต่อเอฟเฟ็กต์โบเก้ นั่นคือภาพที่ถ่ายโดยใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงคงที่จะมีโบเก้ในส่วนแบ็คกราวด์ที่เบลอมากกว่า หากโบเก้มีผลอย่างมากต่อรูปแบบการถ่ายภาพของคุณ คุณจึงได้ประโยชน์มากกว่าจากเลนส์ที่มีรูรับแสงคงที่
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!