สิ่งต่างๆ อาจไม่เป็นอย่างที่เราคาดไว้เสมอไปในการถ่ายภาพ บางครั้ง ธรรมชาติก็ไม่ยอมให้ความร่วมมือ หรือในบางครั้ง เช่น ในขณะที่เราเข้าร่วมการแข่งขันอย่าง Canon PhotoMarathon (ฉบับภาษาอังกฤษ) เราจะต้องถ่ายภาพภายใต้ความกดดันด้านเวลาและข้อจำกัดที่เกิดขึ้นตามสถานการณ์ แต่เคล็ดลับง่ายๆ ที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็อาจเกิดขึ้นได้จากข้อจำกัดเหล่านี้ ในบทความนี้ ช่างภาพสามรายจะมาเล่าให้เราฟังถึงวิธีการแก้ปัญหาภายใต้สถานการณ์ที่ไม่เป็นใจ (เรื่องโดย: Takashi Namiki, Shugo Takemi, GOTO AKI, Digital Camera Magazine)
EOS 6D/ EF70-200mm f/2.8L IS USM/ FL: 200 มม./ Aperture-priority AE (f/2.8, 1/500 วินาที, EV±0)/ ISO 400/ WB: แสงแดด
โดย: Takashi Namiki
1. สถานการณ์: มีลมพัดน้อยเกินไปจนไม่เกิดการเคลื่อนไหว
เคล็ดลับ: ใช้การถ่ายภาพซ้อนเพื่อ “สร้าง” ภาพเบลอจากการเคลื่อนไหว
วิธีทั่วไปในการทำให้ทุ่งหญ้าดูเหมือนกำลังพลิ้วไหวไปตามลมคือ สร้างภาพเบลอจากการเคลื่อนไหวโดยใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ แต่ในขณะที่ผมถ่ายภาพทุ่งหญ้าซึซึกินี้ (หรือที่เรียกกันว่า หญ้าเมเดนซิลเวอร์) ลมพัดเบามากจนภาพเบลอจากการเคลื่อนไหวดูไม่สวยเอาเสียเลย
ผมจึงตัดสินใจใช้ฟังก์ชั่นการถ่ายภาพซ้อนในกล้อง เพื่อทำให้ภาพดูดีขึ้น ผมถ่ายภาพต่อเนื่องหลายภาพโดยไม่เปลี่ยนการจัดเฟรม
นี่คือภาพที่ได้เมื่อผมไม่ใช้การถ่ายภาพซ้อน มีการเคลื่อนไหวน้อยกว่ามาก ซึ่งทำให้ภาพดูไม่น่าประทับใจนัก
นี่คือภาพ GIF ของทั้งสองภาพเพื่อให้คุณได้เห็นความแตกต่าง:
เคล็ดลับ:
- ถ่ายภาพโดยถือกล้องด้วยมือเพื่อให้ได้เอฟเฟ็กต์ภาพเบลอจากการเคลื่อนไหว
อย่าใช้ขาตั้งกล้องในสถานการณ์นี้ แต่ให้ถ่ายภาพด้วยมือตามปกติแทน คุณจะขยับกล้องทีละน้อยตามธรรมชาติในแต่ละครั้งที่เปิดรับแสง เมื่อนำภาพที่มีการรับแสงต่างกันมาซ้อนกัน การขยับกล้องตามธรรมชาตินั้นจะเพียงพอสำหรับการสร้างเอฟเฟ็กต์ที่ดูคล้ายกับภาพเบลอจากการเคลื่อนไหวซึ่งคุณจะได้หากมีลมพัดแรงพอจริงๆ
- ตั้งค่าการควบคุมการถ่ายภาพซ้อนไปที่ “เฉลี่ย”
การตั้งค่านี้จะควบคุมระดับแสงของภาพซ้อนในขั้นสุดท้ายโดยอัตโนมัติ หากคุณเลือก “เติมแต่ง” คุณจะต้องตั้งค่าการชดเชยแสงเป็นลบเพื่อป้องกันไม่ให้ภาพดูสว่างเกินไป สำหรับการเริ่มต้น ให้ถ่ายภาพซ้อนกันห้าภาพ คุณไม่จำเป็นต้องทำตามนี้อย่างเคร่งครัด แต่ผมพบว่าห้าภาพคือปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มต้น
- สร้างโบเก้ในแบ็คกราวด์เพื่อปกปิดภาพเบลอที่ไม่สวยงามในแบ็คกราวด์
ภาพเบลอจากการเคลื่อนไหวที่แท้จริงจะเกิดกับวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวเท่านั้น แบ็คกราวด์ไม่ควรเคลื่อนไหวด้วย! แต่เมื่อคุณจำลองภาพเบลอจากการเคลื่อนไหวด้วยการถ่ายภาพซ้อน แบ็คกราวด์จะดูเหมือนเกิดการเบลอจากการเคลื่อนไหวด้วย ให้ปกปิดโดยใช้การสร้างโบเก้ในแบ็คกราวด์
ดูวิธีอื่นๆ ในการใช้ฟังก์ชั่นการถ่ายภาพซ้อนได้ที่:
เทคนิคการถ่ายภาพด้วยกล้อง EOS 80D: ภาพทิวทัศน์ยามค่ำคืน (เทคนิค 03)
การถ่ายภาพซ้อนของดอกไม้ไฟ: คำแนะนำอย่างละเอียดเพื่อถ่ายภาพสวยได้ดั่งใจ
การถ่ายภาพต้นซากุระในญี่ปุ่น: จุดชมวิวและเคล็ดลับของช่างภาพมืออาชีพ (3) (ฉาก 3)
2. สถานการณ์: มีช่างภาพคนอื่นๆ มากเกินไปในสถานที่เดียวกัน
เคล็ดลับ: สร้างเฟรมที่ไม่เหมือนใครขึ้นมาเพื่อให้ภาพของคุณโดดเด่น
EOS-1D X/ EF16-35mm f/2.8L USM/ FL: 16 มม./ Aperture-priority AE (f/16, 1/800 วินาที, EV±0)/ ISO 500/ WB: อัตโนมัติ
โดย: Shugo Takemi
มีช่างภาพคนอื่นๆ มากกว่าสิบคนในการแข่งขันสกีที่จุดเดียวกัน ผมอยากให้ภาพของผมแตกต่างจากภาพของคนอื่นๆ และเกิดความคิดว่าจะใช้ประโยชน์จากหิมะ
หากมีอะไรที่จะสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ นั่นคือความหนาวไปถึงกระดูก ผมจึงใช้หิมะเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากเพื่อถ่ายทอดความหนาวเย็น โดยนำเอาหิมะมาแปะลงบนฟิลเตอร์ป้องกันบนเลนส์ของผม จากนั้นผมปรับรูรับแสงให้แคบลงเหลือ f/16 เพื่อไม่ให้หิมะเบลอจนกลายเป็นโบเก้นิ่มนวลในโฟร์กราวด์ แต่ยังคงผิวสัมผัสที่ดูแข็งเหมือนน้ำแข็งเอาไว้
เฟรมภาพที่ได้จึงไม่เพียงแต่ช่วยรักษาความทรงจำของอากาศเย็นจัดในวันนั้นเอาไว้ แต่ยังช่วยเพิ่มความแตกต่างให้กับภาพนักสกีที่กำลังไถลไปบนหิมะด้วย
สิ่งที่ควรระมัดระวัง:
- อย่าใส่หิมะลงบนหน้าเลนส์โดยตรง
ผมนำหิมะมาแปะไว้ตรงขอบของฟิลเตอร์เลนส์ และใช้นิ้วทำให้เรียบเพื่อสร้าง “เฟรม” ชั่วคราว คุณจำเป็นต้องใส่หิมะลงบนฟิลเตอร์ UV หรือฟิลเตอร์ใส เพื่อปกป้องอุปกรณ์ให้ปลอดภัย อย่าใส่ลงไปที่ด้านหน้าของชิ้นเลนส์โดยตรง!
- ดูให้แน่ใจว่าความชื้นไม่สามารถซึมเข้าไปในอุปกรณ์ของคุณ
ความร้อนจากมือของคุณจะทำให้หิมะบางส่วนละลายในขณะที่คุณกำลังแปะลงไปบนฟิลเตอร์ ระวังอย่าให้ความชื้นเข้าไปในส่วนอื่นๆ ของเลนส์หรือกล้อง
ดูเทคนิคที่ Mohammad Norfahan Bin Bahron ผู้ชนะการแข่งขัน Canon PhotoMarathon Asia Championship 2018 ใช้ในการจัดเฟรมภาพที่คล้ายกันนี้ระหว่างการแข่งขันถ่ายภาพได้ที่:
มองต่างเลนส์: บทสัมภาษณ์ผู้ชนะการแข่งขัน CPMC ประจำปี 2018
คุณอาจสนใจบทความต่อไปนี้:
วิธีการป้องกันกล้องของคุณสำหรับการถ่ายภาพในสภาพอากาศหนาวเย็น
แนวทางสร้างสรรค์ในการสร้างกรอบรูปภาพการเดินทางของคุณ
3. สถานการณ์: ผิวน้ำมีแสงสะท้อนสว่างจ้าและไม่มีฟิลเตอร์ PL
เคล็ดลับ: ใช้แสงสะท้อนเป็นแสงด้านหลังเพื่อให้ได้ภาพสไตล์กราฟิกที่ไม่เหมือนใคร
EOS 5D Mark IV/ EF100-400mm f/4.5-5.6L IS II USM/ FL: 400 มม./ Aperture-priority AE (f/5.6, 1/4,000 วินาที, EV±0)/ ISO 400/ WB: แสงแดด
โดย: GOTO AKI
แสงอาทิตย์สว่างจ้าที่สะท้อนลงบนผิวน้ำอาจทำให้คุณถ่ายภาพไม่ได้ตามที่ต้องการ แต่แทนที่จะลดแสงสะท้อนด้วยฟิลเตอร์ PL ควรใช้แสงนี้ให้เป็นประโยชน์ดีกว่า ในภาพด้านบน แสงทำให้เกิดเอฟเฟ็กต์ที่แตกต่างกันสองประการ ได้แก่
i) แสงส่องผ่านดอกบัวที่โปร่งแสงและแสดงสีสันและความโปร่งแสงของดอกบัว
ii) แสงไม่สามารถส่องผ่านส่วนทึบของดอกบัวได้ ดังนั้น ส่วนดังกล่าวจึงกลายเป็นภาพซิลูเอตต์แทน
ในฉากเช่นนี้ เรามักจะสนใจเพียงแค่ตัวแบบที่อยู่บนผิวน้ำเท่านั้น แต่ในภาพนี้ เมื่อหันไปสนใจแสงด้านหลังที่เกิดจากแสงสะท้อน ผมจึงสามารถถ่ายภาพที่ดูแปลกตาเหมือนภาพขาวดำที่มีสีสันโดดเด่นออกมาได้
เคล็ดลับ: หาตำแหน่งที่แสงสะท้อนจะกลายเป็นแสงด้านหลังได้
ภาพด้านบนถูกถ่ายจากอีกมุมหนึ่งซึ่งไม่ได้ใช้แสงสะท้อนเป็นแสงด้านหลัง ในตำแหน่งดังกล่าว องค์ประกอบที่ทึบแสงจะไม่กลายเป็นภาพซิลูเอตต์ ดังนั้นจึงเห็นเป็นภาพสีแทน ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีเสมอไป แต่ดอกบัวจะถูกองค์ประกอบอื่นๆ ในภาพ “แย่งความโดดเด่น” ไป
หากต้องการทราบเคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการใช้ประโยชน์จากแสงด้านหลัง ลองอ่านบทความนี้:
4 ขั้นตอนในการถ่ายภาพพอร์ตเทรตที่มีแสงเข้าทางด้านหลังให้ดูนุ่มนวลชวนฝัน
วิธีถ่ายภาพหมอก ควัน และไอน้ำ
การตัดสินใจในการถ่ายภาพทิวทัศน์: แสงด้านหน้าหรือแสงด้านหลัง
เทคนิคการใช้แฟลชติดกล้อง #4: วิธีถ่ายภาพพอร์ตเทรตตัดกับแสงอาทิตย์อัสดง
---
คุณเคยรับมือกับสถานการณ์การถ่ายภาพที่มีความท้าทายด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์หรือไม่ คุณชื่นชอบเคล็ดลับใดบ้างในการถ่ายภาพ แบ่งปันเรื่องราวของคุณกับเราได้ที่ My Canon Story หรือในส่วนแสดงความคิดเห็นด้านล่าง!
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!