ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเลนส์
คุณเคยมองภาพถ่ายชิ้นเอกแล้วนึกสงสัยว่าช่างภาพใช้วิธีอะไรถ่ายภาพนั้นหรือไม่ ความลับที่ไม่ลับสักทีเดียวนักก็คือ เลนส์นั่นเอง วิธีที่คุณเลือกและใช้งานเลนส์สามารถสร้างความแตกต่างระหว่างภาพธรรมดากับผลงานที่น่าสนใจ ดังนั้น ขั้นตอนแรกคือรู้จักตัวเลือกของคุณ ต่อไปนี้เป็นความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเลนส์ประเภทต่างๆ และประโยชน์ที่เกี่ยวข้อง
เลนส์ต่างประเภทกันช่วยให้คุณมองเห็นฉากเดียวกันในมุมมองที่ต่างออกไป
แม้คุณสมบัติและสเปคที่คุณพบในกล้องระบบ EOS R ช่วยให้ได้ภาพถ่ายอันน่าทึ่ง แต่หากพูดถึงการสร้างสรรค์ภาพถ่าย กุญแจสำคัญก็คือเลนส์
เลนส์แต่ละแบบมีคุณสมบัติพิเศษในตัวที่ให้คุณสามารถใช้ประโยชน์สำหรับฉากและสถานการณ์การถ่ายภาพที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นภาพทิวทัศน์กว้างใหญ่สุดลูกลูกตา ภาพโคลสอัพของโลกมาโครจิ๋วที่ชวนให้ตื่นตาตื่นใจ ไปจนถึงชีวิตลึกลับของสัตว์ป่าและอีกมากมาย การเปลี่ยนเลนส์จะช่วยให้คุณค้นพบสิ่งต่างๆ ที่คุณอาจไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน
เลนส์มุมกว้าง
EOS R5/ RF10-20mm f/4L IS USM/ FL: 10มม/ โหมด Bulb (f/6.3, 59.9 วินาที, EV ±0)/ ISO 100/ WB: ฟลูออเรสเซนต์
ถ่ายด้วย: เลนส์มุมกว้างอัลตร้าไวด์
คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ
- ถ่ายภาพให้เห็นฉากได้มากขึ้น (ขอบเขตภาพใหญ่ขึ้น)
- มุมมองเปอร์สเปคทีฟเกินจริงที่น่าประทับใจ
- ยิ่งระยะชัดกว้าง = ยิ่งจับโฟกัสที่วัตถุมากขึ้นได้ง่าย
- แบ็คกราวด์เบลอเห็นชัดน้อยลง
เลนส์มุมกว้างถ่ายระยะชัดลึกได้กว้างกว่าที่ตาของคนเรามองเห็น ด้วยเหตุนี้ เราจึงมักใช้เลนส์ชนิดนี้ถ่ายภาพทิวทัศน์ที่กว้างใหญ่
เลนส์ที่ถือว่าเป็นเลนส์มุมกว้างคือ เลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสไม่เกิน 35 มม. หากทางยาวโฟกัสไม่เกิน 24 มม. จะถือว่าเป็นเลนส์มุมกว้างอัลตร้าไวด์
เลนส์มุมกว้างยังให้มุมมองเปอร์สเป็คทีฟเกินจริง เช่น สามารถทำให้วัตถุที่อยู่ใกล้ดูมีขนาดใหญ่ขึ้นและใกล้ขึ้น และวัตถุที่อยู่ไกลดูมีขนาดเล็กลงและอยู่ห่างมากขึ้น จึงนิยมใช้คุณลักษณะนี้ในการถ่ายภาพสถาปัตยกรรมเพื่อทำให้อาคารดูน่าสนใจมากขึ้น
ด้วยจุดแข็งในการถ่ายภาพทิวทัศน์และสถาปัตยกรรมดังที่กล่าวมาข้างต้นนี้เอง เลนส์มุมกว้าง (รวมถึงมุมกว้างอัลตร้าไวด์) จึงเหมาะมากสำหรับพกติดตัวไปด้วยขณะเดินทาง
ดูตัวอย่างความสามารถของเลนส์มุมกว้างได้ใน
- เทคนิคการใช้เลนส์มุมกว้าง: จัดองค์ประกอบภาพพอร์ตเทรตให้มีชีวิตชีวาที่ระยะ 28 มม.
- เทคนิคการใช้เลนส์มุมกว้างอัลตร้าไวด์: เส้นแสงจากมุมมองใหม่
- วิธีถ่ายภาพพอร์ตเทรตพาโนรามาแบบมุมกว้าง
เลนส์มาโคร
EOS R5/ RF100mm f/2.8L Macro IS USM/ FL: 100มม/ Aperture-priority AE (f/2.8, 1/2000 วินาที)/ ISO 400/ WB: Manual
ประเภทของเลนส์: มาโคร
คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ
- ภาพโคลสอัพของรายละเอียด ถ่ายวัตถุขนาดเล็กๆ ได้เต็มเฟรม
- กำลังขยายสูงสุดในระดับสูง
- ระยะชัดตื้นในขณะถ่ายภาพโคลสอัพ
เลนส์มาโครเหมาะอย่างยิ่งสำหรับถ่ายภาพต้นไม้ แมลง อาหาร ของตกแต่งชิ้นเล็กและเครื่องประดับ รวมถึงตัวแบบอื่นที่มีขนาดเล็ก
เนื่องจากมี
- ระยะโฟกัสใกล้, มาก หมายความว่าคุณสามารถถ่ายภาพตัวแบบโดยวางเลนส์ไว้ใกล้ตัวแบบมากๆ ได้
- อัตราส่วนกำลังขยาย สูงมากถึงอย่างน้อย 0.5 เท่า ซึ่งช่วยให้คุณถ่ายภาพโคลสอัพให้ตัวแบบเต็มทั้งเฟรม เลนส์มาโครแท้ๆ จะมีกำลังขยายเท่าขนาดจริง (1 เท่า) เป็นอย่างน้อย กำลังขยายสูงสุดของ RF100mm f/2.8L Macro IS USM คือ 1.4 เท่า!
เลนส์มาโครมี ระยะชัดที่ตื้นมาก ซึ่งเหมาะสำหรับการการสร้างโบเก้ (เอฟเฟ็กต์โฟกัสตื้น) ที่ทำให้ตัวแบบดูเด่นออกมา แต่คุณจะต้องใช้ค่า f สูงกว่าปกติเพื่อให้ภาพอยู่ในโฟกัสมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถ่ายภาพโคลสอัพหรือลองใช้ focus bracketing.
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลนส์: ฉันจะได้ภาพแบบไหนหากถ่ายด้วยกำลังขยาย 0.25 หรือ 0.5 เท่า มีเลนส์
ดูตัวอย่างความสามารถของเลนส์มาโครได้ใน
- การบันทึกความอลังการของพื้นผิวในภาพ
- วิธีการถ่ายภาพพอร์ตเทรตแบบมาโครเพื่อบอกเล่าเรื่องราว
- ศิลปะเบื้องหลังภาพ: วงกลมโบเก้จากหยดน้ำค้างยามเช้า
เลนส์เทเลโฟโต้
EOS R6/ RF100-400mm f/5.6-8 IS USM/ FL: 400มม/ Aperture-priority AE (f/8, 1/125 วินาที, EV -1)/ ISO 800/ WB: อัตโนมัติ
ประเภทของเลนส์: เทเลโฟโต้
คุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ
- ภาพโคลสอัพของวัตถุที่อยู่ห่างไกล
- การบีบมุมมองภาพ: เอฟเฟ็กต์แบบ “ทำให้แบน”/ วางซ้อน
- ระยะชัดที่ตื้นขึ้น
เลนส์เทเลโฟโต้ช่วย "ดึง" ตัวแบบที่อยู่ไกลให้เข้ามาใกล้ขึ้น และทำให้ตัวแบบดูมีขนาดใหญ่และใกล้ขึ้นกว่าความเป็นจริง เหมาะสำหรับการถ่ายภาพสัตว์ป่า กีฬา รถยนต์ และการแข่งขันจักรยาน รวมถึงตัวแบบอื่นๆ ที่ถ่ายในระยะใกล้ได้ยาก
เลนส์เทเลโฟโต้ยังขึ้นชื่อในเรื่องเอฟเฟ็กต์การบีบภาพที่ทำให้ตัวแบบดูใกล้กันมากขึ้น
เมื่อเปรียบเทียบกับเลนส์มาตรฐาน (ปกติ) เลนส์เทเลโฟโต้สามารถถ่ายภาพให้มีแบ็คกราวด์เบลอมากๆได้ เนื่องมาจากเหตุผลสองประการคือ
1) ระยะชัดลึกที่ตื้นขึ้น
2) วัตถุนอกโฟกัสที่อยู่ห่างไกลถูก "ดึง" ให้เข้ามาใกล้และขยายใหญ่ขึ้นจนส่วนที่เบลอดูมีขนาดใหญ่ขึ้น
คุณจึงสามารถใช้คุณลักษณะเฉพาะนี้เบลอองค์ประกอบในแบ็คกราวด์ที่ดึงความสนใจไปจากภาพและนำความสนใจของผู้ชมไปสู่ตัวแบบของคุณ
คุณสมบัติพิเศษประการที่สี่ของเลนส์เทเลโฟโต้คือ ทำให้ภาพบิดเบี้ยวน้อยลงเมื่อเทียบกับเลนส์ประเภทอื่นอย่างเลนส์มุมกว้าง จึงเหมาะสำหรับการถ่ายภาพพอร์ตเทรต
เลนส์เทเลโฟโต้แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทย่อยหลักๆ ได้แก่
- เลนส์เทเลโฟโต้ระยะกลาง: ทางยาวโฟกัส 70 มม. ขึ้นไปแต่ไม่เกิน 135 มม.
- เลนส์เทเลโฟโต้: ทางยาวโฟกัส 135 มม. ขึ้นไป
- เลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้: ทางยาวโฟกัส 300 มม. ขึ้นไป
ดูตัวอย่างความสามารถของเลนส์เทเลโฟโต้ได้ใน
- 5 สิ่งที่ควรลองด้วยเลนส์เทเลโฟโต้
- เทคนิคการจัดองค์ประกอบภาพ: การสร้างภาพลวงตาให้พระจันทร์ดูใหญ่ขึ้น
- ทำไมเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้จึงจำเป็นต่อการถ่ายภาพกีฬา
วิธีอื่นๆ ในการจัดประเภทเลนส์
“มุมกว้าง” และ “เทเลโฟโต้” เป็นประเภทที่อธิบายขอบเขตภาพของเลนส์และบ่งชี้ถึงทางยาวโฟกัสที่ใช้งานได้จริงของเลนส์นั้น
เลนส์มาโครเป็นเลนส์พิเศษที่สามารถโฟกัสได้ใกล้มากๆ และมีอัตราส่วนกำลังขยายสูง
ต่อไปนี้เป็นอีกสามวิธีหลักๆ ในการจัดประเภทเลนส์
1. เลนส์เดี่ยวกับเลนส์ซูม
เลนส์เดี่ยว
เลนส์ในภาพ:RF16mm f/2.8 STM
เลนส์ซูม
เลนส์ในภาพ:RF-S18-150mm f/3.5-6.3 IS STM
เลนส์ซูมสามารถครอบคลุมทางยาวโฟกัสช่วงใดช่วงหนึ่งได้
เลนส์เดี่ยวมีทางยาวโฟกัสคงที่เพียงระยะเดียว
ซึ่งทำให้เลนส์ประเภทนี้สร้างเอฟเฟ็กต์โฟกัสตื้น (“โบเก้”)
และถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีกว่า เมื่อคุณคุ้นเคยกับการถ่ายภาพมากขึ้น
บางทีคุณอาจพบว่าเลนส์เดี่ยวช่วยให้คุณขยายขอบเขตการสร้างสรรค์ได้หลากหลายแบบ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อแตกต่างระหว่างเลนส์เดี่ยวกับเลนส์ซูม รวมถึงความสำคัญของสิ่งเหล่านี้ได้ใน
เลนส์เดี่ยวหรือเลนส์ซูม: ควรซื้อแบบไหนดี
2. เมาท์เลนส์ (กล้องที่รองรับ)
ผู้ผลิตกล้องผลิตเลนส์เพื่อใช้กับบอดี้กล้องและเซนเซอร์ภาพขนาดต่างๆ
ตัวอย่างเช่น
• เลนส์ RF จะไม่สามารถติดตั้งบนกล้อง EOS DSLR หรือกล้องมิเรอร์เลสซีรีย์ EOS M ได้ เนื่องจากใช้เมาท์เลนส์ต่างกัน
• คุณจะต้องใช้เมาท์อะแดปเตอร์ EF-EOS R จึงจะใช้เลนส์ DSLR (EF หรือ EF-S) กับกล้องในซีรีย์ EOS R ได้
• เลนส์ RF-S ทำขึ้นสำหรับกล้องในซีรีย์ EOS R ที่มีเซนเซอร์ภาพขนาด APS-C โดยเฉพาะ เช่น กล้อง EOS R50. นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ได้กับกล้องซีรีย์ EOS R แบบฟูลเฟรมในโหมดครอป 1.6 เท่า ซึ่งจะบันทึกภาพโดยใช้บางส่วนของเซนเซอร์
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้เลนส์ถูกประเภทสำหรับกล้องของคุณ!
การใช้เมาท์อะแดปเตอร์จะทำให้ชุดอุปกรณ์ถ่ายภาพของคุณมีน้ำหนักและความยาวเพิ่มขึ้น
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน
เลนส์ RF-S กับ RF แตกต่างกันอย่างไร
เลนส์ RF กับเลนส์ EF: แตกต่างกันอย่างไรและควรตัดสินใจเลือกอย่างไร
ข้อควรรู้: คุณสมบัติการครอป
หากคุณใช้กล้อง APS-C จาก Canon ให้นำเลขทางยาวโฟกัสในชื่อเลนส์ไปคูณกับ 1.6 เท่า เพื่อให้ทราบขอบเขตภาพของเลนส์บนกล้องของคุณอย่างคร่าวๆ เพราะทางยาวโฟกัสในชื่อเลนส์มักจะระบุไว้ในแง่ของกล้องฟูลเฟรม ภาพบนกล้อง APS-C จะดู “ซูมเข้า” มากกว่า เพราะคุณสมบัติการครอปแบบ APS-C ซึ่งอยู่ที่ 1.6 เท่าบนกล้อง Canon
คุณสมบัติการครอปนี้อาจเปลี่ยนประเภทของเลนส์ได้ ตัวอย่างเช่น เลนส์มาตรฐาน “50 มม. ความไวสูง” ยอดนิยมอย่าง RF50mm f/1.8 STM จะกลายเป็นเลนส์เทเลโฟโต้ระยะกลางที่มีขอบเขตภาพใกล้เคียงกับ 80 มม. บนกล้องฟูลเฟรม ซึ่งจะเหมาะสำหรับภาพพอร์ตเทรต แต่แคบเกินไปเล็กน้อยสำหรับการถ่ายภาพในชีวิตประจำวัน
ข้อนี้ควรจดจำไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการเลนส์กว้างๆ!
((ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ใน กล้องฟูลเฟรมและกล้อง APS-C: ควรเลือกรุ่นไหนดี)
3. เลนส์ระดับมืออาชีพ (ซีรีย์ L)
เลนส์ระดับมืออาชีพ
เลนส์ในภาพ:RF14-35mm f/4L IS USM
เลนส์สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป
เลนส์ในภาพ:RF15-30mm f/4.5-6.3 IS STM
หากคุณสังเกตเห็นความแตกต่างอย่างมากในด้านราคา (และขนาด) ระหว่างเลนส์ RF สองรุ่นที่มีทางยาวโฟกัสเท่ากัน/ช่วงทางยาวโฟกัสใกล้เคียงกัน เลนส์ที่มีราคาแพงกว่าก็น่าจะเป็นเลนส์ระดับมืออาชีพ ซึ่งจะมีวงแหวนสีแดงรอบท่อเลนส์และมีตัวอักษร “L” ในชื่อเลนส์
เลนส์ระดับมืออาชีพได้รับการออกแบบพร้อมด้วยกระจกแบบพิเศษเพื่อให้ได้คุณภาพด้านออพติคอลที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นอกจากนี้ ยังมีโครงสร้างที่แข็งแรงกว่าและซีลป้องกันสภาพอากาศเพื่อความทนทานยิ่งขึ้นในสภาพอากาศที่สมบุกบัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ถ่ายภาพเป็นงานอดิเรกซึ่งถ่ายภาพกลางแจ้งบ่อยๆ อีกด้วย
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
Tกลุ่มสามเลนส์ซูม f/4L ทรงพลังตระกูล RF: “ชุดเลนส์เริ่มต้น” ระดับมืออาชีพ
ควรตัดสินใจเลือกซื้อเลนส์อย่างไรดี
มีเลนส์ RF กว่า 40 รุ่นวางจำหน่ายอยู่และจะมีเพิ่มอีกในอนาคต อีกทั้งยังมีเลนส์ EF กว่า 90 รุ่น แม้แต่คุณตัดสินใจได้แล้วว่าต้องการเลนส์มุมกว้าง เลนส์เทเลโฟโต้ หรือเลนส์มาโคร ก็ยังมีเลนส์อีกหลายรุ่นในประเภทเดียวกัน แล้วคุณจะมีวิธีเลือกเลนส์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ดีที่สุดอย่างไร
1. พิจารณาข้อดีและข้อเสียของเลนส์แต่ละประเภท
ตัวอย่างเช่น เลนส์ซูมระดับมืออาชีพที่มีรูรับแสงกว้างสุดขนาดใหญ่จะใช้งานได้ยืดหยุ่นมากที่สุดแต่ก็มีน้ำหนักมากขึ้นด้วย ในขณะเดียวกัน ทางยาวโฟกัสคงที่ของเลนส์เดี่ยวอาจดูมีข้อจำกัดในตอนแรก แต่ความสะดวกในการพกพา ประสิทธิภาพการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย โบเก้ และความคมชัดของเลนส์ก็อาจจูงใจให้อยากถ่ายภาพและสนุกกับการถ่ายภาพมากขึ้น!
กล้องที่ใช้เลนส์ซูมมาตรฐาน (ซ้าย) และเลนส์ซูมเทเลโฟโต้ (ขวา) ในภาพนี้ บอดี้กล้องทั้งสองตัวเหมือนกัน แต่เลนส์ที่แตกต่างกันทำให้น้ำหนักโดยรวมและความรู้สึกเมื่อถือกล้องไว้ในมือเปลี่ยนไป
2. พิจารณากล้องของคุณ รูปแบบการถ่ายภาพ และประเภทของภาพที่คุณต้องการถ่าย
ภาพถ่ายส่วนใหญ่ใน SNAPSHOT จะระบุชื่อเลนส์ที่ใช้ถ่ายภาพในข้อมูลการถ่ายภาพ หากคุณพบภาพที่คุณชื่นชอบจริงๆ ควรศึกษาเลนส์ที่ใช้แม้ว่ารุ่นของเลนส์อาจไม่เหมาะกับความต้องการของคุณ เพราะนั่นอาจช่วยให้คุณลดตัวเลือกให้เหลือรุ่นที่คล้ายคลึงกันได้
หากคุณเห็นภาพที่คุณชื่นชอบ ให้ดูชื่อเลนส์ในข้อมูลการถ่ายภาพ
สรุป
ท้ายที่สุดแล้ว เลนส์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณคือ เลนส์ที่ช่วยให้คุณถ่ายภาพได้อย่างที่จินตนาการไว้ ซึ่งการค้นหาเลนส์ที่ใช่ คุณต้องทราบความต้องการและรู้ว่าเลนส์แบบไหนเหมาะกับภาพถ่ายของคุณ ส่วนแรกคือกระบวนการเรียนรู้ การสำรวจและค้นพบตัวเองอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาตัวเองต่อไปในฐานะช่างภาพ ส่วนที่สองเกี่ยวกับการรู้ัจักตัวเลือกของคุณ
ในบทความ SNAPSHOT คุณจะพบข้อมูลที่ช่วยเหลือคุณในทั้งสองส่วน
บทความต่อเนื่องเกี่ยวกับพื้นฐานเกี่ยวกับเลนส์ จะให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเลนส์ประเภทต่างๆ เช่น ข้อดีและข้อเสีย คุณสมบัติเด่น และวิธีการใช้งาน
บทความต่อเนื่องเกี่ยวกับคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลนส์ จะเจาะลึกเรื่องทางเทคนิค ตอบคำถามทั่วไป (และอาจไม่ทั่วไปนัก) เกี่ยวกับเลนส์และข้อมูลจำเพาะของเลนส์
สำหรับในบทความ คุณสมบัติที่สำคัญของเลนส์ RFคุณจะพบบทวิจารณ์เลนส์ ข้อมูลเปรียบเทียบ บทสัมภาษณ์ทีมพัฒนา และข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับเลนส์เฉพาะรุ่น หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณพบเลนส์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับภาพถ่ายของคุณ