ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

เคล็ดลับและบทเรียน >> เคล็ดลับและบทเรียนทั้งหมด พื้นฐานของการถ่ายภาพ- Part1

พื้นฐานเกี่ยวกับกล้อง #1: รูรับแสง

2017-01-05
61
74.25 k
ในบทความนี้:

สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาเมื่อถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิตอลคือ ผลกระทบของรูรับแสงที่มีต่อภาพถ่ายของคุณ การเปิดรูรับแสงให้กว้างขึ้นหรือแคบลงจะทำให้ภาพถ่ายที่ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง ในบทความนี้ เราจะมาศึกษาถึงผลกระทบของค่ารูรับแสงต่างๆ ที่มีต่อระยะชัดโดยการเปรียบเทียบตัวอย่างและเรียนรู้แนวคิดเกี่ยวกับ f-stop กัน (เรื่องโดย Tomoko Suzuki)

 

รูรับแสงทำหน้าที่ควบคุมปริมาณแสงที่เข้าสู่เลนส์

สิ่งที่พึงจดจำ

- ค่ารูรับแสงมากขึ้น (กล่าวคือ ค่า f ต่ำลง) ขนาดของโบเก้จะใหญ่ขึ้น
- ค่ารูรับแสงต่ำลง (กล่าวคือ ค่า f มากขึ้น) พื้นที่ที่อยู่ในโฟกัสจะกว้่างขึ้น (ระยะชัด)
- ปริมาณแสงที่เข้าสู่เซนเซอร์จะถูกควบคุมด้วยขนาดของรูรับแสงที่กว้างขึ้น/แคบลง
 

รูรับแสงช่วยให้เราสามารถควบคุมปริมาณแสงที่เข้าสู่เลนส์ได้ โดยเมื่อรูรับแสงกว้างขึ้น ปริมาณแสงจะเข้าสู่เลนส์มากขึ้น และในทางกลับกัน เมื่อรูัรับแสงแคบลง ปริมาณแสงจะเข้าสู่เลนส์ได้น้อยลง ค่าตัวเลขของขนาดรูรับแสงที่แตกต่างกันเรียกว่า ค่า f ซึ่งค่า f มาตรฐาน ได้แก่ f/1.4, f/2, f/2.8, f/4, f/5.6, f/8… ฯลฯ การเพิ่มขนาดรูรับแสงให้กว้างขึ้นจะเป็นการลดค่า f ให้น้อยลง ขณะที่การลดขนาดรูรับแสงลงจะเป็นการเพิ่มค่า f ให้สูงขึ้น

เมื่อค่า f เปลี่ยนแปลงไป ไม่เพียงปริมาณแสงที่เข้าสู่กล้องจะเปลี่ยนไปเท่านั้น แต่ขนาดของพื้นที่ภาพที่อยู่ในระยะโฟกัสยังเปลี่ยนไปด้วย และยิ่งค่า f ต่ำลงมากเท่าใด พื้นที่ภาพในระยะโฟกัสจะมีขนาดเล็กลงเช่นกัน ในทางกลับกัน หากค่า f มากขึ้น พื้นที่ภาพที่อยู่ในระยะโฟกัสจะมีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งผลภาพที่ได้จะมีความคมชัดจนถึงส่วนแบ็คกราวด์

เมื่อค่า f มีค่าต่ำที่สุด คุณจะได้ "รูรับแสงกว้างสุด" ซึ่งจะช่วยให้ปริมาณแสงเข้าสู่กล้องได้มากที่สุด อีกทั้งได้วงกลมโบเก้ที่ดูสะดุดตามากที่สุด ("ขนาดใหญ่ที่สุด") อีกด้วย

 

การปรับเปลี่ยนช่วงของพื้นที่ในระยะโฟกัสโดยการปรับค่ารูรับแสง

 

EOS 5D Mark III/ EF50mm f/1.8 STM/ FL: 50 มม./ Aperture-priority AE (f/1.8, 1/800 วินาที, EV+0.7)/ ISO 100/ WB: Manual

f/1.8

 

EOS 5D Mark III/ EF50mm f/1.8 STM/ FL: 50 มม./ Aperture-priority AE (f/5.6, 1/80 วินาที, EV+0.7)/ ISO 100/ WB: Manual

f/5.6

 

EOS 5D Mark III/ EF50mm f/1.8 STM/ FL: 50 มม./ Aperture-priority AE (f/16, 1/40 วินาที, EV+0.7)/ ISO 400/ WB: Manual

f/16

 

เมื่อรูรับแสงกว้่างขึ้น ค่า f จะลดลง พื้นที่ที่อยู่ในระยะโฟกัสของภาพจะลดลง และโบเก้จะดูสะดุดตายิ่งขึ้น (หรือ "มีขนาดใหญ่ขึ้น") ในทางกลับกัน หากรูรับแสงแคบลง ค่า f จะเพิ่มขึ้น และพื้นที่ที่อยู่ในระยะโฟกัสจะเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้มองเห็นโบเก้ได้ไม่ชัดเจน

 

 

แนวคิดที่ 1: ระยะชัดของภาพ

โบเก้จะดูโดดเด่นสะดุดตามากยิ่งขึ้นเมื่อมีระยะโฟกัสที่ใกล้ขึ้น ซึ่งช่วงของโฟกัส (ภาพอยู่ในระยะโฟกัสมากน้อยเท่าใด) นี้เรียกว่า "ระยะชัด" หากช่วงของโฟกัสน้อย เราเรียกว่า "ระยะชัดตื้น" ในทำนองเดียวกัน หากช่วงของโฟกัสกว้าง เราเรียกว่า "ระยะชัดลึก"

EOS 5D Mark III/ FL: 50 มม./ Aperture-priority AE (f/1.8, 1/80 วินาที, EV+0.7)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ
ระยะชัดตื้น f/1.8

 

EOS 5D Mark III/ FL: 50 มม./ Aperture-priority AE (f/16, 1/40 วินาที, EV+0.7)/ ISO 4000/ WB: อัตโนมัติ
ระยะชัดลึก f/16

 

A: ระยะชัดของภาพในส่วนโฟร์กราวด์
B: ระยะชัดของภาพในส่วนแบ็คกราวด์
C: ตำแหน่งโฟกัส
หากเราแสดงอัตราส่วนของระยะห่างระหว่างตำแหน่งโฟกัสถึงระยะชัดในส่วนโฟร์กราวด์ และระยะห่างจากตำแหน่งโฟกัสจนถึงระยะชัดในส่วนแบ็คกราวด์ ว่ากันว่าอัตราส่วนโฟกัสจะอยู่ที่ 1:2 โฟร์กราวด์:แบ็คกราวด์

 

 

แนวคิดที่ 2: ความสัมพันธ์ระหว่างรูรับแสงและ f-stop

การตั้งค่าการเปิดรับแสงหรือที่โดยทั่วไปช่างภาพนิยมเรียกกันว่า "f-stop" จะช่วยให้คุณสามารถปรับปริมาณแสงที่เข้าสู่กล้องได้ การตั้งค่าเหล่านี้้เราอาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "EV" หรือค่าการเปิดรับแสงได้เช่นกัน การเพิ่มค่ารูรับแสงขึ้น 1 สต็อปจะลดปริมาณแสงที่เข้าสู่กล้องลงครึ่งหนึ่ง ในทางกลับกัน การลดค่ารูรับแสงลง 1 สต็อปจะเพิ่มปริมาณแสงที่เข้าสู่กล้องมากขึ้นสองเท่า สำหรับกล้อง DSLR ส่วนใหญ่ นอกจาก 1 สต็อปตามมาตรฐานแล้ว คุณยังสามารถตั้งค่าสต็อปที่ระยะ 1/2 และ 1/3 ได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณตั้งค่า 1/3 สต็อป ช่วงของสต็อปทั้งหมดระหว่าง f/2.8 ถึง f/4 จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนั้น ช่วงของสต็อปจะกลายเป็น f/2.8→f/3.2→f/3.5→f/4 เมื่อเราใช้ช่วงที่ 1/3 สต็อปจะช่วยให้การปรับแต่งปริมาณแสงที่เข้าสู่กล้องทำได้ดียิ่งขึ้น

 

 

ข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์: ค่ารูรับแสงกว้างสุดแตกต่างกันในแต่ละเลนส์

เลนส์ซูมมีแบบที่มีช่วงของค่า f อยู่ระหว่าง f/3.5-5.6 ซึ่งเลนส์เหล่านี้เรียกว่า "เลนส์ซูมที่มีรูรับแสงแบบปรับได้" โดยค่ารูรับแสงจะเปลี่ยนไปตามทางยาวโฟกัส ในกรณีที่เป็นเลนส์ EF24-105mm f/3.5-5.6 IS STM รูรับแสง (ค่า f) ที่ระยะมุมกว้าง (24 มม.) จะมีค่า f/3.5 และรูรับแสงที่ฝั่งเทเลโฟโต้ (105 มม.) จะมีค่า f/5.6 ส่วนเลนส์ที่รูรับแสงไม่เปลี่ยนค่าแม้ว่าทางยาวโฟกัสจะเปลี่ยนไปเราเรียกว่า "เลนส์ซูมที่มีรูรับแสงแบบคงที่"

A: ค่ารูรับแสงกว้างสุด (ระยะมุมกว้าง)
B: ค่ารูรับแสงกว้างสุด (ระยะเทเลโฟโต้)

 

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่า f แต่ละค่าและฉากต่างๆ ที่นิยมใช้กันทั่วไป โปรดดูบทความต่อเนื่องเกี่ยวกับเทคนิคการใช้งานฟังก์ชัน Aperture-Priority:

#1: ความสัมพันธ์ระหว่างรูรับแสงของเลนส์และโบเก้
#2: สร้างโบเก้ในส่วนแบ็คกราวด์ให้กับภาพถ่ายครอบครัวที่แสนอบอุ่นและเป็นมิตร
#3: ความมหัศจรรย์ของ f/2.2 ในการถ่ายภาพหุ่นนิ่ง (Still-life)
#4: การถ่ายภาพใบหน้า (f/2.8)
#5: การตั้งค่ากล้องสำหรับการถ่ายภาพพอร์ตเทรตที่สมบูรณ์แบบนอกสถานที่ (f/4)
#6: การตั้งค่ารูรับแสงที่เป็นประโยชน์สำหรับการถ่ายภาพสตรีท (f/5.6)
#7: การตั้งค่ารูรับแสงเพื่อถ่ายทอดภาพทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่คมชัด (f/8)
#8: ค่ารูรับแสงที่เหมาะกับการถ่ายภาพทิวทัศน์ธรรมชาติให้ดูคมชัดและมีระยะชัดลึก (f/11)
#9: ถ่ายทอดภาพทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่คมชัดตั้งแต่ส่วนโฟร์กราวน์จนถึงแบ็คกราวด์ (f/16)

 

รับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับข่าวสาร เคล็ดลับและลูกเล่นในการถ่ายภาพได้โดย ลงทะเบียนเป็นสมาชิกกับเรา!

 

Tomoko Suzuki

 

หลังเรียนจบจากวิทยาลัยของมหาวิทยาลัยโตเกียวโพลีเทคนิคแล้ว Suzuki ก็เข้าทำงานกับบริษัทโปรดักชั่นโฆษณาแห่งหนึ่ง เธอได้ทำงานเป็นผู้ช่วยให้กับช่างภาพหลายคน รวมถึง Kirito Yanase และมีความเชี่ยวชาญการถ่ายภาพโฆษณาผลิตภัณฑ์จำพวกเครื่องแต่งกายและเครื่องสำอางอีกด้วย ตอนนี้เธอทำงานเป็นช่างภาพสตูดิโอให้กับบริษัทผลิตเสื้อผ้าแห่งหนึ่ง

 

Digital Camera Magazine

 

นิตยสารรายเดือนที่เชื่อว่าความสุขของการถ่ายภาพจะยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ถ่ายภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องมากยิ่งขึ้น นิตยสารเล่มนี้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับกล้องรุ่นใหม่ๆ รวมถึงคุณสมบัติของกล้องและนำเสนอเทคนิคการถ่ายภาพอย่างหลากหลาย
จัดพิมพ์โดย Impress Corporation

 

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา