9 เหตุผลที่ควรเปลี่ยนจากกล้อง EOS 5D Mark IV มาใช้ EOS R5
EOS R5 ไม่ได้มีเพียงแค่ช่องใส่การ์ดหน่วยความจำแบบคู่เท่านั้น แต่ยังได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพ AF และความสามารถด้านการถ่ายภาพอีกมากมาย จึงเป็นกล้องสารพัดประโยชน์ที่ผสมผสานทั้งความน่าเชื่อถือของกล้องจากซีรีย์ EOS 5D ยอดนิยมและเทคโนโลยีกล้องมิเรอร์เลสอันล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกัน บอดี้ทำจากโลหะทั้งหมดพร้อมซีลป้องกันสภาพอากาศเทียบเท่ากล้อง EOS 5D Mark IV จึงเพิ่มความมั่นใจในด้านความทนทาน นับเป็นการอัปเกรดที่ไม่ควรพลาด (เรื่องโดย: Kazuo Nakahara, Digital Camera Magazine)
1. ความละเอียดที่มากยิ่งขึ้น
ไม่ใช่แค่จำนวนพิกเซลที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น
สำหรับกล้อง EOS R5 คุณไม่เพียงแต่จะได้จำนวนล้านพิกเซลที่มากกว่า EOS 5D Mark IV เท่านั้น แต่ยังได้ประโยชน์ของเลนส์ RF ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพด้านออพติคอลที่ดีกว่าด้วย เมื่อรวมทั้งเลนส์ RF ระบบประมวลผลภาพ DIGIC X ใหม่ และเซนเซอร์ภาพของกล้อง EOS R5 เข้าด้วยกัน จะเป็นการปลดล็อคความสามารถในการถ่ายภาพระดับสูงสุดของกล้อง EOS ที่มีในปัจจุบัน และยังสามารถแก้ไขความคลาดเคลื่อนของเลนส์ในทันทีด้วย Digital Lens Optimizer ได้เร็วกว่าที่เคยมีมาอีกด้วย
อาคารเหล่านี้มีเส้นที่รวมตัวกันอยู่อย่างหนาแน่น ซึ่งเหมาะสำหรับการทดสอบความละเอียดของภาพ ผมถ่ายภาพที่ f/8 โดยทิ้งระยะห่างเล็กน้อยและเปรียบเทียบรายละเอียดในภาพที่ถ่ายได้ และเปิดใช้งาน Digital Lens Optimizer
อุปกรณ์ที่ใช้:
EOS 5D Mark IV + EF24-70mm f/2.8L II USM
EOS R5 + RF24-70mm f/2.8L IS USM
A: กลางภาพ
EOS 5D Mark IV
EOS R5
B: มุมภาพ
EOS 5D Mark IV
EOS R5
2. EVF ที่ใช้งานง่ายและมีความละเอียดสูง
แสดงข้อมูลได้มากขึ้นเพื่อการมองเห็นที่ดียิ่งขึ้น
กล้อง EOS R5 มีช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) ความละเอียดสูง 5.76 ล้านจุดและกำลังขยาย 0.76 เท่า นั่นหมายถึงภาพในช่องมองภาพที่มีขนาดเป็น 0.76 เท่าของภาพจริงที่มองเห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งใหญ่กว่ากำลังขยาย 0.71 เท่าของช่องมองภาพแบบออพติคอล (OVF) ในกล้อง EOS 5D Mark IV เล็กน้อย ด้วยอัตราเฟรมหน้าจอสูงสุด 120 fps EVF ของกล้อง EOS R5 จึงให้การมองเห็นที่ราบรื่นแทบไม่ต่างจาก OVF
หน้าจอ EVF คงความสว่างได้อย่างเพียงพอแม้มีแสงน้อย และไม่มืดลงแม้คุณจะกดปุ่มเช็คระยะชัดลึก นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณดูภาพกลางแจ้งภายใต้แสงแดดจ้าได้ด้วย และการรองรับเครื่องมืออย่าง Focus Guide และ MF peaking ยังช่วยให้การโฟกัสแบบแมนนวลเป็นเรื่องง่ายยิ่งกว่าที่เคย
A: ระดับความเอียงอิเล็กทรอนิกส์
B: ฮิสโตแกรม
C: ไอคอนของปุ่มควบคุม
EVF สามารถแสดงข้อมูลได้มากกว่า OVF เช่น ฮิสโตแกรม ระดับความเอียงอิเล็กทรอนิกส์ และรายละเอียดการถ่ายภาพอื่นๆ ไอคอนของปุ่มควบคุมต่างๆ ช่วยแสดงข้อมูลที่ทำให้การควบคุมกล้องเป็นไปได้ง่ายดายขึ้น
3. พื้นที่ครอบคลุม AF ที่กว้างขึ้น
การตรวจจับใบหน้า/ดวงตาและการติดตามตัวแบบที่ครอบคลุมพื้นที่ภาพทั้งหมด
กล้อง EOS R5 มี Dual Pixel CMOS AF II ซึ่งสามารถตรวจจับใบหน้าและติดตามตัวแบบได้ครอบคลุมประมาณ 100% x 100% ของพื้นที่ภาพเมื่อใช้โหมด AF ตรวจจับใบหน้า + ติดตามตัวแบบ (AF อัตโนมัติเต็มรูปแบบ) หากต้องการเลือกจุด AF ด้วยตนเอง คุณก็สามารถทำได้บนพื้นที่กว้างที่ครอบคลุมประมาณ 100% (แนวตั้ง) x 90% (แนวนอน) ของพื้นที่ภาพ คุณจึงสามารถจัดเฟรมภาพด้วยความยืดหยุ่นที่มากยิ่งขึ้น
และกล้อง EOS R5 ยังมีความสามารถในการจดจำตัวแบบที่ดีกว่าด้วย EOS iTR AF X ซึ่งพัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึก จึงสามารถตรวจจับดวงตา ใบหน้า และลำตัวของสุนัข แมว และนกได้ นอกเหนือไปจากดวงตา ใบหน้า และศีรษะของมนุษย์ (ดูข้อ 8) และคุณจะสามารถเลือกใช้ความสามารถนี้ได้บนพื้นที่ครอบคลุมที่กว้างยิ่งขึ้น!
การเปรียบเทียบพื้นที่ครอบคลุม AF
A: EOS R5 (เลือกพื้นที่ AF แบบอัตโนมัติ)
B: EOS R5 (เลือกพื้นที่ AF แบบแมนนวล)
C: EOS 5D Mark IV (ถ่ายแบบ Live View)
D: EOS 5D Mark IV (ถ่ายผ่านช่องมองภาพ)
จากแผนภาพด้านบน จะเห็นว่าพื้นที่ครอบคลุม AF ของกล้อง EOS R5 และ EOS 5D Mark IV นั้นต่างกันค่อนข้างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถ่ายผ่านช่องมองภาพ
4. รองรับการ์ดหน่วยความจำที่มีความเร็วสูงขึ้น
ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ลื่นไหล และถ่ายโอนไฟล์ได้เร็วขึ้น
*ภาพประกอบไม่ได้วาดตามขนาดจริง
การ์ดหน่วยความจำทั้งสองประเภทที่ใช้ในกล้อง EOS R5 (CFexpress Type B และ UHS-II SD) มีความเร็วในการเขียนข้อมูลสูงกว่าการ์ด CF (UDMA7) ที่ใช้ใน EOS 5D Mark IV มาก ความจริงแล้ว การ์ด CFexpress มีความเร็วในการเขียนข้อมูลในอีกระดับซึ่งคุณจะไม่ต้องรอให้บัฟเฟอร์เสร็จอีกต่อไป และยังมีความเร็วในการอ่านข้อมูลที่สูงกว่ามากด้วย คุณจึงสามารถถ่ายโอนไฟล์จากการ์ดหน่วยความจำไปยังคอมพิวเตอร์ได้รวดเร็วกว่า
5. จอภาพด้านหลังแบบปรับหมุนได้รอบทิศ
ให้มุมที่แตกต่างเพื่อปลดปล่อยความสร้างสรรค์ของคุณ
เมื่อใช้กล้องมิเรอร์เลส คุณมักจะถ่ายภาพโดยใช้หน้าจอ LCD ด้านหลังมากกว่า และจอภาพแบบปรับหมุนได้รอบทิศทางก็สามารถทำหน้าที่นี้ได้อย่างดีเยี่ยม จอภาพของกล้อง EOS R5 ช่วยให้คุณสำรวจตำแหน่งและมุมต่างๆ ของกล้องได้อย่างอิสระและสะดวกสบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับชัตเตอร์แบบแตะ และคุณสมบัตินี้ยังได้รับการเสริมประสิทธิภาพด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวในบอดี้กล้อง (IS ในบอดี้กล้อง) ซึ่งสามารถป้องกันภาพสั่นไหวได้สูงสุด 8 สต็อปในการถ่ายภาพโดยไม่ใช้ขาตั้ง (ดูข้อ 6)
เรียนรู้เพิ่มเติมว่าคุณสมบัติอย่างจอภาพแบบปรับหมุนได้ของกล้อง EOS R5 สามารถพลิกโฉมสไตล์การถ่ายภาพของช่างภาพได้อย่างไรได้ที่:
ทำไมกล้อง EOS R5 ถึงเป็นกล้องในอุดมคติสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์ของผม
6. IS ในบอดี้กล้อง
ความเป็นไปได้ที่มากขึ้นในการถ่ายภาพแบบถือกล้องด้วยมือ
EOS R5 และ EOS R6 เป็นกล้อง EOS รุ่นแรกๆ ที่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวในบอดี้กล้อง (IS ในบอดี้กล้อง) แบบห้าแกน เมื่อติดตั้งเลนส์รุ่นที่เข้ากันได้และมี IS แบบออพติคอล (IS ในเลนส์) ระบบป้องกันภาพสั่นไหวทั้งสองจะทำงานร่วมกันเพื่อสร้าง IS แบบประสานการควบคุมซึ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันภาพสั่นไหวเทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 8 สต็อป
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับฉาก 3 ประเภทที่ใช้ประโยชน์จาก IS ในตัวกล้องได้เต็มที่
7. เลือกโฟกัสอัตโนมัติได้ 8 วิธี
ปรับแต่งได้มากขึ้นตามรูปแบบการเคลื่อนไหวของตัวแบบของคุณ
EOS R5 มีตัวเลือกวิธีแบบ Zone AF มากกว่า EOS 5D Mark IV จึงให้ความยืดหยุ่นที่มากกว่าในการเลือกวิธี AF ให้เหมาะกับตัวแบบของคุณมากที่สุด และยังมีความแม่นยำของ AF และการรองรับ Servo AF ที่ดีกว่า EOS 5D Mark IV อีกด้วย
8. ประสิทธิภาพที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดของ AF ตรวจจับใบหน้า + ติดตามตัวแบบ
อัลกอริธึม AF ใหม่จากการเรียนรู้เชิงลึกที่ช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ให้มากขึ้น
ในขณะที่ EOS 5D Mark IV สามารถตรวจจับใบหน้าของมนุษย์ได้ แต่กล้อง EOS R5 ไม่เพียงแต่ตรวจจับดวงตา ศีรษะ และใบหน้าของมนุษย์ได้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงดวงตา ใบหน้า และลำตัวของแมว สุนัข และนกด้วย ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นนี้ส่วนหนึ่งมาจากการนำ EOS iTR AF X มาใช้ ซึ่งเป็นอัลกอริธึม AF จากการเรียนรู้เชิงลึก ทำให้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของความสามารถของกล้องในการตรวจจับทั้งมนุษย์และสัตว์
EOS R5 + RF100-500mm f/4-7.1 IS USM @ FL: 451 มม., f/7.1, 1/3200 วินาที, ISO 1600
ประสิทธิภาพและพื้นที่ครอบคลุม AF ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากทำให้สามารถจับภาพตัวแบบที่เคลื่อนที่เร็ว เช่น นกที่กำลังบิน ได้อย่างง่ายดาย
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
ภาพพอร์ตเทรตสุนัข 3 ประเภทที่ถ่ายได้ด้วย Animal Detection AF
นกโผบิน: การตั้งค่ากล้องเพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการถ่ายภาพ
9. ใช้ AF ได้แม้ใช้รูรับแสงกว้างสุดที่ f/22
รองรับการใช้งานกับท่อต่อเลนส์ได้มากขึ้น
เซนเซอร์ AF ของกล้อง EOS 5D Mark IV รองรับการโฟกัสที่รูรับแสงกว้างสุดถึง f/8 ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้เลนส์เดี่ยวซูเปอร์เทเลโฟโต้ของ Canon คู่กับท่อต่อเลนส์ สำหรับกล้อง EOS R5 สามารถใช้ AF ได้ในเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างสุดถึง f/22 จึงทำให้ใช้งานร่วมกับการจับคู่กันของท่อต่อเลนส์ได้หลากหลายแบบ เช่น เลนส์ RF800mm f/11 IS STM ที่มีราคาไม่แพงกับ Extender RF 2x
หากคุณกำลังคิดจะซื้อกล้อง EOS R6 ด้วย บทความนี้อาจช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
EOS R5 หรือ EOS R6: 5 ข้อแตกต่างสำคัญที่ควรทราบ
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!เกี่ยวกับผู้เขียน
นิตยสารรายเดือนที่เชื่อว่าความสุขของการถ่ายภาพจะยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ถ่ายภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องมากยิ่งขึ้น นิตยสารเล่มนี้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับกล้องรุ่นใหม่ๆ รวมถึงคุณสมบัติของกล้องและนำเสนอเทคนิคการถ่ายภาพอย่างหลากหลาย
จัดพิมพ์โดย Impress Corporation
เกิดที่เมืองฮอกไกโดในปี 1982 Nakahara ผันเข้าสู่วงการถ่ายภาพหลังจากทำงานในบริษัทผลิตสารเคมี เขาถ่ายภาพที่ Vantan Design Institute เป็นหลักและเป็นผู้บรรยายในเวิร์คช็อปและสัมมนาด้านการถ่ายภาพ นอกเหนือจากการทำงานถ่ายภาพโฆษณา เขายังเป็นหนึ่งในผู้ดำเนินงานเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลด้านการถ่ายภาพอย่าง studio9 อีกด้วย