บทวิจารณ์เลนส์: RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM ในการถ่ายภาพนก
การถ่ายภาพนกมักถือว่าเป็นหน้าที่ของเลนส์เดี่ยวซูเปอร์เทเลโฟโต้ แต่คุณภาพของภาพถ่ายที่ดีเยี่ยม ความสามารถในการซูมด้วยขนาดบอดี้ที่กะทัดรัดและเบา ตลอดจนระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวเลนส์สูงสุดถึง 5 สต็อป (สูงสุด 6 สต็อปเมื่อใช้ร่วมกับกล้อง EOS R5 หรือ EOS R6) ทำให้เลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้อย่างเช่น RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM มีข้อได้เปรียบในการถ่ายภาพแนวนี้เช่นกัน Gaku Totsuka ช่างภาพนกมืออาชีพ จะมาบอกเล่าประสบการณ์และเหตุผลที่คุณอาจต้องพิจารณาสำรองเลนส์รุ่นนี้ไว้ทดแทนเลนส์เดี่ยวซูเปอร์เทเลโฟโต้ความไวแสงสูงที่คุณมีอยู่ (เรื่องโดย: Gaku Tozuka, Digital Camera Magazine)
เลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้คุณภาพเยี่ยมพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่ทรงพลัง
ความประทับใจแรก
RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM เป็นอีกหนึ่งเลนส์ซูมเทเลโฟโต้ในกลุ่มเลนส์เมาท์ RF ของ Canon เช่นเดียวกับที่ EF100-400mm f/4.5-5.6L IS II USM เป็นในกลุ่มเลนส์ EF เลนส์รุ่นนี้มีบอดี้สีขาวโดดเด่นแบบฉบับเลนส์ L เทเลโฟโต้ของ Canon แต่มีเลนส์ฮู้ดสีขาวด้วย ซึ่งให้ความรู้สึกถึงความเป็น Canon โฉมใหม่
ตัวเลนส์มีเส้นผ่านศูนย์กลางฟิลเตอร์ 77 มม. เท่ากับเลนส์ในเวอร์ชัน EF ระยะในการเข้าใกล้ของเลนส์ขยายจาก 400 มม. เป็น 500 มม. ส่วนรูรับแสงกว้างสุดปรับได้จาก f/4.5 ถึง f/7.1 คุณจึงอาจจะต้องเพิ่มค่าความไวแสง ISO เพื่อเพิ่มความเร็วชัตเตอร์ แต่เมื่อใช้ร่วมกับกล้อง EOS R5 และ EOS R6 ซึ่งผมใช้ถ่ายภาพทั้งคู่ จุดรบกวนจากความไวแสง ISO สูงก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด
คุณภาพของภาพถ่ายอันยอดเยี่ยม
โครงสร้างเลนส์ประกอบด้วยการเคลือบแบบ Air Sphere Coating (ASC) พิเศษ ชิ้นเลนส์ Super UD (ฉบับภาษาอังกฤษ) 1 ชิ้น และชิ้นเลนส์ UD 6 ชิ้น ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาสีจางจากกึ่งกลางภาพไปจนถึงขอบภาพ คุณจึงรู้สึกได้ถึงคุณภาพของภาพที่ดีเยี่ยม
EOS R5/ FL: 500 มม./ โหมด Flexible-priority AE (f/10, 1/4,000 วินาที, EV ±0)/ ISO 500/ WB: อัตโนมัติ
โดยปกติคุณต้องใช้ทางยาวโฟกัสอย่างน้อย 500 มม. เพื่อถ่ายภาพนกป่า แต่เมื่อจับภาพฝูงนกที่กำลังโผบิน เช่น นกตีนเทียนในภาพนี้ การสร้างองค์ประกอบภาพที่สมดุลโดยใช้เลนส์ซูมจะทำได้สะดวกกว่าหากเทียบกับเลนส์เดี่ยว
EOS R5/ FL: เทียบเท่า 800 มม. (โหมดครอปตัด 1.6 เท่า)/ โหมด Flexible-priority AE (f/8, 1/125 วินาที, EV ±0)/ ISO 2,500/ WB: อัตโนมัติ
นกกระเต็นแดงตัวนี้ดูไม่ค่อยโดดเด่นนักในป่าที่มืดทึบ ผมไม่มีเวลาใส่ท่อต่อเลนส์ จึงต้องใช้ฟังก์ชั่นครอปตัด 1.6 เท่า ของกล้อง EOS R5 วิธีนี้ช่วยดึงเอานกสีแดงออกมาจาก “การพรางตัว” โดยไม่ตั้งใจของมัน และสร้างความโดดเด่นตัดกับแบ็คกราวด์สีเขียว
คุณสมบัติสำคัญข้อที่ 1: รองรับการถ่ายภาพแบบไม่ใช้ขาตั้งกล้อง ด้วยระบบ IS สูงสุด 6 สต็อป
คุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของเลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM อาจเป็นระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออพติคอล (IS แบบออพติคอล) ซึ่งช่วยลดการสั่นของกล้องได้ด้วยตัวเองเทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 5 สต็อป (อ่านเพิ่มเติมได้ที่: เราจะกำหนดสต็อปของระบบป้องกันภาพสั่นไหวได้อย่างไร) เมื่อใช้ร่วมกับกล้อง EOS R5 หรือ EOS R6 ระบบ IS แบบออพติคอลและ IS ในบอดี้กล้องจะทำงานร่วมกัน (IS แบบประสานการควบคุม) เพื่อให้ได้เอฟเฟ็กต์เทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 6 สต็อป เรียกได้ว่าไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ นอกจาก “น่าทึ่ง”
การป้องกันปัญหากล้องสั่นเป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายภาพด้วยทางยาวโฟกัสซูเปอร์เทเลโฟโต้ เลนส์รุ่นนี้มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวเทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 6 สต็อปเมื่อใช้งานร่วมกับกล้อง EOS R5 หรือ EOS R6 ซึ่งสร้างความแตกต่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถ่ายภาพโดยไม่ใช้ขาตั้งกล้องในสภาวะแสงน้อย นับเป็นความรู้สึกอันน่าอัศจรรย์ที่ได้มองผ่านช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) ที่ระยะ 500 มม. และเห็นภาพที่นิ่งและคมชัดในช่องมองภาพ!
คุณสมบัติสำคัญข้อที่ 2: น้ำหนักเบา กะทัดรัด และมีความสมดุลที่ดีเยี่ยมด้วยกล้อง EOS R5 และ EOS R6
เลนส์รุ่นนี้มีความสมดุลมากเมื่อติดตั้งกับตัวกล้อง EOS R5 และ EOS R6 และด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหว 6 สต็อปในตัวจึงเพิ่มอิสระอย่างมากในการถ่ายภาพโดยไม่ใช้ขาตั้งกล้อง
ผมพบว่าเลนส์ EF100-400mm f/4.5-5.6L IS II USM มีน้ำหนักค่อนข้างเบา ทว่าถึงแม้จะมีทางยาวโฟกัสเพิ่มขึ้น 100 มม. เลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM ก็ยังเบากว่าถึง 200 กรัม คุณไม่จำเป็นต้องใช้เมาท์อะแดปเตอร์เพื่อติดตั้งเลนส์กับกล้องในระบบ EOS R จึงช่วยลดน้ำหนักอุปกรณ์ทั้งหมดได้มากขึ้นอีก เรียกได้ว่าสร้างความแตกต่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถ่ายภาพเป็นเวลานานๆ โดยไม่ใช้ขาตั้งกล้อง
EOS R5/ FL: 500 มม./ โหมด Flexible-priority AE (f/7.1, 1/4,000 วินาที, EV ±0)/ ISO 2,000/ WB: อัตโนมัติ
นกนางแอ่นน้อยตัวนี้กำลังบินหาอาหารรอบทุ่งนาท่ามกลางสายฝน การถ่ายฉากเช่นนี้โดยไม่ใช้ขาตั้งกล้องมักทำได้ยาก แต่การถ่ายภาพนี้ทำได้ค่อนข้างง่ายเพราะเลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM นั้นเบากว่าและใช้งานได้ง่ายกว่า
โฟกัสอัตโนมัติ: มีการปรับปรุงมากกว่าที่คาดไว้
ความเร็วและความแม่นยำในการโฟกัสอัตโนมัติได้รับการปรับปรุงมากกว่าที่ผมคาดไว้มากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่มืด โฟกัสอัตโนมัติจะล็อคที่ตัวแบบได้ไวมากจนคุณอาจแทบได้ยินเสียงการจับโฟกัส (แม้ว่าความจริงแล้ว การโฟกัสนั้นเงียบมาก)
EOS R5/ FL: เทียบเท่า 1,000 มม. (เมื่อติดตั้ง Extender RF 2x)/โหมด Flexible-priority AE (f/14, 1/2,000 วินาที, EV ±0)/ ISO 2,500/ WB: อัตโนมัติ
ภาพนกยางควายที่บินตรงมาทางผม ถ่ายที่ระยะ 1,000 มม. และใช้ท่อต่อเลนส์ Extender RF 2x ไม่เพียงแต่ได้ AF ที่ถูกต้องแม่นยำเท่านั้น คุณภาพของภาพก็ไร้ที่ติเช่นกัน
คุณสมบัติสำคัญข้อที่ 3: รองรับการใช้งานกับท่อต่อเลนส์
Extender RF 1.4x
- ขยายทางยาวโฟกัสเป็น 420-700 มม.
- f/8-10
Extender RF 2x
- ขยายทางยาวโฟกัสเป็น 600-1,000 มม.
- f/11-14
ท่อต่อเลนส์ RF เป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้ได้มุมมองที่ใกล้เป็นพิเศษของทางยาวโฟกัสที่ยาวถึง 1,000 มม. (สูงสุด 1,600 มม. หากคุณใช้โหมดครอปตัด 1.6 เท่าร่วมด้วย) ผมไม่พบว่าคุณภาพของภาพด้อยลงแต่อย่างใดเมื่อใช้ท่อต่อเลนส์ RF และรู้สึกพอใจที่ได้เห็นภาพไร้ที่ติเช่นนี้ โปรดทราบว่าสามารถติดตั้งท่อต่อเลนส์ได้ก็ต่อเมื่อเลนส์มีทางยาวโฟกัสอย่างน้อย 300 มม. เท่านั้น
EOS R5/ FL: เทียบเท่า 1,120 มม. (เมื่อติดตั้ง Extender RF 1.4x + โหมดครอปตัด 1.6 เท่า) / โหมด Flexible-priority AE (f/10, 1/30 วินาที, EV ±0)/ ISO 32,000/ WB: อัตโนมัติ
นกเค้ากู่กับอาหารมื้อเย็นในจงอยปากของมัน ผมใช้ Extender RF 1.4x แต่ก็ตัดสินใจถ่ายภาพระยะใกล้ขึ้นและใช้โหมดครอปตัด 1.6 เท่าร่วมด้วย ผลที่ได้คือมุมรับภาพเทียบเท่า 1,120 มม. ซึ่งจับภาพเหยื่อของนกเค้าได้อย่างชัดเจนและสร้างความประทับใจยิ่งขึ้น แม้จะใช้ความไวแสง ISO 32,000 คุณภาพของภาพก็ยังดูดี ซึ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพอันดีเยี่ยมด้านความไวแสง ISO สูงของกล้อง EOS R5
ความเห็นส่งท้าย
น้ำหนักเบา กะทัดรัด และมีความสามารถรอบด้าน แม้แต่ผู้ใช้งานเลนส์เดี่ยวซูเปอร์เทเลโฟโต้ความไวแสงสูงซึ่งมีราคากว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐก็อาจอยากซื้อ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM ไว้เป็นเลนส์สำรอง ไม่เพียงมีประโยชน์สำหรับการถ่ายภาพนกเท่านั้น แต่ยังใช้ได้กับการถ่ายตัวแบบชนิดอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงการถ่ายภาพทิวทัศน์ คุณอาจจะพบว่าเลนส์รุ่นนี้ทำหน้าที่ได้ไม่ต่างจากเลนส์อื่นๆ อีกไม่น้อย! แน่นอนว่านี่คือเลนส์รุ่นหนึ่งที่ผมจะแนะนำ
ติดตั้งกับกล้อง EOS R5
เลนส์ฮูด ET-83F (มีให้)
โครงสร้างเลนส์
A: ระบบป้องกันภาพสั่นไหว (IS)
B: ASC
C: ชิ้นเลนส์ Super UD
D: ชิ้นเลนส์ UD
ข้อมูลจำเพาะ
โครงสร้างเลนส์: 20 ชิ้นเลนส์ใน 14 กลุ่ม
ระยะโฟกัสใกล้สุด: 0.9 ม. (ที่ 100 มม.)
รูรับแสงต่ำสุด: f/32–51
กำลังขยายสูงสุด: 0.33 เท่า (ที่ 500 มม.)
จำนวนม่านรูรับแสง: 9 (ทรงกลม)
เส้นผ่านศูนย์กลางฟิลเตอร์: 77 มม.
ขนาด: φ93.8 x 207.6 มม.
น้ำหนัก: ประมาณ 1,370 ก. (ไม่รวมเมาท์สำหรับขาตั้งกล้อง)
ชมภาพฉากบางส่วนที่ถ่ายด้วยเลนส์ซูมซูเปอร์เทเลโฟโต้และวิธีถ่ายภาพดังกล่าวได้ที่:
ภาพทิวทัศน์ซูเปอร์เทเลโฟโต้: “ถ้ำ” ลึกลับในช่องเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำ
ฉันถ่ายภาพอย่างไรให้เฉียบ: นกสีเขียวตัวน้อยท่ามกลางโบเก้สีชมพูสวยงาม
วิธีถ่ายภาพไฟประดับตกแต่งเพื่อสร้างบรรยากาศชวนฝัน
ทิวทัศน์ฤดูหนาวแสนมหัศจรรย์: เมื่อเกล็ดหิมะระยิบระยับราวอัญมณีกลายเป็นเสาแสงอาทิตย์
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!เกี่ยวกับผู้เขียน
นิตยสารรายเดือนที่เชื่อว่าความสุขของการถ่ายภาพจะยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ถ่ายภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องมากยิ่งขึ้น นิตยสารเล่มนี้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับกล้องรุ่นใหม่ๆ รวมถึงคุณสมบัติของกล้องและนำเสนอเทคนิคการถ่ายภาพอย่างหลากหลาย
จัดพิมพ์โดย Impress Corporation
เกิดเมื่อปี 1966 ที่จังหวัดไอชิ Tozuka เริ่มสนใจในการถ่ายภาพขณะเรียนอยู่ไฮสคูลปีที่ 3 และหัดถ่ายภาพทิวทัศน์ธรรมชาติรวมทั้งชีวิตสัตว์ป่ามานับแต่นั้น เมื่ออายุ 20 ปี เขากลายมาเป็นผู้ที่สนใจการถ่ายภาพนกธรรมชาติอย่างจริงจัง หลังจากถ่ายภาพติดนกหัวขวานโดยบังเอิญ ผลงานของเขาจำนวนมากมายหลายชิ้นได้รับการเผยแพร่ในสื่อต่างๆ เช่น นิตยสาร วารสาร หนังสือ ปฏิทิน และโฆษณาโทรทัศน์