เลนส์เดี่ยวซูเปอร์เทเลโฟโต้ Big White รุ่นแรกสำหรับเมาท์ RF
เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2021 Canon ได้เปิดตัวเลนส์ RF400mm f/2.8L IS USM และ RF600mm f/4L IS USM ซึ่งเป็นเลนส์เดี่ยวซูเปอร์เทเลโฟโต้ระดับมืออาชีพรุ่นแรกสำหรับเมาท์ RF เลนส์เดี่ยว 400 และ 600 มม. มีความสำคัญสำหรับการถ่ายภาพกีฬา ชีวิตสัตว์ป่า และการถ่ายภาพนก และเป็นเลนส์ที่แต่ละกลุ่มเลนส์จะขาดไปไม่ได้ การเปิดตัวเวอร์ชันเมาท์ RF ปกติซึ่งผู้ที่สนใจการถ่ายภาพและช่างภาพมืออาชีพในสาขาเหล่านี้ต่างรอคอยนั้น เป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของ Canon ในการสร้างระบบนิเวศของเลนส์ที่ผ่านการคิดไตร่ตรองมาอย่างดี เราจะมาทำความรู้จักคุณสมบัติหลักของเลนส์ทั้งสองรุ่นนี้กัน
RF400mm f/2.8L IS USM และ RF600mm f/4L IS USM เป็นเลนส์เดี่ยวซูเปอร์เทเลโฟโต้รุ่นเส้นแดง (ซีรีย์ L) สำหรับเมาท์ RF รุ่นแรกของ Canon เลนส์ 400 และ 600 มม. เป็นเลนส์ที่ช่างภาพข่าวกีฬาใช้เป็นประจำ รวมถึงช่างภาพชีวิตสัตว์ป่า นก รางรถไฟ และการบิน เนื่องจากให้ระยะการถ่ายภาพที่จำเป็นต่อการจับภาพตัวแบบของพวกเขา การเปิดตัวเวอร์ชันเมาท์ RF ปกติ ช่วยให้การเปลี่ยนมาใช้ระบบ EOS R เป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่งขึ้นเพราะไม่จำเป็นต้องใช้เมาท์อะแดปเตอร์
คุณสมบัติที่คุณจะได้รับ:
- - ประสิทธิภาพด้านออพติคอลที่ยอดเยี่ยมในบอดี้น้ำหนักเบา
- - IS แบบออพติคอลสูงสุด 5.5 สต็อป
- - AF ประสิทธิภาพสูงด้วยระบบแมนนวลโฟกัสแบบ Full-time ในโหมด Servo AF
- - ความสามารถในการถ่ายวิดีโอที่ดียิ่งขึ้น
- - รองรับท่อต่อเลนส์
- - ความน่าเชื่อถือและความทนทานระดับมืออาชีพ
- - ข้อมูลจำเพาะที่สำคัญ
- - ภาพตัวอย่าง
สืบทอดประสิทธิภาพออพติคอลอันยอดเยี่ยมภายในบอดี้ที่เบาขึ้น
ทั้งเลนส์ RF400mm f/2.8L IS USM และ RF600mm f/4L IS USM ต่างก็ใช้การออกแบบด้านออพติคอลและกลไกเช่นเดียวกับ EF400mm f/2.8L IS III USM และ EF600mm f/4L IS III USM ซึ่งวางจำหน่ายไปเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2018 โดยมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสำหรับเมาท์ RF เลนส์ EF ทั้งสองรุ่นได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมากด้วยน้ำหนักที่เบาลงอย่างเห็นได้ชัดและคุณภาพด้านออพติคอลที่ดีกว่าเลนส์รุ่นก่อน (รุ่น Mark II) ด้วยการนำเทคโนโลยีจำลองการออกแบบใหม่ล่าสุดมาใช้
เลนส์ RF400mm f/2.8L IS USM และ RF600mm f/4L IS USM ต่างก็ใช้ชิ้นเลนส์ฟลูออไรต์ (ฉบับภาษาอังกฤษ) 2 ชิ้นและชิ้นเลนส์ Super UD (ฉบับภาษาอังกฤษ) 1 ชิ้น ชิ้นเลนส์เหล่านี้สามารถแก้ไขความคลาดสีได้อย่างหมดจดและให้การแสดงภาพรวมถึงความเปรียบต่างที่ยอดเยี่ยม จึงสามารถถ่ายภาพในระยะใกล้ได้อย่างน่าประทับใจแม้ใช้ทางยาวโฟกัสอันมีชื่อเสียงของเลนส์ การใช้การเคลือบแบบ Air Sphere Coating (ASC) (ฉบับภาษาอังกฤษ) ของ Canon ทำให้สามารถควบคุมแสงหลอกและแสงแฟลร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้จะมีแหล่งกำเนิดแสงจ้าในเฟรม ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มีประโยชน์ในฉาก เช่น กีฬาแข่งรถ เมื่อมีแสงไฟจากหน้ารถ
RF400mm f/2.8L IS USM
EOS R5/ RF400mm f/2.8L IS USM/ FL: 400 มม./ Aperture-priority AE (f/2.8, 1/3200 วินาที)/ ISO 200/ WB: แสงแดด
RF600mm f/4L IS USM
EOS R5/ RF600mm f/4L IS USM/ FL: 600 มม./ Manual exposure (f/5.6, 1/2000 วินาที)/ ISO 200/ WB: อัตโนมัติ
ถ่ายภาพโดยถือกล้องด้วยมือได้อย่างง่ายดายด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวสูงสุด 5.5 สต็อป
ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกีฬาหรือนกป่า ตัวแบบที่คุณถ่ายด้วยเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้มักจะกำลังเคลื่อนไหวและติดตามโดยใช้มือได้ง่ายกว่า แต่จะมองเห็นการสั่นของกล้องได้เมื่อใช้ทางยาวโฟกัสที่ยาว แต่สำหรับเลนส์ RF400mm f/2.8L IS USM และ RF600mm f/4L IS USM คุณไม่จำเป็นต้องลังเลใจเลย เนื่องจากเลนส์มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออพติคอล (ภายในเลนส์) (IS แบบออพติคอล) สูงสุดเทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์ 5.5 สต็อป ซึ่งสามารถลดการสั่นของกล้องลงได้มาก จึงทำให้ถ่ายภาพออกมาดีได้ง่ายดายยิ่งขึ้น
EOS R / เปิด IS/ ที่ 1/8 วินาที
EOS R / ปิด IS/ ที่ 1/8 วินาที
ทั้งสองภาพ: EOS R/ RF400mm f/2.8L IS USM/ FL: 400 มม./ Manual exposure (f/2.8, 1/8 วินาที)/ ISO 400/ WB: อัตโนมัติ
IS 3 โหมดเพื่อรองรับฉากที่แตกต่างกัน
เช่นเดียวกับเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ในแบบเมาท์ EF เลนส์ RF400mm f/2.8L IS USM และ RF600mm f/4L IS USM มีโหมด IS สามโหมดที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ IS ให้เหมาะกับตัวแบบและฉากประเภทต่างๆ
โหมด 1: ชดเชยการสั่นของกล้องในทุกทิศทาง เหมาะสำหรับตัวแบบที่อยู่นิ่ง
โหมด 2: ไม่สามารถชดเชยการสั่นของกล้องในทิศทางที่เลนส์กำลังเคลื่อนที่ เหมาะสำหรับการถ่ายแบบแพนกล้อง
โหมด 3: ชดเชยการสั่นของกล้องเฉพาะระหว่างเปิดรับแสงเท่านั้น ทำให้ง่ายต่อการจับตามองตัวแบบที่เคลื่อนที่แบบคาดเดาไม่ได้เมื่อมองผ่านช่องมองภาพ
เมื่อติดตั้งเลนส์ใดก็ตามเข้ากับกล้องที่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวกล้อง (IS ในตัวกล้อง) เช่น EOS R5 หรือ EOS R6 การสั่นของกล้องแบบมุมองศาจะได้รับการแก้ไขด้วย IS แบบออพติคอล ในขณะที่การสั่นในแนวดิ่งและการสั่นจากการหมุนกล้องจะได้รับการแก้ไขด้วย IS ในตัวกล้อง จึงสามารถป้องกันภาพสั่นไหวได้ทั้งห้าแกน
EOS R5/ RF400mm f/2.8L IS USM/ FL: 400 มม./ Manual exposure (f/2.8, 1/15 วินาที)/ ISO 6400/ WB: อัตโนมัติ
การควบคุม AF ที่ยอดเยี่ยม รองรับการปรับแมนนวลโฟกัสเมื่อใช้โหมด Servo AF
เนื่องจากเลนส์ RF400mm f/2.8L IS USM และ RF600mm f/4L IS USM มีไมโครโปรเซสเซอร์ประสิทธิภาพสูงภายในเลนส์ จึงสามารถควบคุมมอเตอร์โฟกัสได้อย่างแม่นยำ คุณสมบัตินี้ เมื่อรวมกับการประสานการทำงานที่ดีขึ้นของอัลกอริธึม AF ในกล้อง จึงทำให้ AF มีความเร็วและความแม่นยำเพิ่มมากขึ้น
ความสามารถในการใช้แมนนวลโฟกัสแบบ Full-time ระหว่างใช้โหมด Servo AF* ซึ่งเคยเป็นคุณสมบัติที่มีให้ใช้เมื่อต้องการเท่านั้นในเวอร์ชัน EF ได้กลายเป็นคุณสมบัติที่มีพร้อมใช้อยู่แล้ว ผู้ใช้จึงสามารถปรับแต่งตำแหน่งโฟกัสแบบแมนนวลได้ไม่ว่าจะใช้โหมด One Shot AF หรือ Servo AF ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติทั้งสองได้อย่างเต็มที่ทั้ง AF ที่แม่นยำและการติดตามตัวแบบของระบบ EOS R รวมทั้งตัวเลือกในการควบคุมและปรับโฟกัสแบบแมนนวลได้ตามความต้องการ
*ไม่รองรับใน EOS R/RP/Ra อัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชัน 1.3.0 หรือใหม่กว่าตามความต้องการของกล้อง EOS R5/R6
EOS R5/ RF400mm f/2.8L IS USM/ FL: 400 มม./ Manual exposure (f/8, 1/640 วินาที)/ ISO 100/ WB: แสงแดด
ฟังก์ชันการตั้งค่าโฟกัสล่วงหน้าช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดเก็บตำแหน่งโฟกัสที่ปรับแต่งเองได้สูงสุดสองแบบ ซึ่งสามารถดึงออกมาใช้ได้ทันทีโดยการหมุนวงแหวน Playback ซึ่งจะทำการตั้งค่าโฟกัสตามระยะการถ่ายภาพที่ตั้งไว้ล่วงหน้าได้ทันที
วงแหวนโฟกัสที่สามารถปรับแต่งสัมผัสในการใช้งานได้
ในการตั้งค่าเริ่มต้น วงแหวนโฟกัสอิเล็กทรอนิกส์จะทำให้ USM (มอเตอร์อัลตร้าโซนิค) ขยับและขับเคลื่อนชุดโฟกัสตามระดับการหมุนวงแหวน จึงทำให้ใช้แมนนวลโฟกัสได้อย่างง่ายดายเมื่อใช้แรงบิดที่เหมาะสม นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถเลือกความไวในการโฟกัสได้สามระดับ (ปริมาณการเลื่อนตำแหน่งโฟกัสตามระดับการหมุน) จึงสามารถตอบสนองความต้องการด้านความเร็วและความแม่นยำของการโฟกัสแบบแมนนวลที่แตกต่างกันได้
แม้เลนส์จะไม่มีวงแหวนควบคุมจริง แต่ก็สามารถกำหนดฟังก์ชันของวงแหวนควบคุมให้กับวงแหวนโฟกัสได้ในกล้องที่มีอินเทอร์เฟซที่รองรับการปรับแต่งเช่นนี้
ประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมสำหรับการถ่ายวิดีโอ
กล้องในซีรีย์ EOS R นั้นทำได้มากกว่าเพียงแค่ถ่ายภาพนิ่งเท่านั้น ดังที่ EOS R5 ได้แสดงความสามารถในการถ่ายวิดีโอแบบ 8K ให้เห็นแล้วว่ามีประสิทธิภาพในการถ่ายวิดีโอที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน
เลนส์ RF400mm f/2.8L IS USM และ RF600mm f/4L IS USM ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้นำเอาความสามารถด้านการถ่ายวิดีโอเหล่านี้ไปใช้ได้ดียิ่งขึ้น ตัวอย่างหนึ่งคือความสามารถในการควบคุมการเปิดรับแสงที่ดียิ่งขึ้นระหว่างการถ่ายวิดีโอซึ่งมักจะมีความเร็วชัตเตอร์คงที่ และใช้การตั้งค่ารูรับแสงเป็นวิธีหลักในการปรับความสว่างในเฟรมภาพให้สว่างขึ้นหรือมืดลง อย่างไรก็ตาม การปรับค่าโดยทั่วไปครั้งละ 1/3 สต็อปนั้นจะกะทันหันเกินไปสำหรับวิดีโอ เลนส์ RF400mm f/2.8L IS USM และ RF600mm f/4L IS USM รองรับการปรับรูรับแสงครั้งละ 1/8 สต็อปในโหมดการถ่ายภาพเคลื่อนไหว จึงสามารถเปลี่ยนระดับความสว่างได้อย่างแนบเนียน
โหมดโฟกัสด้วยระบบไฟฟ้า
โหมดโฟกัสด้วยระบบไฟฟ้าทำให้ผู้ใช้ควบคุมตำแหน่งโฟกัสแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้โดยการหมุนวงแหวน Playback ความเร็วในการเคลื่อนไหวของโฟกัสจะถูกกำหนดโดยระดับการหมุน โดยมีความไวให้เลือกสองระดับ ซึ่งเหมาะสำหรับการติดตามโฟกัสในขณะถ่ายวิดีโอ
เข้าใกล้ได้มากยิ่งขึ้น: รองรับ Extender RF 1.4x/ 2x
ทั้ง RF400mm f/2.8L IS USM และ RF600mm f/4L IS USM รองรับ Extender RF 1.4 x และ Extender RF 2x ซึ่งสามารถเพิ่มทางยาวโฟกัสของเลนส์ชิ้นหลักได้ 1.4 และ 2.0 เท่าตามลำดับ จึงเป็นการยืดทางยาวโฟกัสของเลนส์ RF400mm f/2.8L IS USM ออกเป็น 560 และ 800 มม. และเลนส์ RF600mm f/4L IS USM เป็น 840 และ 1200 มม. ซึ่งช่วยให้คุณเข้าใกล้ตัวแบบได้มากขึ้นในฉากที่จำเป็น
Extender RF 1.4x
Extender RF 2x
ความน่าเชื่อถือและความทนทานระดับมืออาชีพ
การเคลือบกันความร้อน
เลนส์ใช้การเคลือบป้องกันความร้อนสีขาวอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งทำให้เลนส์เทเลโฟโต้ระดับมืออาชีพของ Canon รุ่นนี้มีชื่อเล่นว่า “Big White” การเคลือบจะช่วยรักษาคุณภาพของภาพเอาไว้ไม่ให้ลดลงเนื่องจากความร้อนที่สะสมอยู่ภายในเลนส์เมื่อถ่ายภาพกลางแจ้งในวันที่มีอากาศร้อน
ดีไซน์กันฝุ่นและหยดน้ำ
เลนส์ได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นและหยดน้ำเข้ามาภายในเลนส์ด้วยซีลป้องกันสภาพอากาศบนวงแหวน สวิตช์ ข้อต่อ และปุ่มควบคุมต่างๆ จึงช่วยเพิ่มความทนทานและความน่าเชื่อถือได้มากยิ่งขึ้น
RF400mm f/2.8L IS USM
โครงสร้างเลนส์
A: ชิ้นเลนส์ฟลูออไรต์ / B: ชิ้นเลนส์ Super UD / C: ASC
เคลือบฟลูออรีนป้องกันการเปื้อนบนพื้นผิวด้านหน้าและด้านหลังเลนส์
โครงสร้างเลนส์: 17 ชิ้นเลนส์ใน 13 กลุ่ม
ระยะโฟกัสใกล้สุด: 2.5 ม.
กำลังขยายสูงสุด: 0.17 เท่า
จำนวนม่านรูรับแสง: 9 (กลีบ)
เส้นผ่านศูนย์กลางฟิลเตอร์: 52 มม. (ฟิลเตอร์แบบ Drop-in)
ขนาด: φ163×367 มม.
น้ำหนัก: ประมาณ 2,890 ก.
RF600mm f/4L IS USM
โครงสร้างเลนส์
A: ชิ้นเลนส์ฟลูออไรต์ / B: ชิ้นเลนส์ Super UD / C: ASC
เคลือบฟลูออรีนป้องกันการเปื้อนบนพื้นผิวด้านหน้าและด้านหลังเลนส์
ข้อมูลจำเพาะที่สำคัญ
โครงสร้างเลนส์: 17 ชิ้นเลนส์ใน 13 กลุ่ม
ระยะโฟกัสใกล้สุด: 4.2 ม.
กำลังขยายสูงสุด: 0.15 เท่า
จำนวนม่านรูรับแสง: 9 (กลีบ)
เส้นผ่านศูนย์กลางฟิลเตอร์: 52 มม. (ฟิลเตอร์แบบ Drop-in)
ขนาด: φ168×472 มม.
น้ำหนัก: ประมาณ 3,090 ก.
อุปกรณ์เสริมที่มีให้
เลนส์ฮูด
ET-155(WIII) สำหรับ RF400mm f/2.8L IS USM
ET-160(WIII) สำหรับ RF600mm f/4L IS USM
ฝาครอบเลนส์
E-180 สำหรับ RF400mm f/2.8L IS USM
E-185 สำหรับ RF600mm f/4L IS USM
ตัวยึดขาตั้งกล้อง
มีรูปทรงกริดที่ปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น
เคสใส่เลนส์ชนิดอ่อน LS400 หรือ LS600
เคสชนิดอ่อนที่มีน้ำหนักเบาเพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้น
ตัวล็อคฟิลเตอร์เกลียวแบบ Drop-in ขนาด 52 (WIII) พร้อมฟิลเตอร์ป้องกัน 52 มม.
อุปกรณ์เสริมอื่นๆ (แยกจำหน่ายต่างหาก)
เลนส์ฮูดชนิดสั้น
ET-155B สำหรับ RF400mm f/2.8L IS USM
ET-160B สำหรับ RF600mm f/4L IS USM
เมาท์สำหรับขาตั้งกล้องแบบขาเดียว
(ซื้อได้จากศูนย์บริการ)
ฟิลเตอร์โพลาไรซ์ทรงกลมแบบ Drop-in รุ่น PL-C52 (WIII)
ตัวล็อคฟิลเตอร์เจลาตินแบบ Drop-in 52 (WIII)
ภาพตัวอย่าง
EOS R5/ RF400mm f/2.8L IS USM/ FL: 400 มม./ Aperture-priority AE (f/2.8, 1/1600 วินาที)/ ISO 200/ WB: แสงแดด
EOS R5/ RF400mm f/2.8L IS USM + Extender RF 2x/ FL: 800 มม./ Aperture-priority AE (f/5.6, 1/800 วินาที, EV -0.3)/ ISO 800/ WB: แสงแดด
EOS R5/ RF600mm f/4L IS USM/ FL: 600 มม./ Manual exposure (f/10, 1/160 วินาที)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ
EOS R5/ RF600mm f/4L IS USM+ Extender RF 2x/ FL: 1200 มม./ Aperture-priority AE (f/8, 1/1250 วินาที, EV -0.3)/ ISO 2500/ WB: แสงแดด
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!