เลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM กับท่อต่อเลนส์ RF สองรุ่น: ยุคใหม่แห่งการถ่ายภาพซูเปอร์เทเลโฟโต้
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2020 Canon ได้เปิดตัวเลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM ซึ่งเป็นเลนส์ซูมซูเปอร์เทเลโฟโต้รุ่นแรกในระบบ EOS R รวมทั้งท่อต่อเลนส์ใหม่สองรุ่นคือ Extender RF 1.4x และ Extender RF 2x อย่างเป็นทางการ เลนส์นี้เป็นเลนส์รุ่นแรกสำหรับกล้อง EOS ระดับเดียวกันที่ครอบคลุมระยะโฟกัส 100 มม. ถึง 500 มม. และยังให้คุณภาพของภาพ โฟกัสอัตโนมัติ และประสิทธิภาพการป้องกันภาพสั่นไหวที่โดดเด่นตามแบบฉบับซีรีย์ L สำหรับมืออาชีพ เมื่อใช้คู่กับกล้อง EOS R5 หรือ EOS R6 ซึ่งได้รับการปรับปรุง AF ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างมาก เลนส์และท่อต่อเลนส์เหล่านี้จึงทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้ภาพซูเปอร์เทเลโฟโต้ระดับมืออาชีพด้วยระบบกล้องที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดและพกพาสะดวก
1. ขนาด น้ำหนัก และความครอบคลุม
2. ประสิทธิภาพ AF
3. ระบบ IS
4. การออกแบบออพติคอล
5. ความทนทานและความสามารถในการใช้งาน
1. น้ำหนักเบากว่า จึงเข้าใกล้ได้มากกว่า
จวบจนปัจจุบัน Canon ได้เปิดตัวเลนส์ซูมซูเปอร์เทเลโฟโต้สำหรับระบบ EOS R มาแล้วสองรุ่น คือ RF70-200mm f/2.8L IS USM และ RF24-240mm f/4-6.3 IS USM อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ที่ต้องการถ่ายภาพที่มีคุณภาพระดับมืออาชีพในบางประเภท เช่น ภาพกีฬากลางแจ้งหรือสัตว์ป่า อาจกำลังเฝ้ารอเลนส์ที่ทำให้พวกเขาเข้าใกล้ตัวแบบได้มากกว่านี้ และการรอคอยนั้นสิ้นสุดลงแล้วด้วยเลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM ซึ่งใครๆ คาดหวังนับตั้งแต่ประกาศว่าจะมีการพัฒนาเลนส์
EOS R5/ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM/ FL: 500 มม./ Manual exposure (f/7.1, 1/4000 วินาที)/ ISO 800/ WB: แสงแดด
แม้เลนส์รุ่นใหม่นี้จะเป็นเลนส์ซูมซูเปอร์เทเลโฟโต้ในซีรีย์ L เช่นเดียวกับ EF100-400mm f/4.5-5.6L IS II USM อันเป็นที่ชื่นชอบกันมาก แต่กลับมีระยะที่ยาวกว่า 100 มม. และยังมีน้ำหนักเบากว่า 205 ก.
RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM | φ93.8×207.6 มม. | ประมาณ 1370 ก. |
EF100-400mm f/4.5-5.6L IS II USM | φ94×193 มม. | ประมาณ 1570 ก. |
*ไม่รวมคอลลาร์สำหรับยึดขาตั้งกล้อง
ความสะดวกในการพกพาที่มาพร้อมประสิทธิภาพ: เป็นไปได้ด้วยระบบ EOS R
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เลนส์มีน้ำหนักเบาลงได้คือรูรับแสงกว้างสุด f/7.1 ที่ระยะเทเลโฟโต้ ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) ในกล้องซีรีย์ EOS R จะมีแสงในช่องมองภาพที่ทำให้เห็นฉากได้สว่างขึ้นแม้รูรับแสงกว้างสุดจะค่อนข้างแคบและ “มืด” และมีการจำลองระดับแสงที่บอกให้คุณทราบเมื่อการตั้งค่าระดับแสงมืดเกินไป เพื่อให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่าได้ นอกจากนี้ ความไวต่อแสงที่สูงขึ้นของกล้องยังหมายความว่าประสิทธิภาพของ AF นั้นจะทำงานได้อย่างไม่จำกัดแม้ที่ f/7.1
ปัจจัยเหล่านี้ช่วยลดความจำเป็นในการใช้รูรับแสงกว้างสุดที่กว้างแม้ที่ระยะ 500 มม. ซึ่งจะทำให้เลนส์มีขนาดใหญ่และหนักมาก คุณจึงอาจกล่าวได้ว่า ความสมดุลที่ได้ระหว่างน้ำหนัก ความสะดวกในการพกพา คุณภาพของภาพที่สูง และประสิทธิภาพนั้นเกิดขึ้นได้เพราะเลนส์ได้รับการปรับแต่งมาให้ทำงานร่วมกับระบบ EOS R
ใช้คู่กับท่อต่อเลนส์เพื่อความสามารถรอบด้านยิ่งขึ้น
คุณสามารถเพิ่มระยะในการเข้าใกล้ของเลนส์ได้โดยการติดตั้งท่อต่อเลนส์ RF ใหม่รุ่นใดรุ่นหนึ่ง สมมติว่าตำแหน่งการซูมของเลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM ต้องอยู่ที่ 300 มม. เป็นอย่างน้อยเพื่อติดตั้งท่อต่อเลนส์ ระยะโฟกัสเมื่อติดตั้งท่อต่อเลนส์จะกลายเป็น:
- เมื่อติดตั้ง Extender RF 1.4x (1.4 เท่า): 420-700 มม.
- เมื่อติดตั้ง Extender RF 2x (2.0 เท่า): 600-1000 มม.
ซึ่งทำให้คุณสามารถถ่ายภาพซูเปอร์เทเลโฟโต้ได้อย่างจริงจัง ทั้งยังรองรับ AF อีกด้วย
ข้อควรรู้: อุปกรณ์สามชิ้นเพื่อครอบคลุมระยะ 24 มม. ถึง 700 มม.
หากคุณต้องเดินทางบ่อยๆ เพื่อถ่ายภาพเหตุการณ์ปัจจุบัน นก หรือทิวทัศน์ธรรมชาติ คุณคงอยากถือสัมภาระติดตัวไปให้น้อยที่สุด พกเลนส์ซูมมาตรฐาน RF24-105mm f/4L IS USM เลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM และ Extender RF 1.4x ติดตัวไปด้วยเพื่อให้ถ่ายภาพได้ครอบคลุมมุมรับภาพตั้งแต่ 24 มม. จนถึง 700 มม. ได้อย่างราบรื่น
เคล็ดลับ: ในกล้อง EOS R5 ความละเอียด 45 ล้านพิกเซล การถ่ายภาพด้วยโหมดครอป 1.6 เท่าจะทำให้คุณได้ความละเอียด 17.3 ล้านพิกเซล ใช้โหมดนี้เพื่อขยายทางยาวโฟกัสของคุณได้สูงสุดถึง 1600 มม.
2. ท่อต่อเลนส์ RF 2x ช่วยให้โฟกัสอัตโนมัติได้แม้ขณะถ่ายภาพที่ระยะ 1000 มม. ด้วยค่า f/14!
เช่นเดียวกับ RF70-200mm f/2.8L IS USM เลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM ใช้ระบบควบคุมโฟกัสอิเล็กทรอนิกส์แบบชิ้นเลนส์ลอยตัว ขับเคลื่อนโดย Nano USM สองชุด Nano USM เป็นมอเตอร์อัลตร้าโซนิคแบบชิปขนาดจิ๋วที่มีแรงบิดอันทรงพลัง เนื่องจากสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วและละเอียด จึงจับโฟกัสได้อย่างว่องไวในระหว่างการถ่ายภาพนิ่ง และยังสามารถติดตามตัวแบบได้อย่างราบรื่นและไม่สะดุดในการถ่ายวิดีโอด้วย ชุด Nano USM แบบคู่ทำให้สามารถควบคุมชิ้นเลนส์ลอยตัวและชิ้นเลนส์โฟกัสได้เป็นอิสระจากกัน ซึ่งช่วยปรับปรุงการออกแบบกลไกของเลนส์ให้ดียิ่งขึ้นและทำให้มีน้ำหนักเบาขึ้นพร้อมทั้งให้คุณภาพของภาพที่สูงด้วย
เลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM สามารถใช้ได้กับกล้องในระบบ EOS R ทุกรุ่น รวมถึงกล้อง EOS R รุ่นแรกและ EOS R5 และ EOS R6 รุ่นใหม่โดยไม่จำกัดประสิทธิภาพของระบบ AF ในกล้อง ไม่ว่าจะติดตั้งท่อต่อเลนส์ RF รุ่นใด พื้นที่ AF จะแคบลงเพียงเล็กน้อย แต่นอกจากนั้น ฟังก์ชั่นต่างๆ ของ AF ก็แทบจะคงเดิมทั้งหมด
พื้นที่ AF เมื่อใช้เลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM กับท่อต่อเลนส์ RF
EOS R / EOS Ra / EOS RP
(1) เมื่อใช้ RF 1.4x ที่ f/10: 80%×80%
(2) เมื่อใช้ RF 2x ที่ f/14: 40% (แนวนอน)×60% (แนวตั้ง)
EOS R5 / EOS R6
(1) เมื่อใช้ RF 1.4x ที่ f/10: 80%×80%
(2) เมื่อใช้ RF 2x ที่ f/14: 80%×80%
ในกล้องระบบอื่นๆ รูรับแสงกว้างสุดที่แคบมักจะทำให้จำนวนจุด AF ที่ใช้ได้ลดลงไปมาก แต่นี่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับระบบ EOS R เนื่องจากมีเมาท์ RF เส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่ ซึ่งให้แสงผ่านเข้ามาจนถึงมุมของเซนเซอร์ภาพได้อย่างเพียงพอ และระบบ Dual Pixel CMOS AF ที่สามารถดึงข้อมูลการตรวจจับระยะได้จากพิกเซลภาพทั้งหมด เมื่อรวมกัน คุณจึงได้ระบบ AF ที่มีความรวดเร็วทันใจ
3. ระบบป้องกันภาพสั่นไหวสูงสุดถึง 6 สต็อปเมื่อใช้ร่วมกับระบบ IS ในบอดี้
ระบบ IS แบบออพติคอลสามโหมดเพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์การถ่ายภาพที่แตกต่างกัน
ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออพติคอล (IS แบบออพติคอล) ในตัวเลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM นั้นสามารถป้องกันภาพสั่นไหวได้เทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 5 สต็อป และมีโหมด IS สามโหมดได้แก่
- โหมด IS ที่ 1: แก้ไขการสั่นของกล้องขณะถ่ายตัวแบบที่อยู่นิ่งกับที่
- โหมด IS ที่ 2: สำหรับการแพนกล้อง ไม่แก้ไขการเบลอที่เกิดในทิศทางเดียวกับการแพนกล้อง
- โหมด IS ที่ 3: จะคำนวณการสั่นของกล้องเมื่อกดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งและขยับชุด IS เมื่อกดปุ่มชัตเตอร์ลงจนสุดเท่านั้น
โหมด IS ที่ 3 จะทำให้ภาพในช่องมองภาพไม่สั่นเมื่อถ่ายภาพตัวแบบที่มีการเคลื่อนไหวไม่สม่ำเสมอ เช่น ในการแข่งขันกีฬาที่ใช้ลูกบอล เช่น ฟุตบอล โหมดนี้ทำให้เลนส์มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับการถ่ายภาพกีฬาในระดับมืออาชีพ
การประสานกับระบบ IS ในบอดี้กล้องเพื่อประสิทธิภาพการป้องกันภาพสั่นไหวที่เพิ่มมากขึ้น
เมื่อติดตั้งเลนส์กับกล้อง EOS R5 หรือ EOS R6 ซึ่งมีระบบ IS ในบอดี้กล้องที่ขยับเซนเซอร์ตามแนวแกนทั้ง 5 จะเกิดการทำงานของระบบ IS แบบประสานการควบคุม ซึ่งประสานการทำงานของ IS แบบออพติคอลและ IS ในบอดี้กล้อง ซึ่งสามารถแก้ไขการสั่นของกล้องได้เทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์สูงสุดถึง 6 สต็อป* ที่ระยะ 500 มม. ขณะถ่ายวิดีโอ คุณสามารถใช้ Movie Digital IS ร่วมกับระบบ IS แบบประสานการทำงานได้ เพื่อให้ได้ฟุตเทจที่นิ่งมากขึ้นแม้ถ่ายด้วยมือในขณะที่กำลังเดิน
*อิงตามการทดสอบด้วยมาตรฐาน CIPA เมื่อติดตั้งลงบนกล้อง EOS R5 ที่ทางยาวโฟกัส 500 มม. เมื่อใช้กล้อง EOS R5 กับเฟิร์มแวร์ของกล้องซึ่งจะเปิดตัวในปลายเดือนสิงหาคม
EOS R5: ปิด IS
ทางยาวโฟกัส: 100 มม.
ความเร็วชัตเตอร์: 2 วินาที
EOS R5: เปิด IS
ทางยาวโฟกัส: 100 มม.
ความเร็วชัตเตอร์: 2 วินาที
4. การออกแบบออพติคอลของเลนส์ใช้ประโยชน์เต็มที่จากเทคโนโลยีการจำลองใหม่ล่าสุด
เลนส์เทเลโฟโต้และซูเปอร์เทเลโฟโต้นั้นทำให้เกิดสีเพี้ยนได้ง่าย เพื่อลดปัญหาในข้อนี้ เลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM จึงใช้ชิ้นเลนส์ UD (ฉบับภาษาอังกฤษ) 6 ชิ้นและชิ้นเลนส์ Super UD 1 ชิ้น นอกจากนี้ยังใช้การเคลือบแบบ Air Sphere Coating (ASC) ซึ่งช่วยลดการเกิด แสงหลอกและแสงแฟลร์ การออกแบบนี้ เมื่อรวมกับเส้นผ่านศูนย์กลางเมาท์ขนาดใหญ่และระยะห่างจากท้ายเลนส์ถึงเซนเซอร์ที่สั้นของเมาท์ RF จึงสามารถให้ภาพคุณภาพสูงได้ตลอดช่วงการซูมซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเลนส์ L
A: ชิ้นเลนส์ Super UD
B: ชิ้นเลนส์ UD
C: ASC
เคลือบฟลูออรีนป้องกันรอยเปื้อนบนพื้นผิวเลนส์ด้านหน้า
การนำเทคโนโลยีการจำลองออพติคอลใหม่ล่าสุดมาใช้ในการออกแบบเลนส์ยังช่วยให้นักออกแบบเลนส์ของ Canon ป้องกันการเกิดสีเบลอในพื้นที่ที่มีโบเก้ในส่วนที่อยู่นอกโฟกัสของภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย ทำให้ได้โบเก้ที่สวยงามและนุ่มนวลแม้ใช้ค่า f/7.1 ที่ 500 มม. ของระยะเทเลโฟโต้
EOS R5/ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM / FL: 500 มม./ Aperture-priority AE (f/6.7, 1/180 วินาที, EV +0.5)/ ISO 100/ WB: แสงแดด
5. ความทนทานและความสามารถในการใช้งานสูง
การเคลือบกันความร้อน ป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำ
เลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM ใช้การเคลือบกันความร้อนสีขาวซึ่งได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเลนส์ซูมเทเลโฟโต้และเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ในซีรีย์ L ของ Canon การเคลือบนี้จะช่วยลดอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นภายในเลนส์ซึ่งเกิดขึ้นในขณะถ่ายภาพท่ามกลางอากาศร้อน ดังนั้น คุณจึงมั่นใจได้ว่าคุณภาพของภาพจะไม่ได้รับผลกระทบ เช่นเดียวกับเลนส์ L ของ Canon เลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM ยังมีโครงสร้างที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำ ซึ่งช่วยเพิ่มความทนทานของเลนส์ในสภาพแวดล้อมการถ่ายภาพที่หลากหลาย
วงแหวนควบคุมที่ใช้เป็นวงแหวนปรับเพื่อเปลี่ยนความรู้สึกในการใช้งานวงแหวนการซูม
วงแหวนควบคุมอันโดดเด่นของเลนส์ RF นั้นอยู่ที่ด้านหลังของเลนส์ใกล้กับเมาท์ เนื่องจากปรับแต่งเองได้อย่างสะดวก จึงสามารถกำหนดวงแหวนให้เป็นตัวควบคุมรูรับแสง ความเร็วชัตเตอร์ ค่าความไวแสง ISO หรือการชดเชยแสงได้ ทำให้คุณปรับการตั้งค่าการเปิดรับแสงต่างๆ ได้รวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น
A: วงแหวนซูม
B: วงแหวนปรับ (เพื่อปรับความรู้สึกในการใช้งานวงแหวนซูมตั้งแต่ “ลื่น” ไปจนถึง “แน่น”)
C: วงแหวนโฟกัส (อิเล็กทรอนิกส์)
D: วงแหวนควบคุม (สามารถกำหนดให้ควบคุมรูรับแสง ความเร็วชัตเตอร์ ความไวแสง ISO และการชดเชยแสงได้)
ท่อเลนส์ขยายได้
ส่วนปลายด้านหน้าของเลนส์จะขยายและหดกลับได้ขณะซูม การหมุนวงแหวนปรับไปที่ “แน่น” จะช่วยป้องกันการซูมไหลเมื่อถือเลนส์ชี้ลงด้านล่าง
ดีไซน์ป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำ
รอยต่อและแผงสวิตช์ต่างๆ ของเลนส์ได้รับการซีลเพื่อป้องกันไม่ให้หยดน้ำและฝุ่นละอองเข้ามาภายในเลนส์ การเคลือบฟลูออรีนป้องกันรอยเปื้อนบนชิ้นเลนส์ด้านหน้าช่วยให้สามารถเช็ดคราบสิ่งสกปรก น้ำมัน และความชื้นออกได้อย่างง่ายดาย
RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM
ข้อมูลจำเพาะ
โครงสร้างเลนส์: 20 ชิ้นเลนส์ใน 14 กลุ่ม
ระยะโฟกัสใกล้สุด: 0.9 ม. (ระยะมุมกว้าง)
กำลังขยายสูงสุด: 0.33 เท่า (ระยะเทเลโฟโต้)
จำนวนม่านรูรับแสง: 9 (ทรงกลม)
เส้นผ่านศูนย์กลางฟิลเตอร์: 77 มม.
ขนาด: φ93.8 x 207.6 มม.
น้ำหนัก: ประมาณ 1,370 ก. (ไม่รวมเมาท์สำหรับขาตั้งกล้อง)
เลนส์ฮูด ET-83F (WIII) (มีให้)
ท่อต่อเลนส์ RF
Extender RF 1.4x
โครงสร้างเลนส์: 7 ชิ้นเลนส์ใน 4 กลุ่ม
ขนาด: φ71.2 x 20.3 มม.
น้ำหนัก: ประมาณ 225 ก.
Extender RF 2x
โครงสร้างเลนส์: 9 ชิ้นเลนส์ใน 5 กลุ่ม
ขนาด: φ71.2 x 39.3 มม.
น้ำหนัก: ประมาณ 340 ก.
ท่อต่อเลนส์ Extender RF 1.4x และ Extender RF 2x มีการทาสีขาวกันความร้อน ทั้งยังมีความเพรียวบางดูเรียบง่ายเข้ากันได้ดีกับเลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM รวมถึงมีดีไซน์ป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ได้กับเลนส์ RF600mm f/11 IS STM และ RF800mm f/11 IS STM ด้วย
ภาพตัวอย่าง
EOS R5/ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM / FL: 451 มม./ Manual exposure (f/7.1, 1/1250 วินาที)/ ISO 400/ WB: อัตโนมัติ
EOS R5/ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM / FL: 223 มม./ Aperture-priority AE (f/6.7, 1/400 วินาที)/ ISO 200/ WB: แสงแดด
EOS R5/ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM + Extender RF 1.4x/ FL: 700 มม./ Manual exposure (f/10, 1/800 วินาที)/ ISO 2500/ WB: อัตโนมัติ
บทความด้านล่างมีภาพที่ถ่ายด้วยเลนส์ EF100-400 f/4.5-5.6L IS II USM เคล็ดลับนั้นใช้ได้เหมือนกัน แต่เลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM ในระบบ EOS R นั้นสามารถให้ความเป็นไปได้ที่มากยิ่งขึ้น!
ทิวทัศน์ฤดูหนาวแสนมหัศจรรย์: เมื่อเกล็ดหิมะระยิบระยับราวอัญมณีกลายเป็นเสาแสงอาทิตย์
เคล็ดลับการจัดองค์ประกอบภาพที่ทำให้หมอกสวยงามเตะตา
คู่มือตามขั้นตอนสำหรับการถ่ายภาพคลื่นที่สาดกระเซ็นด้วยการตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์สูง
ผมถ่ายภาพอย่างไรให้เฉียบ (3): เคล็ดลับสำหรับภาพสวยๆ ของเส้นควันจากเครื่องบิน
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!